หูด...ต่างกับตาปลาอย่างไร
หูด เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัส พบได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ ยังมักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ลักษณะของหูดจะเป็นตุ่มนูนแข็ง มีรากอยู่ข้างใต้ มีเม็ดเดียว หรือหลายเม็ดก็ได้ ขนาดแตกต่างกันไป มีทั้งชนิดผิวขรุขระ ซึ่งมักพบได้บ่อยบริเวณมือและเท้า ส่วนที่ใบหน้ามักจะเป็นหูดเม็ดแบนๆ เล็กๆ มีผิวเรียบ ส่วนใหญ่มักพบในเด็ก
ส่วนหูดที่บริเวณฝ่าเท้า จะมีลักษณะเป็นไต อาจเป็นแผ่นหนาแข็ง เป็นปื้น ขนาดใหญ่กว่าหูดธรรมดา เวลาเดินจะเกิดการกดทับ ทำให้มีอาการเจ็บมากคล้ายกับเป็นตาปลา หูดกับตาปลา ต่างกันอย่างไร - หูดเกิดจากเชื้อไวรัส - หูดพบได้หลายตำแหน่ง เช่น มือ เท้า แขน ขา หน้าผาก - หูดติดต่อกันได้ แพร่กระจายได้ - หากฝานบางๆ ที่ตัวหูด จะพบว่ามีจุดเลือดออกเล็กๆ ของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงหูด
หูด ติดต่อกันอย่างไร ผู้ที่เป็นหูดส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อไวรัสมาจากการสัมผัสโดยตรง ผิวหนังที่ถลอก มีแผล หรือถูกกดทับ จะติดเชื้อหูดได้ง่าย การแกะจะทำให้เชื้อแพร่กระจาย จากเม็ดเดียวกลายเป็นหลายเม็ด หรือไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้
วิธีการรักษาหูด 1.ทายากัดหูด เช่น ยากลุ่มกรดซาลิซิลิก ยาน้ำคอลโลแมค ดูโอฟิล์ม เป็นต้น ถ้าเป็นหูดเม็ดเล็กๆ หรือเป็นไม่มากนัก หรือหูดในเด็กๆ ใช้ยาทาแต้มหูดวันละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 4-6 สัปดาห์ โดยทาวาสลินรอบๆ หูดด้วย เพื่อป้องกันยากัดผิวหนังปกติ การทายานี้ได้ผลดีพอใช้ อาจต้องใช้ระยะเวลานาน ขึ้นอยู่กับขนาดของหูด แต่จะไม่เจ็บ ไม่เสียเลือด และไม่เป็นแผลเป็น 2.จี้เย็นด้วยไนโตรเจนเหลว วิธีนี้ไม่เจ็บมากนัก และไม่เป็นแผลเป็น แต่อาจต้องจี้ซ้ำหลายครั้งกว่าจะหายขาด 3.จี้ด้วยไฟฟ้า วิธีนี้จะได้ผลดีถ้าจี้ออกหมด แต่เจ็บและอาจเป็นแผลเป็นได้ 4.จี้ด้วยเลเซอร์ ได้ผลดีเช่นกัน แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจี้ด้วยไฟฟ้า แต่อาจให้ผลดีกว่าในรายของหูดที่เกิดในซอกเล็บซึ่งรักษายาก 5.การผ่าตัดเอาหูดออก วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมทำกัน เพราะเจ็บทั้งขณะผ่าและหลังผ่าอีกหลายวัน
วิธีที่เป็นอันตราย และไม่แนะนำ ก็คือ การใช้ธูปจี้ การใช้มีดหรือของมีคมเฉือนออกเอง เพราะจะทำให้เป็นแผลเป็น หรืออาจทำให้แผลอักเสบติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม หูดอาจหายเองได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี จึงควรรักษาความสะอาด เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจะติดเชื้อและลุกลามได้ง่าย เป็นแล้วหายยาก จึงควรรีบรักษาแต่เนิ่นๆ และหมั่นรักษาความสะอาด เพราะถึงแม้หูดจะสามารถหายได้ แต่ก็อาจติดเชื้อใหม่ได้อีก
โดย เอมอร คชเสนี
Create Date : 25 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 25 มิถุนายน 2552 17:09:22 น. |
|
7 comments
|
Counter : 2873 Pageviews. |
|
|
|
โดย: supergaye วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:11:10:43 น. |
|
|
|
โดย: คนติดหูด IP: 58.9.55.106 วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:0:26:24 น. |
|
|
|
โดย: tclound IP: 114.128.10.173 วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:0:43:28 น. |
|
|
|
โดย: คนรักวงกลม IP: 172.16.61.31, 61.19.71.69 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:52:59 น. |
|
|
|
โดย: tm IP: 223.205.162.248 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:47:25 น. |
|
|
|
โดย: tom IP: 118.172.133.32 วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:23:39:20 น. |
|
|
|
|
|