|
ป่าช้า ตอน บ้านผม (4) อะไรนะอยู่บนกอไผ่ |
|
"นั้นอะไรอยู่บนกอไผ่นะ มันคล้ายไม้เป็นแผ่นๆนะ ใครเอาแผ่นไม้ไปใว้ในกอไผ่ละ"... ตามความเชื่อของคนบ้านเราเวลาที่ฝังหรือเผาจะมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ตรงที่ฝังหรือหากเป็นการเผาก็จะปลูกเอาไว้ในวัดหรือในป่าช้านั้นละ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะได้เป็นที่อยู่ของคนที่เสียไป หรือ เพื่อเป็นการระลึกถึงก้ได้ ส่วนจะปลูกตรงไหนก็ได้ที่ไม่กีดขวางหรือใกล้อาคารต่างๆเดี๋ยวพอมันโตจะไปรบกวนสร้างความเสียหายได้ ไม้ที่ปลูกส่วนมากจะเป็นไม้ที่กินได้หรือไม่ผลนะ เช่น มะม่วง ไผ่ มะพร้าว มะปราง ขนุน ฯลฯ ที่เคยเห็น โดยเฉพาะในวัดบ้านจะมีมากที่ปลุกต้นไม้แบบนี้จนเต็มไปหมด พอเป็นลุกมาก็ได้กินได้ฉันกัน หรือได้ขายให้ญาติโยม ใครอยากได้ก็ไปขอหรือไปบูชาเอาจากพระ แต่หากไม่เจอพระจะไม่ค่อยมีใครกล้าเก็บกินนะ เพราะเราเชื่อว่าแต่ละต้นมีเจ้าของและเป็นของวัด น่ากลัวบาปและกลัวคนที่เสียไปแล้ว เป็นการสร้างรายได้ให้วัดอีกทางหนึ่ง เป็นสร้างป่าความร่มรื่นให้กับวัด ที่สำคัญน่าจะเป็นการปลุกฝังหรือสร้างให้คนให้ชาวบ้านได้มาเข้าวัดกันมากขึ้น และยั่งยืนต่อเนื่องนะ พวกลูกหลานคนที่เสียไปจะได้เข้ามาดูต้นไม่ของตนเองที่ปลูกเอาไว้ นับเป็นกุสโลบายอันดีอย่างหนึ่งละ ในแต่ละปีพวกลูกหลายนก้จะไปจุดธูปเทียนนำดอกไม่ไปไหว้ที่ต้นไม้นั้นๆ หรือ คอยมาบำรุงรักษาต้นไม้นี้ไม่ให้มันตายไป ในวัดป่าของเราจะมีกุฎิอยู่หลังหนึ่งขนาดเล็กๆ หลังคามุงหญ้า ยกพื้นสูงเป็นสองชั้น หน้าต่าง 2 ด้านทำจากไม้ไผ่ขัดแตะ ใช้ไม้ดันเปิดออกหากอยากเปิดหน้าต่าง ไม่มีกลอนนะ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเครื่องอำนวยสะดวกอะไร กุฎิหลังนี้ก็สร้างบนเจอมปลวกใหญ่อันหนึ่งที่ปรับให้ราบแล้วและถมให้สูงกว่าน้ำ ตามลานดินจะมีแต่ต้นไม้ หรือเครือผลยางหรือลูกยางที่สามารถกินได้ มีต้นไม้ใหญ่มากอยู่รอบๆ ด้านข้างเป็นทางเดินจมกลมที่ขุดดินมาถมทำเป็นทางเอาไว้ นับเป็นทางจงกลมที่ยาวที่สุดของวัดนะ ร่มรื่นตลอดวัน ส่วนกลางคืนนะหรือมืดมิดเงียบและน่ากลัวกว่ากุฎิหลังอื่นๆ ด้านบนของกุฎิจะมีกอไผ่ใหญ่อยู่กอหนึ่งอยู่ติดกุฎิเลย มีหลายครั้งที่พวกเราก็ใช้ไม้ไผ่นี่ละในการทำโน้นทำนี่อยู่หลายครั้ง เพราะในวัดป่านี้ไม่ค่อยมีไม้ไผ่เท่าไหร่นัก เพราะส่วนมากเป็นไม้ป่าทำให้ปลูกไผ่ไม่ค่อยขึ้น แต่นี่เข้าใจว่าปลูกมานานมากแล้วจึงเป็นกอใหญ่ เวลาลมพัดมาจะได้ยินเสียงกิ่งไผ่ใบไผ่เสียดสีกัน ยิ่งเป็นกลางคืนนี่ได้บรรยายกาศที่วังเวงทีเดียวละ กุฎิหลังนี้ส่วนมากพระอาจารย์จะอยู่ที่อยู่ เพราะมันร่มรื่น สงบตลอดวันเหมาะแก่การเจริญภาวนาได้ตลอดวัน