space
space
space
 
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
24 มีนาคม 2563
space
space
space

เถียง 2528 (หากินผลไม้รอบเถียง)
    สมัยนั้นผลไม้หรือบักไม้ ที่พวกเราชาวไร่มีกินกันนั้น มีไม่กี่ชนิดหรอก อยากจะบอกว่า รู้จักและเคยกินไม่กี่อย่าง แก้วมังกร ทุเรียน แอบเปิล เอย สาลี่เอย พลับ สอร์เบอรี่ ไม่มีหรอกครับ ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมี แต่ที่รู้ๆกันก็มี องุ่น ส้ม แตงโม ขนุน ส้มโอ กล้วย และผลไม้ป่า ที่เหลือผลไม้ตลาดหรือผลไม้จากถิ่นอื่นๆ ไม่เคยได้ยินนะบอกตามตรง
    พวกเราเลยต้องใช้วิธีอยากกินอะไรก็ปลูกเอา ดังนั้น รอบๆเถียงคุณตาเลยปลุกมะม่วงแก้วหรือเราเรียกว่ามะม่วงใหญ่  ต้นมะขามเปรี้ยว ต้นกล้วย และที่โดเด่นและน่าสนใจคือ น้อยหน่าออสเตรเลีย คล้ายกันกับน้อยเพชรปากช่องทุกวันนี้ละ ลูกมันใหญ่มาก และอร่อย (มัง)  น้อยหน่านี้ ใครผ่านไปผ่านมาต้องมาแอบกิน แอบซอย แอบขอกันเป็นประจำเพราะมันลูกใหญ่กว่าที่มีอยู่ทั่วๆไป ซึ่งปลูกน้อยหน่าหนัง หรือ น้อยหน่าฝ้ายเอาไว้ กินหรือขายก็มี ต้นมันใหญ่มาก สามารถปีนขึ้นได้สบายๆ งงเลยสิ น้อยหน่าที่ต้นใหญ่ไม่เคยเห็น แต่เราเห็นมาแต่เด็กแล้ว บอกใครคงไม่เชื่อว่าปีนตกน้อยหน่า 55 ลูกมันใหญ่ประมาณส้มโอลูกเล็กๆเกือบจะส้มโอทองดีหรือท่าข่อยนี้ละ เวลาอยากกินก็มองไปบนต้นหรือปีนขึ้นไปแล้วสอยเอามา หรือหากมันสุกมากๆจะหล่นมาดังตุบเลยทีเดียว นั้นละผลไม้เกรดเอของพวกเรา อ้อแน่นอนว่าการกินน้อยหน่าไม่ได้กินเปล่าๆนะ กินกับข้าวด้วยละ เพรามันอร่อยงัย แก้เลี่ยนไปในตัว
    อีกผลไม้หนึ่งที่ เกรดพรีเมี่ยมของเราคือ มะม่วงแก้ว ต้นข้างเถียง ต้นมันใหญ่เท่าตัวคน แต่มีกิ่ง มีก้าน ให้ปีนขึ้นไปได้ และออกลูกดกมาก ใครผ่านไปผ่านก็แวะมากินมาสอยมาปีนกันได้ ไม่ว่ากัน ในสมัยนั้นนะ เราชอบที่สุดคือตอนที่มันห่ามๆ มีสีเหลืองตรงก้นมัน เพราะมะม่วงแก้วมันจะสุขจากท้ายมาหัวขั้ว หากอยากกินห่ามต้องสังเหตุดีๆ เดินแหงนมองรอบๆต้นแล้วไม่เจอก็ต้องปีนไปสู้กับมดแดงละ ซึ่งมันก็แปลกมากที่มันแดงชอบทำรังในใบมะม่วงหลายรัง บางรังทำรองตรงพวงมะม่วงหรือลุกมะม่วงเลยละ ไม่รู้ทำมัย เขาถึงเรียกว่า มดแดงเฝ้ามะม่วงมั่ง