ตรวจข้อสอบ ผบ.เหล่าทัพ ใครสอบผ่าน-สอบตก! ปีที่สอง
สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับ
ปีใหม่ ขอให้ทุกท่าน มีความสุข สุขภาพแข็งแรง มีเงินมีทองใช้จ่ายตลอดปีครับ
สำหรับบทความนี้ ผมพยายามทำให้เป็นประเพณีของตัวเอง ที่ปี ๆ หนึ่งจะต้องมาเขียนเรื่องบุคคลสักครั้งนึง เพื่อวิจารณ์ถึงข้อดีข้อเสีย รวมถึงให้คะแนนการทำงาน โดยความเห็นส่วนตัวของนักสังเกตุการณ์ทางทหารและประชาชนผู้เสียภาษีอย่างผม ตอนแรกจะเขียนเมื่อเดือนตุลาคม 2552 ครับ แต่มีเหตุให้ต้องเลื่อนไปก่อน เลยมาเขียนในช่วงปีใหม่
บทความนี้จะเป็นเพียงไม่กี่ครั้งในรอบปีที่ผมพูดถึง "บุคคล"
เพราะที่ผ่านมา ผมเขียนแต่เรื่อง "อาวุธ" นะครับผม เรื่อง "ทหาร" ที่เป็นตัวบุคคลนั้น ผมไม่เคยกล่าวถึงหรือวิจารณ์เลย
เพราะมันเสี่ยงที่จะทำให้ถูกด่าฟรี เพราะความชอบหรือไม่ชอบของคน เพราะความเชื่อหรือไม่เชื่อของคนนั้นแหละ
เลยไม่รู้จะพูดไปทำไม ทุกวันนี้มีแต่คนที่ใช้อารมณ์สร้างเหตุผลเพื่อความชอบธรรมของตน จนกฏหมายบ้านเมืองก็ไม่สนใจ
แต่ มีหลายสิ่งน่าสนใจในประเด็นนี้ และนี่คือบทความที่สองประจำสิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา ต่อจากบทความแรกเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมาโน้นครับ
พลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่น 10) โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 21 โรงเรียนเสนาธิการทหารบกทั้งของไทยและสหราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 อดีตเสนาธิการทหาร และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาตั้งแต่ปี 2551
ในวันสงกรานต์ปี 2552 ที่ผ่านมา ประเทศเราเกิดเหตุการณ์ที่น่าเสียใจขึ้นอีกครั้ง คงไม่ต้องบอกว่าอะไร แต่ในบทบาทของกองบัญชาการกองทัพไทยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ รวมถึงการแสดงจุดยืนของทหารที่จะทำหน้าที่ของทหารนั้น ถือได้ว่าทำได้ดี และสอบผ่านเช่นกันครับ
นอกจากนั้นปี 2552 ที่ผ่านมากองบัญชาการกองทัพไทยมีภารกิจมากมายหลากหลาย นอกจากบัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ภารกิจสำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทยก็คือ การรักษาอธิปไตยในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในกรณีพิพาษปราสาทพระวิหาร แม้ว่ากรณีนี้จะมีมิติทางด้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ถ้านับมิติทางด้านการทหาร ถือได้ว่ากองบัญชาการกองทัพไทยสอบผ่าน ได้คะแนนดีด้วยครับ จากบทบาทในด้านการทหารและในเชิงการฑูต ที่ทำให้ประเทศหลีกหนีจากสงครามได้หลายครั้ง และทำงานได้ดูดีกว่าฝ่ายการเมืองพอสมควรทีเดียว ตามกรอบที่ได้รับมอบหมาย
โดยรวมแล้ว กองบัญชาการกองทัพไทยดูดีทีเดียวในเรื่องของผลงานในรอบปี 2552 ที่ผ่านมา เชื่อว่าถ้ากองบัญชาการกองทัพไทยยังรักษาบทบาทของตนเองได้ดีเหมือนปีที่ผ่านมา ท่านก็น่าจะเกษียณอายุได้อย่างสง่างาม
จุดที่ท่านน่าจะปรับปรุงได้ น่าจะเป็นเรื่องการประชาสัมพันธ์ผลงานของกองบัญชาการกองทัพไทย เพราะเท่าที่ผ่านมา ประชาชนรับรู้ผลงานของกองบัญชาการกองทัพไทยค่อนข้างน้อย ทั้ง ๆ ที่กองบัญชาการกองทัพไทยมีบทบาทและหน้าที่ที่มีความสำคัญมากกว่าเหล่าทัพทั้งสามเหล่าทัพด้วยซ้ำ ในอีกด้านหนึ่ง งานด้านข้อมูลข่าวสาร จิตวิทยามวลชน ก็สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีก โดยเฉพาะจากบทเรียนในกรณีวันสงกรานต์และโดยเฉพาะกรณีพิพาษเขาพระวิหารครับ
