space
space
space
 
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
26 มีนาคม 2563
space
space
space

เถียง 2528 ตอน ไปโพนกัน ?
        สมัยก่อน หากเรามองไปตามทุุ่งนาจะเห็นย่อมต้นไม้ หรือป่าละเมาะ ขึ้นกระจายไปทั่วทุ่งนา มองไม่ทะลุเพราะมันซ้อนๆกันตามสายตาเรา  หากเข้าไปใกล้ๆจะเห็นว่ามันมีลักษณะเป็นเนินดิน ต่ำบ้าง สูงบ้างหรือบางครั้งเป็นจมปลวกเก่าหรือปลวกปัจจุบัน ที่ก่อตัวกันขึ้นสูงๆ แล้วมีต้นไม้มาเกิดขึ้น มีทั้งตั้งอยู่ระหว่างเขตของที่นาเจ้าต่างกัน หรือเป็นที่เว้นไว้ไม่ทำนา เพราะมีต้นไม้ใหญ่ หรือไว้ต้นไม้เอาไว้เป็นร่มเงา หรือเหลือไว้ทำเถียงนา หรือแคร่นั่งหลบร้อน 
       ที่กล่าวมานั้นพวกเราชาวนา เรียกมันว่า "โพน" เป็นศักท์เฉพาะถิ่น วันนี้จะพาทุกคนไปหากินที่ "โพน" กันนะ มันคล้ายเนิน แต่มันสูงกว่าและเล็กกว่า บางแห่งเป็นทรงกลม บางแห่งเป็นแบนๆ บางแห่งทรงรีๆ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง หากเป็นจอมปลวกจะสูงหน่อยน หากเป็นดินธรรมดาจะต่ำนิด แต่ทุกแห่งจะสูงกว่าท้องนา พื้นนา น้ำไม่ท่วม น้ำไม่ขังน่ะ
       สิ่งที่อยู่ "ใน" และ "บน" โพน นั้นจะมีต้นไม้ ปลวก งู หนู นก จักจั่น เรไร กระรอก กระแต บ่าง ฯลฯ ตามแต่ขนาดโพน ตามแต่ต้นไม้ ตามแต่จำนวนสัตว์แถวๆนั้น  ยิ่งมีโพนมากๆ เยอะๆ ใหญ่  ยิ่งของสัตว์มากมาย ซุกซุม เพราะมันทีที่หลบภัยจากคนและสัตว์นักล่า 
      หลายคนคงสงสัยว่า เอทำไมเหลือโพนเอาไว้ไม่ไถทิ้งทำนาปลูกข้าว มันคงมีหลายสาเหตุนะ เช่น เอาไว้ทำร่ม เอาไว้ทำเถียง เอาไว้ทำฟืน ทำถ่าน เอาไว้หากิน เอาไว้ให้เจ้าที่เจ้าทางหรือผี วิญญาณอยู่ เอาไว้ให้เป็นปุ๋ยในนา ให้ใบไม้ร่วงเป็นปุ๋ย หรือบางคนไม่มีเวลาไปไถ หรือเปลืองเงิน หรือสมัยก่อนหารถไถนายาก ต้องใช้แรงคนอย่างเดียวต้องใช้จอบ ใช้เสียมไปพังโพน อันนี้เหนื่อยมากมาย ทั้งหมดมันก็แล้วแต่เจ้าของนาเขาจะมีเหตุผลอะไรไม่เหมือนกัน
         ส่วนที่นาเรามีโพนน้อยๆอันหนึ่งมีต้น "แก" ต้นเดียวเอง ที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว แต่ท้ายนาก็เป็นทางเกวียนเก่าและเป็นทางแยกของทางกวียนมาตัดกันเป็นที่ลุ่มๆ มีต้นไม้ขึ้นมากมาย แต่ไม่ได้เป็นโพน เป็นป่าละเมาะเล็กๆ น้ำท่วมขังในตอนฝน แต่ต้นไม้ไม่ตาย ทนน้ำ เลยกลายเป็นที่อยู่ของนกและสัตว์ต่างๆเต็มไปหมด ตามข้างทางเกวียนเก่าก็มีต้นไม้ขึ้นสองข้างทางเต็มไปหมด แต่เป็นต้นไม้เล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ส่วนมากเป็นไม้ทนน้ำเช่นไม้ถม ไม้แก หญ้าแฟก เป็นต้น  