แต่ไม่เห็นมันเจาะมะม่วงกินนะ ยกเว้นมะม่วงสุกงอมและแตก มันจึงจะกินได้ บ้างละ ทำให้เลยเกิดเหตุการทำลายรังมดแดงเพื่อเอามะม่วงเป็นประจำ 55 แย่งมะม่วงกับมดแดง ก็ 55 ดีเหมือนกันทีเดียว มะม่วงที่กำลังสุขน้อยๆแบบนี้เราเรียกว่า มะม่วงซอน เป็นที่โปรดปรานของเรามากเลยละ บางครั้งอดทนรอมันซอนไม่ไหว ก็แอบดูว่าลูกไหนที่มันแก่จัดๆ ตาห่างๆ หัวเข้ม สอยลงมาเก็บไว้วันสองวันให้มันซอนก็ถือว่าใช้ได้ไม่ว่ากัน
    พอมันพ้นสายตาหรือลืมไป มันจะสุขมากๆต้องสอบลงมาอย่าให้มันร่วงดินเพรามันจะช้ำหรือจะเละ ไม่น่าทาน หรือบางครั้ง มันหาไม่เจอหรือมันใกล้จะหมดแล้ว ต้องปีนไปค้นละเพราะความอยากกินมาก ปีนไปส่องตามพุ่มใบหรือรังมดเผื่อมันหลงตา หลงไม้สอย ซึ่งส่วนมากก็มีมากมายที่หลงให้เราได้กินสุก การกินสุกเรากินกับข้าวเหนียว เอามาปาดๆเป็นชิ้นใหญ่ ใส่จานสังกะสี เอามาเป็นของหวานกินตอนเย็นๆ กินทุกคนเลยละ กินกับข้าวนะไม่ได้กินเปล่าๆ อย่างที่บอกว่าของหวานหรือผลไม้มันหายากเลยต้องกินให้คุ้มงัยละ
    ตอนที่ปีนไปหามะม่วงซอนหรือมะม่วงสุกเราจะต้องปีนและส่องต้องสอดดูให้ดีมันหลบอยู่ตรงไหนอย่างไร มดแดงนี้รุมเลยละ บางครั้งมันมากเกินไปสู้ไม่ไหวก็ต้องแถวออกมา จนกว่ามดแดงจะออกลุกหมดจากไข่แล้วใบไม้แห้งมันจะทิ้งรังไป ค่อยมาว่ากันใหม่ในกิ่งนั้นๆ หรือใช้ไม้สอยกันตรงนั้นเลยก็ได้ แล้วต่อระยะของมะม่วงที่เราอยากจะกิน นอกจากคู้แข่งหรือเพื่อนบ้านคือมดแดงแล้ว เรายังมี ผึ้งมิ้ม กับ แตน บางปีบางเดือนมากันเป็นสี่ห้ารัง เต็มไปหมด หากเป็นแตนนี้ละแม่เอย ต่อยเจ็บนัก ต้องหลบ ต้องหลีก หรือตีให้รังมันตกหายไป แล้วแม่มันก็จะหนีไปเอง หรือโจมตีเรานั้นละ อันนี้ จะบาปหน่อยนะ ส่วนมิ้มนะหรือ หากมีมากๆหรือรังใหญ่นั้นดี จะได้ไล่แม่มันไปเอาควันไฟไล่แล้วเอารังมันกินตัวอ่อนกินน้ำมิ้ม ก็อร่อย แน่น่อนละกินกับข้าวเหนียว จ้ำร้อนๆ อร่อยน่าดูทีเดียว ส่วนผึ้งหลวง ผึ้งถ้ำ ไร่เราหรือแถวนั้น ไม่ค่อยมีน่ะ เลยไม่ได้เคยทานเลยสักครั้ง จนโตมานี่ละไปทานที่อื่นๆ หรือทานตอนไปบวช มีโยมเอามาถวายเลยชอบกินน้ำผึ้งมาแต่นั้นเลยทีเดียว
