Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. เบญจขันธ์เป็นอนัตตา

ภิกษุ ท.!
รูป เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นรูปนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า "นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา" ดังนี้;


ภิกษุ ท.!
เวทนา เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นเวทนานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจิรงอย่างนี้ว่า "นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา,นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา" ดังนี้ ;

ภิกษุ ท.!
สัญญา เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสัญญานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า "นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา" ดังนี้

ภิกษุ ท.!
สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสังขารทั้งหลายเหล่านั้นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ ว่า "นั่น ไม่ใช่ของเรา. นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา" ดังนี้;

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นวิญญาณนั้นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ ว่า "นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา" ดังนี้แล.
.
.
.
ขนฺธ สํ. ๑๗/๒๘/๔๔.

.........................................................................

ภิกษุ ท .!
รูป เป็นอนัตตา.

ภิกษุ ท .!
ถ้ารูป จักเป็น อัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ (ความถูกเบียดเบียนด้วยโรคเป็นต้น);

อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในรูปตามปรารถนาว่า 'รูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
แต่เพราะเหตุที่ รูปเป็นอนัตตา
รูป จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ย่อมไม่ได้ในรูปตามปรารถนาว่า 'รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด. รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้.


ภิกษุ ท.!
เวทนา เป็นอนัตตา.

ภิกษุ ท.!
ถ้าเวทนา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ เวทนานี้ ก็ไม่พึงเป็นเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า 'เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
แต่เพราะเหตุที่ เวทนา เป็นอนัตตา
เวทนา จึงเป็นเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า 'เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, เวทนาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้

ภิกษุ ท.!
สัญญา เป็นอนัตตา.

ภิกษุ ท.!
ถ้าสัญญา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สัญญานี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า 'สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
แต่เพราะเหตุที่ สัญญา เป็นอนัตา
สัญญา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ย่อมไม่ได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า 'สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สัญญาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา.

ภิกษุ ท.!
ถ้าสังขารทั้งหลาย จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สังขารทั้งหลายเหล่านี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า 'สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย'ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
แต่เพราะเหตุที่สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา
สังขารทั้งหลายจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า'สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ เป็นอนัตตา.

ภิกษุ ท.!
ถ้าวิญญาณ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า 'วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้

ภิกษุ ท.!
แต่เพราะเหตุที่ วิญญาณเป็น อนัตตา
วิญญาณ จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ; อนึ่งสัตว์ย่อมไม่ได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า 'วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย' ดังนี้.


ภิกษุ ท .!
เพราะฉะนั้นในกรณีนี้,

รูป ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,

รูปทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า 'นั่นไม่ใช่ของเรา. นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา' ดังนี้.


ภิกษุ ท.!
เวทนา ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,

เวทนาทั้งปวงนั้น อันใครๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตาที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า 'นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่นไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
สัญญา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,

สัญญาทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น อันใคร ๆพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจิรงอย่างนี้ว่า 'นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่นไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
สังขารทั้งหลาย ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตามเลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,

สังขารทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตาที่เป็นจิรงอย่างนี้ว่า 'นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา' ดังนี้.

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,

วิญญาณทั้งปวงนั้น อันใคร ๆพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า 'นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่นไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา' ดังนี้ แล.
.
.
.
ขนฺธ. สํ ๑๗/๘๒-๘๔/๑๒๗-๑๒๙.




 

Create Date : 03 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 3 กันยายน 2556 5:28:47 น.
Counter : 1290 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.