สามทุ่มครึ่ง ผมโบกมือร่ำลาคนที่มาด้วยกันหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าช่วงที่ปิดเสียงมีใครคิดถึงผมบ้างรึเปล่าปกติ ไม่ค่อยมีคราวนี้ มีชื่อพี่สาวทิ้งไว้ผมมองนาฬิกา เวลานี้พี่สาวผมหลับแล้วแน่ๆ แต่ผมก็ยังโทรไปหา"มีอะไรรึเปล่าฮะ" ผมถามไถ่หลังจากทักทายกันเสร็จ"เปล่านึกว่าออนไลน์อยู่ตอนนั้น" ผม อืมม ในคอเบาๆ แต่ดูเหมือนเป็น อืมม ที่ผมรู้สึกเสียใจ เมื่อได้ฟังเรื่องราวเพิ่มมากขึ้นจากพี่สาวผมพลาดโอกาสสำคัญจนได้ตอนนั้น คนที่ออนไลน์อยู่คือพี่ชายของผมพี่ได้คุยกับ "เธอ""อะไรนะ พี่(ชื่อพี่ผม) ได้คุยด้วยเหรอ โห.." ปกติผมจะงอแงไม่บ่อยนัก แต่กับคนในบ้าน บางทีผมก็ยังคงเป็นน้องสุดท้องอยู่ดีผมนึกอิจฉา ผมนึกสงสัย เรื่องราวที่พี่ชายของผมคุยกับ "เธอ"ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีช่วยเชื่อมพวกเราได้มากขึ้นครอบครัวใหญ่อย่างบ้านผม ที่ทุกคนทำงานหมดแล้ว บางส่วนมีครอบครัวของตัวเอง การโทรคุยกันบางทีก็ไม่ได้ทำกันอย่างสม่ำเสมอแต่นับแต่ผมไปไกลมากในเดือนที่ผ่านมา การคุยกันทางโทรศัพท์ดูเป็นการยากเข้าไปอีกพี่สาวคนที่สาม ทำให้ผมแปลกใจ เมื่อเธอเริ่มเรียนรู้การใช้โปรแกรมคุยจากหลานสาวเพื่อที่จะติดต่อกับผมผมจะตื่นมาคุยกับเธอทุกเช้าที่นั่น เธอจะรอคุยกับผมทุกคืนที่นี่เธอถามไถ่อาการ และสอบถามสถานการณ์ เธอห่วงผมมาก เกรงว่าผมจะไปพิเรนติดโรคไข้หวัดใหญ่มาผมเริ่มเห็นกรุ๊ปเมล์ที่พี่ชายทำ ที่มีชื่อทุกคนในบ้านในนั้นพี่สาวคนที่สอง เริ่มส่งอีเมล์มาหาผม บอกว่าเป็นห่วงมากเราเริ่มตอบโต้กันทางอีเมล์มากขึ้น มันเริ่มจากจุดนั้นทุกวัน ผมมักจะได้ฟอร์เวิร์ดเมล์จากพี่ชายเข้ามาในกรุ๊ปเมล์ของบ้านเราตอบโต้กันบ้าง แซวกันบ้าง ผมได้คุยเอ็ม เอส เอ็น กับหลานชาย บ้างในวันเสาร์ที่เขาได้รับอนุญาตให้นอนดึก ไอ้ตัวเล็กที่มันอยู่อนุบาลสอง มันก็อยากคุย อยากพิมพ์ แต่พิมพ์ไม่รู้เรื่องเลย 55ผมได้คุยกับพี่สาวคนที่สอง ที่ผมไปสอนให้คุยผ่านทางโปรแกรมนี้เป็นครั้งแรกพี่สาวเริ่มคุยกับหลานสาว ที่ปกติพี่จะไม่ค่อยได้คุย แต่ถามถึงประจำผมรู้สึกว่า เทคโนโลยี มันช่วยเชื่อมและโยง พวกเราเข้าด้วยกันเช้านี้ สิ่งแรกที่ผมทำระหว่างเดินทางมาทำงาน คือ โทรหา "เธอ""ว่าไงฮะ ได้ข่าวว่าทันสมัยแล้วนะฮะ" ผมแซวเธอทันทีเธอหัวเราะเอิ๊ก ๆ ๆผมละชอบจังตอนเธอหัวเราะ "แล้วไม่อยู่รอคุยด้วยกันเลยนะฮะ" ผมตัดพ้อต่อแบบไม่จริงจังเธอยิ่งหัวเราะเข้าไปใหญ่เริ่มวันด้วยเสียงหัวเราะของเธอนี่ มันดีชะมัด"ก็มันมองไม่ค่อยเห็น จิ้มปุ่มก็ไม่ค่อยถูก" เธอบ่นผมถามว่าเธอคุยอะไรกับพี่ชายผมบ้างเธอก็เล่ามา ดูเหมือนว่าเธอจะคุยไปไม่เยอะ"แล้วก็พิมพ์ไปบอกว่า ไม่คุยแล้วนะ แม่จะดูทีวี" น่านไง สมเป็นแม่ผมติดละครล่ะเค้าล่ะ ซีรี่ส์เกาหลีก็ไม่เว้น ผมนึกภาพหญิงชราตัวกลมๆ นั่งอยู่หน้าจอคอมพยายามเอานิ้วที่อ้วนๆ หยาบและใหญ่ ตามประสาคนทำงานหนักมาแต่เล็ก พยายามจะจิ้มลงบนแป้นพิมพ์ที่มีขนาดไม่ใหญ่นักแค่นึกภาพ ผมก็หัวเราะออกมาแล้วแม่บอกว่า พี่ชายคนที่สองโทรมาแซวว่า ระวังเถอะ จะติดเนทเอา แล้วอย่างนี้จะไปบ่นหลานไม่ได้นะ ผมว่า แม่น่ะติดเนทยาก ซีรี่ส์เกาหลีก็ว่าไปอย่างแต่กระนั้น ผมก็นึกขอบคุณเทคโนโลยีมันทำให้เราเชื่อมและโยงถึงกันได้ไม่เว้นแม้กระทั่งกับหญิงชราที่ผมรักมากคนนี้เสียงพ่อแซวมาในโทรศัพท์ว่า เดี๋ยวนี้แม่เค้าทันสมัยแม่ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากต่อผมละชอบจริงๆ เวลาเธอหัวเราะเดี๋ยววันหลัง ผมจะต้องลองคุยกับเธอซะหน่อยแล้วแม้ว่าผมจะคุยผ่านโปรแกรมนี้ไม่เยอะ แต่กับเธอคนนี้ พลาดไม่ได้ซะแล้ว Create Date : 29 พฤษภาคม 2552 Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 13:50:56 น. 4 comments Counter : 677 Pageviews. ShareTweet