    มะม่วงแก้ว ช่วงที่ไปใหม่ๆลูกเล็ก ออกรสฟาด เราก็เอามาทานกับน้ำพวกได้เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรกินก็ทำปริกกันกินกับมะม่วงอ่อนๆ ไม่เสียดาย เพราะมันมีมากเหลือเกินลูกดก พอมันโตขึ้นหน่อยก็เอามากินพริกน้ำปลาหรือเอามาคั้นเกลือกิน สับๆชิ้นเล็กๆ เอาเกลือมาโรยแล้วค้นน้ำเปรี้ยวออก ก็เป็นอันว่ากินได้เลย แถมยังแบ่งให้คนอื่นๆทานด้วยนะ ไม่หวงหรือรังเกียจมือกันในตอนนั้น  
    คู่แข่งที่ชอบแย่งมะม่วงของเราที่สำคัญคือสัตว์ฟันแทะนั้นละ หลายครั้งที่มันจะมาเจาะกินลุกที่แก่เต็มที่ ลุกที่ซอน ลูกที่สุก กินจนลูกร่วงมาเลยทีเดียวหรือกินไปบางส่วน อันนี้คู่แข่งมือโปรเลย กระรอก กระแต ค้างคาว หนู กินหมดทุกอย่าง สงสัย คงชอบเหมือนเรานะ มันอร่อยงัยละ บางครั้งมองขึ้นไปเห็นลุกสวยๆ แต่พอสอยลงมานี่หัวกับตัว หายไปหมดเหลือแต่ท้ายลุกเอง 555 แพ้มันไป
      เมื่อกี้มะม่วงใหญ่ หรือมะม่วงแก้ว มะม่วงอีกพันธุ์ที่ไม่ได้ปลูกเอาไว้  และตรงข้ามกับมะม่วงใหญ่คือมะม่วงน้อย หรือมะม่วงแก่นล้อน ซึ่งเถียงข้างเขาปลูกเอาไว้ ต้นไม่สูงใหญ่เท่ามะม่วงใหญ่หรือมะม่วงป่า ลุกมันที่กินได้คือ ลุกเล็กๆฟาดๆ แต่จะอมเปรี้ยวเล็กๆ อันนี้เอมากินได้เลยอันนี้ไปเดินเก็บเอาลุกที่มันร่วงลงมาแบบมันไม่ติดนั้นละ พอมันโตหน่อย จะออกเปรี้ยวมากเลยละ เอามาคั้นเกลือกิน อ้อการคั้นเกลือนี้ ไม่ไช่ มะม่วงปั่นนะอย่าเข้าใจผิด สับๆเอาเกลือมาทาแล้วนวดๆบีบๆน้ำเปรี้ยวออก ก็กินเนื้อมันได้เลยทีเดียว อร่อย มัน เค็ม เปรี้ยว แต่สุดยอดของมะม่วงน้อยคือ เอามายัดโปก ยัดใส้ คือ ตอนที่มันสุก มันจะร่วงลงมา เราก้ไปเก็บเอา หัวมันจะแดงๆหรือเหลืองๆหน่อย กลิ่นหอมๆพอประมาณ คนละกลิ่นกับมะม่วงใหญ่ มะม่วงป่านะ เราก็เอามีดปาดหัวมันออกเป็นปากใหญ่ๆหน่อย บีบเอาเม้ดในออก ก่อนทิ้งก็ดูดกินเม็ดก่อนนะ เนื้อมันติดมาเยอะเหมือนกัน จากนันก็เอาข้าวเหนียวยัดลงไปให้เต็ม ปล่ยสักพักให้มันดูดน้ำหวานฉ่ำๆ แล้วเอามือบีบ นวดให้เนื้อมันแตกออกมาผสมข้าวเหนียวให้หมด แล้วบีบกินได้เลย หวาน หอม เปรี้ยวอร่อยน่าดู กินหมดแล้วมองดูหากยังมีเนื้อมะม่วงเหลือก็ยัดอีกรอบทะแบบเดิมคราบีบเข้าปากและรีดมะม่วงจนหมดเนื้อเลยละ อร่อยๆๆ 555 มาก
