ตอนที่อยู่ในไร่รองเท้าที่ดีที่สุดคือรองเท้าฟองน้ำ ตราดาวเทียม พื้นสีขาวเป็นวงๆ สายสีน้ำเงินมั้ง จำไม่ได้ละ ไม่ได้ใช้นานแล้ว เอาไว้ลุยตามไร่หรือไปเดินเล่น หากช่วงไม่มีฝนสบายหน่อยแต่หากฝนตกเดินไปเดินมาดินเหนียวสีแดงๆติดเป็ยพื้นรองเท้าเลย หากยังไม่เซาะออกด้วยไม้หรือด้วยเสียมละก็มันจะปลิ้นออกมาตามขอบเกิบเหมือนกับรองเท้าในละครจักรๆวงศ์ๆ อารมณ์เหมือนกับยิ่งเดินยิ่งหนัก กว่าจะถึงที่หมายแต่ละครั้งต้องหยุดถูหยุดถากเอาดินออก แต่ถ้าเดินลุยไปในไร่ซึ่งดินจะร่วนกว่าอันนี้แทบจะทิ้งหรือวางไว้เลยเดินท้าวเปล่านั้นละดียิ่ง ขากลับค่อยมาเก็บเอาไปที่เถียง หรือทิ้งไว้หลายวันก็มี บางครั้งปล่อยจนแห้งค่อยเอาไปฟาดกับต้นไม้หรือท่อนไม้ก้กระเด็นออกง่ายเหมือนกัน ตามข้างเถียง โคนเสาเถียง บันได ท่อนไม้ ต้นไม้ มักจะมีดินที่ขูดออกติดแปะเอาไว้ อันเนื่องมาจากดินเกิบนี่ล่ะ
รองเท้าฟองนี้ใช้ไปเรื่อยๆจะมีอาการเริ่มชำรุด เริ่มจากหัวยึดตรงคีมหนีบนั้นละจะหลุดจากเบ้าบ่อยๆ ตรงคอยเอาไม้จิ้มยัดลงไปในรูเป็นประจำ หากสายหลุดก็จะพยายามซ่อมก่อนเอาสายเกิบขาดอันอื่นมาแทน หรือใช้เชือกหรือฝางหมัดแทนก็ เอาจะใช้ไม่ได้จริงโน้นละ อาการต่อมาคือตรงส้นเท้าเริ่มสึกเริ่มแหว่งเริ่มขาดออกไปเรื่อยๆ หรืออาการมีเชื้อราตระไคร่น้ำจีบดำปี้อันนี้ก็ถือว่าเสียละ คราวนี้การเสียสองข้างมักจะไม่ค่อยเท่ากันบางครั้งซ้ายไปก่อน บางครั้งขวาไปก่อน ทำให้เกิดอาการ REUSE ใส่รองเท้าคนละสี คนละรุ่น คนละขนาด แบบปัจจุบันนี้ละ อันนี้ไม่ได้ตั้งใจแต่มันเสียไม่เท่ากัน เห็นข้างไหนดีก็เอามาจับคู่กันใส่ได้เหมือนกันไม่อายใคร ไม่มีใครว่า ก็ใช้จนกว่าจะพัง พอมาสมัยนี้ต้องตั้งใจทำให้มันคนละสีเรียกว่าเทห์ สงสัยพวกเราสมัยก่อนเทห์มาก่อนหลายสิบปี อันนี้เป็นข้างที่ดียังใช้ได้ ส่วนข้างที่เสียแล้วไม่ดีแล้ว เราไม่ทิ้งต้อง REUSE เอามาใช้อีกด้วยการ “ปาด” มาเป็นเชื้อก่อไฟ ซึ่งยางอย่างดีเลยละปาดมาหน่อยเดียวก็ทำให้ฟืนหรือซังข้าวโพดติดแล้ว แต่มันจะเหม็นๆไหม้ยางหน่อย สมัยนี้คงเรียกมลพิษ สมัยโน้นไม่มีละโลกร้อน PM 2.5 เผามันเลย ไม่มีห้ามกัน “เกิบขาด” เหล่านี้ละเป็นสิ่งที่มีประโยชน์จนหยุดสุดท้ายชิ้นสุดท้ายในการก่อไฟ หากไม่มีเกิบขาดที่ว่าการหุงหาอาหารต้องลำบากเพราะต้องหากระดาษมาเป็นเชื้อไฟ ซึ่งหาไม่ค่อยมีอยู่แล้ว หรือถึงก้อบแก้บ ซึ่งเราว่ามันสกปรกไปนิด เพราะสมัยนั้นใช้แล้วก็ทิ้ง กองๆเผาๆหรือมันก็ปลิวไปเอง ประมาณว่าปริมาณมันน้อยกำจัดง่ายๆ
นอกจากนี้เกิบที่ไม่ขาดแต่เอามาทำเชื้อไฟได้ก็มีหลายที่มา อันแรกเป็นหมากัด หนูแทะ มันแหว่ง คนจึงไม่ใส่ต่อไป จึงจำเป็นเอามาเชื้อไฟ เหตุต่อมาก็เกิบเด็กน้อย เมื่อมันโตเกิบก็ไร้ประโยชน์แทนที่จะทิ้งก็เอามาทำเป็นเชื้อไฟนี่ล่ะ อีกเหตุหนึ่งคือเกิบหายไปข้างเหลือข้างเดียว ซึ่งหายอย่างไรก็ทั้งหมา หรือลืมที่อื่น นั้นละ เลยกลายเป็บเกิบข้างเดียว เห็นมัยสมัยก่อนเขา รียูส กันมาก่อนมานานเอาจนหมดเลยนะ ....เกิบขาด....ปล ภาพ ช่าง วัช สุโขทัย ขายมาร่า เกิบแท้ๆ แต่ไม่ขาดของชาวนา สุโขทัย ขอขอบคุณ
Create Date : 06 มีนาคม 2563 |
|
0 comments |
Last Update : 31 มีนาคม 2563 14:41:10 น. |
Counter : 1778 Pageviews. |
|
|
|