Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
5 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ลูกประคบสูตรเฉพาะโรค ควรใช้กับใครบ้าง



ลูกประคบควรใช้กับใครบ้าง

ความนิยมใช้ลูกประคบทุกวันนี้มีมากจริงๆ แถมไปทางไหนก็เห็นลูกประคบมีขายเกลื่อน
โดยเฉพาะในงานสมุนไพรไทย

การซื้อหาลูกประคบมาใช้เอง ความจริงก็ถือเป็นวิธีสะดวกที่สุด แถมยังได้สรรพคุณทางยาครบถ้วน
แต่หากใครพอจะมีเวลา หรือชอบที่จะเลือกใช้ยาไทยเพื่อให้ได้กลิ่น และสรรพคุณตรงกับความต้องการจริงๆ แล้ว
การทำลูกประคบใช้เองก็ไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้เราจึงมีเรื่องของลูกประคบมาฝากกัน

ก่อนอื่นเราต้องรู้ในหลักการก่อนว่า สมุนไพรที่จะนำมาทำลูกประคบนั้นต้องมีน้ำมันหอมระเหยมาก
ตัวที่ถือเป็นพระเอกเลยก็คือไพล รองลงมาคือขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ผิวมะกรูด ใบมะกรูด และตะไคร้

อีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ กลุ่มสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว จำพวกใบมะขาม ส้มป่อย และใบส้มทุกชนิด
เพราะรสเปรี้ยวนั้นทางแพทย์แผนไทยถือว่าเป็นรสที่ช่วยฟอกโลหิต ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
เพราะในรสเปรี้ยวจะประกอบไปด้วยธาตุไฟกับธาตุดินที่มาทำงานร่วมกัน
นอกจากนั้น รสเปรี้ยวยังเป็นตัวที่ช่วยชำระผิวกายให้สะอาดด้วย

อีกกลุ่มหนึ่งก็คือสมุนไพรจำพวกที่ระเหิดง่าย เช่น การบูร พิมเสน เมนทอล
ที่จะใส่เข้าไป เพื่อช่วยเร่งตัวยาให้เดิน และนำตัวยาให้ระเหยเข้าทางลมหายใจของผู้ได้รับการประคบ

นอกจากนี้ ก็มีกลุ่มสมุนไพรที่มีรสเมาเบื่อซึ่งมีสรรพคุณต้านเชื้อ
อย่างเช่น เหงือกปลาหมอ ปลาไหลเผือก ใบปะยง พลับพลึง ซึ่งพลับพลึงนี้ถือเป็นตัวขับพิษที่ดีทีเดียว

คนที่ต้องการทำลูกประคบใช้เอง ให้จำสูตรนี้ไปให้ร้านขายยาช่วยเจียดให้
นี่ถือเป็นสูตรมาตรฐาน หรือสูตรหลักของลูกประคบเลยทีเดียว ส่วนผสมมีดังนี้
หัวไพลสด ครึ่งกิโล ใบมะขาม คือมะขามเปรี้ยว 50 กรัม
ขมิ้นอ้อย 100 กรัม ใบส้มป่อย 50 กรัม
ขมิ้นชัน 50 กรัม การบูร ประมาณ 1 ช้อนชา
ตะไคร้(ตะไคร้แกง/ตะไคร้หอม) 100 กรัม เถาเอนอ่อน
ผิวมะกรูดเอาเฉพาะผิว 1 ผล พิมเสน 1 ช้อนชา


สูตรที่บอกมาข้างต้น มีสรรพคุณค่อนข้างกว้าง เช่น หัวไพลจะช่วยขยายหลอดเลือด
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต แก้เส้นเลือดตีบตันและเหน็บชา
ส่วนเถาเอนอ่อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และหลอดเลือดโดยตรง เป็นต้น

เมื่อได้สูตรการทำลูกประคบแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วคนกลุ่มไหนบ้างที่ควรจะใช้ลูกประคบรักษาอาการ
ตามตำราแพทย์แผนไทยบอกไว้ว่า กลุ่มคนที่ควรใช้ลูกประคบหลัก ๆ คือ

สตรีหลังคลอดบุตร
การประคบจะไปช่วยกระจายเลือดลม ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่หย่อนยานกระชับ
และยังช่วยกระตุ้นให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นด้วย โดยคนกลุ่มนี้ต้องใช้การประคบแบบที่เรียกว่า “นึ่งหม้อเกลือ”

นั่นคือ การใช้สมุนไพรที่มีรสร้อน หอมร้อน มาบดเป็นผงละเอียดแล้ววางลงบนผ้าประคบบริเวณมดลูก
หรือหน้าท้องของสตรีหลังคลอด และใช้หม้อดินเล็กๆ ใส่เกลือ ตั้งเตาให้ร้อน แล้วห่อด้วยใบพลับพลึง
เอาผ้าห่อทับอีกชั้นหนึ่ง แล้วมาประคบบนตัวยาเพื่อไล่ยาให้ซึมเข้าไป