        ผลไม้อีกอันหนึ่งที่ต้องเดินไปหากินที่อื่นๆ หรือ ไร่คนอื่นๆ ซึ่งเขาไม่หวง คือ มะม่วงป่า ที่พวกเราสมัยนี้ชอบเอามากินกับน้ำพริกปลาหวานนั้นละ มะม่วงป่านี้มันนะต้นส฿งและใหญ่มาก ส่วนมากขึ้นเองตามไร่ แต่มีไม่กี่เจ้าที่ไม่ตัดทิ้ง เอาไว้กินกัน เม็ดมันจะใหญ่เนื้อน้อย แต่กลิ่นนี่หอมมากเวลาที่มันสุก เราชอบไปเก็บตามต้นที่มันร่วง เพราะต้นสูงมาก แล้วมันไม่ค่อยมีกิ่งให้ปีนได้ เป็นต้นใหญ่ สูง ยาว แล้วไปมีกิ่งเป็นพุ่มๆตรงปลายๆ ไม่รู้ทำมัย ทุกต้นจะเป็นแบบนี้หมดเลย แน่นอนเลยต้องรอมันสุกร่วง จึงได้กิน เวลาผ่านไปแถวนั้น ก็แวะเก็บเอา เขาไม่ว่ากันนะเจ้าของ มะม่วงนี้สตว์ฟันแทะต่างๆก็ชอบๆ เหลือเป็นลูกดีๆให้เรากินไม่เท่าไหร่เอง
    ผลไม้อีกอย่างที่ปลูกเอาไว้คือ กล้วยน้ำว้า ปลูกง่าย ปลูกครั้งเดียวแล้วอยู่ยาวเลยทีเดียว ลูกจะดกและเครือยาว หวีใหญ่ ต้นสูง ปลีใหญ่ เอามาแกงมาหมกกินสบายๆ แต่ต้องรอให้มันออกเครือสุดก่อน จึงตัดปลีมาแกงหรือมาหมกได้ กล้วยน้ำว้านี้พวกเราจะให้สุกคาเครือคาต้น เพราะมันจะได้สุขเต็มหวานเต็มที่นั้นเอง ด้วยเหตุนี้ การจะสุขไม่สุขเรามักลืมมองหรือลืมสังเกตุ เพราะกล้วยไม่เหมือนมะม่วงที่สุกจากท้ายไปหัว แต่กล้วยมันสุกจากหัวเครือมาท้ายเครือ เลยสังเกตุอยาก กว่าจะรู้ว่ามันเริ่มสุขแล้วก็แหว่งไปตั้งหลายลูก ทำไมนะหรือก็ พวกค้างคาว งัยมาทาน หรือกระรอก กระแต หรือหนู มันกินหมด แมงหวี่ แมงวัน มันก็กิน นั้นละเราจึงได้รู้ว่า กล้วยสุขแล้ว ถึงได้ตัดลงมากินกัน มาห้อยไว้หรือมาวางพิงเสาเอาไว้กินกัน สมัยพวกเราทำไร่ กล้วยจะไม่แขวนนะ ไม่รู้ทำไม จะเอามาทั้งเครือแล้ววางพิงเอาไว้เอียง กินไปเรื่อยๆจนหมด หรือ เอามาสับแยกหวีวางไว้เป็ฯบางครั้งแต่น้อยครั้ง ยกเว้นกล้วยที่เราตัดแบบแก่สุดๆ ที่ขอบลูกมันแน่นเต่งตึงไม่มีเหลี่ยม นั้นละกล้วยแก่เต็มที่ ตัดเอามาบ่มแก้สในกระสอบปุ๋ย หรือวางทิ้งไว้ มันจะทอยๆสุก แต่หากบ่มแก้สมันจะสุกพร้อมๆกัน แบบนี้เอาไว้ทำบุยหรือตอนที่มีงานจะใช้กล้วยจำนวนมากจะบ่มกันหรือขอกันไป  กล้วยนี้เราก็เอามากินกับข้าวเหนียว อร่อยอร่อยอย่าบอกใคร ยิ่งตอนที่เราบวชนะ เวลาบินฑบาตรได้กล้วยมานี่ละ อร่อยมาก ทานกับข้าวในบาตร โอแม่เจ้า สุดๆ อย่าบอกใคร