คะแนน การทำงานในหน้าที่ 5 คะแนน การวางบทบาท 4 คะแนน การพัฒนาองค์กร 4 คะแนน
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
ผบ.ทบ. คนที่ 36 ท่านนี้ ถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง หลังจากจบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าแล้ว ท่าน เคยปฏิบัติการรบในสงครามลับในลาวภายใต้บก.หน่วยผสม 333 นอกจากนั้นยังเคยปฏิบัติงานในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในอำเภอ ทุ่งช้าง จังหวัดน่าน และเคยปฏิบัติงานในแผนป้องกันประเทศของกองกำลังบูรพา ในช่วงที่ภัยคุกคามจากต่างชาติพุ่งสูง และเป็นทหารเสือราชินีคนหนึ่ง (จากการรับราชการในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์) และยังจบปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการสำหรับนักบริหาร) จาก NIDA อีกด้วย
ท่านก็แสดงจุดยืนที่ชัดเจนตลอดเวลาเช่นกันว่า ทหารจะทำหน้าที่ของทหาร ซึ่งตรงนี้ถือว่าท่านได้คะแนนไปไม่น้อยทีเดียว
ท่านเข้ามารับตำแหน่งในช่วงที่ประเทศประสบวิกฤต แต่เท่าที่ผ่านมา ในหลาย ๆ ด้านท่านทำงานได้ดี มาถึงวันนี้ผมก็ยินดีที่ท่านได้รับเลือกให้มาเป็นผู้บัญชาการทหารบก เพราะถ้าเป็นคนอื่นมาเป็น ยังน่าสงสัยอยู่ว่า รูปการณ์จะออกมาในแนวไหน
ท่านเป็นคนเก่งและฉลาด มียุทธศาสตร์ในการทำงาน ไม่รู้ว่าจะมองไปในตัวเลือกตอนนี้หาคนแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า แต่สำหรับตอนนี้ผมกล้าพูดว่าผู้ที่มารับตำแหน่งแทนท่านหลังจากท่านเกษียณอายุในอีก 10 เดือนนั้น ต้องดูเป็นตัวอย่างและทำให้ได้อย่างน้อยที่สุดก็ต้องไม่ต่ำไปกว่าที่พลเอกอนุพงษ์เคยทำไว้
สำหรับในด้านยุทธการ สิ่งที่กองทัพบกพูดได้ว่าสอบผ่านมีสองเหตุการณ์ก็คือ กรณีพิพาษปราสาทพระวิหาร ซึ่งสามารถวางกลยุทธ์และดำเนินยุทธศาสตร์ได้อย่างดีมาก และวางบทบาท รวมถึงด้านการประชาสัมพันธ์ของตัวผู้บัญชาการทหารบกต่อเหตุการณ์นี้ก็ถือว่าช่วยให้เหตุการณ์ไม่ลุกลามไปได้เป็นอย่างดี ตรงนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ
ในอีกด้านที่ประสบความสำเร็จซึ่งผมอาจจะเห็นต่างจากนักวิเคราะห์ท่านอื่นก็คือ การแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านทำงานเอาใจใส่ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี ในส่วนตัวผมถือว่าประสบความสำเร็จเมื่อดูตัวชี้วัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการข่าวที่เริ่มดูดีขึ้น งานด้านการรักษาความสงบที่มีการปรับยุทธวิธีซึ่งทำให้สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้ การจัดหาอาวุธหลายรายการที่สามารถตอบสนองต่อการแก้ปัญหานี้ได้ดีเช่น การจัดหาเสื้อเกราะ อาวุธปืนใหม่ หรือแม้แต่รถเกราะล้อบาง REVA 4x4 ซึ่งแม้ผมก็ยังคงไม่เห็นด้วยในการจัดหารถรุ่นนี้ แต่สิ่งที่เห็นด้วยก็คือแนวคิดด้านยุทธการที่เริ่มมีการปรับปรุงยุทธวิธีการรบในเมืองมากขึ้น ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แม้ว่าจะยังแก้ไม่ได้ในตอนนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรุนแรงเริ่มลดลงไปเรื่อย ๆ ตรงนี้สอบผ่านครับ
