|
เถียงยุค ๒๕๒๘ ตอน บ่อน้ำข้างเถียง |
|
บ่อน้ำเป็นแหล่งรวมพลของคนทั้งหมู่บ้าน เพราะว่าทั่วหมู่บ้านมีน้ำไม่กี่บ่อ เพราะว่าการขุดบ่อต้องใช้เงินจ้าง จึงมีการขุดบ่อสาธารณะเอาไว้ให้ใช้ให้กินกัน จำได้ว่าที่หมู่บ้านมี "บ่อน้ำที่วัด" กับ บ้านน้ำที่ "ดอนปู่ตา" ที่คนทั้งหมู่บ้านและหมู่บ้านรอบๆใช้กัน จำไม่ได้แล้วว่าเขาขุดกันมาแต่สมัยไหน วันหลังจะเล่าให้ฟัง วันนี้มาดู บ่อน้ำที่ไร่ของเราดีกว่า... .. เสียงคุกระทบน้ำดังตึง ...เสียงดึงรอกอีดเอี้ยดสนั่นไร่ ...น้ำใสๆ น้ำเย็นๆกินได้ดื่มดี ..เสียงไรไรจักจั้นร้องระงมไพร ...เสียงนก เสียงกา บนถลาเล่นฟ้า ....แดดอ่อนผ้าแดงอามิตย์ตก ...คนไร่เข้าเถียงพักกายา.. นั้นละบรรยายกาศยามเย็นของชาวไร่ที่ห่างจากแสงไฟฟ้า แสงความเจริญเมื่อ 30 ปีที่แล้ว..... เดิมที่เถียงของเราไม่มีบ่อน้ำต้องไปขนน้ำ ไปอาบน้ำ ที่บ่อคนอื่นๆ ลำบากพอสมควรแต่สมัยนั้นก็ซิวๆ ไม่ได้คิดมาก จนในที่สุดพวกเราก็ลงทุนจ้างคนมาขุดบ่อเอาไว้ในไร่ของเราอยู่ใกล้กับเถียงห่างประมาณ 20 เมตร คนขุดใช้เสียมขุดลงไปเรื่อยๆปากบ่อใช้ท่อซีเมนต์ประมาณ 3 ท่อเพื่อไม่ให้ดินที่ปากบ่อพังลงไป ส่วนช่วงกลางๆหรือปลายๆนั้นเป็นดินธรรมชาติเพราะดินไร่เป็นดินเหนียวอยู่แล้ว ความลึกน่าจะ 20 เมตรได้ มองลงไปเห็นน้ำลิบๆไม่ได้ตื้นเลยเพราะมันอยู่ในที่เนินที่ดอนนั้นเอง คนที่รับจ้างแบบนี้จะมีไม่มากและต้องฝึกฝนอย่างหนักเลยทีเดียว เวลาคิดเห็นก็คิดตามระยะความลึก ส่วนความกว้างก็มาตรฐานตามขอบวงท่อ บ่อน้ำนี้กลายเป็นทั้งน้ำกินและน้ำใช้เพราะมีความอร่อยใช้ได้ ใสแจ๋วเลยทีเดียว
คราวนี้วิธีการเอาน้ำที่อยู่ลึกมาใช้นั้น พวกเราจะทำคานไม้หรือเหล็กซักรอกเอาไว้ชักลาก ตรงปลายเชือกมัดคุถังสังกะสีเอาไว้คอยปล่อยลงไปและสาวขึ้นมาด้วยแรงคนไม่มีตุ้มทุ่นแรงนะ ที่ต้องใช้คุสังกะสีไม่ใช้คุยางหรือพลาสติกเพราะว่ามันหนักดี ปล่อยลงไปฟังเสียงตุ่มแล้วในตะแคงลงไปตักเอาน้ำได้เลย แต่หากเป็นคุยางรับรองนานกว่าจะได้น้ำเต็มถัง เมื่อคิดว่าน้ำเต็มแล้วก็ดึงเชือกตึงๆดูหากตึงมือหรือหนักมือแสดงว่าน้ำเต็มละ จะรู้สึกตึกๆ แต่หากเบาวิวอ้อต้องทิ้งลงอีกครั้งแล้วหย่อนเชือกลงให้มากขึ้นให้เชือกดึงปากคุลงน้ำอีกจะได้น้ำเยอะๆ เมื่อได้ที่แล้วก็สาวสองมือละ ความหนักก็ตามขนาดของคุละ ชอบมากขนาดใหญ่ก็หนัก ชอบน้อยขนาดเล็กก็เบาแต่ต้องตักหรือสาวหลายรอบจึงจะพอ รอบๆบ่อน้ำดินที่ได้จากการขุดบ่อก็จะทิ้งไว้รอบบ่อกันไม่ให้น้ำไหลลงไปในบ่อ เอาไว้ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาบ่อหรือเอาไว้กินเอาไว้หลบแดด