หน้าที่ของเราทุกเช้ามือคืนเดินไปเอาบาตรที่หน้าประตูกุฎิซึ่งท่านวางเอาไว้แล้วมาจัดที่ศาลาการเปริยญและสะพายบาตรท่านไปดักรอที่ทางเข้าหมู่บ้านก่อนจะเดินบิณฑบาตรในหมู่บ้านต่อไป พอพ้นหมู่บ้านเราก็ต้องรีบเดินไปดักหน้าขบวนเพื่อรับบาตรมาสะพายแล้วรีบเดินไปศาลาการเปริยญจัดภัตตาหารเช้าต่อไป พอพระอาจารย์ไปที่อื่นๆก็ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปนอนในกุฎิหลังนี้ เพราะมีประวัติและเรื่องราวมากมายที่พระอาจารย์เล่าให้ฟัง พวกเราเลยเกรงๆกันบ้างนะ แต่ผมก็ได้ไปอยู่ที่กุฎิหลังนี้เช่นเดียวกัน เพื่อไปฝึกความกลัวนั้นละว่าสามารถอยู่ได้มัย สรุปก็อยู่มาเป็นปกติทุกคน ส่วนความตื่นเต้นนั้นหรือ 555 เต็มร้อยเลยละเพราะกลางคืนมานี่ละสุดๆไปเลย เสียงใบไม้ เสียงไผ่เสีนดสีกัน โอววสุดยอดไปเลย ใครเคยเข้าไปน่าจะรู้ว่ากลางวันกับกลางคืนนี้มันต่างกันนัก อารมณ์มันช่างแต่กต่างกัน กอไผ่กอนั้นยังมีเรื่องราวให้กล่าวขวัญถึงอยู่เพราะเป็นกอไผ่ที่เกิดจากตรงนั้นเขาฝังคนเสียชีวิตเอาไว้แล้วปลูกไผ่เอาไว้บนหลุมนั้นละ จนมันกลายมาเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่ๆ เมื่อกอไผ่มันโตขึ้นหรือต้นไผ่มันใหญ่ขึ้นก็แทงเอาโลงขึ้นมาด้วยจนขึ้นไปอยู่บนกลางกอไผ่เลยละ สามารถมองขึ้นไปเห็นไผ้เป็นแผ่นๆห้อยอยู่บนกอไผ่เลยทีเดียว พอเราได้รู้แล้วทุกครั้งที่มองไปที่ต้นไผ่ก็ต้องมองไปที่กลางกอนะทุกๆครั้งๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะไผ่โตไวจึงสามารถดันหรือแทงออกมาได้ โลงคงยังไม่ทันโดยปลวกกินก็เลยโดยดันขึ้นมาเป็นแผ่นๆนั้นเอง ส่วนต้นไม้อื่นๆเขาจะไม่ได้ดันแบบนี้ เพราะโตไม่ไวปลวกกินไม้ไปหมดก่อนจึงไม่ได้เห็นแบบนี้บ่อยนัก แล้วพอเปลี่ยนอย่างนี้ทำอะไรต่อมัยก็ไม่ได้ทำอะไรนะ ไม้ก็จะย่อยสลายหรือร่วงไปเองตามกาลเวลานั้นละ ปลวกตามขึ้นไปกินก็มี สุดท้ายแผ่นไม้ที่ว่านี้ก็หายไปจนหมด เหลือแต่คำบอกต่อๆกันมา
Create Date : 04 พฤษภาคม 2563 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2563 10:21:51 น. |
|
2 comments
|
Counter : 480 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Dr Chang วันที่: 9 พฤษภาคม 2563 เวลา:17:45:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
- เป็น เป็นวิทยากร เป็นคนบรรยาย เป็นผู้บริหาร หน่วยงานของรัฐ - ชอบ ชอบอ่านนวนิยายจีนกำลังภายใน ชอบป่า ชอบน้ำ - ทำ ทำงานพัฒนา ทำงานท่องเที่ยว ทำสวนเกษตร - ขาย ขายประกัน ขายของทะเลแห้ง ขายเกลือ ขายคอนโด - เรียน จบ ป.เอก ม.โพธิศาสตร์ ป.โท นิด้า ป.ตรี ม.ราม
|
|
|
|
ผมชอบใน blockdit เพราะว่า วิธีการเขียน ทำให้น่าอ่าน ที่นี่เขาจะแยกเป็นบล็อกๆ เลยอ่านสบายตา
ถือว่าคอมเม้นเพื่อปรับปรุง