ผู้กำกับ : ชยนพ บุญประกอบ
นักแสดง :
นาย ณภัทร เสียงสมบุญ เป็น ปาล์ม
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็น กิ๊ง
เจสัน ยัง เป็น พี่เท็ด
เรื่องย่อ
ปาล์มกับกิ๊งเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตกิ๊ง ปาล์มคือคนที่คอยอยู่ข้างๆ กิ๊งเสมอ ทั้งสองคนไม่เคยก้าวข้ามผ่านคำว่าเพื่อน เพราะต่างฝ่ายต่างพยายามยืนยันต่อกันและกันเสมอว่า "เป็นเพื่อนกันก็ดีแล้วเนาะ" จวบจนท้ายที่สุดเมื่อวันหนึ่งกิ๊งมีปัญหากับพี่เท็ด แฟนรุ่นพี่ ก็ถึงจุดที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะข้ามเส้นของความเป็นเพื่อนนั้น
ความรู้สึกที่ได้ดู
อันดับแรกเลย ขอชมการแสดงของน้องใบเฟิร์นค่ะ แสดงแบบไม่แสดง ดูเป็นกิ๊งเองจริงๆ แล้วแววตานี่เป็นอะไรที่...โอยยย ถ้าดูละเอียดๆ นางมีอารมณ์ความรู้สึกทางแววตาให้คนดูรู้ความรู้สึกได้ตลอดจริงๆ ค่ะ นางเก่ง ยอมรับ ปลื้ม 555
นอกจากเล่นได้ดีจนเหมือนไม่เล่นแล้ว นางเป็นคนที่มีเสน่ห์แพรวพราวม้ากกกก น่ารักมากๆ ค่ะ บอกไม่ถูก เราเป็นผู้หญิงเรายังหลงรักนางเลย การร้องเพลงเพี้ยน ความรั่ว หรือเวลาเศร้า นางก็น่าสงสารมาก บอกไม่ถูก รักนางค่ะ (จากที่เคยชมนางมากๆ มาแล้วรอบหนึ่งจากสิ่งเล็กเล็กฯ)
ในขณะที่ใบเฟิร์นแสดงได้ดีมากๆ นั้น ทำให้การแสดงของน้องนายอาจจะดูดร็อปลงไปหน่อย การระเบิดอารมณ์หลายๆ อย่าง (โดยเฉพาะช็อตพีคๆ สองสามช็อต) มันยังไม่สุด ทั้งที่อารมณ์ ณ เวลานั้นมันน่าจะเปรี้ยงปร้างกว่านั้น (แต่ก็อาจจะพอคิดได้ว่า มันเป็นบุคลิกภาพของผู้ชายแบบนายแหละ คือ โกรธก็ไม่กริ้วจนระเบิดอะนะ...เข้าข้างน้องไปมั้ย 555)
แต่ส่วนหนึ่งที่เราว่า GDH สู้สมัยที่เป็น GTH ไม่ได้ก็คือ...หนังของ GDH มันมีความเกินหลายๆ อย่างอยู่เสมอ คือ มันมีหลายซีนหลายฉากที่รู้สึกว่า ไม่ต้องใส่มาก็ได้ ใส่มาทำไม? ขณะที่หนังส่วนมากของ GTH ไม่ทำให้เรารู้สึกอย่างนี้นะคะ มันจะลงตัวพอดิบพอดีไปหมดมากกว่านี้น่ะค่ะ (ยกเว้นฉลาดแกมโกงไว้เรื่องหนึ่ง เราว่าเรื่องนั้นพอดิบพอดีกว่าทุกๆ เรื่องของค่ายนี้) นอกจากนั้นอีกอย่างก็คือ...การโฆษณาแฝงที่แบบ...เอิ่มมมม เยอะไปม้ายยย นี่ตรูเสียเงินค่าหนังนะเฟ้ย ไม่ได้อยู่ดูที่บ้านฟรีๆ เหมือนดูซีรี่ส์หรือละคร (ถึงจะขอชมช็อตดื่มน้ำตอนผ่านสแกนเถอะว่าฮาดีกับประโยคที่พูดแทนใจคนดู 555) รู้สึกว่าเยอะไปหน่อยในหลายๆ ช็อตค่ะ ที่รู้สึกว่าเยอะเกินไปมากคือ เบียร์ (ที่มีแทบทุกซีน)
อีกอย่างที่รู้สึกคือ...เอิ่ม...การไปประเทศโน้นประเทศนี้ โอเคแหละ มันมีเรื่องที่หนังโยงได้ แต่เรารู้สึกว่า หนังมันพยายามที่จะขายความเป็นประเทศในอาเซียน (และเอเชีย) เพื่อเปิดตลาดให้กับหนังเรื่องนี้มากเกินไปน่ะ จนบางทีแบบ...โอ้โหหหหห เมิงจะไปอีกกี่ประเทศ ไม่ไปบรูไนไปด้วยเลยล่ะเมิง จะได้ครบๆ แต่ก็นั่นแหละนะคะ มันก็อาจจะทำให้คนที่ชอบหนังที่ไปถ่ายตามโลเคชั่นต่างประเทศชอบก็ได้ค่ะ
แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดอะไรต่อมิอะไรเยอะเลยค่ะ