     ผลไม้อีกหนึ่งอย่างที่หากินง่ายแถวริมเถียง บนกองหิน เนินดิน โพน ข้างทาง นั้นคือ บักหาดข่าป่า หรือชำมะเรียงป่า มั้ง ลูกจะเล็กกว่าชำมะเรียงบ้าน เม็ดเล็กกว่าและกินไม่ได้ นอกนั้นจะคล้ายๆกัน มันจะเกิดเต็มหรือกระจายไปหมด เกิดเอง หากรถไถโดนรากมัน ก็จะแตกหน่อและเกิดขึ้นมา บางครั้งต้องขุดต้องถอนออกมันมากเกินไปเกิดเป็นกลุ่มๆ เกิดทุกปี พอต้นไหนหลุดรอดสายตาหรือเกิดในที่ไม่รบกวนข้าวโพด หรือมันสำปะหลังหรือข้างเถียง ข้างกอกล้วย มันจะโตจนออกลูกเป็นช่อๆเป็นพวง น่ากินน่ากิน ตอนแรกมันจะเขียวๆ จากนั้นจะออกส้มเหลืองแดงจนออกสุกเต็มที่สีจะดำๆๆคล้ำเป็นอันว่าหวานแล้ว หากทนไม่ได้ก็กินกันตอนเกือบสุข ก็ออกเปรี้ยวหน่อย หรือ หาแวะไปเจอ กลัวคนอื่นเอาไปกินก่อนก็กินเลย ทั้งที่ยังไม่หวานดีพอ  บักหสดข่านี้ก็เหมือนกล้วย ค้างคาวนี้ชอบมาแย่งกินกับเรานัก หรือเราชอบไปแย่งกันกับมันก็ไม่รู้ รวมทั้งหนูด้วย เม็ดนี่กองเต็มต้นเลยทีเดียว เราต้องไปให้ทันพวกนี้ ไม่งั้นจะได้กิยแต่ลูกเล็กๆนะ เม็ดมันจะเป็นรีๆทั้งผลและเมล็ดมัน แบบนั้นละ อ้ออันนี้ไม่กินกับข้าวเหนียวนะจ่ะ มันเนื้อน้อย ไม่พอกินนะสิ 55
    เป็นงัยครับ ชีวิตแบบชาวไร่สมัยเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ยังไม่มีผลไม้ใหม่ๆ หรือแปลกเอาไว้กิน เอามารู้จักก็ต้องอาศัยผลไม้พื้นบ้าน หรือเถียงใกล้ๆ นั้นละ กินกันแบบง่ายๆ ถามว่าเดือดร้อนมัย ก็ไม่นะ สบาย สนุก มีความสุกดี ไม่ต้องซื้อ ต้องหา อยากกินก็ปลุกเอง กินเอง หรือไปเถียงอื่นๆที่เขามีก็กินได้แล้ว ไม่ว่ากันในสมัยนั้น สร้างความสัมพันธ์อันดีด้วยกันอีกต่างหาก

 


Create Date : 24 มีนาคม 2563
Last Update : 31 มีนาคม 2563 14:36:27 น. 0 comments
Counter : 519 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

Dr Chang
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




- เป็น เป็นวิทยากร เป็นคนบรรยาย เป็นผู้บริหาร หน่วยงานของรัฐ
- ชอบ ชอบอ่านนวนิยายจีนกำลังภายใน ชอบป่า ชอบน้ำ
- ทำ ทำงานพัฒนา ทำงานท่องเที่ยว ทำสวนเกษตร
- ขาย ขายประกัน ขายของทะเลแห้ง ขายเกลือ ขายคอนโด
- เรียน จบ ป.เอก ม.โพธิศาสตร์ ป.โท นิด้า ป.ตรี ม.ราม

space
space
space
space
[Add Dr Chang's blog to your web]
space
space
space
space
space