Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 
30 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา



กิจวัตรหลายอย่างในชีวิตการทำงานของเวิร์กกิ้งมัมอย่างเรา ทำร้ายสุขภาพดวงตาอย่างไม่รู้ตัว
หรืออาจจะรู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่สน ดวงตาเลยต้องรับศึกหนัก จนวันหนึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นนั่นแหละ
ถึงหันกลับมาพิจารณาสิ่งที่ทำ แล้วค่อยๆ ปรับพฤติกรรม หยุดทำร้ายดวงตาของเรากันเถอะค่ะ

พฤติกรรม 1 No แว่นกันแดด
สังเกตว่า ยุคนี้ผู้หญิงเราขับรถเองแทบทั้งนั้น แต่สิ่งที่หญิงสาวเช่นเราห่วงกันมากคือ
ผิวสวยๆ จะถูกแสงแดดทำลาย ตอนไปทำงานก็มัวแต่แต่งหน้าในรถ จนลืมปกป้องดวงตา ทราบไหมว่า
แสงที่ตกกระทบบนพื้นผิวอย่างน้ำ กระจก หรือโลหะ ที่พบได้ตลอดเส้นทาง เป็นอันตรายต่อสายตาได้
แต่ถึงอย่างนั้น สาวๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมสวมแว่นกันแดดขณะขับรถ
หรือใช้แว่นกันแดดแบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งยิ่งส่งผลเสียต่อดวงตาเข้าไปใหญ่

ข้อแนะนำ
แว่นตากันแดดเก๋ๆ ควรมีติดรถไว้ ขับรถเมื่อไหร่ หยิบขึ้นมาใส่ทันที ไม่ขับรถก็ใส่ได้เหมือนกันค่ะ
เพียงแต่แว่นกันแดดที่ว่า ก็ควรเป็นแว่นที่สามารถกรองรังสียูวีได้จริง
เช็กจากฉลากที่ด้านข้างของแว่น เพื่อให้แน่ใจว่า เป็นแว่นที่กรองแสง UVA และ UVB ได้ 100%
โดยเลนส์สีชาและสีเทาเหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากที่สุด


พฤติกรรม 2 ติดจอ
การที่ต้องนั่งจับจ้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นกิจวัตร ก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
เรื่องนี้มีการพูดถึงกันบ่อย จะว่าไปอาจจะหลีกเลี่ยงกันยากสักนิด
เพราะคอมพิวเตอร์ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นของเกือบทุกองค์กร
เจ้าอุปกรณ์ที่ว่าจึงมีอิทธิพลต่อชีวิตเราอย่างเลี่ยงไม่ได้
และด้วยรูปแบบการทำงานลักษณะ “ติดจอ” ที่มักจะอยู่หน้าจอกันเป็นหลัก
ทำให้สาวๆ เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง ตาแดง และระคายเคือง
ยิ่งอยู่ในห้องปรับอากาศด้วยแล้ว ตายิ่งแห้งไปกันใหญ่
อาจเกิดอาการปวดตา ปวดหัว เป็นหนักเข้าก็อาจทำให้เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมก็ได้

ข้อแนะนำ
★ วางคอมพิวเตอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าจอควรอยู่ห่างจากตัวเราประมาณ 50-70 ซม.
โดยให้ระดับจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว

★ พยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อ อย่ามัวแต่ทำตัวติดจอ
ไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม เป็นการพักสายตาที่ได้ผลอีกวิธี

★ หากตาเริ่มแห้ง เนื่องจากเพ่งมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ให้กะพริบตาถี่ๆ
อาจใช้น้ำตาเทียมหยอดเพิ่มความชุ่มชื้น และควรดื่มน้ำมากๆ ก็ลดอาการตาแห้งได้ดีอีกวิธีหนึ่ง


พฤติกรรม 3 คอนแทคเลนส์ใช้ผิด
เดี๋ยวนี้สาวสายตาสั้นมีตัวช่วยให้ดูดีขึ้นหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ คอนแทคเลนส์
หลายคนโยนแว่นตาทิ้งไป หันมาใส่แบบนี้เพื่อเสริมบุคลิก หากใช้อย่างถูกวิธีก็คงไม่มีปัญหา
แต่ส่วนใหญ่ที่พบก็คือ มักใส่จนเกินวันหมดอายุตามที่ระบุอยู่บนผลิตภัณฑ์
และทั้งที่อยู่ใกล้ตามากๆ แต่ก็ยังไม่รักษาความสะอาดให้ดี กลับถึงบ้านแล้วไม่ถอดเลนส์ออก
เข้านอนทั้งอย่างนั้นก็เยอะค่ะ เลยกลายเป็นขาประจำของโรคตาติดเชื้อไป
บางคนเป็นเรื้อรังหนักเข้าอาจถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว

ข้อแนะนำ
★ ใช้และรักษาความสะอาดคอนแทคเลนส์ตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัด
★ ซื้อคอนแทคแลนส์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และเลือกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน คุณภาพแล้ว


พฤติกรรม 4 ลองเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์
ได้ยินคำเตือนกันอยู่บ่อยๆ ถึงการลองสินค้าตัวอย่างตามเคาท์เตอร์เครื่องสำอาง
โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอายแชโดว์ ที่อาจทำให้ตาของคุณติดเชื้อจากคนที่ลองสินค้านี้ก่อนหน้า
สิ่งที่ตามมาก็อาจเป็นการอักเสบจากการติดเชื้อนั่นแหละ คุ้มแล้วเหรอกับการประหยัดด้วยวิธีนี้

ข้อแนะนำ
★ ไม่ลองเครื่องสำอางโดยตรงกับดวงตา แต่ลองสีกับบริเวณท้องแขนแทน
★ ควรใช้อุปกรณ์อย่างพู่กัน คัตตอนบัด ในการแต่งหน้า
เพื่อลดการติดเชื้อ และป้องกันการปนเปื้อนจนเครื่องสำอางเสียก่อนเวลาอันควร

★ เครื่องสำอางเป็นของใช้ส่วนตัวที่ต้องสัมผัสกับผิวของเราโดยตรง ไม่ควรใช้ปะปนกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น


พฤติกรรม 5 ใช้สายตามาราธอน
ดูทีวี หรืออ่านหนังสือแบบไม่มีลิมิต แทบไม่ได้พักสายตาเลย แบบนี้มีผลเสียแน่นอน
เพราะอวัยวะสำคัญต้องทำงานหนักอยู่ตลอด
ยิ่งหากมีการเพ่งจ้องเป็นเวลานานด้วยแล้ว คุณอาจเกิดอาการปวดตาเอาง่ายๆ

ข้อแนะนำ
★ ปรับแสงสว่างของห้องให้เหมาะสม ไม่ให้มีแสงสว่างน้อยจนต้องเพ่ง
หรือมากจนรบกวนการการทำงานของดวงตา
อาจใช้ผ้าม่านแบบบางเพื่อกรองแสงบางส่วนไว้ ไม่ให้เข้าตาโดยตรง

★ พักสายตาทุกๆ ชั่วโมง เมื่อดวงตาอ่อนล้า อาจจะหลับตา หรือมองไปไกลๆ เพื่อให้สายตาได้พักผ่อน
หาต้นไม่สีเขียวต้นเล็กๆ มาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน สีเขียวช่วยให้ดวงตาได้ผ่อนคลาย


ดูแลใส่ใจ ก่อนดวงตาคู่สวยจะถูกทำร้ายมากไปกว่านี้ดีกว่าค่ะ

วิธีถนอมดวงตาแบบง่ายๆ

▲ หลีกเลี่ยงการใช้มือสกปรกขยี้หรือเช็ดตา

▲ บริหารดวงตาด้วยการกรอกลูกตาวนตามเข็มนาฬิกาเป็นวงกลม แล้วกรอกทวนเข็มนาฬิกา ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง
วิธีนี้ใช้ได้ทุกครั้งเมื่อตาเกิดอาการเมื่อยล้า

▲ กินผักและผลไม้สดที่มีส่วนประกอบของวิตามินเอ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีส่วนประกอบของลูทีน
จำพวกผักใบเขียว แครอท ผักโขม ฟักทอง ควบคู่ไปกับอาหารที่มีส่วนประกอบของโอเมกา 3 เพื่อบำรุงสายตา
และทำให้การทำงานของตามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


ที่มา : //www.vcharkarn.com/varticle/39640
ภาพจาก : //teamlibertybiz.com


สารบัญ บทความ สุขภาพ
คลิกดู ที่นี่ค่ะ




Create Date : 30 ธันวาคม 2552
Last Update : 30 ธันวาคม 2552 13:48:23 น. 0 comments
Counter : 1008 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.