|
#### รีวิวแสงกระสือ - หนังที่ก้าวข้ามความเป็นกระสือของไทย ####
เจิด สาย น้อย เป็นสามคนในกลุ่มเพื่อนสี่คน ที่เคยพากันไปพิสูจน์ความกล้าและเรื่องเล่าที่กล่าวขานเรื่องผีนวลที่วิญญาณยังสิงสู่อยู่ที่บ้านหลังนั้น จวบจนโตมา น้อยไปเรียนที่พระนคร ขณะที่เจิดและสายยังคงอยู่ที่บ้านเกิด สายมีความฝันอยากเป็นพยาบาล ขณะที่เจิดเอง ก็พยายามที่จะจีบสาย จวบจนวันหนึ่งก็มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่ากระสือเริ่มออกมาอาละวาดอีกแล้ว วันหนึ่งน้อยก็กลับมาบ้านพร้อมทั้งคาราวานล่ากระสือ สายดีใจมากที่ได้เจอน้อยอีกครั้ง ขณะที่เจิดเองก็ได้รับรู้ว่า...สายเองมีใจให้กับน้อย พร้อมๆ กับความจริงบางอย่างก็ได้เปิดเผยออกมา และนั่นก็นำสู่โศกนาฏกรรมในท้ายที่สุด  ความรู้สึกที่ได้ดูอันดับแรกเลยนะคะ ชอบความปราณีตในการสร้างค่ะ ภาพสวยมากๆ หลายๆ ช็อตเลย อันดับสองคือ การแสดงของนักแสดงตัวหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องมินนี่ที่แสดงเป็นสาย หรือกระสือ น้องแสดงดีมากกกกกกกกกกกก (กอไก่ล้านตัว) มีความเป็นธรรมชาติและสายตาสื่อความรู้สึกได้ดีมาก มีหลายๆ ช็อตเลยค่ะที่น้องแสดงความซับซ้อนทางอารมณ์ได้ดีมากๆ เลย รวมทั้งตัวน้องเอง มีความเป็นเสน่ห์บางอย่างที่ค่อนข้างยูนีคนะ มีความใสบริสุทธิ์ขณะที่ก็มีความแข็งแกร่งบางอย่างอยู่ในตัวด้วย ซึ่งทำให้เราชอบน้องมากๆ เลยค่ะ มันเป็นเสน่ห์ที่หายากในดาราหญิงของไทยนะเอ้า  นอกจากนั้นที่เราชอบอีกอย่างในหนังเรื่องนี้ก็คือ การตีความกระสือในอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ แต่เราเกิดไม่ทันหนังเรื่องกระสือ (กระสือสาว) ในเวอร์ชั่นก่อนนะคะ 555 แต่เราชอบที่หนังมองกระสือเหมือนที่เราเคยรู้สึกว่า กระสือที่จริงแล้วเค้าไม่ได้ทำอันตรายใคร เค้าแค่มีรูปลักษณ์ที่อาจจะน่าสยองหน่อย แล้วก็กินซากพืชซากสัตว์แค่นั้นเอง ซึ่งพอหนังเรื่องนี้มองกระสือในแบบเดียวกับที่เรารู้สึก แถมยังใช้กระสืออยู่ในร่างของวัยรุ่น (จากที่ผ่านๆ มาจะออกแนวเป็นคนแก่แล้ว และดูน่าขยะแขยง แต่เวอร์ชั่นนี้ มีบางช็อตทำให้เรารู้สึกว่ามันตะมุตะมิกว่ามากเลย) ก็เลยทำให้รู้สึกว่า เออ เป็นการสร้างหนังกระสือในอีกมุมมองหนึ่งที่แตกต่างออกไปดีค่ะ
เรามีช็อตที่ประทับใจหลายๆ ช็อตนะคะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่น้อยทำเพื่อสาย (เพื่อนที่ไปดูด้วยกันถึงกับเพ้อว่า จะมีใครรักเราขนาดหาไก่มาให้เรากินแบบนี้ทุกวันไหม 5555) หรือฉากเซอร์ไพรซ์เรื่องเจิดกับสายที่ทำให้เราต้องอุทานว่า โธ่เอ๊ยเจิด เลยค่ะ (โคตรน่าสงสารอ้ะ)
  ฉากที่น่าจะสร้างความฮืออออ ฉากนั้นเราว่าก็ทำได้ดีนะ เพราะต้องขนาดนั้นแหละ มันถึงจะเห็นความเป็นน้ำลายที่ส่งถึงกันน่ะ ซึ่งนับว่าน้องมินนี่กล้ามากเลยที่เล่นช็อตนี้ได้ 555 เป็นฉากที่ถ้าดูในโรง จะเห็นชัดมาก ถ้าดูจอเล็ก อรรถรสไม่เท่าแน่นอนค่ะสำหรับช็อตนี้ กร๊าก 
แต่ขณะเดียวกัน หนังเองก็ยังคงมีจุด เอ๊ะ หรือจุดแปร่งๆ หลายจุดนะคะ ไม่ว่าจะเป็น... การที่สายต้องใช้เวลาจนกระทั่งมีประจำเดือนก่อน ถึงได้กลายเป็นกระสือ แต่ขณะที่เด็กอีกคนในเรื่อง หลังจากได้รับน้ำลายก็เป็นเลยทันที (แต่ถ้าจะวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้แตกต่าง ก็พอจะพูดได้ว่า สายได้จากน้ำลายของความเป็นผี ตอนเป็นกระสือ แต่เด็กนั้นได้น้ำลายจากตอนที่สายเป็นคน ซึ่งอาจจะทำให้มีผลช้า-เร็วต่างกันได้) ความใกล้-ไกลของพระนคร โอเคหละ พ้นแม่น้ำไปอาจจะเป็นการเข้าเขตชายแดนพระนคร แต่ถ้าขนาดอุ้มคนหนึ่งคนเดินไปจนถึงริมแม่น้ำได้ ถ้าอย่างนั้นก็ดูเหมือนไม่จำเป็นที่น้อยจะต้องอาศัยกองคาราวานขนาดนั้นเพื่อกลับมาบ้านตัวเองหรือเปล่า? แต่ถ้าคิดแบบพยายามนึกเหตุผล คือ ที่จริงหนังปูไว้แล้วว่าน้อยเป็นคนขี้ขลาดมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยต้องอาศัยคาราวานกลับมา แต่ตอนที่อุ้มสายนั้น มันเป็นอารมณ์ทั้งรักทั้งต้องการหนีก็เลยทำให้มีกำลังที่จะพากลับไปได้อะค่ะ
