Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กเก่งรอบด้าน



นิตยสาร Kids and School จัดกิจกรรม Kids and School Forum
หัวข้อ ‘กลยุทธ์สร้างเด็กพันธุ์ใหม่...ต้องเก่งรอบด้าน’ เพื่อเปิดห้องเรียนพ่อแม่
ขนาดย่อมที่เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาความเก่งของลูกอย่างเต็มศักยภาพ
ด้วยความใส่ใจ จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และสรรหากระบวนการที่
จะกระตุ้นให้ลูกคิดและลงมือทำได้อย่างฉลาดและมีความสุข

โดยมี พญ.อดิศร์สุดา เฟื่องฟู กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการ
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สนง.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แห่งชาติ มาให้คำแนะนำดีๆแก่คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจ

เริ่มที่ พญ.อดิศร์สุดา เฟื่องฟู กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการ สถาบัน
สุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ให้นิยามความเป็น “เด็กเก่งรอบด้าน” ว่าเป็นเด็กที่
สามารถทำอะไรได้อย่างเต็มศักยภาพที่เขาถนัด ซึ่งการนำพาลูกไปสู่ความเป็นเด็กที่
ฉลาดรอบด้านนั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ 50% เป็นมรดกทางพันธุกรรม และอีก 50%
มาจากการเลี้ยงดู การสั่งสอน สภาพแวดล้อม และโภชนาการ

เพื่อพัฒนาความฉลาดของลูกอย่างยั่งยืน ควรมีจุดเริ่มต้นที่การพัฒนาสมองในช่วงวัย
ที่เหมาะสม เพราะสมองของเด็กจะยืดหยุ่นและเปิดรับสิ่งต่างๆได้ดีกว่าสมองของผู้ใหญ่
ความฉลาดจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด รอยหยัก หรือจำนวนเซลล์สมอง แต่ปัจจัยสำคัญ
อยู่ที่การเชื่อมต่อของเซลล์สมอง ซึ่งเกิดจากการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่หลากหลาย
เพื่อให้เซลล์สมองที่รับผิดชอบการทำงานทุกส่วนพัฒนา ป้องกันภาวะ Pruning คือ
เซลล์สมองที่ไม่ถูกใช้งานจะค่อยๆ ลดลงจนหมดไป

“พ่อแม่ต้องกระตุ้นให้เขาใช้ประสาทสัมผัสค้นคว้าสิ่งที่สนใจ โดยเป็นต้นแบบให้เขา
ซึมซับความรักในการเรียนรู้ เช่น ชักชวนให้เขาไปเลือกซื้อหนังสือที่ชอบ
อ่านแล้วกลับมาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง สร้างช่วงเวลาอบอุ่นของครอบครัว
สิ่งสำคัญคือการพัฒนาลูกในช่วงที่หน้าต่างแห่งโอกาส เปิดกว้างอย่างเต็มที่ เช่น
สอนลูกในการควบคุมอารมณ์ตั้งแต่วัยน้องเล็ก 2 เดือน–3 ปี รวมทั้งพัฒนาคุณธรรม
ในจิตใจสู่การสร้างเด็กเก่งและเด็กดีที่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมั่นคง
เพราะการฝึกฝนลูกให้เป็นคนที่คิดเป็น เขาจะมีภูมิคุ้มกันเมื่อเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
ซึ่งจะค่อยๆ ห่างจากอกคุณพ่อคุณแม่ไปสู่สังคมที่กว้างขึ้น”

ด้าน ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เสริมว่า
เด็กที่เก่งรอบด้านต้องมีความรู้และทักษะที่จำเป็นอย่างเพียงพอในการคิดและจัดการ
เรื่องราวต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดผลดีต่อตนเองและส่วนรวม
โดยแทนนิยามของคำว่า “เก่งรอบด้าน” ว่า “พหูสูต”

“ในชีวิตจริงเด็กๆสามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ประสานกันได้
เช่น ครั้งหนึ่งลูกสาวของผมสนุกกับการปั้นดินญี่ปุ่น เรียนรู้ด้วยการลอกแบบภาพจริง
ของสัตว์ต่างๆ มาประดิษฐ์และยังอาศัยมิติสัมพันธ์ ซึ่งกิจกรรมนี้จะพัฒนาสมองซีก
ซ้ายและขวา อีกทั้งบางกิจกรรมง่ายๆ ยังมีส่วนช่วยแก้พฤติกรรมของลูก เช่น
ทำสมุดหักแต้ม เมื่อเขาทำอะไรไม่น่ารัก และเติมแต้มให้เมื่อเขาปฏิบัติตัวน่าชื่นชม
พ่อแม่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดการเรียนรู้ของลูก ต้องให้เวลากับลูกอย่างมีคุณภาพ
และสร้างสรรค์ นำเสนอกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งวิทยาการและศิลปะ
เราจะเห็นความสนใจของเขา จะทำให้เราส่งเสริมในเส้นทางที่เขาชื่นชอบอย่างแท้จริง
หรือเปรียบกับ Keyword สั้นๆว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้เวลา นั่นเอง”
ดร.บัญชา ทิ้งท้าย




 

Create Date : 15 มกราคม 2552
0 comments
Last Update : 15 มกราคม 2552 19:11:36 น.
Counter : 784 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.