นอกจากนี้เนื่องจากมีน้ำแล้วจึงปลูกผักหรืออ้อยเอาไว้กินเอาไว้ขาย นอกจากนี้ยังทำชั้นไม้เอาไว้ทำที่อาบน้ำ วางสบู่ยาสีฟันเอาไม้วางพื้นเอาไว้รองอาบน้ำ แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำไหลลงบ่อน้ำมันจะสกปรก ส่วนมากจะอยู่ในที่ต่ำกว่าขอบบ่อ เราคิดว่าน้ำไหลลงพื้นดินแต่มันก็ไหลไปทางอื่นๆไม่ไหลลงในบ่อ อันนี้สมัยนั้นเราคิดแบบนี้ แต่ในความจริง เมื่อน้ำเสียหรือน้ำใช้แล้วมันซึมลงดินก็คงไหลซึมไปทุกที่รวมทั้งในบ่อน้ำเราด้วยเหมือนกัน นานไปบริเวณบ่อน้ำของเราก็กลายเป็นป่าไม้ย่อมๆ เพราะต้นไม้ที่ปลูกมันใหญ่ขึ้นแล้วบังแดดบังลมได้ดีแล้วก็ถือว่าบ่อน้ำเราสมบูรณ์พูนสุข นานๆทีพอแดดร้อนมากๆก็จะเอาเปลหรือมานอนหลบแดดแถวๆริมบ่อนี้ละมันเย็นดีทั้งน้ำในบ่อหรือน้ำที่หกเรี่ยราดรอบๆบ่อก็ให้ความเห็นนี้ด้วย ความจริงรอบๆบ่อก็จะแฉะตลอดนั้นละ เป็นโคลนเล็กน้อยด้วย หากมองลงไปในบ่อจะเห็นสัตว์ที่มีขายาวๆ เก้งก้าง หน้าต่อคล้ายกุ้งแต่อยู่ตามบ่อไม่ได้อยู่ในน้ำเราเรียกว่ากุ้งบก แต่ไม่เคยกินแม้เขาจะว่ามันกินได้ สิ่งที่ต้องระวังในบ่อน้ำก็คือ อย่าให้มีสัตว์ต่างๆตกลงไป หากเห็นต้องรีบเอาขึ้นมาให้ได้ เช่น หนู ตุ๊กแก จิ้งจก กบ ขีด อึ่ง คางคก ฯลฯ วิธีเอาขึ้นมาก็เอาคุถังที่มัดติดปลายเชือกรอกนั้นละ ค่อยๆตักขึ้นมาให้ได้ ตอนที่เราอยู่ที่เถียงหรือทำไร่อยู่ไม่ค่อยมีอะไรตาย พอเห็นก็รีบตักออก แต่จะมีปัญญาหากเราเข้าบ้านนานไม่ได้ออกมาที่เถียงอาทิตย์หรือเดือนหรือหลายเดือน แบบนี้มีปัญหามากมาย มีสัตว์หลายตัวตกลงไปและตาย เน่าเหม็น บางครั้งต้องถึงขั้นตักน้ำทิ้งให้หมดหรือหนักกว่านั้นต้องจ้างคนมาลอกบ่อใหม่เลยละ บางช่วงเวลาที่แล้งมากๆหรือฝนทิ้งช่วงน้ำในบ่อจะลดลงหรือแห้ง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละ เพราะมันมองไม่เห็นแน่ๆ ก็รู้สึกได้จากคุที่ซักรอกลงไปตักน้ำนั้นละหากมันกระทบพื้นบ่อดังปัง ตึง ตัง แบบนี้ชัวร์แน่ๆ แต่บางครั้งยังไม่แห้งมากแต่เริ่มแล้ว น้ำที่ตักขึ้นมาจะมีขี้ดินหรือฝุ่นอันนี้ละรู้เลยว่าน้ำลดแล้ว พวกเราก็ต้องลอกดินโคลนหรือขุดให้ลึกลงไปอีก ซึ่งต้องอาศัยมืออาชีพมากๆในการลงไปในบ่อน้ำนี้ ทั้งแคบ อากาศน้อย ดินถล่ม ดินพัง สรุปว่า “เสียว” อย่าบอกใคร คนมาลอกบ่อจะมากันสองคนคนแรกลงไปขุดดินคนที่สองจะชักรอกขึ้นมาเอาดินมาทิ้งแล้วส่งคุลงไปใหม่ ทำจนสุด ไม่ใช่สิ้นแผ่นดิน ทำจนน้ำเริ่มออกมามาท่วมคนขุด หรือเกิดโพรงดินเหลวอาจจะถล่มมาทับคนตายได้ หรือครบตามเมตรที่ตกลงเขาไว้ เพราะเขาคิดราคาตามเมตรตามความลึกกัน แบบนี้เป็นอันว่าจบภารกิจปีนขึ้นมาได้ คิดดูแล้วกันว่าข้อแขนจะแข็งแรงขนาดไหน