Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
7 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
คุมเบาหวานอย่างไร ไม่ให้อ้วน

คุมเบาหวานอย่างไร ไม่ให้อ้วน


โรคเบาหวานในประเทศไทยส่วนมาก เกิดจากเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป
แต่ขณะนี้พบว่าเด็กอ้วนเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ มีรายงานเด็กอายุเพียง 8 ขวบเป็นเบาหวานชนิดที่ 2

เบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน คือ ร่างกายมีระดับอินซูลินเพียงพอหรือสูงกว่าปกติ
แต่เซลล์ของร่างกายไม่ตอบสนองต่อระดับอินซูลินที่มีอยู่ ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน
คือมีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index, BMI) เท่ากับหรือมากกว่า 23.0 และ25.0 กิโลกรัมต่อตารางเมตรตามลำดับ


วิธีการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 ควรเริ่ม ด้วยการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย

โดยให้ได้เกณฑ์ดังนี้ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารข้ามคืนควรมีค่าน้อยกว่า 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
และค่าน้ำตาลในเลือดสะสมเอวันซี (Hb A1C) ควรมีค่าน้อยกว่า 6.5%

การควบคุมอาหารในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีหลักง่ายๆ คือรับประทานอาหารให้ตรงมื้อ
หรือตรงเวลาในปริมาณที่เหมาะสมรับประทานแต่พออิ่ม ไม่ควรเสียดายอาหารเหลือ
ควรงดหรือลดอาหารรสหวานน้ำหวาน น้ำอัดลม และอาหารที่มีรสมัน
เนื่องจากผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีระดับไขมันในเลือดผิดปกติร่วมด้วย
ถ้าผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ยังติดในรสหวาน ควรใช้น้ำตาลเทียมทดแทนการใช้น้ำตาลทราย
น้ำตาลเทียมเป็นสารให้รสหวานแต่ให้พลังงานน้อย ได้แก่ แอสปาแทม(aspartame) ซูคราโลส (sucralose) เป็นต้น
ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่ ข้าวแป้ง เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ นม
และควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว นมเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากให้สารอาหารและแคลเซียม
ถ้ามีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ ควรดื่มนมพร่องไขมันแทน
หากดื่มนมแล้วมีอาการท้องเสียให้งดดื่มได้ เนื่องจากลำไส้ของคุณไม่มีสารเอ็นไซม์ย่อยนม

ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ควรเลือกรับประทานผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น มะม่วงมื้อละครึ่งลูกทั้งชนิดสุกหรือดิบ
หรือ 1 ใน 4 ส่วนของมะม่วงลูกโตๆ ส่วนข้าวเหนียวมูลที่รับประทานกับมะม่วงนั้น รับประทานได้วันละ 2-3 คำ
พอหายอยากก็เพียงพอ เพราะว่ามีกะทิและให้พลังงานมาก จะทำให้อ้วนได้

นอกจากนี้ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย
โดยการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ของร่างกายออกกำลังกายให้หนัก
และใช้เวลานานเพียงพอที่ทำให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น
ควรทำอย่างสม่ำเสมอคู่ไปกับการควบคุมอาหารจะช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
และทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปออกกำลังกายแบบแอโรบิค
การทำกิจวัตรประจำวันให้ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินจากที่จอดรถไปที่ทำงานให้ได้วันละ
10 นาทีการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เช่น ต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ทำงานชั้น 10 ก็ควรออกจากลิฟต์ที่ชั้น 5
และเดินขึ้นบันไดไปอีก 5 ชั้น เป็นต้น
วิธีการเหล่านี้เป็นการช่วยเผาผลาญพลังงานที่คุณได้รับสะสมในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง

การออกกำลังกายหรือการมีกิจกรรมเคลื่อนไหวของร่างกายควรทำให้ได้อย่างน้อย 150 นาที
หรือ 2ชั่วโมงครึ่ง/สัปดาห์ ถ้าคุณทำอย่างสม่ำเสมอร่วมกับการควบคุมอาหารโดยลดพลังงานที่รับประทานให้ได้
วันละ 500 กิโลแคลอรีรับรองว่าคุณสามารถลดน้ำหนักตัวได้อย่างน้อยครึ่งถึง 1กิโลกรัม/สัปดาห์เป็นแน่
อย่างไรก็ตาม ถ้าทำทั้ง 2อย่างแล้วคุณยังควบคุมโรคเบาหวานไม่ได้
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยารักษาเบาหวานที่เหมาะสมต่อไป

โดย พ.อ.หญิง รศ.พญ.อัมพา สุทธิจำรูญ รพ.พระมงกุฎเกล้า
ที่มา Health Today


Create Date : 07 มิถุนายน 2552
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 15:40:39 น. 0 comments
Counter : 895 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.