ช็อตการต่อสู้ระหว่างอมนุษย์สองตัวนั่นก็ดูแบบ...หือออออ แปลกแยกจากหนังโดยรวมมาก แต่ก็นะ แค่ผีที่มีไส้อย่างเดียวลอยไปลอยมาก็แฟนตาซีสุดๆ แล้ว จะมีฉากนี้ก็ดูเหมือนเป็นแฟนตาซีอีกอย่างของหนัง แต่บอกไม่ถูก มันเหมือนอารมณ์แปร่งๆ ประมาณกินพิซซ่าหน้าทุเรียนอ้ะ มันก็กินได้ แต่ก็ไม่ได้คือ ขนาดนั้นนนนน 555 ฉากจบของหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราสะเทือนใจนะ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการดับสูญ แต่เป็นเรื่องของการทำให้คนดูได้เห็นแง่มุมของคนที่เป็นกระสือว่าเขาก็มีความฝัน มีความรักของเขา มีความรู้สึกเหมือนๆ มนุษย์เรานี่แหละ คือที่จริงเขาก็เป็นเหมือนมนุษย์คนหนึ่งทั่วๆ ไปนี่แหละ ถ้าเข้าใจเขา ที่จริงเราก็สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่มีใครต้องเดือดร้อนเลยด้วยซ้ำ (ถ้าไม่ไปกินน้ำแก้วเดียวกันเข้าอะนะ) ป.ล. สรุปแล้วช็อตขโมยลูกนี่...ฝีมือทัศน์ใช่ไหมคะ? เพราะเราว่าไม่ใช่สายนะ ด้วยหลายๆ อย่างทั้ง..นั่นลูกเพื่อนตัวเอง การที่แบบจู่ๆ ก็อุ้มเด็กออกมา มันประหลาดเกินไปอ้ะ
โดยรวมเป็นหนังที่มีโปรดัคชั่นที่ดี เป็นหนังไทยที่มีการสื่อด้วยภาษาหนังเยอะ (ซึ่งทำให้คนที่ชอบดูหนังแบบกระจ่างแจ้งหมดทุกอย่าง อาจจะไม่เก็ทในบางประเด็นได้) การแสดงดี มีการตีความเรื่องกระสือใหม่ แต่บทยังมีความเอ๊ะอยู่บ้าง (แต่ช็อตเซอร์ไพรซ์ทั้งเรื่องเจิด-สาย เรื่องพระนั่นก็ทำได้ดีนะคะ เพราะคิดว่าไม่มีใครที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะคิดถึงจุดหักมุมตรงนี้ออกได้หรอกนะ) แต่ก็ถือว่าถ้าชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีกับข้อด้อยแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในระดับดีนะคะ ไม่ถึงกับเพอร์เฟค แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ควรสนับสนุนค่ะ ปิดท้ายด้วยตัวอย่างของหนังเรื่องนี้กันค่ะ
ปฏิทินธรรม วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2562 1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน) วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.
ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/ วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2562 1. ตักบาตรพระกรรมฐาน ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน) วันอาทิตย์ที่ 10 และ 24 มีนาคม 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)
1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2562
1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน
ณ บ้านลานเสียงธรรม
เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน) 1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น. ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2562 1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน) เมตตารับบาตรโดย เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 23-24 มีนาคม 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+6985128=8454824/14028/1811
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
| Create Date : 27 มีนาคม 2562 |
|
19 comments |
| Last Update : 27 มีนาคม 2562 8:26:49 น. |
| Counter : 2796 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [
มาลงชื่ออ่านคนแรกค่ะคุณเต้ย
เรื่องนี้คงไมไ่ด้ดูนะคะ เลยต้องอ่านละเอียดค่ะ