เก็บผักหวาน 12 มี ค 63 วันนี้จะพาเข้าป่าไปหาของกิน ป่า ทางที่ว่าอยู่ใกล้ๆไร่ อยู่ในหุบเขาเล็กๆ ทั้งกว้าง ทั้งยาว ต้องเดินจากเถียงออกไปประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ ก็เข้าถึงแนวป่า มองเห็นลิบ เดินผ่านไร่ของคนอื่นๆไปสองสามเจ้าค่อยถึง เป็นป่าที่ใครไม่รู้เก็บเอาไว้ไม่ได้บุกรุกแผ้วถาง เป็นป่าที่เชื่อมระหว่างตำบลบุเปือยกับตำบลเก่าขาม ตรงตำบลเก่าขามมีฐานปืนใหญ่ของทหารไทย วันดีคืนดีก็จะยิงขึ้นไปบนภูเขา เพราะสมัยในประเทศเพื่อนบ้านด้านตะวันออกของไทยยังไม่สงบมีการสู้รบกันอยู่ หลายครั้งมีการรุกล้ำหรือลูกหลวงมาฝั่งไทยบ้าง เลยต้องยิงเตือนบ้าง (มั้ง) วันต่อไปจะเล่าให้ฟังถึงการอยู่ชายแดนมันเป็นอย่างไร พูดถึงของกินวันนี้คือ ผักหวานป่า อันว่าผักหวานที่เรากินกันมีสองอย่างผักหวานบ้านและผักหวานป่า ผักหวานบ้าน ยอดใหญ่ เม็ดใหญ่ กลิ่นออกฉุ่นๆ กินยอด กินใบอ่อน กินผลอ่อน เอามานึ่งกับปลา อร่อยมากๆ กินได้ทั้งปี ปลูกแบบเป็นรั้วก็ได้ เกิดง่าย ปลูกง่าย เราปลูกเอาไว้กินในบ้าน แต่เป็นคนละอย่างกับผักหวานป่า ไม่ใช่เอาผักหวานป่ามาปลูกเหมือนสมัยนี้ อ้อจริงสิสมัยนั้นยังไม่มีใครเอาผักหวานป่ามาปลูกกินหรือปลูกในบ้านในสวนในไร่ ไม่เหมือนทุกวันนี้ปลูกได้ทั่วๆตามวิธีการหรือเทคนิคเฉพาะบุคคล สงสัยสมัยนั้นมันหากินง่ายตามป่าตามเขามีมากมายจึงไม่ต้องไปเอามาจากป่ามาปลูกกัน ส่วนอีกแบบหนึ่งเป็นผักหวานป่าที่ทุกคนคงรู้จักดี ยอดอ่อน มาแกงปลาแห้ง เราจะไม่นิยมเอามาลวกหรือนึ่งกับปลา เพราะมันหายาก 55 เลยทำแกงดีกว่าได้กินมากและปีละครั้ง ต้องไปหาในป่า เป็นไม้ยืนต้นอายุยืน ปลูกอยาก หากินลำบาก เกิดในป่า แต่ทุกวันนี้เอามาปลูกมาเพาะกันได้ละสบายๆ (สำหรับมือโปร) หลายคนจะรู้จักผักหวานป่ามากกว่าผักหวานบ้าน สมัยนั้นเราไม่กินลูกผักหวานป่า ยังสงสัยอยู่ว่าสมัยนี้เอากินกันหรือกินได้ด้วยหรือ ตอนนี้ไม่คิดว่ามันจะกินได้หรืออร่อย การไปหาผักหวานนั้นจะไปในช่วงที่ว่างๆ อยากจะกินของป่าหรือของแปลกบ้าง เพราะมันต้องอาศัยเวลาในการไปหาประมาณครึ่งวัน กินข้าวเช้าแล้วไปหรือกินข้าวเที่ยงแล้วไปประมาณนั้น กลับมาก็มาทำกินมื้อนั้นพอดี ป่ะเข้าป่ากันอุปกรณ์มีพร้ากับตระกร้าใส่ของเท่านั้นละ ไปกันสักสองคนเพราะสมัยนั้นไม่นิยมไปคนเดียวสงสัยยังมีสัตว์อันตรายอยู่บ้างหรือมันเปลี่ยวยังไม่เจริญเท่าไหร่ เมื่อเข้าไปในป่าก็มองหาต้นผักหวานให้เจอ บางครั้งมีต้นใหญ่ บางครั้งมีต้นเล็ก แต่ต้นที่เหมาะสุดคือต้นกลางๆ ต้นผักหวานมักเกิดเป็นกลุ่มๆ จนกลายเป็นพุ่มๆ ต้นผักหวานส่วนมากจะไม่ค่อยมีต้นใหญ่ๆ จะเป็นพุ่มจนถึงใช้มือโน้มเอาได้ หากมากับเซียนก็สบายหน่อยก็จะพอจำได้ว่าผักหวานมันอยู่ตรงไหน ก็สบายหน่อยตรงดิ่งไปหาเลย ตอนนี้เราจะเก็บเอาเท่าที่มือถึงหรือไม้เกี่ยวโน้มลงไม่ ไม่ได้ยินว่าใช้พร้าตัดฝันเอา หรือเผาป่าให้ผักหวานเกิด เก็บทีก็พอกิน ไม่ได้เอาไปขาย แกงสักหม้อกินสักมื้อแค่นั้น ผลผักหวานอ่อนๆเราก็ยังกินไม่เป็นนะตอนนั้นก็เอาแต่ยอดอ่อน ผักหวานยุคนั้นเป็นผักเกรดเอมัย ก็ไม่นะ เพราะมันหาง่าย หาได้ทั่วไป ไม่แพงด้วย นานๆกินทีแกงกับปลาแห้ง สดน้ำร้อนๆ กับข้าวนึ่ง เข้ากันเข้ากัน อาจจะด้วยยุคนั้นผักป่า มันมีมากมาย หลายหลาย หากินได้ ไม่ต้องซื้อต้องขาย เช่น ลำบุก ลำเหียง ฯลฯ ซึ่งเป็นของป่าที่หาง่ายๆทั่วไป ต่างกับทุกวันนี้ ผักหวานปลูกได้มากมาย ทั่วๆ แต่ราคาก็แพง อันนี้ก็แปลกกันน่ะ..วันหลังจะเล่าให้ฟังถึงความอยากมีสวนผักหวานป่าเป็นของตนเองการลงทุนกับผักหวาน ผักหวานญี่ปุ่น พบกันโอกาสหน้า
Create Date : 12 มีนาคม 2563 |
|
2 comments |
Last Update : 31 มีนาคม 2563 14:44:10 น. |
Counter : 546 Pageviews. |
|
 |
|
ครับ..
มีคนพยายามปลูกมันโตช้า หลาย ๆ ปีกว่าจะสูงแค่เอว หรือว่า
เขาปลูกแบบให้ขึ้นเอง ไม่ให้น้ำไม่ให้ปุ๋ย... ยีงสงสัยครับ