เตือนหนุ่มสาวข้อเสื่อมได้ไม่รอแก่
ศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อ โรงพยาบาลศิริราช เตือนคนหนุ่มคนสาวให้ระวังปัญหาข้อ
ถึงไม่แก่ก็เสื่อมได้หากไม่ระวังพฤติกรรมการใช้ชีวิต ใช้ท่าทางไม่ถูกสรีระ
หรือแม้แต่รับประทานอาหารที่มีผลกระทบต่อข้อกระดูก
ผศ.น.พ.พัชรพล อุดมเกียรติ ศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อ ภาควิชา
ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะข้อเข่าเสื่อม
มีหลายปัจจัย ที่สำคัญ ได้แก่การมีน้ำหนักตัวมากเพราะจะทำให้ข้อเข่าทำงานหนักและ
เกิดการสึกหรอได้เร็วหรือผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้ข้อมากกว่าคนปกติและมีการใช้งานของข้อซ้ำๆ
รวมทั้งมีแรงกดที่ข้อเพิ่มมากขึ้น เช่น ผู้ที่ทำงานแบกหาม นักกีฬาที่ต้องมีการกระโดดบ่อยๆ
พนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า แม่บ้าน ฯลฯ
ผู้หญิงมีโอกาสเกิดภาวะข้อเสื่อมมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีความแข็งแรงของ
กล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ชายและหากไม่ได้รับการบริหารกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง
ก็มีโอกาสที่จะเกิดข้อเสื่อมตั้งแต่อายุยังน้อย
นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้มีพฤติกรรมการใช้ข้อไม่ถูกต้อง เช่น ผู้ที่ชอบนั่งพับเพียบ
นั่งยองๆ นั่งคุกเข่าหรือผู้ที่ชอบอยู่ในท่างอข้อเข่าเป็นเวลานาน เดินขึ้นลงบันไดบ่อย
ใช้ส้วมนั่งยอง นับเป็นอันตรายต่อข้อเข่าอย่างมาก
เพราะการใช้ข้อในลักษณะที่ผิดเป็นเวลานานก็จะนำไปสู่ภาวะข้อเสื่อมได้ง่าย
ผู้ป่วยสังเกตอาการเริ่มแรกได้ เช่น ปวดข้อเข่าเวลายืน เดิน หรือเดินขึ้นลงบันได
เวลาพักหรือใช้งานน้อยลงจะไม่ปวดและเมื่อข้อเข่าเสื่อมมากขึ้นจะมีอาการ
กล้ามเนื้อด้านหลังเข่าตึงและปวด และไม่ว่าจะเดินมากหรือไม่มากก็จะปวด
ขณะเดียวกันอาจมีอาการปวดข้อเข่าตอนกลางคืนหรือเวลาอากาศเย็นชื้น
หากมีอาการเหล่านี้แล้วผู้ป่วยเพิกเฉยไม่ทำการรักษาอย่างจริงจังจะส่งผลให้ข้อเข่าโก่งงอ
ทำให้เกิดอาการปวดทุกครั้งที่เคลื่อนไหว โดยเฉพาะเวลาลงน้ำหนัก
ผศ.น.พ.พัชรพล แนะนำว่า ควรดูแลสุขภาพข้อให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย
ที่ไม่ต้องลงน้ำหนักมากนักเช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดินเร็ว วิ่งเหยาะ เป็นต้น
แต่ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องมีการลงน้ำหนักที่เข่าเพิ่มขึ้น
เช่น วิ่งเร็ว ฟุตบอล เทนนิส แบดมินตัน บาสเกตบอล
เพราะจะทำให้เกิดการกระแทกหนักหน่วงที่บริเวณข้อเข่าได้
ที่มา คมชัดลึก
| Create Date : 05 มกราคม 2552 |
| Last Update : 5 มกราคม 2552 10:55:55 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 682 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [
ขอบคุณที่เอามาฝากนะค่ะ