เรื่องแรกคือทำให้เราเข้าใจสถานการณ์บางอย่างที่เคยสงสัย อย่างที่เคยเล่าในเอนทรี่ไหนสักเอนทรี่หนึ่ง ที่บอกว่า เคยมีงานเลี้ยงรุ่น แล้วก็มีคนถามว่า สมัยเรียนใครเคยคิดจะจีบเราบ้าง แล้วก็มีเพื่อนสองสามคนยกมือ ซึ่งคนเหล่านั้น...ล้วนแล้วแต่จีบเพื่อนเราด้วย ทำให้เรางงมาก เพราะเราไม่เข้าใจว่า...แล้วทำไมถ้าจะจีบเราถึงได้ไปจีบเพื่อนเราด้วย (ไอ้ไม่จีบเราเนี่ย เข้าใจได้ เพราะเรามีแฟน) แต่พอดูหนังเรื่องนี้ มันทำให้เข้าใจความคิดของผู้ชายขึ้นมาได้บ้างค่ะว่าเขามีวิธีคิดยังไงถึงได้ทำไปอย่างนั้นอะนะ
อีกเรื่องก็คือ เรื่องของการที่เราจะรักษาใครสักคนไว้ในฐานะเพื่อน ทั้งที่ความรู้สึกเราไม่ใช่ เพียงเพราะเรากลัวการจะสูญเสียเขาไป (เพื่อนมันเลิกเป็นเพื่อนไม่ได้ แต่แฟน เลิกกันแล้วโอกาสที่จะกลายเป็นคนอื่น หายไปจากชีวิตมันสูงมากน่ะนะคะ)
เพราะฉะนั้นกับคนบางคน เราไม่อาจจะสูญเสียเขาไปได้ เราจึงไม่อาจยอมให้ทั้งเราและทั้งเขา "ข้ามเส้น" จากความเป็นเพื่อนได้ แต่ขณะเดียวกัน...มันก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับทั้งคู่เสมอ (ในเรื่องกิ๊งอาจจะไม่ชัดเท่าปาล์ม เพราะกิ๊งมีแฟนอยู่ในวันนั้น) เพียงแต่หนังเรื่องนี้ก็ให้จบง่ายไปที่การตัดสินใจที่ทั้งคู่เลือกนั้น...ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ข้อรับรองได้หรอกว่า ทั้งคู่จะไม่มีวันสูญเสียกันและกันอีกต่อไปในอนาคต เพราะการแต่งงาน มันไม่ใช่หลักประกันอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ 555
ส่วนที่กิ๊งเลือกที่จะกลับไปหาพี่เท็ด แม้ว่าพี่เท็ดจะทำผิดต่อเธอนั้น...เราเข้าใจนะคะ อืมม์...ส่วนหนึ่งเพราะกลัวที่จะเป็นแฟนกับปาล์มด้วย แต่อีกส่วนมันเหมือนเขาก็คือผู้ชายคนหนึ่งที่เราตั้งใจจะสร้างครอบครัวด้วยน่ะ มันไม่ได้ตัดกันได้ง่ายๆ หรอกนะ แต่พอถึงเวลาหนึ่งที่การมีพี่เท็ดคือการต้องสูญเสียปาล์มจริงๆ มันจึงกลายเป็นตัวแปรที่กิ๊งต้องคิดและตัดสินใจว่า...จะเอาอย่างไรกับชีวิตน่ะแหละค่ะ
ความน่ารักอีกอย่างของเรื่องนี้คือ สี่หนุ่มที่อยู่ในงานเลี้ยงค่ะ เป็นอะไรที่ฮาและน่ารักมาก (ชอบที่ทำให้คนหนึ่งในนั้นมีความรักที่แตกต่างด้วย ดูโอเพิ่นดีค่ะ) แล้วมันก็ทำให้คนดูรู้เท่าที่อีกสามหนุ่มรู้น่ะแหละ (ช็อตตอนที่กิ๊งเดินมาหาก็เลยฮามาก) แล้วพอจบแบบนั้นก็เลยเป็นอะไรที่ทำให้คนที่ชอบอะไรแฮปปี้แฮปปี้ ยิ้มไปได้กับเรื่องนี้น่ะนะคะ
สรุปแล้วก็เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วก็ค่อนข้างสนุก ใบเฟิร์นแสดงดี แต่ถ้าถามว่มีอะไรให้คิดไหม คือ จะคิดก็คิดได้ค่ะ หรือจะดูจบแล้วไม่คิดอะไรต่อก็ได้เช่นกัน 555 แบบจะดูเอาเพลินๆ ก็ได้น่ะนะ แต่ที่สำคัญคือ อยากให้ GDH เคารพคนเสียเงินเข้ามาดูหนังด้วยการไทอินให้มันน้อยกว่านี้หน่อยค่ะ หรือทำให้เนียนจนไม่รู้สึกเหมือนดูหนังโฆษณาขนาดยาวจะดีกว่านี้มากน่ะนะคะ
ปิดท้ายด้วยตัวอย่างของหนังเรื่องนี้กันค่ะ
และเอ็มวีเพลง "คิดมาก" ของปาล์มมี่ที่เราค่อนข้างชอบนะคะ (เพื่อนหนุ่มๆ ในเฟซหลายคนปลื้มนักร้องเวียดนามมากๆ 555)
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+6935794=8405490/14002/1801
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
ดูหนังไทยในโรงเรื่องสุดท้ายคือ
แม่นาค ที่มาริโอแสดง
สนับสนุนนะคะ แต่บางทีดูไปแล้วชอบแย้งในใจ
เลยไม่ดูในโรงดีกว่า กลับมาดูในเน็ตเอา เบื่อก็เปลี่ยนช่องได้เร็วดี...แฮ่ะ