ผู้สูงอายุ
คนเราเมื่ออายุมากขึ้น เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก็เริ่มแข็งตัว เนื้อเยื่อยืดหยุ่นได้น้อยลง ถือเป็นวัยที่ธาตุไฟหย่อนลง
และธาตุลมเริ่มกำเริบ จึงทำให้เกิดอาการตึง ข้อต่อต่างๆ เคลื่อนไหวได้ลำบาก และปวดเมื่อย
ดังนั้น การประคบร้อนด้วยสมุนไพรจะไปช่วยกระตุ้นให้พังผืด เนื้อเยื่อ และเส้นเอ็น คลายตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น
ทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในผู้สูงอายุ

นักธุรกิจ
มักจะมีความเครียดแฝงโดยไม่รู้ตัว จนทำให้ระบบประสาทต่างๆ เครียด กล้ามเนื้อเกร็งตัวและมีอาการเหมือน
คอตกหมอน บางคนถึงขั้นเป็นไมเกรน การประคบจะไปช่วยกระตุ้นและผ่อนคลายระบบต่างๆ
ทำให้ลดทอนอาการเหล่านี้ลงได้ และยังช่วยลดการใช้ยาแก้ปวด โดยไม่จำเป็น

ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร
เมื่อกล้ามเนื้อต้องทำงานหนักจะมีคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และกล้ามเนื้อที่สันดาป
จะมีแก๊สตกค้างอยู่ตามกล้ามเนื้อต่างๆ ที่เขาเรียกกันว่า “ลมจุกตามกล้ามเนื้อ” ทำให้มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
การประคบจะไปช่วยขับไล่และช่วยกระจายลมเหล่านั้น ให้ออกมาสู่กระแสเลือด
ทำให้แก๊สที่ตกค้างอยู่ตามกล้ามเนื้อที่กระจุกตัวอยู่ ค่อยๆ สลายไปจนหายปวดเมื่อยในที่สุด

ผู้ป่วยเฉพาะโรค อาทิ โรคเบาหวาน โรคปวดข้อ ปวดเข่า โรคเกาต์ รูมาตอย ฯลฯ
การประคบจะส่งผลดี อย่างเช่นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ระบบประสาทถูกทำลาย ปลายประสาทถูกทำลาย
จนทำให้เกิดอาการชามือ ชาเท้า การประคบจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทได้

นอกจากนี้ การประคบยังช่วยรักษาอาการหวัดด้วย เพราะจะไปช่วยขับเหงื่อ ขับเชื้อหวัด
ขับไข้หวัดให้ออกมาทางผิวหนัง และน้ำมันหอมระเหยจาก พิมเสน หัวหอม ว่านน้ำ ว่านเปราะหอม
ยังจะช่วยขยายระบบหายใจ ช่วยให้ปอดขับความชื้นและเสมหะที่ตกค้าง จนทำให้เกิดอาการโล่งจมูกและสบายตัว





ลูกประคบสูตรเฉพาะโรค

คราวที่แล้วได้นำเรื่องการทำลูกประคบใช้เอง พร้อมสูตรลูกประคบที่ถือเป็นสูตรยอดนิยมมาฝากกัน
หลายคนถามไถ่ว่า แล้วลูกประคบที่ใช้บรรเทาอาการบางชนิด เช่น เมื่อยหล้า เหน็บชา เส้นยึด ฯลฯ
ที่ถือเป็นสูตรเฉพาะนั้น มีบ้างไหม
คอลัมน์นี้จึงขอเอาใจ “แฟนานุแฟน” ด้วยการนำสูตรลูกประคบเฉพาะอาการมาฝากกัน

ยาประคบแก้อาการเหน็บชา ชาตามปลายมือปลายเท้า ให้นำสมุนไพรเหล่านี้มาทำลูกประคบ
แล้วประคบไปตามบริเวณปลายมือปลายเท้า หรือบริเวณที่มีอาการเหน็บชา สมุนไพรดังกล่าวประกอบด้วย
เปลือกกุ่มทั้ง 2 เปลือกมะรุม เปลือกทองหลาง เถาวัลย์เปรียง เถาว์เอ็นอ่อน ไพล เกลือ
สมุนไพรดังกล่าวข้างต้นให้ใช้สัดส่วน “เสมอภาค” หมายถึง หากใช้อัตราส่วน 1 บาท (อัตราชั่งน้ำหนักยาไทย)
ก็ให้สมุนไพรทุกชนิดในอัตรา 1 บาทเช่นกัน โดยการนำสมุนไพรทั้งหมดนี้มาหั่นหรือซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
หรือตำพอเป็นชิ้นๆ ไม่ต้องละเอียดมาก เสร็จแล้วให้นำไปคั่วในกระทะ
พอได้ที่ก็เทสุราผสมลงไปแล้วคนให้ทั่วจนเข้ากัน
เนื่องจากสมุนไพรดังกล่าวมีเปลือกแข็งเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องใช้สุราเข้าไปดึงตัวยาออกมา

