7 วิธี ให้ลูกสื่อรักถึงผู้สูงอายุ
เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์อีกปีหนึ่งแล้ว แม้วันเวลาจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทีไร ก็พลันในนึกถึงความสนุกสนาน ความสุข การได้พักผ่อนในวันหยุดยาวร่วมกับครอบครัว เป็นสิ่งที่คนไทยยึดถือปฏิบัติกันมาช้านาน จริงอยู่ในระยะหลังประเพณีสงกรานต์ของบ้านเรา ถูกกลายสภาพจากกลุ่มบุคคลจำนวนไม่น้อย ที่หันไปเน้นเรื่องความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว และเป็นความสนุกสนานคึกคะนองจนเกินเหตุก็มีให้เห็นเป็นประจำ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ยังคงคุณค่าประเพณีอันดีงามของบ้านเรา เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกปี ไม่ว่าจะคงพิธีรดน้ำดำหัว ขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หรืออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หลังจากที่อาจจะต้องจากกันเพื่อภารกิจกันตลอดทั้งปี ก็ถือโอกาสทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกันในเทศกาลนี้ แต่สิ่งที่อยากจะเพิ่มและขยายความสำคัญมากขึ้น น่าจะเป็นเรื่องการให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ที่นับวันจะมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นประเด็นของจำนวนประชากรโลกที่กำลังประสบปัญหาในอนาคต ถ้าเราไม่มีมาตรการรองรับวิถีชีวิตของผู้สูงวัย ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรของทั้งประเทศ เราจะต้องประสบปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เรายังประสบปัญหา เรื่องการไม่ให้ความสำคัญกับผู้สูงวัยอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะเป็นการดูแลผู้สูงอายุจากลูกหลานของตัวเองเท่านั้น ประมาณว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายของใครก็ดูแลกันเอาเอง ในส่วนของภาครัฐเองก็ไม่ได้มีมาตรการรองรับ หรือมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปีๆ วันที่ 13 เมษายนของทุกปี ทุกคนรู้ดีว่าตรงกับวันสงกรานต์ แต่น้อยคนนักที่จะนึกถึงว่าวันที่ 13 เมษายน ก็เป็นวันผู้สูงอายุด้วย การให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่จำเป็นมากของสังคมไทย เพราะผู้สูงอายุทั้งหลายต่างก็มีคุณูปการสำคัญ ที่ได้ทำประโยชน์ให้กับชีวิตและสังคมโดยรวม บางคนทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมาย แต่พอถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตกลับถูกละเลย และไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร การที่จะทำให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแล ต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก ช่วงวัยเด็กและวัยชรา เป็นช่วงวัยที่สามารถสื่อสารความรักความสัมพันธ์ที่ดี และประสานเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ คุณคงได้ยินคำว่า คนแก่ชอบทำตัวเป็นเด็กๆ แท้จริงแล้ว คนชราที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน ประหนึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ถึงวันหนึ่งเมื่อแก่ตัวก็อยากพักผ่อน ได้ผ่อนคลาย ชอบย้อนคิดถึงเรื่องราวในวัยเด็ก อยากใช้ชีวิตเหมือนเมื่อครั้งวัยเด็ก ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจหากทำไมปู่ย่าตายาย หรือคุณพ่อคุณแม่ของเราจะติดอกติดใจ หรือหลงลูกหลาน ประมาณติดเด็กได้ขนาดนั้น ในขณะที่ลูกเราก็ติดปู่ย่าตายายเหลือเกิน ก็เพราะเป็นช่วงวัยที่ห่างกัน แต่สามารถสื่อสัมพันธ์รักกันได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมพ่อแม่ หรือลูกหลานไม่ค่อยได้เจอปู่ย่าตายาย ก็น่าจะถือโอกาส วันผู้สูงอายุ ปลูกฝังให้ลูกของเราได้ใกล้ชิด และเรียนรู้เรื่องการดูแลและให้ความสำคัญกับปู่ย่าตายาย และผู้สูงอายุทั้งหลาย เราเองเป็นลูก ถ้าอยากให้ท่านมีความสุข ก็ควรสอนให้ลูกหลานให้ความรัก ความเคารพท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็เท่ากับเป็นการต่ออายุให้ท่านเป็นอย่างดี