พอปีต่อมาศรัทธากาย และใจของพวกเราเริ่มเข้มแข็งขึ้น ประกอบการได้สัมผัสกับเรื่องราวลึกลับจากก้อดป่าครั่งมาเป็นระยะ พร้อมกับมั่นใจว่าการฟื้นฟูวัดร้างนี้ไม่ได้ทำให้เกิดเรื่องร้ายๆอะไรตามมา ทำให้พวกเราคิดที่จะทำงานใหญ่ขึ้นไปอีก พวกเราคิดว่าเมื่อศาลาวัดเสร็จแล้วสมควรที่จะมีประธานมาประดิษฐานเอาไว้คู่กับวัดนี้ เพราะยังไม่มี เลยคุยกันพระวัดบ้านโป่งว่าเอาพระอะไรแบบไหนกันดี จะเอาพระพุทธรูปจากวัดก็มีมากมายจะเอาสักองค์ก็ได้ หรือ จะสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นการเฉพาะเลยก็ไม่ผิด เราตกลงกันว่าเราสร้างใหม่ดีกว่า หากเอาพระที่เขาเอามาถวายในวัดเดิมแล้วจะเสียศรัทธา เขาจะไม่สบายใจเป็นบาปเปล่าๆ ไม่น่าเหมาะสม ก็เลยตกลงว่าจะสร้างพระประธานองค์ใหม่ แล้ววัตถุดิบที่ใช้ทำเป็นอะไรละ คิดกันไปคิดกันมา เป็นเหลือ เป็นทองเหลือง เป็นปูน เป็นปาสเตอ เป็นหิน คิดกันหลายรอบสุดท้าย เป็นหินดีกว่า เพราะจะได้อยู่นานๆ โชคดีที่พระท่านรู้จักช่างที่ทำพระพุทธรูปจากหิน อยู่ตำบลใกล้ๆบ้านพวกเรานี่ละ ก็เลยไปสอบถามและสืบราคามาดู ตกประมาณหมื่นกว่าบาท เมื่อได้ช่างได้ราคา เราก็ต้องมาบอกบุญกันละว่าจะเอาเงินมาจากที่ไหนอย่างไรบ้าง สุดท้ายเราทำผ้าป่าสามัคคีกัน จัดการพิมพ์ซอง หารายชื่อกรรมการ ประธาน รองประธาน เจ้าภาพต่างๆ ให้ได้มากที่สุด จากคนที่รู้จัก คนที่ศรัทธาร่วมกัน เมื่อได้เวลาสงกรานต์ซึ่งเรากำหนดวันทอดผ้าป่าสามัคคีและทำบุญประจำปีประจำวัดของเราพร้อมๆกันก็ทำการยกพระพุทธรูปที่แกะสลักใหม่ๆเอามาไว้ที่ศาลา โดยทำเป็นฐานยกสูงขึ้น เป็นที่ประทับให้สูงกว่าพื้นสัก 50 ซม. นี่ละ ปูกระเบื้องให้สวยงาม ส่วนพระก็เอาประพุทธรูปเล็กๆน้อยๆมาวางรอบๆฐาน เอาจีวรมาห่มพระ บรรจุของศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ พิธีกรรมการต่างก็มีพระสงฆ์ท่านเป็นคนดำเนินงานพวกเราญาติโยมก็ช่วยจนเสร็จพิธีและทำบุญประจำปีกันต่อ ปีนั้นนับเป็นการทำบุญที่ใหญ่ที่สุดของวัด ซึ่งก็ขอบคุณศรัทธาที่ร่วมกันทำผ้าป่าสามัคคี จนได้พระประธานเอาไว้ให้คนได้กราบไว้ จนถึงทุกวันนี้ พระประธานก็ยังคงอยู่ประจำในป่าแห่งนี้ เป็นที่สักการะของคนผ่านไปผ่านมาของชาวป่าชาวเขาของพวกเรา
Create Date : 16 มกราคม 2564 |
Last Update : 16 มกราคม 2564 13:16:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 495 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|