หลอดเลือดหัวใจตีบ ภัยของผู้สูงอายุ
ภาวะ เจ็บหน้าอก หรือ Chest pain ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้เป็นเบาหวาน ผู้ที่มีภาวะไขมัน หรือคอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง อาจเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และอาจมีอันตรายต่อชีวิตได้
หากมีอาการเจ็บหน้าอกบริเวณส่วนกลาง มีอาการอึดอัด หายใจไม่สะดวก ปวดร้าวไปที่กราม และแขน ส่วนมากจะเป็นที่แขนซ้ายเกิดขึ้นบ่อยๆ และปวดเป็นเวลานาน ควรรีบไป พบแพทย์โดยเร็ว เพราะอาการเหล่านี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
การรักษา ทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้และปัจจัยหลายด้าน เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น จุดที่หลอดเลือดหัวใจตีบมีน้อยหรือมาก
โดยขั้นแรกอาจใช้วิธีรับประทานยา ทำบอลลูนขยายหลอดเลือด ทำบายพาส หรือใส่สเตนท์ หรือขดลวดประดิษฐ์
สเตนท์มีลักษณะ เหมือนสปริงเล็กๆ ทำจากสเตนเลสสตีลหรือคาร์บอน ใส่เข้าไปค้ำตรงหลอดเลือดตีบ โดยมีการนำยาไปเคลือบบนขดลวด เมื่อใส่ขดลวดเข้าไปในหลอดเลือดแล้ว ตัวยาที่เคลือบอยู่จะค่อยๆ ถูกปล่อยเข้าไปในผนังหลอดเลือด เพื่อทำปฏิกิริยา หยุดยั้งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ที่เกิดตามธรรมชาติ ช่วยลดการกลับมาตีบใหม่ได้ (โดยการเติบโตของเนื้อเยื่อนี้ จะเกิดภายใน 6 เดือนแรก และถ้าไม่เกิด ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก) ทำให้วิธีใส่ขดลวดที่เคลือบยา ช่วยลดการกลับไปตีบใหม่ จากร้อยละ 20 ลงมาที่ร้อยละ 5 หรือต่ำกว่านั้น
แต่ผู้ป่วยต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทางที่ดีที่สุด คือควรป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ เช่น ควรงดการสูบบุหรี่ ป้องกันไม่ให้มีไขมันในเลือดสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และควรเช็คสุขภาพเป็นประจำ
การเลือกรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เป็นอีกวิธีหนึ่งใน การดูแลรักษาหลอดเลือดหัวใจ โดยการเลือก ไม่รับประทานมันๆ อาหารรสเค็มจัด หลีกเลี่ยงอาหารจำพวก เครื่องในสัตว์ หรือเครื่องดื่มพวกที่มีแอลกอฮอล์ นอกจากนั้น ความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่จะก่อให้เกิดโรคหัวใจ
ดังนั้น นอกจากการดูแลร่างกายแล้ว ควรรักษาจิตใจให้แจ่มใส โดยการหัดปล่อยวาง เพื่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่ดี
โดย น.พ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ
ที่มา //www.eldercarethailand.com/index.php?option=com_content&task=view&id=93&Itemid=29
สารบัญ บทความ สุขภาพ คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 4:03:13 น. |
Counter : 786 Pageviews. |
|
|
|