space
space
space
<<
เมษายน 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
10 เมษายน 2563
space
space
space

เถียง ๒๕๒๘ ตอน ไปใส่ "มอง"
      ขณะที่ข้าวกำลังแตกกอฝนก็จะตกชุกมากจนน้ำเต็มท้องทุ่ง ปลาที่อยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติหรือตามสระต่างๆก็แพร่ลูกออกหลานกันเต็มที่ บางตัวก็กำลังไข่เต็มท้องก็ว่าได้ ลอยออกมาเล่นน้ำที่มีอยู่มากมาย
      พอดีกับช่วงที่แม่น้ำมูลไหลเอ่อขึ้นมาตามลำห้วยสาขาต่างๆ ก็จะนำปลาจากแม่น้ำมาสู่ท้องนาของพวกเราก็ยิ่งเพิ่มจำนวนของปลาให้มากมายขึ้นไปอีก เลยทำให้ระยะนี้ชาวบ้านอย่างพวกเราต้องรีบจัดปลากันให้เต็มที่    

      ปกติคุณตาจะสานอุปกรณ์การจับปลาเกือบทุกอย่าง เช่น ไซ แห สวิง เป็นต้น แต่บางอย่างที่เราต้องซื้อคือ "มอง" (มิใช้อาการหรือกิริยานะ เป็นคำนาม) เพราะว่าเขาสานจากโรงงานมาเรียบร้อย ฝีมือการทำมองของชาวบ้านไม่ได้เป็นการสานมองนี้ เลยต้องซื้อเอา
      มอง....เป็นอุปกรณ์ในการจับสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่พวกเราชอบใช้กันในหน้าฝน ที่น้ำมากๆ หรือช่วงที่ปลากำลัง "วิ่ง" ทั้งช่วงที่ "ปลาขึ้น" "ปลาลง" หรือ "น้ำนิ่ง" มองที่ว่ามีลักษณะเป็นตาข่าย สานจากเส้น "เอ็น" ที่เหนียวและบาง แต่ไม่ทน ไม่ใช่อวนแบบหากินในทะเล ที่ต้องเหนียวและทน ด้านบนจะเป็นเชือกไนล่อนเอาไว้ร้อยกับตาข่าย มีฟองน้ำมัดติดกับเชือกเป็นช่วงๆที่ค่อนข้างถี่ให้มันลอยน้ำ ด้านล่วงจะถ่วงด้วยตะกั่วกับเชือกในล่อน เพื่อให้มองมันจมลงในน้ำได้ ความยาวก็หลายเมตรหรือเป็นสิบเมตร ความกว้างก็แล้วแต่ว่าจะกว้างเท่าไหร่ แล้วแต่ชอบและขนาด พวกที่หากินกับน้ำลึกเรียกว่า "มองน้ำลึก" ก็จะมีขนาดกว้างและยาวมาก กับพวก "มองน้ำตึ้น" อันนี้ไม่ยาว ไม่กว้าง เพราะมัน"กู้" หรือ "ยาย" ง่ายกว่า สะดวกกว่า ไม่จำเป็นต้องแบบยาวๆ เวลาที่ไม่ "กาง" ก็จับเชือกเข้าด้วยกันเป็นปุ้มๆ ห้อยไว้หรือใส่กระสอบไว้ ระวังอย่าให้มองมันพันกัน เวลากางแล้วจะคล้ายๆเส้นเชือกลอยน้ำและมีทุ่นเล็กเป็นแนวยาวๆ ไป  "ตามอง" ก็สำคัญตาถี่ คือมองถี่หรือตาขนาดเล็ก จับได้ตัวเล็กๆขึ้นมา แต่ตัวใหญ่มักไม่ติดเพราะมันมองเห็นตาชัด กับ ตาใหญ่ คือเอาไว้จับสัตว์น้ำตัวใหญ่ ไม่เอาตัวเล็กๆน่ารำคาญ ประมาณนั้น 
