Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
พิชิตภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วย “ท่านอนเอนหลัง 30 องศา”

นักกายภาพบำบัด ม.หัวเฉียวฯ แนะท่านอนหงายเอนหลัง 30 องศา ช่วยลดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
สาเหตุไม่สดชื่นหลังตื่น เหตุพบชายไทย 65% มีอาการดังกล่าวแล้ว

ท่านอนเอนหลัง 30 องศา

ไม่ว่าใครก็คงเคยนึกขำเพื่อนหรือสมาชิกในครอบ ครัว โดยเฉพาะที่เป็นเพศชายและ “นอนกรน” มาบ้างแล้ว
ซึ่งการนอนกรนเป็นผลมาจากทางเดินหายใจตีบลง จนบีบให้มีเสียงหายใจดังๆ เล็ดลอดออกมา
ทว่าสิ่งที่ติดตามมาด้วยคือ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” ที่ดูน่ากลัวกว่าแค่เสียงกรนธรรมดาๆ มาก

งานวิจัย “ท่านอนที่มีผลต่อการไหลเวียนอากาศขณะตื่นในชายไทยสุขภาพดี”
จึงช่วยตีแผ่ปัญหาและหาท่านอนที่เหมาะสม ลดภาวะหยุดหายใจขณะหลับให้แก่ผู้มีความเสี่ยงได้

อาจารย์ สุนทรี ชยาวัชรกุล คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า
ชายไทยกว่า 65% มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
โดยสาเหตุหลักมาจากทางเดินหายใจถูกอุดตันให้ตีบลง ขณะนอนหลับแบบไม่รู้ตัว
หรือที่เรียกว่า “ภาวะต้านการหายใจ” ทำให้ผู้ป่วยต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเพื่อหายใจเป็นระยะๆ

ผลร้ายของมัน คือ ทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่ม ไม่สดชื่น ง่วงกลางวัน เวียนศีรษะ หงุดหงิดง่าย
และอาจเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตแทรกซ้อนตามมา
ซึ่งมองผิวเผินอันตรายของมันอาจไม่ถึงแก่ชีวิตโดยตรง แต่ก็มีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
อันเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่สำคัญตามมาได้

อาจารย์ สุนทรี เล่าว่า ทีมวิจัยจึงได้ทดสอบภาวะต้านการหายใจขึ้นในกลุ่มตัวอย่างเพศชาย 30 คน อายุ 18 -24 ปี
โดยไม่เป็นผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ ไม่ได้เป็นนักกีฬาซึ่งมีปอดแข็งแรงกว่าคนปกติ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา
ไม่ได้รับประทานยาในช่วงทดสอบ และไม่มีประวัติการนอนกรน มาทดสอบขณะตื่นอยู่

ทั้งนี้มีสมมติฐานที่เชื่อถือได้ว่า
ระบบการทำงานของทางเดินหายใจขณะตื่น จะมีประสิทธิภาพดีกว่าตอนนอนหลับอย่าง แน่นอน
เพราะผู้ทดสอบยังมีสติคอยกำกับและระบบกล้ามเนื้อยังทำงานอยู่เต็ม ประสิทธิภาพ
แต่การทดสอบขณะตื่นก็เพียงพอที่จะส่อให้เห็นแนวโน้มความผิดปกติ ที่จะเพิ่ม มากขึ้นขณะนอนหลับได้

“เราจะเก็บข้อมูลความดันอากาศและอัตราการไหล เวียนของลมหายใจ เพื่อคำนวณภาวะต้านการหายใจ
โดยต่อท่อให้กลุ่มตัวอย่างหายใจเฉพาะทางปากเท่านั้น
จากนั้นจึงตรวจวัดค่าและแสดงผลผ่านชุดคอมพิวเตอร์ในที่สุด โดยเปรียบเทียบกันในท่านอน 4 ท่าคือ
ท่านอนหงายเอน 30 องศา ท่านอนหงายราบกับพื้น ท่านอนตะแคงซ้าย และท่านอนตะแคงขวา
ท่าละ 5 -10 นาที” นักวิจัยกล่าว

สำหรับผลวิจัย อาจารย์สุนทรี กล่าวว่า
ท่านอนหงายเอนหลัง 30 องศาจะเป็นท่านอนที่มีภาวะต้านการหายใจน้อยที่สุด
รองลงมาคือการนอนตะแคงซ้ายและนอนตะแคงขวาที่ได้ผลไม่ต่างกันมากนัก
ส่วนการนอนหงายราบกับพื้น ที่จะเป็นท่านอนที่ภาวะต้านการหายใจมากที่สุด

“ผล วิจัยนี้เชื่อว่า จะนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ในกลุ่มเสี่ยงได้
และช่วยลดการเกิดอาการดังกล่าวในผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากนัก
ขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาการมากแล้วจะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยตรง” อาจารย์สุนทรี เผย

ส่วนอีก 3 นักวิจัยร่วมโครงการ คือ ดร.วรรธนะ ชลายนเดชะ คณะกายภาพบำบัดและวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว
ดร.รุ่งชัย ชวนไชยะกุล วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
และ อาจารย์สุเมธี รนังกุล โครงการจัดตั้งอุปกรณ์ชีวการแพทย์ ซึ่งทั้งหมดมาจากมหาวิทยาลัยมหิดล

“การนอนหงายเอนหลัง 30 องศานี้ ควรนอนหนุนด้วยหมอนที่ไล่ระดับลงมาจากส่วนที่หนุนศีรษะที่สูงที่สุด
ไปยังต้นคอและไหล่ โดยควรมีหมอนใบเล็กรองรับข้อพับเข่าอีกใบหนึ่ง เพื่อรักษาไม่ให้กระดูก สันหลังคดงอ”
นักวิจัย คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ แนะทิ้งท้าย


ที่มา : //www.sudipan.net
ภาพจาก : //www.healthjockey.com


สารบัญ บทความ สุขภาพ
คลิกดู ที่นี่ค่ะ



Create Date : 03 เมษายน 2553
Last Update : 3 เมษายน 2553 11:33:55 น. 0 comments
Counter : 1558 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.