แต่ในด้านที่ต้องปรับปรุงนั้นก็ยังมีอีกหลายด้านที่ควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพบก ซึ่งผมคิดว่าโดยภาพรวมแล้วกองทัพบกสอบตกไปมากในด้านนี้ เนื่องจากกองทัพบกค่อนข้างประสบปัญหาด้านการบริหารโครงการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นเช่นปัญหาระหว่างศูนย์การทหารม้าและกรมสรรพาวุธทหารบกเกี่ยวกับรายละเอียดในการซ่อมปรับปรุงรถถัง Scorpion แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะมีข่าวว่าสามารถตกลงกันได้แล้วและโครงการเดินหน้าต่อไป แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหาด้านการบริหารโครงการอีกหลายโครงการไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 ในเรื่องการเจรจาด้านราคา การจัดหาจรวดต่อสู้อากาศยานประทับบ่า Igla ซึ่งเชื่อว่าเปลี่ยนแบบการจัดหาไปแล้ว, หรือการจัดหารถเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1 ที่แม้ส่วนไม่ใช่ความผิดของกองทัพบก แต่ก็เห็นว่ายังมีปัญหาคลุกคลักพอสมควร ที่สำคัญยังมีโครงการจัดหาอีกหลายโครงการที่ยังตอบคำถามประชาชนไม่ได้เช่น โครงการจัดหาเรือเหาะตรวจการณ์แบบมีคนขับรุ่น A40D Sky Dargon เพื่อมาใช้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนหนึ่งระบบ และเตรียมจัดหาเพิ่มอีก 2 ระบบ หรือโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ฝึกขั้นแบบ Enstrom 408B จำนวน 16 ลำทดแทนฮ.แบบ TH-300 ซึ่งแม้ว่าฮ.จะเป็นฮ.ที่ดี แต่มีราคาแพงแบบเหลือเชื่อ
ตรงนี้เป็นส่วนที่กองทัพบกต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วนครับ เพราะมันไม่ได้ก่อผลเสียต่อภาพลักษณ์ของกองทัพบกเพียงอย่างเดียว ยังทำให้กองทัพบกขาดยุทธศาสตร์การจัดหาอาวุธในระยะยาว ซึ่งจะยิ่งก่อปัญหาในการใช้งานในอนาคตครับ
ผู้บัญชาการทหารบกควรโอกาสนี้ในการพิสูจน์ประสิทธิภาพในการทำงานของอาวุธที่มีข้อสงสัยจากสาธารณะชนเช่นเรือเหาะตรวจการณ์ เป็นต้น และควรเร่งปรับปรุงกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาอย่างเร่งด่วนครับ
คะแนน การทำงานในหน้าที่ 3 คะแนน การวางบทบาท 4 คะแนน การพัฒนาองค์กร 2 คะแนน
พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ
พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่นที่ 10) เคยดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือมาตั้งแต่ปี 2551 ครับ
ปีที่ผ่านมากองทัพเรืออาจจะดูแล้วนิ่ง ๆ เงียบ ๆ เนื่องจากเป็นบุคลิคของทหารเรือที่มักจะไม่ค่อยพูดจาหน้าไมค์กันนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเสมอมาก็คือ กองทัพเรือยังรักษามาตราฐานการทำงานของตนเองได้ดีเสมอมา และดูแล้วจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้เหล่าทัพอื่นควรจะเอาเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการวางบทบาทขององค์กร แนวคิดในการพัฒนา การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง รวมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนากองทัพซึ่งนำหน้ากว่าเหล่าทัพอื่นไปมาก
สิ่งที่ผมยกให้เป็นไฮไลด์สำคัญที่สุดของกองทัพเรือนั้นก็คือ การปรับปรุงและจัดโครงสร้างหน่วยงานราชการใหม่ในรอบปีที่ผ่านมา การจัดโครงสร้างใหม่นี้ ไม่เพียงจะทำให้ตำแหน่งนายพลหายไปหลายตำแหน่ง แต่ยังเป็นการปิดจุดอ่อนในสายการบังคับบัญชาซึ่งจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านประสิทธิภาพการทำงานได้ในอนาคต ตรงนี้ต้องให้เครดิตกอกองทัพเรือเป็นอย่างมากที่กล้าทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้าทำ ตรงนี้คะแนนเต็มครับ
