สินค้าชุมชน ..2546 จำได้ว่าเมื่อย้ายมาอยู่ฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนกับพี่จิ๋ม ซึ่งมีหน้าที่พัฒนาอาชีพ พัฒนารายได้ให้กับองค์ชุมชนทั่วประเทศ มีครั้งหนึ่งที่มีโอกาสไปพบกับเครือโรงแรมขนาดใหญ่มีสาขาทั่วโลก เพื่อให้เขาซื้อของชุมชนที่ผลิต ซึ่งเขารับปากด้วยความยินดี จำได้ว่าเขาสั่งแจกันที่ทำจากข้อไม้ไผ่ จำนวน 10,000 ชิ้น พวกเราที่ไปกันก็ดีใจกันมากเพราะถือว่าได้คำสั่งซื้อที่โดนใจ แต่เขามีเงื่อนไขว่าขนาดต้องเท่ากันทั้ง 10,000 ชิ้น ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีปัญหามันทำได้อยู่แล้ว (ตามประสาพี่เลี้ยง หน่วยส่งเสริม)
พอกลับมากระจายข่าวสารไปให้องค์กรชุมชนด้านอาชีพที่ผลิตสินค้าดังกล่าวทั่วประเทศ ปรากฎว่า ผลิตได้ แต่ขนาดไม่ทั่วกัน เพราะว่าข้อไม้ไผ่ขนาดหนึ่งมันก็มีข้อเดียว แบบนี้ต้องตัดไม้ไผ่ 10,000 ลำเป็นอย่างน้อย จึงจะได้จำนวนและขนาดเดียวกัน เอามาจากไหน แล้วส่วนไม้ที่เหลือจะทำอย่างไร อาจต้องตัดมากกว่านั้นอีก เพราะคำว่าขนาดเดียวกันนี้ละ สุดท้ายคำสั่งซื้อนี้เป็นอันยกเลิกไป
ตอนนั้นเรา Big Think ถูกแล้ว เพราะเราเจาะเข้าไปที่เครือข่ายที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ มีกำลังซื้อ มีที่ระบาย มีที่ใช้จริง พวกโรงแรม รีสอร์ท หรือผู้ประกอบการที่มีสาขามากมายหลากหลายในเครือข่ายนั้นละ รวมไปถึงไฮเปอร์มาดต่างๆด้วยนะ ที่เป็นจุดจำหน่ายสินค้าส่งและปลีก ตอนนั้นเรา Big Think กันขนาดนั้น
นั้นคือตำนาน การทำงานด้านสินค้าชุมชน ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในปีห้วงปลายปี 2563 ในคราวการประชุมคณะทำงานเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน เห็นสินค้าสร้างสรรค์ที่เอามาตั้งแสดงและขายกัน 3-4 เจ้า เกิดปิ้งปั้งไอเดีย Big Think มาอีกครั้ง ว่า
" ตอนนี้ในหัวคิดได้อย่างหนึ่งว่า ผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกที่พัฒนามา 4-5 ปีของจังหวัดสุโขทัย ไม่ได้ห่วงเรื่องการขายปลีกแล้ว ไม่ห่วงการตลาดย่อยๆที่ระบายออกแล้ว ไม่ห่วงว่าเวลามีงานแล้วคนจะไม่ถามหา จะขายไม่ได้ ไม่รู้จัก ขายได้หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หลักแสน ขั้นตอนต่อไปที่ต้องก้าวเดินคือการ Big Think ต้องทำคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ บิ๊กๆ เช่น ร้านขายส่ง รายขายปลีก โรงแรม รีสอร์ท บริษัทห่านทองคำทั้งหลาย ฯลฯ ซึ่งเขาต้องสั่งซื้อไปใช้ ด้านต่างๆ หรือขายปลีก ส่ง เช่น ตกแต่ภายใน โชว์ ขาย ฯลฯ แต่มีเงื่อนไข 2 ส่วนคือ ต้องรับเงื่อนไขชุมชนได้ด้วยว่า เป็นของทำมือ อารมณ์ ขนาด รูปร่าง หน้าตา ปริมาณ เวลา วัสดุ วัตถุดิบ ฯลฯ เพราะทุกอย่างมีหนึ่งเดียวในโลก ส่วนการขนส่งทุกวันนี้ไม่ห่วงแล้วมีระบบเอื้ออำนวยมากมายหลากหลาย ต่อไปเราจะก้าวไปเป็นหลักล้าน.."..
นี่ละที่คิดได้ พอดีเลยได้คุยแนวคิดนี้กับชุมชน 4-5 เจ้าที่มานั้นละ ว่าแนวคิด Big Think โอเคบ่ ซึ่งทุกคน โอเคชิกกาแรตเลยทีเดียว ขอให้บอก ติดต่อมา ให้ไปไหนอย่างไรแบบไหน พาลุยได้เลย Big Think
ก้าวที่จะเดินต่อไปคือการทำให้ผู้ซื้อ กับ ผู้ผลิตได้มีโอกาสได้เจอกัน มีเห็นของที่ผลิต เห็นคนผลิต เพื่อให้เขาดูว่าถูกใจ ตรงที่ต้องการ หรือไม่ อย่างไร เวลาที่ผู้ซื้อต้องการใช้ในธุรกิจของตนเองก็จะได้สั่งได้ถูกคนถูกต้อง นี่ละก้าวสำคัญของพวกเรา เจอกันนะ..
Big Think จะคิดออกทำได้ มันต้องมั่นใจคนของเราก่อน ฝ่ายเราก่อนว่า ทำได้ ทำจริง ทำเป็น และทำ ซึ่งแต่ละคนแต่ละเจ้าแต่ละชุมชน ผ่านกระบวนการทำและรู้มาหลากหลายและนานปีแล้ว จนบางคนยึดเป็ฯอาชีพได้ด้วยสิ่งนี้
นี่ละแนวคิด Big Think คิดแบบหลักล้าน หลักหลายๆล้าน มาเดินไปด้วยกัน ผมคาดหวังว่าคนเหล่านี้ที่มาทำกันจะเป็นคนที่พออยู่พอกิน นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ จ้างงานให้กับคนในชุมชน คนรอบๆข้างได้มากยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็นผู้ประกอบการทางสังคม หรือ SE อย่างเต็มภาคภูมิ มานะมา Big Think ด้วยกัน...
| Create Date : 29 ธันวาคม 2563 |
| Last Update : 25 มกราคม 2564 13:13:57 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 411 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
