Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
22 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

รับมืออาการแพ้ของผิว



ปัญหาผิวแห้งมีต้นเหตุจากปัจจัยมากมายหลายประการ เป็นต้นว่า
จากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ส่วนผสมของสารในเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าจะเป็น สบู่ แชมพู ผงซักฟอก ยาสีฟัน จนถึงสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ฯลฯ

ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า
ทำไมปฏิกิริยาตอบสนองในรูปของภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นกับคนหนึ่ง กลับไม่เกิดกับคนอื่น แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่า
คนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด จะมีแนวโน้มว่า เกิดจากพันธุกรรม
ดังนั้นถ้าพบว่าตัวคุณเกิดอาการคันยิบๆ ซึ่งน่าจะมาจากแพ้ผงซักฟอกที่ใช้อยู่
พอจะสรุปได้ว่าหนึ่งในบรรพบุรุษของคุณก็น่าจะแพ้ผงซักฟอกเหมือนกัน

* ลักษณะของผิวแพ้ง่าย
อาการของผิวที่แพ้แสดงออกได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชนิดของการแพ้
แต่ปัจจัยที่พบเห็นเด่นชัดและบ่อยที่สุดคือ ผื่นแดง ตุ่มพองตกสะเก็ด แสบ คัน และผิวหนังอักเสบ
วิธีง่ายๆ ที่จะสังเกตว่าผิวมีอาการแพ้หรือไม่ ดูได้จากผื่นแดง ที่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏบนผิว
ซึ่งบางครั้งจะรวมอาการคันและอักเสบไว้ด้วยกัน ผิวอักเสบจะมีลักษณะเห่อเป็นปื้นหนา แดง แตก
และบางครั้งอาจมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลซึมออกมา
ส่วนอาการคันจะแสดงออกมาใกล้เคียงกันในรูปของผื่นแดง แต่จะขึ้นเป็นปื้นบางๆ


* สิ่งกระตุ้นทำให้ผิวเกิดอาการแพ้
ขึ้นอยู่กับประเภทอาการแพ้ของผิวที่คุณเป็นอยู่
ผิวอักเสบ มีสาเหตุหลักจากการขาดความชุ่มชื่นภายในชั้นเนื้อเยื่อผิว
และจะแสดงให้เห็นได้ชัดเจนในช่วงฤดูหนาว

ส่วนอาการคันมากคันน้อยที่ผิวนั้น อาจเกิดจากสิ่งเร้าภายนอกหลายชนิด เป็นต้นว่า เครื่องประดับ เสื้อผ้า
ข้าวของเครื่องใช้ สารแขวนลอยในอากาศ บางคนอาจมีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ อย่างเช่น
แพ้ยาย้อมผม แป้งฝุ่นทาตัว น้ำหอม ยาง โลหะ หรือสารกันบูดที่ผสมอยู่ในของกินของใช้ต่างๆ


* การเยียวยารักษา
เมื่อเรารู้วิธีรับมือกับผื่นแดงที่ขึ้นบนผิว แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ใช้สามัญสำนึกที่ยอดเยี่ยมของคุณ
พิจารณาประเภทจากชนิด ของผื่น ถ้าผื่นแดงมีลักษณะแห้ง ให้รีบทามอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื่น
แต่ถ้าผื่นมีลักษณะเปียกชื้น พยายามดูแลให้แห้ง สิ่งสำคัญหนึ่งที่ไม่ควรทำเวลาผื่นขึ้นก็คือ ห้ามเกา
ยิ่งเราเกามากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกอักเสบระคายเคืองมากขึ้น เท่านั้น
การเกาจะยิ่งทำให้ผื่นขยายตัวมากขึ้น

โดยปกติผื่นแดงอาจยุบโดยปราศจากการเยียวยาใดๆ เพียงแค่หลีกเลี่ยงที่จะสัมผัส
แพทย์ยังลงความเห็นว่าผู้ที่มีอาการแพ้และคันบ่อยๆ
ควรรักษาความสะอาดของเล็บมือ ตัดให้สั้นและห้ามใจไม่ให้เกา
นอกจากนี้ยังไม่ควรให้ผื่นที่ขึ้นสัมผัสน้ำหอม ยาย้อมผม สเปรย์หอม สบู่ทั่วไป ความร้อนหรือเย็นมากๆ
รวมถึงการสัมผัสน้ำนานๆ

นอกจากนั้นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่มีส่วนผสมของ น้ำมันสกัดจากแร่ธาตุ
และลาโนลินแล้วยังควรใช้สบู่ และครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมในการปลอบประโลมผิว
เช่น โอ๊ตมีล ทาครีมผสมไฮโดรคอร์ดีโซน บริเวณที่ผื่นขึ้นวันละสองครั้ง
และหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าภายนอกต่างๆ ที่จะมาสัมผัสผิว ซึ่งอาจไปกระตุ้นให้อาการแพ้กำเริบหนักขึ้น
แต่ถ้าหากลองปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผล
และอาการหนักกว่าเดิม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจดูอาการและทำการรักษาทันที


* เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้
จากการยืนยันของสถาบันโรคผิวหนังอเมริกันพบว่า
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมการใช้เครื่องสำอาง วันละไม่ต่ำกว่าเจ็ดชนิด
ทั้งนี้เพื่อประทินผิว หรือเติมแต่งสีสันให้ดูสวยงาม
ส่วนผสมของเครื่องสำอางเหล่านี้แหละ ที่ทำให้หลายต่อหลายคนเกิดอาการแพ้

ผิวของคนเราจะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อเครื่องสำอาง
สามารถแบ่งเป็นสองกลุ่มลักษณะหลักๆ คือ ระคายเคืองและอาการแพ้

ผิวระคายเคืองจะพบได้มากกว่าอาการแพ้
และมักจะพัฒนาจากอาการแสบคันตามบริเวณต่างๆ หรือ เซลล์ผิวหนังถูกทำลายที่รุนแรงมากขึ้น

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร นำไปสู่การระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง
จะปรากฏในรูปกลุ่มอาการต่างๆ บนผิวหนัง เช่น ตุ่มคัน ตกสะเก็ด หรือผื่นแดง
ในบางกรณีอาการระคายเคืองธรรมดาๆ อาจพัฒนาไปสู่กลุ่มอาการแพ้รุ่นแรงเจ็ดประเภท โดยเฉพาะผิวหนังที่
กระทบกระเทือนจากการเกามาแล้วก่อนหน้า บริเวณที่ผิวบอบบางและไร้ต่อสิ่งเร้า เช่น ผิวรอบดวงตา

ส่วนอาการแพ้จะเกิดขึ้นเมื่อเราสัมผัสกับส่วนผสมเฉพาะของผลิตภัณฑ์ ที่ผิวจะตอบสนองทันที
หากแต่ไม่ใช่ในรูปผิวหนังถูกทำลาย กลุ่มอาการแพ้ประกอบด้วยผื่นแดงและคัน จนถึงลมพิษเห่อขึ้นตามร่างกาย
ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้จะปรากฏได้ทุกที่ตามร่างกาย แม้ว่าบริเวณนั้นๆ จะไม่เคยสัมผัสครีมดังกล่าวมาก่อนเลยก็ตาม


* ทำอย่างไรเพื่อป้องกันอาการแพ้เครื่องสำอาง
โชคไม่ดีที่มีทางเดียวที่คุณจะสามารถรู้ได้ว่า แพ้สารตัวใดในเครื่องสำอาง นั่นคือ
การลองใช้กับร่างกาย หากแต่เป็นการลองทาในบริเวณเล็กๆ ที่ข้อมือหรือข้อศอกแล้วทิ้งไว้ ๒๔ ชั่วโมง
เพื่อสังเกตอาการตอบสนองของผิวหนัง

วิธีการอื่นเพื่อป้องกันโอการเสี่ยงที่จะแพ้คือ อ่านฉลากส่วนผสมทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่องสำอางชนิดนั้น
ถ้ามีส่วนผสมมากชนิด โอการเสี่ยงที่จะแพ้ต่อสารตัวใดตัวหนึ่งก็ย่อมมีมาก

ถ้าคุณทราบว่ามีสารตัวที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง หรืออาการแพ้แล้ว
ก็จะได้ หลีกเลี่ยงไม่ใช้เครื่องสำอางชนิดนั้น

แต่ก็เป็นไปได้ว่าฉลากของเครื่องสำอาง บางครั้งไม่ได้บอกรายละเอียดของส่วน ผสมทั้งหมด
เนื่องจากผู้ผลิตบางบริษัทไม่ต้องการเผยแพร่สูตรลับของตน เพื่อผลประโยชน์ทาง ด้านการตลาด
และทางองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) ก็ไม่ได้ระบุเป็นกฏไว้ตายตัว ทำให้ผู้ผลิตสามารถกล่าวอ้างว่า
ผลิตภัณฑ์ของตนไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ ข้างกล่องได้โดยไม่ผิดกฏหมาย

ในกรณีของการระบุว่า "ปราศจากกลิ่นหอม" หรือ "ไร้กลิ่น" ได้รับการยอมรับในลักษณะที่ว่า
ผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นๆปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ และน้ำหอมก็ยังถูกใช้เพื่อกลบกลิ่นของสารเคมีอยู่ดี
ดังนั้น จึงควรตรวจสอบที่ฉลาก ส่วนผสมต่างๆ จะไล่เรียงตามลำดับความสำคัญ
แน่นอนว่าส่วนผสมบรรทัดล่างๆที่มีอยู่น้อยนิดนั่นแหละคือ น้ำหอม ส่วนส่วนผสมที่เป็นจุดขายนั้นจะอยู่บนสุด


* รู้จักสารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง
จากข้อมูลการวิจัยของสมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกาเหนือ สรุปได้ว่า
สาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้และระคายเคืองมา จากน้ำหอมและสารกันบูดที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอาง
ถ้าคุณมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเครื่องสำอาง ก็ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันเสียอย่าง
Methyplaraben, Propylparaben และ Buttlyparaben
และสำหรับลาโนลิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของมอยส์เจอร์ไรเซอร์เกือบทุกชนิด
ก็ อาจเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในผู้ใช้บางรายได้เหมือนกัน


ปัจจุบัน ผู้หญิงเราเสี่ยงกับการแพ้เครื่องสำอาง ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกขณะ
จึงควรสังเกตและอ่านฉลากข้างกล่องอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้


ที่มา ://women.thaiza.com/detail_121784.html
ภาพจาก //knol.google.com/k/online-editors/




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 3:43:20 น.
Counter : 829 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.