..
"น้า (ชื่อผม) รู้มั้ย วันหนึ่งเราควรกินน้ำตาลแค่หกช้อนชา"
หืมม ?
กาแฟเย็นแก้วเดียวก็เกินหกแล้วนี่
หรือว่า ผมควรจะดื่มแต่กาแฟร้อนดี ?
ผมกำลังนั่งคำนวณปริมาณน้ำตาลของตัวเอง หน้าห้องที่มีเสียงต๊อก ๆ แต๊ก ๆ ของเครื่องมือ และเสียงเรียกชื่อคนเป็นระยะ
"น้า (ชื่อผม) ฟ่างจะเป็นไรมากมั้ยเนี่ย"
ผมหัวเราะกับคำถามนั้น แต่ไม่ตอบ
ผมไม่เคยตอบคำถามนั้นได้ หลังจากอุบัติเหตุของพ่อ มันทำให้ผมรู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ชีวิตพร้อมจะล้มพับลงได้เสมอ แม้จะระวังสักเท่าไร
ผมลูบผมเธอเบาๆ แทน ภาวนาว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่
เธอเหมือนของบอบบางที่มีขนาดใหญ่ ที่ผมอยากประคองไว้อย่างดี
เธอเหมือนแก้วกาแฟที่แข็งแรง ในขณะเดียวกันก็พร้อมจะแตกได้เสมอ
ผมส่งเธอขึ้นรถไฟฟ้า
สั่งให้เธอพักซะ และให้ทำตามคำสั่งหมอให้ดี
ไม่ควรมีใครที่จะเดินไม่ได้อีกแล้วในบ้านผม
แต่หากจะมีวันนั้นจริง ๆ เราก็จะพาไปด้วยกันนี่ละ
เสาร์อาทิตย์นี้ ผมไม่ได้ไปเฝ้าพ่อ
เป็นเวรพี่ชายแทน พ่อเคยเม้าท์พี่ให้ฟังว่าพี่มือหนักมาก
ก็ลูกชายพ่อคนนี้เป็นทหารนี่นะ .. เอ เกี่ยวมั้ยฮะพ่อ ?
ผมโทรไปแซวพี่ชายว่า ห้ามสวนปัสสาวะให้พ่อเด็ดขาด น้องห้าม
ผมกลัวอะไรต่อมิอะไรของพ่อจะหลุดตามมือพี่ออกมาก่อน
พี่บอกว่า พ่อพัฒนาไปมาก หมอเริ่มให้พ่อยืนกับเฟรมแล้ว ลองให้ยืนกับ walker บ้างแล้ว และพ่อก็พยายามเต็มที่แม้จะเหนื่อยและล้ามาก
"พ่อมีชีวิตอยู่ก็เพราะลูก ๆ" พ่อบอกผมอย่างนั้น
"งั้นก็อยู่กันต่อไปนะฮะ" ผมตอบท่านแบบนั้น
ผมไม่เคยมีคำตอบที่แท้จริงว่า คนเราเกิดมาเพื่ออะไร
แต่ผมพอรู้คำตอบแม้จะเป็นแค่บางส่วนจากชีวิตที่ผ่านมาของผมว่า
ผมเกิดมาเพื่อทำให้คนที่ผมรักดำรงอยู่ได้
มันไม่ได้เป็นภาระ แต่มันเป็นคุณค่าหนึ่งของการมีชีวิตอยู่ของผม
Create Date : 04 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2553 8:52:36 น. |
|
15 comments
|
Counter : 786 Pageviews. |
|
|
|
คลิ๊กบนภาพเพื่อดูขนาดจริง
มันคือกาแฟแก้วเมื่อเช้า .. น้ำตาลหนึ่งช้อนชา :)