โครงการจัดหาอาวุธของกองทัพเรือที่ผ่านมา ถือได้ว่ามียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและจับต้องได้ ที่สำคัญนอกจากยุทธศาสตร์การพัฒนากองทัพแล้ว การจัดหาอาวุธยังผนวกด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาอุตสาหกรรมของชาติ และการเพิ่งพาตนเอง แบบที่เหล่าทัพอื่นควรต้องเอาเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งในชุด ต.994 - 996 เรือส่งกำลังบำรุง หรือการต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำใหม่ที่อู่ราชนาวีมหิดล รวมไปถึงโครงการการพึ่งพาตนเองอีกหลายโครงการ ซึ่งไม่ใช่เป็นผลลัพธ์แต่เพียงการพัฒนากำลังรบของกองทัพเรือเท่านั้น แต่ยังช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของประเทศ ลดการพึ่งพาต่างประเทศ ที่สำคัญยังทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเรือดูดีมากขึ้นทุกปี เชื่อว่าถ้ากองทัพเรือยังรักษาความเข้มข้นของการพัฒนาด้านนี้ไปได้เรื่อย ๆ กองทัพเรือจะลดการพึ่งพาต่างชาติและช่วยสร้างอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศได้อีกเป็นจำนวนมากครับ ตรงนี้ก็คะแนนเต็มเช่นกัน
ส่วนการจัดหาอาวุธจากต่างประเทศ ถือว่าทำได้ดีและมียุทธศาสตร์ โดยเฉพาะการจัดตั้งสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือซึ่งทำให้ลดปัญหาด้านการบริหารโครงการไปได้เยอะทีเดียว
กองทัพเรือมีภาพลักษณ์ของการเป็นทหารอาชีพผ่านทั้งการวางตัวและการกระทำมานาน เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นเสมอมา ซึ่งตรงนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเรือดูดีมากในสายตาประชาชนครับ
โดยรวมแล้ว ในรอบปีที่ผ่านมา ก็มีเรื่องให้ชมมากกว่าเรื่องให้ด่าเยอะแยะครับ
คะแนน การทำงานในหน้าที่ 5 คะแนน การวางบทบาท 5 คะแนน การพัฒนาองค์กร 5 คะแนน
พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ
พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่นที่ 11) เคยเป็นผู้บังคับฝูงบิน 103 เคยเป็นอดีตเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศและเสนาธิการทหารอากาศก่อนจะเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศทหารอากาศในปี 2551
ในรอบปีที่ผ่านมา ในช่วงหลัง ๆ นั้นท่านวางบทบาทได้ดีขึ้นกว่าในช่วงต้นที่เท่าเข้ามารับตำแหน่ง ตรงนี้ถือว่าดีและเหมาะสมครับ ในส่วนของกองทัพอากาศมีโครงการจัดหาค่อนข้างน้อย อาจจะเป็นเพราะธรรมชาติของโครงการจัดหาของกองทัพอากาศนั้นจะมีไม่มาก แต่จะเป็นโครงการที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงไม่ได้มีบ่อย ๆ ทุกปี
แต่โครงการจัดหาที่สำคัญที่สุดซึ่งในความเห็นของผมถือว่ากองทัพอากาศทำได้ถูกต้องที่สุดก็คือ การเลื่อนการจัดหาเครื่องบินขับไล่กริพเพนในล็อตที่สองออกไป 1 ปีจากปี 2552 นี้ ใช่ครับ เป็นการเลื่อน แต่เป็นการเลื่อนที่ผมมองว่าสมเหตุสมผลและสมควรเลื่อน เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ นั้นไม่เอื้ออำนวยให้การจัดหาดำเนินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การเลื่อนออกไปนั้น น่าจะส่งผลดีต่อกองทัพอากาศในหลาย ๆ ด้านมากกว่า ตรงนี้ถือว่ากองทัพอากาศทำถูกต้องครับ
แต่อันหนึ่งที่ผมให้สอบตกแบบหมดสิทธิ์แก้ตัวก็คือ โครงการของกองทัพอากาศที่เลือกจัดหา UAV รุ่น CyberEye จากประเทศมาเลเซียจำนวน 3 ระบบ มูลค่า 35 ล้านบาท ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี และผลลัพธ์ของโครงการก็เห็นได้ชัดเจนว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ตรงนี้ถือเป็นรอยด่างรอยหนึ่งของกองทัพอากาศในรอบปีที่ผ่านมาครับ
