Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
16 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
แนะ 9 กลยุทธ์ ฝ่าวิกฤตโรคเครียด



น.พ.พนมทวน ชูแสงทอง จิตแพทย์และอาจารย์แพทย์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
กล่าวถึงภาวะโรคเครียดในงาน "สายสุขภาพไฟเซอร์กับเคล็ดลับฝ่าวิกฤตโรคเครียด
ซึ่งจัดโดย บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย)จำกัด ไว้ว่า โรคเครียดเป็นเรื่องของจิตใจที่เกิดจากความตื่นตัว
เตรียมเผชิญกับเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่น่าพึงพอใจ หรือคาดไม่ถึง ทำให้รู้สึกหนักใจ กังวล ไม่สบายใจ
หรือแม้แต่คับข้องใจ และส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางร่างกายเกิดขึ้น
หากว่าความเครียดนั้นมีมากและคงอยู่เป็นระยะเวลานาน

แต่หากความเครียดมีไม่มากนัก ก็จะกลายเป็นแรงกระตุ้นที่ดี ช่วยให้คนเราเกิดแรงฮึด มุมานะที่จะเอาชนะปัญหา
และอุปสรรคต่างๆ ยกเว้นความเครียดนั้นมีมากมาย และไม่รู้จักผ่อนคลาย ปล่อยสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดอาจมีปัญหาความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ

หลักง่ายๆของการจัดการกับความเครียดนั้น คือ ควรเครียดในเรื่องที่สมควรจะเครียด และควรรู้ตัวให้ได้ก่อนว่า
ตอนนี้ตัวเองกำลังเครียด จากนั้นจึงยอมรับสภาพและเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อแก้ไขปัญหา
รู้จักตั้งสมมติฐานหาทางออก และรู้จักมองโลกในหลายๆ มุมมอง โดยเฉพาะอารมณ์ขันถือเป็นสิ่งจำเป็น
มีอารมณ์ขัน รวมทั้งการรู้จักให้อภัย และไม่ท้อถอย

น.พ.พนมทวน ยังแนะวิถีทั้ง 9 แห่งการคลายเครียด
ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าเกิดความเครียด และยอมรับว่าเราเกิดความเครียดขึ้นแล้ว
โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ หรือหากมีอาการเครียดมากจนต้องพบแพทย์อยู่แล้ว
ทั้ง 9 วิธีนี้สามารถทำควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์ร่วมกันไปเพื่อให้อาการเครียด ที่เกิดขึ้นบรรเทาลง

1.การออกกำลังกาย
กีฬาจะทำให้ได้ระบายออกซึ่งแรงขับของจิตใจในด้านต่างๆเช่น ความคับข้องใจ ความโกรธ ความเสียใจ ไม่พอใจ
และหลั่งสารเอนโดรฟิน จะทำให้สดชื่น หลับสบาย ซึ่งควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่หักโหม


2.พูดระบายความเครียด
เลือกบุคคลที่คุณคิดว่าปลอดภัย หวังดี ไม่มีพิษภัยกับตัวคุณ และมีความอดทนสูงในการฟัง
หรือถ้าหาไม่ได้ลองพูดกับสัตว์เลี้ยง หมา แมว ปลาทอง เพราะเวลาที่เราได้ระบายออก
เท่ากับเราได้พูด เล่า ได้ทบทวนตัวเองไปด้วย หรือโทรศัพท์ขอคำปรึกษาจากสายด่วนระบายเครียดต่างๆได้


3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับจะช่วยให้สดชื่น เหมือนได้ชาร์จแบตเตอรี่ในร่างกายใหม่
โดยเลือกสถานที่ที่สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่กินแน่นเกินไป อุณหภูมิกำลังพอเหมาะ
มีเสียงหรือแสงที่รบกวนไม่มากนัก เครื่องนอนที่สะอาด โดยกำหนดจิตใจก่อนนอนว่าให้เราสดชื่น ผ่อนคลาย


4.อาหารคลายเครียด
หากรู้สึกเครียดลองหาน้ำสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมสดชื่นดื่ม หรือทานช็อกโกแลตในปริมาณไม่มากนัก
หากนอนไม่หลับลองทานนมอุ่นๆหรือกล้วยหอมครึ่งลูกก็จะช่วยได้มาก
สำหรับอาหารที่ช่วยคลายเครียดได้อย่างดี คือ
ทริปโตฟาน (1-2 กรัม ก่อนนอน) พบได้ใน ไข่ ถั่วเหลือง นมวัว เนื้อสัตว์
วิตามินบี 6 (40 มิลลิกรัมต่อวัน) พบในธัญพืชต่างๆ ยีสต์ รำข้าว เครื่องใน เนื้อ ถั่ว ผัก
วิตามินบี 3 (1,000 มิลลิกรัมต่อวัน) พบในตับ เครื่องใน เนื้อ เป็ด ไก่ ปลา ถั่ว ยีสต์
สารอาหารอื่นๆ เช่น แคลเซียม กระเทียม ดอกไม้จีน