         พวกเราจะไป "ใส่มอง" กันตามความชอบของเราคิดว่าตรงใดที่ปลาจะวิ่งหรือปลาชุกก็เอาตรงนั้น ปัดหรือกวักวัชพืชหรือขยะออกจากแนวที่จะวางมอง ตรงบ้าง โค้งบ้าง เอาตามชอบหรือสภาพแถวๆนั้นก็ว่ากัน เมื่อได้แนวที่ต้องการแล้วก็เอามองยายไปตามแนว เอหลักมาปักเป็นระยะจนสุดแล้วไล่ทำความสะอาดมองหรืออีกหนึ่งไม่ให้ขยะหรือตระไคร่มันมาเกาะมอง ปลามันจะเห็นว่าเป็นมองแล้วจะหนีไป
        พวกที่หากินน้ำลึกจะใส่มองเอาไว้ในแม่น้ำหรือลำคลองลึกๆให้มองมันจมลงไปในน้ำมากๆ เพื่อให้ได้ปลาตัวใหญ่ๆหรือมากๆ ทำทุ่นหรือหลักปักเอาไว้ในแม่น้ำเพื่อไม่ให้คนอื่นๆมากวนหรือเป็นหมายว่ามีมองอยู่หรือนี่คือมองของเราก็ว่าได้
         พวกที่หากินน้ำตื้นๆก็จะใส่มองเอาไว้ตามร่องกลางนา ข้างคลอง ข้างคันแทน้ำ ในทางเกวียน ริมหนอง กลางป่าหญ้า กลางป่าบัว ซึ่งน้ำไม่ลึก มองจะลงไปถึงพื้นพอดี ปักหลักเป็นแนวๆระยะๆไม่ให้มองมันตกหรือเชือกด้ายบนจมน้ำเดี๋ยวปลาจะลอดหนีได้ 
       มองจะเหมาะมากๆในตอนที่น้ำขึ้นน้ำลงอย่างรุนแรงทำให้ปลาวิ่งเล่นน้ำไปกับน้ำ ทำให้มีโอกาสติดมองได้มาก ส่วนน้ำนิ่งๆ ปลาไม่ค่อยว่ายเล่นนักก็จะได้ปลาน้อยหรือนานๆได้ปลาที  บางครั้งนอกจากเราไปหากินในทุ่งในคลองแล้ว กรณีที่เจ้าของสระเขาอยากกินปลาก็ใมองนี้ไปใส่เอาปลาพอได้กินนะทีละมากๆเหมือนกัน
        เวลาไป "ยามมอง" พวกเราก็จะเดินลุยไปตาม "สายมอง" จับมาหรือมองดูแล้วจับเอาปลาที่ "ติดมอง" แกะออก ดึงออกอย่างมี "เทคนิคเฉพาะ" ของการ "ปลดปลา" จากมอง คือ ต้องตามเกล็ดปลา จากเล็กไปใหญ่ ไม่งั้นมองขาดหมด การปลดปูก็มีเทคนิคที่ต้องใจเย็นๆไม่งั้นขาปูเกี่ยวมองขาดหมดอีก การปลดปลาที่มีเงี่ยงก็ต้องมีเทคนิคไม่ให้โดยเงี่ยงทิ่มเอาไม่งั้นเจ็บมากๆ เช่น ปลากด ปลาดุก ปลาแขยง การปลดที่ยากสุดคือการปลดงูติดมอง เพราะไม่รู้ว่างูพิษไม่พิษ ต้องเอาใจว่ามีพิษไว้ก่อน หากมันตายแล้วก็ไม่เป็นรัยง่ายปลดง่ายตามแนวเกร็ดนั้นละ แต่หากมันไม่ตายหลังจากพยายามปลดแล้ว ไม่ได้ก็ใช้วิธีสุดท้ายคือตัดมองช่วงนั้นทิ้ง 555 เพราะกลัวมันกัด  ปูกับงูนี้เวลาติดมองจะพันตัวเป็นก้อนๆหรือเป็นปุ้มๆ แกะยากมาก ส่วนมากมองมักขาด การที่มองขาดนี้มีผลตอนกางมองอีกครั้งจะเป็นรูขนาดใหญ่ๆปลาลอดได้ก็ไม่ติดมอง พอปลดปลาออกหมดแล้วก็เขย่าล้างมองให้สะอาดทั้งตระไคร้น้ำ ขยะ วัชพืช ต่างๆออกจากมองให้ใสสะอาดที่สุด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเป็นอันจบการยามมอง  ความสุขของคนใส่มองคือมองไปในแนวมองแล้วมีปลาดิ้นๆกระดุกกระดิกเป็นแนวมอง หรือ "ยกมอง" คนมาแล้วเห็นปลาติดเต็มไปหมด นั้นละ "หมาน" จริง