นอกนั้น กองทัพอากาศยังมีแนวทางการบริหารงานที่ทำได้ดี การปรับปรุงโครงสร้างและส่วนราชการนั้นถือว่าทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานในอนาคตได้ ในส่วนของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของกองทัพนั้น เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะงานด้านสงครามเครือข่าย (Network Centric Operation) ซึ่งพัฒนาได้น่าพอใจ ก็หวังว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคตครับ
สิ่งที่กองทัพอากาศต้องเน้นให้มากขึ้นก็คือการพึ่งพาตนเอง กองทัพอากาศควรมีแผนยุทธศาตร์ที่ชัดเจนในการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับมอบจากโครงการกริพเพนในการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้พร้อมกับผ่องถ่ายเทคโนโลยีไปสู่ภาคเอกชน ซึ่งจะได้ประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุดครับ
คะแนน การทำงานในหน้าที่ 4 คะแนน การวางบทบาท 4 คะแนน การพัฒนาองค์กร 4 คะแนน
ปีใหม่นี้อีกไม่นานเราคงจะต้องเผชิญกับเรื่องยากลำบากกันอีกยก ส่วนตัวแล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงเหมือนกันครับ แต่ในหลายครั้ง เมื่อถึงจุดสูงสุด ย่อมมีจุดต่ำสุด และจุดต่ำสุดก็จะก้าวไปสู่จุดสูงสุด ประเทศเราอยู่ภายใต้ความวุ่นวายมาหลายปีด้วยฝีมือของคนไม่กี่คนของทั้งสองฝ่าย สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมากโดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นส่วนหัวหรือส่วนหางไม่ได้รู้สึกสำนึกแต่ประการใด
แน่นอนว่ามักยากลำบาก และยังมองไม่เห็นทางออกที่เป็นรูปธรรมมากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ ทุก ๆ ปัญหามันจะมีทางออกของมันเองเสมอ สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลสะท้อนจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและพลวัตรของสังคมไทยจากยุคเก่าไปสู่ยุคใหม่ มันอาจจะน่าเสียใจที่เราไม่ได้หาทางเปลี่ยนผ่านโดยไม่เกิดปัญหา แต่ผมเชื่อว่า อีกไม่นาน ทุกอย่างจะกลับมาสู่สมดุลเหมือนเดิม เหมือนหลายเหตุการณ์ในอดีตทั้งในประเทศและต่างประเทศ คำว่าไม่นานนี้ อาจจะไม่ใช่วันสองวัน แต่ไม่ใช่สิบหรือสี่สิบปีแน่นอน สิ่งที่พวกเราจะทำได้ก็คือ อดทน และอย่าเพิ่มสิ่งไม่ดีลงไปในสังคม มองสิ่งต่าง ๆ ด้วยใจเป็นธรรม และรักชาติโดยไม่ก่อความวุ่นวายให้ชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำความดี ขอให้พวกเราประชาชนที่อยู่ตรงกลาง มุ่งทำแต่ความดี ผมเชื่อว่า การทำความดีของคนหลายล้านคนทั้งประเทศมันจะเป็นผลสะท้อนและทำให้การทำความชั่วของคนไม่กี่หมื่นคนนั้นยุติลงไปได้
สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุขครับ
สงวนลิขสิทธิ์ห้ามคัดลอกไม่ ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ว่ากลุ่มใดก็ตาม และห้ามไม่ให้นำข้อความในบทความนี้ออกจากบล็อกแห่งนี้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เจ้าของบล็อกจะไม่รับผิดชอบความเสียหายใด ๆ อันเกิดจาการละเมิดข้อตกลงนี้
อ่านเพิ่มเติม
"ตรวจข้อสอบ ผบ.เหล่าทัพ ใครสอบผ่าน-สอบตก!"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=28-08-2008&group=2&gblog=92
Create Date : 01 มกราคม 2553 |
|
19 comments |
Last Update : 1 มกราคม 2553 16:44:47 น. |
Counter : 3077 Pageviews. |
|
 |
|