สายตายาว...แก้ไขได้ไม่ยาก
อวัยวะทุกส่วนของร่างกายล้วนแต่มีหน้าที่และความสำคัญแตกต่างกันไป ดวงตาก็เช่นเดียวกัน หากไม่รู้จักดูแลรักษา ก็อาจทำให้เกิดปัญหาในการมองเห็นได้
แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มีสุขภาพทางสายตาดีมาโดยตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ปัญหาทางสายตาที่มักหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ "ปัญหาสายตายาวสูงอายุ" ซึ่งเกิดจากเลนส์แก้วตาที่เคยแข็งแรง ขาดความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้หนาขึ้นหรือบางลง หรืออาจจะเกิดจากกล้ามเนื้อตา ซึ่งมีหน้าที่ปรับความโค้งของเลนส์แก้วตาเริ่มเสื่อมสภาพลง ทำให้ไม่สามารถปรับโฟกัสภาพในระยะใกล้ได้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ๆได้ชัดเจน เช่น การอ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ จึงต้องอาศัยแว่นสายตาเป็นตัวช่วย
ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญรุดหน้า นอกจากการทำเลสิค สำหรับคนสายตาสั้น สายตาผิดปกติ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในนั้น ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการรักษาสายตายาวสำหรับผู้มีภาวะสายตายาวสูงอายุ (Presbyopia) เรียกว่า Near Vision CK (Conductive Keratoplasty) โดยการใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) ซึ่งถือว่า เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความทันสมัยมาก สามารถทำได้ภายใน 3 นาที โดยไม่จำเป็นต้องใช้มีดผ่าตัดหรือแสงเลเซอร์ มีการพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูง
การรักษาแบบนี้ เป็นวิธีการรักษาสายตายาววิธีแรก ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US.FDA.)รวมถึงได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชากรทั่วโลก นอกจากการรักษาสายตายาวด้วยวิธี Near Vision CK แล้ว คลื่นวิทยุ ยังถูกนำมาใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคมะเร็ง การผ่าตัดบางชนิด แม้กระทั่งการรักษาโรคหัวใจ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ดวงตาของเราใช้งานไปได้นาน ๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สายตานาน ๆ เช่น นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือเพ่งอะไรนาน ๆ แสงไม่เพียงพอ และไม่ควรเอามือจับหรือสัมผัสดวงตาในขณะที่ยัง ไม่ล้างมือ เพราะมือไม่สะอาดอาจมีเชื้อโรค นอกจากนี้ในกรณีที่อยู่ในที่กลางแจ้ง แดดจัด หรือ ลมแรง ควรสวมแว่นตากันแดด เพื่อช่วยป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา
นอกจากนี้ การถนอมดวงตาของตนเอง ยังสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
1. ครอบดวงตา ด้วยการโค้งอุ้งมือทั้งสองครอบดวงตาไว้เฉย ๆ นึกถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย อยู่ในท่านี้สักประมาณ 10นาที
2. สร้างจินตภาพว่าตนเองกำลังมองวัตถุบางอย่างที่มีสีสันสดใส มีรายละเอียดต่าง ๆ ชัดเจน สายตาที่คมชัดจากจินตนาการของเราเองจะช่วยเยียวยาสายตาจริง ๆ ของเราได้เป็นอย่างดี
3. กวาดสายตา มองแบบไม่ต้องจ้อง กวาดสายตาไปตามวัตถุที่อยู่ไกล ๆ เพื่อทำให้ตาของเราได้ผ่อนคลาย 4. กะพริบตา 1-2 ครั้ง ทุก 10 วินาที จะช่วยให้แก้วตาสะอาดและมีน้ำเหลืองหล่อเลี้ยง
5. โฟกัสภาพที่ใกล้และไกล เหยียดแขนซ้ายไปให้ไกลที่สุด ตั้งนิ้วชี้มือซ้ายขึ้นเพื่อเป็นจุดโฟกัส ขณะเดียวกันตั้งนิ้วชี้มือขวา ให้ห่างจากใบหน้า สัก 3 นิ้ว โฟกัสภาพที่แต่ละนิ้วสลับกันไปมา
6. หลังตื่นนอนทุกเช้าให้ใช้มือวักน้ำชโลมดวงตาด้วยน้ำอุ่น 20 ครั้ง สลับกับการวักน้ำเย็นชโลมดวงตาอีก 20 ครั้ง เพื่อช่วยให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาดี
7. แกว่งตัว ยืนแยกเท้าเท่ากับช่วงไหล่ แกว่งตัวไปมาจากซ้ายไปขวา ถ่ายน้ำหนักตัวบนขาแต่ละข้างสลับไปมา สายตามองไปไกลๆ แต่ไม่ต้องจ้อง ปล่อยให้จุดที่เรามอง แกว่งไปมาซ้ายขวาตามการแกว่งตัว ท่านี้จะทำให้ดวงตาได้พัก และมีการปรับตัวดีขึ้น
ดวงตา ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญในร่างกายของคนเรามาก คงไม่มีใครต้องการที่จะอยากอยู่ในโลกมืด และไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เป็นไปรอบๆตัวเรา ดังนั้น ก่อนเราจะตัดสินใจทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับดวงตา ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ หมั่นดูแลใส่ใจสุขภาพตาของเราควบคู่กับสุขภาพกายและจิตไปพร้อมๆกันด้วย
ข้อมูลจาก : ข่าวสด ,เดลินิวส์ออนไลน์
Create Date : 26 เมษายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2552 16:57:44 น. |
Counter : 5126 Pageviews. |
|
|
|