พวกเราก็ใช้น้ำจากบ่อและใช้วิธีการซักรอกเอา จนเมื่อมีไฟฟ้าเข้ามาตามไร่ต่างๆ พูดง่ายๆคือมันเจริญขึ้นนั้นละ พวกเราจึงได้ซื้อไดน้ำมาใช้ดูดเอาน้ำมาแทนการซักรอกเอา ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น แถมส่งผลต่อการปลูกผักสวนครัวเอาไว้ขายอีก เพราะสามารถรดน้ำได้ง่าย ได้เร็ว ไม่เหนื่อย เหมือนการซักรอกเอา บ่อน้ำแบบนี้จะมีอยู่ทุกเถียงกันละในช่วงหลังๆ วิธีการใช้ก็เหมือนๆกัน บ่อน้ำนี้ก็ยังคงใช้มาจนกระทั่งทุกวันนี้ แต่ไม่ได้แวะไปดูนานมากแล้วว่าเขาขุดลึกลงไปเท่าไหร่หรือน้ำใต้ดินมันเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งคงไม่ใช่ ตามไร่ต่างๆนอกจากการขุดบ่อแล้ว ยังไม่เคยเห็นใครเจาะบาดาลเลย อาจจะเพราะว่ามันแพงและไม่รู้จะเจอน้ำหรือเปล่า ต่างจากการขุดบ่อน้ำมันค่อนข้างจะได้น้ำหรือเจอน้ำแน่ๆ นั้นเอง มีอยู่หลายครั้งที่ได้ลงไปขุดลอกบ่อน้ำกินน้ำใช้ แต่ไม่ใช่บ่อที่เถียงในไร่นี่นะ อันนี้เกินกำลังจริงๆ ไม่ไหว เพราะมันลึกเกินไปอันตราย บ่อที่ว่าอยู่ที่สวนตนเองและสวนญาติ ลึกสัก 5 เมตร เป็นดิน ร่วน ดินเหนียว ดินทาม ปากบ่อพังเป็นประจำ ตัวบ่อก็พังนะ เพราะมีดินทรายด้วย ทำให้เป็นตะปุ่มตะป่ำตลอดตัวบ่อ แล้วปากก็กว้างเป็นพิเศษ พอหน้าหนาวหรือหน้าแล้ง ที่พวกเราไปปลุกผักกัน มันทำให้น้ำไม่ออกหรือไม่พอ เลยต้องลงไปขุดให้ลึกหรือไม่รื้อโคลนรื้อดินออกจากก้นบ่อแถมยังต้องขุดลงไปลึกๆเพิ่มอีกด้วย วิธีลงก็ง่ายๆ เอาไม้ไผ่ลำหนึ่งหย่อนลงไปให้ถึงพื้นบ่อ เราก็จับไม้ไผ่แล้วปีนลงไปเอาเท้ายันขอบบ่อลงไปเรื่อย ก็ถึงเอง ขาขึ้นก็ทำแบบเดียวกันปีนกลับขึ้นมา แบบง่ายๆนี่ละ ส่วนดินก็ใส่คุให้คนข้างบนลากหรือสาวขึ้นมาเรื่อยๆ จนพอใจในน้ำและความลึก ความรู้สึกของการลงไปในบ่อ ที่แคบๆ เงียบๆ เย็นๆ มีแรงดัน ลึกๆ ผมว่ามันเป็นความกดดันอีกแบบนะที่พิสูจน์คน มิน่าบางคนถึงเกิดความกลัวที่ลึกที่แคบแบบนั้น มันคล้ายๆกับว่าเราฟังเสียงดินเสียงผืนดินเสียงโลกอย่างไรอย่างนั้นเลยละ ....ภาพบ่อจริง แต่ไม่ใช่บ่อเรา ภาพช่างวัช สุโขทัย
Create Date : 09 มีนาคม 2563 |
Last Update : 7 เมษายน 2563 19:06:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 684 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
- เป็น เป็นวิทยากร เป็นคนบรรยาย เป็นผู้บริหาร หน่วยงานของรัฐ - ชอบ ชอบอ่านนวนิยายจีนกำลังภายใน ชอบป่า ชอบน้ำ - ทำ ทำงานพัฒนา ทำงานท่องเที่ยว ทำสวนเกษตร - ขาย ขายประกัน ขายของทะเลแห้ง ขายเกลือ ขายคอนโด - เรียน จบ ป.เอก ม.โพธิศาสตร์ ป.โท นิด้า ป.ตรี ม.ราม
|
|
|
|