          กลับมาที่ โพน ของคนอื่นๆ หรือระหว่างทางไปนา หลายเส้นทางต้องผ่านโพนมากมาย หากเป็นกลางวันก็จะได้อาศัยร่มเย็น บังแดดได้ ส่วนหากเป็นกลางค่ำหรือกลางคืน เท่านันละ ความมืดมา บางโพนผีดุ (เขาว่า) ต้องเลี่ยง ต้องหลบ หรือไม่ผ่านเด็ดขาด ตัวเราก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัสนะ มีแต่คนอื่นๆเล่าให้ฟัง การเดินทางผ่านโพนต่างๆ มันได้บรรยายกาศมากนะ ได้อารมณ์ ได้ความรู้สึก เดินผ่านโพน เดินเลาะโพน เดินกลางนา เดินคันนา ผสมผสานกันไป ดินแข็งบ้าง ดินโคลนบ้าง ลุยน้ำบ้าง เดินที่แห้งบ้าง สลับๆกันไป ได้กลิ่นน้ำ กลิ่นโคลน กลิ่นหญ้า กลิ่นคาวปลา กลิ่นดอกไม้ กลิ่นใบไม้ ฝังเสียงเรไร จักจั่น นก หนู กบ เขีนด ปลา ร้องสนั่น หรือแจ้วๆ  เดินไปเดินมาน้ำร่วงจากจั้กจั่นที่เจาะไม้กิน โปรยๆคล้ายฝนนะ ตอนที่ลุยน้ำก็ต้องระวังปลิงควาย ปลิงเข็ม เดินไปมองไป หันซ้ายหันขวา เพราะคนกับควาย เดินทางเดียวกัน พวกปลิงก็เก่งมาคอยดักพวกเราดูดเลือด เพลอเป็นไม่ได้เลย โดนตลอด แต่เราก็พอรู้กันว่าจุดไหนปลิงมาก ปลิงน้อย ปลิงควายหรือปลิงเข็ม พอเลือกได้นะ 555  ตรงไหนเยอะๆ เราใช้วิธีวิ่งเอา 555 นึกว่าแน่ ไม่แน่ ผมละขี้กลัวปลิง บรรยายการทางเดินทางเที่ยวสมัยก่อน ตอนนี้ไม่มีแล้วละ กลายเป็นถนนไปทุกซอกทุกมุม ความเจริญมันมาถึงหมด ยกเว้นพวกที่ไกลๆยังไม่ถึงก็รอกันต่อไป
       ครานี้วิธีการไปหากินที่โพนมีอะไรบ้างละ ต้องขึ้นอยู่กับหน้าอะไรนะ เริ่มจากหน้าฝนหน้าน้ำก็แล้วกัน พอเขาหน้าฝนหรือมีฝนตกมา พวกเราจะไปกันไปหาเก็บเห้ดนะ พวกเหอย เพาะหรือหอบ เห็ดข้าวหมาก เห็ดระโหง่ เห็ดขอน เห็ดผึ้งหรือเห็ดตับเต่า ดอกกระเจียว มดแดง หากน้ำท่วมน้ำหรือน้ำมากๆจะไปหายิ่งนก ยิ่งหนู หากบตามโพน  หากเป็นหน้าแล้งหรือหน้าหนาวจะไปหาเห็ดขอน  ดอกกระเจียว มดแดง นก หนู งู กิ้งก่า  ผึ้ง มิ้ม แตน ต่อ กระรอก กระแต จักจั่น  ผักต่างๆ พวกนี้ละ   เอาไว้เลี้ยงวัวควาย มีหญ้าให้กิน หรือให้หลบน้ำได้ การหากินที่โพน หากเป็นไม้เราจะไม่ตัดไม้ทำลายโพน ทำลายป่า เพราะมันเป็นของเจ้าของนาเขา โพนใคร โพนมัน แต่หากินอย่างอื่นๆ ไม่ว่ากัน พวกเราจะเป็นแบบนี้ 
         อยากเล่าเกี่ยวกับโพนให้ฟังสัก 2 โพน โพนแรกเป็นโพนใหญ่ที่อยู่ข้างทางเกวียนและติดกับสระน้ำในบ้านของเรา เป็นโพนที่มีต้นข่อยใหญ่ มะขามเปรี้ยว และต้นมะเกลืออยู่ด้วยกัน ตรงโคนต้นไม้บนโพนมีช่องหรือรูให้่ลอดได้ ได้อาศัยเล่นและกินที่โพนนี้มาตั้งแต่เกิดทีเดียว พวกเราจะอาศัยเป็นที่ยิงกิ่งก่า ยิงนก กินลุูกข่อยสีเหลืองๆ กินเม็ดมะเกลือสุก กินมะขามเปรี้ยว เล่นซ่อนหา เล่นไล่จับ  รอบๆโคนก็เอาไว้ขุดใส้เดือนไปตกเบ็ดตกกบ รวมทั้งใส่เบ็ดรอบๆด้วย บางครั้งก็มีเห็ดโคนออกมาให้เก็บด้วยนะ ทั้งเห็ดโคนใหญ่และเห็ดโคนไก่น้อยหรือเห็ดโคนเล็กๆ เราใช้ชีวิตกับโพนนี่จนโตเป็นหนุ่มจึงเลิกเล่นทีเดียวละ ตอนนี้โพนดังกล่าวโดนไถทิ้งทำเป็นถนนรอบหมุ่บ้านไปเสียแล้วตามความเจริญนะ และไม่ใช่โพนของเรานะเป็นของเจ้าของที่นา แต่เขาก็ไม่ห่วงและให้่ทำเป็นถนนคอนกรีตไปละ
          อีกโพนหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของเรา เป็นโพนที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน โพนนี้ใหญ่มาก เป็นจอมปลวกใหญ่มากสูงเท่ากับตึก 2 ชั้นละ และเขาว่าผีดุมาก ข้างบนมีต้นผักเฮือด  ต้นมะเกลือ ต้นข่อย มีอยู่เต็มไปหมด เจ้าของนาเขาก็ไม่หวงใครอยากทำอะไรกินอะไรก็เอาไปได้เลย พวกเราก็ไส่เบ็ด ใส่กบ ส่องปลาแถวๆนั้น ไปเก็บผัก ไปขุดใส้เดือน แต่ก็ไปแบบกลัวๆผีนะ  แม้เราไม่เคยเห็น พอผ่านไปทางนั้นตอนกลางคืนหรือตอนค่ำ เป็นเดินเร็วขึ้นทุกที หรือเลี่ยง หลบๆเอา 555  ที่สำคัญอีกอีกแถวรอบๆโพนนี้จะเป็นสุขาสาธารณะให้ทุกคนมาใช้ได้ เพราะสมัยนั้น ที่บ้านหรือหมู่บ้านเราไม่มีส้วมทุกหลังคาเรือน จนยากจนหน่อยก็ต้องอาศัยไปรอบโพน ตามป่า ตามกอไผ่ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ เลยมีการบอกว่า ใครไปยิ่งก่ิงก่าแถวนั้น แถวนี้ระหวังนะ ใครไปหามดแดง หาไข่มดแดงระวังนะ  คิดต่อเอาเองแล้วกัน.....จนมีคำหนึ่งที่บอกว่า "ป่าขี้" 555 วันหลังจะเล่าโดยละเอียดให้พังน่ะ โพนนี้ คงยังเหลืออยู่ ไม่ได้มองหรือไปมานานมากไม่รู้ว่าะเป็นอย่างไรแล้ว คงไม่ไถออก เพราะมันใหญ่มาก ส่วนการเป็นส้วมก็ไม่มีละ เพราะมีส้วมกันทุกหลังคาแล้ว
     ปัจจุบันนี้ โพนต่างๆเริ่มหายไป โดยไถ โดยรื้อทำเป็นที่นาไปเกือบหมด มองไปตามทุ่งนากว้างๆ ได้สุดตา เพราะไม่มีต้นไม้ ไม่มีโพนมาบังเหมือนเก่า ถนน หนทาง ตัดทะลุ ไปหมด ความชลัง ความน่ากลัว กลิ่นอาย เก่าๆ ไม่มีแล้ว ก็คงเป็นไปตามยุคสมัยน่ะ   
      นี่ล่ะเรื่องของ "โพน" ที่เป็นภาพความทรงจำสมัย 30 ปีที่แล้ว ส่วนตอนนี้มีภาพของ โพน มาให้ชมกันลงดูแล้วกัน โพนนี้ไม่ใช่โพนที่บ้านหรือทางไปเถียงนาเรานะ เอามาจากอำเภอคีรีมาศ สุโขทัย ขับรถผ่านเลยถ่ายภาพมาให้ชมกัน โพน ก็คล้ายแบบนี้ละ 



Create Date : 26 มีนาคม 2563
Last Update : 31 มีนาคม 2563 14:34:29 น. 3 comments
Counter : 1891 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**


 
การพัฒนาทำให้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป
อีกหน่อยคงไม่มีคนรู้จักโพนจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:16:10:03 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: **mp5** วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:18:10:10 น.  

 
ขอบคุณที่อ่านและทักทายกันครับ


โดย: Dr Chang วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:19:34:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

Dr Chang
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




- เป็น เป็นวิทยากร เป็นคนบรรยาย เป็นผู้บริหาร หน่วยงานของรัฐ
- ชอบ ชอบอ่านนวนิยายจีนกำลังภายใน ชอบป่า ชอบน้ำ
- ทำ ทำงานพัฒนา ทำงานท่องเที่ยว ทำสวนเกษตร
- ขาย ขายประกัน ขายของทะเลแห้ง ขายเกลือ ขายคอนโด
- เรียน จบ ป.เอก ม.โพธิศาสตร์ ป.โท นิด้า ป.ตรี ม.ราม

space
space
space
space
[Add Dr Chang's blog to your web]
space
space
space
space
space