5.พักผ่อนท่องเที่ยว
การที่ได้ไปท่องเที่ยว เห็นบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกหูแปลกตาใหม่ๆ
ไปเจอผู้คนใหม่ก็ช่วยกระตุ้นมุมมองในชีวิตใหม่ๆ ได้เช่นกัน


6.ดนตรีคลายเครียด
การฟังดนตรีจะช่วยทำให้อารมณ์เยือกเย็นลง ผ่อนคลาย ใจสงบ เช่น เพลงบรรเลง
เสียงธรรมชาติ เช่น น้ำตก นกร้อง เสียงคลื่นเบาๆ


7.กลิ่นบำบัด
อะโรมาเธอราปี้กลิ่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งของการรับรู้ ทางสัมผัสที่สื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ดี
อาจลองจุดธูปหอมกลิ่นที่สดชื่น หรือหยดน้ำมันหอมระเหยแล้วนอนหรือทำงานผ่อนคลายไปด้วย
โดยเลือกกลิ่นที่เหมาะสม ที่รู้สึกว่าชอบและผ่อนคลาย กลิ่นที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายนั้นมีอยู่มาก เช่น
กลิ่นสำหรับผ่อนคลาย กลิ่นไม้จันทน์หอม กลิ่นกำยาน กลิ่นการบูร
สำหรับสร้างความสดชื่น กลิ่นส้ม กลิ่นมะนาว และกลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้นอนหลับได้ดี


8.ฝึกหายใจคลายเครียด
การหายใจจะช่วยนำอากาศที่บริสุทธิ์เข้าสู่ปอดและเดินทางสู่สมอง และทั่วร่างกาย
โดยการหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ สังเกตว่ากระบังลมขยายออก ท้องป่องออก
จากนั้นค่อยๆหายใจออกช้าๆ ไล่ลมให้ออกมากที่สุด กระบังลมจะหดสั้นลง ท้องจะแฟบ


9.ฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
กิจกรรมคลายเครียดที่ดีอีกกิจกรรมหนึ่งก็คือการฝึกผ่อนคลายความเครียด
สามารถนำเอาหลักการฝึกหายใจมาประยุกต์ใช้ร่วมด้วย เริ่มด้วยการนั่งหรือนอนในท่าที่สบายๆ
จากนั้นค่อยๆ เกร็งกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ขึ้นมา โดยอาจไล่จาก ปลายเท้า ข้อเท้า น่อง ต้นขา ลำตัว แขน มือ นิ้ว
ไหล่ คอ ศีรษะ และใบหน้า เกร็งไว้สักอึดใจหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ผ่อนคลายย้อนกลับไป
โดยเริ่มใบหน้าจนถึงปลายเท้า คุณสามารถใช้การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อในยามที่รู้สึกตึงเครียด อึดอัด ไม่สบายใจ


วิถีการคลายเครียดเป็นแนวทางปฏิบัติด้วยตัวเอง ซึ่งอาจใช้วิธีอื่นที่เหมาะสมสำหรับตัวเองก็ได้ คือ
ทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองเกิดความสุขและไม่เดือดร้อนผู้อื่น
สำหรับผู้ที่เครียดมากนั้น ปัจจัยทางชีวภาพหรือสารเคมีในสมองจะมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง
อาจต้องใช้ยาช่วยในการลดอิทธิพลจากปัจจัยนี้ โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่า อาการทางจิตใจในระดับใดสมควรต้องทานยา

หากเป็นระดับไม่รุนแรงมาก ก็ไม่จำเป็นต้องทานยา และแพทย์มักจะไม่ให้ทานยาเป็นระยะเวลานานมาก
โดยจะดูจนปัจจัยด้านสารเคมีในสมองที่ลดลงหรือมีผลกระทบน้อยลงก็จะลดยาและ หยุดยาในที่สุด
ส่วนการบำบัดที่ดีที่สุดยังเป็นการบำบัดทางจิตใจที่ตัวเอง

สำหรับผู้ที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเกิดความเครียด คนรอบข้าง ผู้ใกล้ชิด ต้องสังเกต และค่อยๆพูด ค่อยๆบอกแบบค่อย
เป็นค่อยไป แสดงความใส่ใจ ความรัก อาจใช้การสัมผัส เพื่อจะสื่อให้รู้ว่าหวังดี ให้ผู้นั้นไว้ใจและได้ระบายออกบ้าง
แล้วค่อยๆหาทางแก้ไขปัญหา

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ความเครียดเป็นเรื่องของจิตใจ
หากรู้จักเดินทางสายกลาง ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป รู้จักปล่อยวางบ้าง ถึงเครียดแค่ไหนก็ยังยิ้มได้

ที่มา มติชน


Create Date : 16 เมษายน 2552
Last Update : 16 เมษายน 2552 15:56:57 น. 0 comments
Counter : 689 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.