        เมื่อยามมองไปหลายๆครั้งแล้วปลาเริ่มไม่มีไม่ได้ปลาหรือได้ปลาน้อยมาก แสดงว่าปลาหมดหรือปลาไม่มาทางนี้แล้ว ก็ต้อง "กู้มอง" แล้วไปใส่แนวอื่นที่อื่นๆที่คาดว่าจะมีปลาผ่านมา ไม่งั้นก็ไม่ได้ปลาไปกินนะสิ
          สัตว์ที่ "ติดมอง" จะมีหลายๆอย่าง เช่น ปลาขาว ปลาเข็ง ปลาหลด ปู งู นก ปลาช่อน ปลาดุก ปลากด ปลาเชือม กบ ปลาแขยง แล้วแต่ว่าปลาอะไรหรืออะไรจะผ่านมาติดเข้า 
        สิ่งที่ต้องระวังในการใส่มองคือ ควาย วัว จะมาพานหรือเหยียบหรือเกี่ยวเอามองเสียหายไป คนที่จะมาแอบมายามมองของเราโดยไม่บอกกว่า และ ปลิงที่จะมาเยี่ยมเราตอนยามมอง เพราะเราเดินช้าๆ ได้โอกาสของเขาจะมาดูเลือดเราพอดี หรือมาดูดเลือดปลาที่ติดมองอยู่ก็พอดีเรามา 
     เมื่อใช้มองไปนานๆ มองมันขาด เนื่องจากปลาดิ้น มือเรา เกี่ยวหญ้า ปูกัด งูติด มองพันกัน เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุของการทำให้มองพังหรือเสีย เราก็เอามองไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น ตัดเอาส่วนที่ดีๆไปวางดักปลากในน้ำตื้นๆหรือที่ปลาผ่าน เอาตะกั่วไปทำตุ้มเบ็ก หรือ ไปช่างกิโลขาย
          มอง เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการหาปลาของพวกเราที่ได้ทีละมากๆ เอามาทำปลาร้าได้เยอะ หรือได้ปลาตัวใหญ่ๆ มาปิ้งมาต้มมาแกงกิน เพราะมองมันใหญ่และยาว การใส่มองต้องมีศิลปะตั้งแต่การเลือกมาอง เลือกแนว เลือกสถานที่ การปลดปลา การกู้มอง ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ของแต่ละคนที่ทดลองหรือฝึกกันมา.....นี่ละ "มอง" ของพวดเราชาวบ้าน
         



Create Date : 10 เมษายน 2563
Last Update : 13 เมษายน 2563 7:35:23 น. 0 comments
Counter : 350 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

Dr Chang
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




- เป็น เป็นวิทยากร เป็นคนบรรยาย เป็นผู้บริหาร หน่วยงานของรัฐ
- ชอบ ชอบอ่านนวนิยายจีนกำลังภายใน ชอบป่า ชอบน้ำ
- ทำ ทำงานพัฒนา ทำงานท่องเที่ยว ทำสวนเกษตร
- ขาย ขายประกัน ขายของทะเลแห้ง ขายเกลือ ขายคอนโด
- เรียน จบ ป.เอก ม.โพธิศาสตร์ ป.โท นิด้า ป.ตรี ม.ราม

space
space
space
space
[Add Dr Chang's blog to your web]
space
space
space
space
space