ในต่างประเทศให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ถึงขนาดให้มีโครงการ “Kids therapy” ในโรงพยาบาล เพื่อรักษาผู้ป่วยผู้สูงวัย เพราะเชื่อว่าเด็กจะทำให้คนชรามีชีวิตชีวา และหายจากอาการป่วยได้ไวขึ้น และเมื่อโครงการประสบความสำเร็จ ก็พยายามกระตุ้นให้ทุกครอบครัวช่วยเหลือและดูแลผู้สูงวัยในบ้าน โดยใช้เด็กเป็นสื่อรักในการทำให้ผู้สูงวัยมีความสุข กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจ และขยายโครงการอย่างรวดเร็ว ดิฉันมีเทคนิคในการช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงวัยในบ้านเรามีความสุข โดยใช้เจ้าตัวเล็กของเราเป็นสื่อดูแลหัวใจของท่าน ให้มีชีวิตชีวา และรอยยิ้มเปื้อนหน้าในทุกๆ วันค่ะ หนึ่ง – โอบกอด บอกรัก เพียงแค่โอบกอด และหอมแก้มท่านเท่านั้น ก็สามารถช่วยเพิ่มรอยยิ้ม สร้างความสุข ให้ปู่ย่า-ตายาย ได้สุดแสนวิเศษ ถ้าจะเพิ่มบอกรักเข้าไปด้วย รับรองหัวใจของท่านพองโตสุดๆ ก็แหม ไหนๆ ลูกก็บอกรักพ่อแม่เป็นประจำอยู่แล้ว ก็ให้ลูกบอกรักกับปู่ย่า-ตายายซะด้วยเลย รับรองท่านหน้าบานแน่นอน สอง - อ่านหนังสือ ถ้าเจ้าจอมซนอ่านหนังสือได้แล้ว เรียกลูกมาอ่านหนังสือให้ท่านฟัง แม้จะอ่านตะกุกตะกักไปบ้าง แต่เนื้อหาไม่สำคัญเท่าความตั้งใจ และความรักที่หลานมีให้ อ่านเท่าไรก็ไม่เบื่อค่ะ สาม - มือน้อยบีบนวด ผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องปวดเมื่อยสารพัด ลองให้เจ้าตัวเล็กเอามือน้อยๆ บีบนวดตามไหล่หรือแขนขาสิคะ รับรองสนุกทั้งสองวัย อาการเมื่อยๆ ก็หายไปในบัดดล เพราะหัวใจเต็มอิ่มนั่นเอง สี่ - ชวนลูกเข้าครัว ทำอาหารจานอร่อยให้คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายรับประทาน ไม่ต้องถึงขนาดทำทั้งหมด เพียงแค่ให้ลูกเป็นผู้ช่วยปรุงอาหารจานอร่อย หรือเป็นผู้จัดอาหารใส่จานเพื่อเสิร์ฟให้ท่านก็ดีใจเป็นที่สุดแล้ว ห้า - เข้าวัดทำบุญ ไหนๆ ก็วันหยุดอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ก็ชวนลูกหลานมาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร ไปตักบาตร ทำบุญ รับศีลรับพรที่วัด กับคุณปู่ย่า-ตายาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็นิยมเข้าวัดกันอยู่แล้ว จริงๆ ก็เป็นการปลูกฝังให้ลูกของเราเรียนรู้เรื่องธรรมได้อีกด้วย หก - ประดิษฐ์การ์ดสวยๆ อวยพรผู้ใหญ่ คุณอาจชวนลูกประดิษฐ์ หาของที่มีอยู่ในบ้าน มาทำการ์ดสวยๆ หรือจะใช้รูปภาพของจริงของครอบครัว ที่มีรูปปู่ย่าตายายมาแปะลงกระดาษ หรือวาดรูประบายสีเอง เท่านี้ก็ชื่นใจแล้ว เจ็ด – ออกกำลังกายสารพัดท่า สามารถทำได้ทั้งครอบครัว ชวนกันไปเดินยืดเส้นยืดสายคลายเครียด ในสวนสาธารณะ หรือบริเวณบ้านที่มีอากาศดีๆ อย่าหักโหมจนเกินไป หรืออาจจะให้คุณลูกร้องเพลง เต้นตามจังหวะ และชวนคุณปู่คุณย่ามาแดนซ์ด้วย รับรองความสนุกครื้นเครงกันทั่วบ้าน
กิจกรรมทั้ง 7 อย่างที่แนะนำ เป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว แต่มักถูกมองข้ามความสำคัญไป เพราะส่วนใหญ่วิถีชีวิตในครอบครัว โดยเฉพาะสังคมเมือง แม้จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เหมือนต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง ไม่ได้ใส่ใจซึ่งกันและกัน...อยู่ก็เหมือนไม่อยู่ ถ้าเราเติมความใส่ใจเข้าไปอีกหน่อย เพิ่มความสำคัญเข้าไปอีกนิด สร้างชีวิตชีวาในบ้าน โดยใช้เจ้าตัวเล็กเป็นสื่อ น่าจะทำให้ครอบครัวมีความสุขเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เริ่มสร้างความสุขภายในบ้านกันเถอะค่ะ ไม่ใช่เรื่องยากและไม่ต้องเสียเงินเสียทองด้วย เพียงแต่ต้องใส่ความรักและหัวใจลงไปค่ะ สวัสดีวันผู้สูงอายุค่ะ
เรื่อโดย สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ที่มา : //www2.manager.co.th ภาพจาก : //www.fotosearch.com
สารบัญ แม่และเด็ก
Create Date : 02 เมษายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2554 20:36:32 น. |
Counter : 1180 Pageviews. |
|
|
|