สมานฉันท์......คือทางออกจริงหรือ?
สมานฉันท์......คือทางออกจริงหรือ?
จากกรณีสังหารโหดคนไทย 8 คนบนรถตู้โดยสารเบตง-สงขลา ซึ่งเป้นการกระทำเยี่ยงสัตว์นรกนั้น ผมจึงขอประณามการกระทำ
ครั้งนี้อย่างที่สุดต่อสิ่งมีชีวิตบางตัวที่กระทำในสิ่งที่แม้แต่สัตว์อื่น ๆ ทั้งประเสริฐและไม่ประเสริฐยังมิกล้ากระทำ..
เหตุการณ์นี้ นำมาซึ่งคำถามที่สำคัญที่สุดในชั่วโมงนี้คือ
"สมานฉันท์..คือคำตอบสุดท้ายจริง ๆ หรือ?"
สงครามจิตวิทยา
โดยหลักการสงครามจิตวิทยาแล้ว ฝ่ายเราจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นและสร้างมวลชนให้กับฝ่ายเราให้ได้เสียก่อน เพราะมวลชน
นั้นสำคัญที่สุด แม้ว่ารัฐใดมีมวลชนสนับสนุนแล้ว รัฐนั้นก็จะสามารถเอาชนะสงครามใด ๆ ได้
หลักการง่าย ๆ ของสงครามจิตวิทยาก็คือ "ทำให้พวกเขามาเป็นพวกเรา", "ทำให้ประชาชนมาเป็นแนวร่วม" หรือ "ทำลายความเชื่อ
มั่นที่ฝ่ายตรงข้ามปลูกฝังมา"
ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนั้น สามารถกระทำได้ด้วยสิ่งที่เรียกว่า "การสมานฉันท์"
การสมานฉันท์คือการปราณีปรานอม การไม่ใช่ความรุนแรงเข้าตัดสิน การใช้การเจรจา การพูดคุยเข้าแก้ปัญหา...
เส้นขนาน??
แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้.....
หลายครั้งที่เราได้ยินข่าวการก่อความไม่สงบ การฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ฯลฯ ทั้ง ๆ ที่เรากำลังดำเนินนโยบายสมานฉันท์
ทำให้เกิดคำถามที่ว่า "สมานฉันท์ใช้ได้ผลจริงหรือ"
แต่ถ้าเช่นนั้น.....ความรุนแรงคือคำตอบหรือ?
ด้วยความที่ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้เป็นปัญหาหลายมิติ กระกอบกับเป็นปัญหาที่มีมานานร่วมสองร้อยปี หลายครั้งที่เราใช้
ความรุนแรงเข้าแก้ปัญหา
ซึ่งมันพิสูจน์แล้วว่า "ความรุนแรงเพียงอย่างเดียวไม่สามารถขจัดปัญหานี้ได้"
ผมอยากจะพูดจริง ๆ ว่า แค่พวกเราคิดว่า "เอาคนพุทธออกมาให้หมด แล้วปิดเมืองฆ่าซะ" หรือ "อพยพผู้บริสุทธิ์ออกมา แล้วเอา
นาปาล์มถล่ม"
เหล่านี้ ล้วนแสดงให้เห็นว่า....โจรทำงานได้บรรลุผลไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ซึ่งงานนั้น ก็คือการสร้างความแตกแยก ทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และที่สำคัญที่สุด คือความแตกแยกทางศาสนา
สมานฉันท์ต้องควบคู่ไปกับการใช้ปืน
ด้วยเหตุที่ว่า เรากำลังสู้กับกลุ่มบุคคลที่ติดอาวุธ ซึ่งพร้อมจะใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบโดยไม่สนใจต่อศีลธรรมหรือความเป็นมนุษย์ ทำให้เราไม่อาจละเลยความสำคัญของปฏิบัติการทางทหารลงได้
แต่ครั้นจะทำมากไป มันก็จะขัดกับหลักการสมานฉันท์ ซึ่งเท่ากับขัดต่อหลักยุทธศาสตร์การดึงมวลชนให้มาเป็นฝ่ายเรา
ปฏิบัติการทางทหารจึงจำเป็นต้องใช้อย่างฉลาดและเหมาะสมกับภัยคุกคามที่ปรากฏ เช่นกันทลายค่ายฝึกของ RKK การใช้ทหารพรานหญิงสลายการชุมนุมของเด็กและสตรีโดยความนุ่นนวล หรือการคิดค้นยุทธวิธีใหม่ ๆ ต่อการซุ่มโจมตีหรือตะปูเรือใบ ฯลฯ
แต่ทั้งนี้ แม้เราอาจจะไม่ได้ยินข่าวปฏิบัติการทางทหารมากนัก ก็น่าจะมาจากการที่รัฐและเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้ข่าวเหล่านั้น...แม้ว่าจะเป็นความสำเร็จ...แต่ก็อาจจะสร้างเชื้อไฟกองใหม่ขึ้น และกลายเป็นน้ำมันให้โจรราดใส่ชาวบ้านเพิ่มเติม
อย่าลืมว่า...เราไม่ได้กำลังทำสงครามกับกลุ่มโจรอย่างเดียว เรากำลังทำสงครามกับความไม่เข้าใจของชาวบ้านด้วย ซึ่งถ้าเราแพ้ ต่อให้กองทัพยิ่งใหญ่หรือมีทหารเป็นแสน ๆ คน ก็ไร้ประโยชน์
เราควรจะทำอย่างไร
เราต้องไม่ตกหลุมพรางโจรที่ต้องการสร้างความแตกแยกทางศาสนา มองปัญหาด้วยใจเป็นธรรม พร้อมทั้งแสดงจุดยืนไม่เอาความรุนแรงในทุกรูปแบบ
สุดท้าย ผมเชื่อว่า แม้มันจะยาก แต่ปัญหานี้ มันคงไม่ยากเกินความสามารถของเราทุกคนในอันที่จะรักษาดินแดนของเราไว้ ขอเพียงอดทน แม้ว่าเราจะแทบหมดความอดทนก็ตาม
ขอไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตทุกคน
Create Date : 15 มีนาคม 2550 |
Last Update : 16 มีนาคม 2550 12:06:13 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1805 Pageviews. |
 |
|
|
ร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตด้วยคนค่ะ