จากนั้น ก็ให้แบ่งสมุนไพรออกเป็นส่วนๆ ไปห่อด้วยผ้าทำเป็นลูกประคบๆ ตามบริเวณที่เป็นเหน็บชา
แต่เนื่องจากการทำลูกประคบสูตรนี้มีการเติมสุราลงไปแล้ว และสุราก็มีฤทธิ์ร้อนอยู่แล้ว
ดังนั้น จึงไม่ควรนำลูกประคบไปนึ่งก่อนนำมาประคบ เมื่อห่อด้วยผ้าเหมือนลูกประคบแล้วก็ให้ประคบได้เลย

ยาประคบแก้ลมอัมพฤกษ์-อัมพาต อาการที่เรียกว่า “ลมอัมพฤกษ์และอัมพาต” ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยได้ยินนี้
ลักษณะอาการก็คือมือและเท้าไม่มีแรง บางครั้งแม้แต่จะหยิบจับอะไรก็ทำไม่ได้
บางคนยังมีอาการชาตามมือตามเท้าควบคู่ไปด้วย เรียกง่ายๆ ว่าเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นและระบบประสาท

สาเหตุของอาการเหล่านี้ก็เนื่องมาจากตามปลายมือปลายเท้าโลหิตไหล เวียนไม่สะดวก หรือมีโลหิตคั่งค้าง
ทำให้ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงจนเกิดอาการมือเท้าไม่มีแรงในที่สุด โดยคนที่มักจะมีอาการลมอัพฤกษ์-อัมพาตนี้
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอาการเส้นเลือดในสมองแตก, คนที่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้การสั่งการของสมองบกพร่อง

นอกจากนี้ คนที่มีความดันโลหิตสูง รวมทั้งคนที่มีอาการเครียดเป็นประจำ
ก็เสี่ยงต่อการเป็นลมอัมพฤกษ์-อัมพาตด้วย สมุนไพรที่นำมาทำลูกประคบเพื่อรักษาอาการดังกล่าว ประกอบด้วย
ไพล 1 บาท ว่านน้ำ 1 บาท การบูร 4 บาท ใบพลับพลึง 3 ใบ กุยช่าย 1 กำมือ
สมุนไพรทั้ง 4 สิ่งในสัดส่วนที่ระบุไว้ นำมาตำให้แหลกจนเข้ากันดี
จากนั้นให้นำการบูรและต้นกุยช่ายมาซอยสั้นๆ ผสมลงไป หลังจากส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้ว
ก็ให้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ทำเป็นลูกประคบ 4 ลูกสลับสับเปลี่ยนประคบไปตามบริเวณที่เป็นลมอัมพฤกษ์-อัมพาต
โดยใบกุยช่ายนี้มีสรรพคุณช่วยกระจายเลือด ที่คั่งค้างอยู่ตามส่วนต่างๆ ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น


ยาประคบพระเส้น (โอสถพระนารายณ์)
ว่ากันว่าสูตรนี้เป็นตำรับที่มีมาตั้งแต่ สมัยสมเด็จพระนารายณ์ในยุคสุโขทัย
ใช้แก้อาการเส้นตึงและอาการปวดเมื่อยต่างๆ สำหรับสมุนไพรในตำรับนี้มี
เทียนดำ 1 ส่วน เกลือ 1 ส่วน อบเชย 2 ส่วน ไพล 4 ส่วน ใบพลับพลึง 8 ส่วน ใบมะขาม 16 ส่วน
ให้นำตัวยาทั้ง 6 สิ่งตามสัดส่วนที่ให้ไว้
(การกำหนดส่วนจะขึ้นกับผู้ใช้ เช่น อาจกำหนด 1 ส่วนเท่ากับ 1 บาท หรือ 1 ส่วนเท่ากับ 1 ตำลึง เป็นต้น)
มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปห่อผ้าทำเป็นลูกประคบ
ก่อนใช้ให้นำไปนึ่งให้ร้อนพอสมควรและประคบบริเวณที่เส้นตึง สมุนไพรเหล่านี้จะเข้าไปช่วยผ่อนคลายเส้นได้
และเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ ควรมีลูกประคบประมาณ 2-3 ลูก
เพื่อใช้สลับสับเปลี่ยนในการนำไปนึ่งก่อนนำประคบ เพื่อการประคบที่ต่อเนื่อง


ยาทาพระเส้น
ยาตำรับนี้ใช้ทาแก้โรคเส้นพิรุธ แก้ลมอัมพาต ลมปัฏฆาตกร่อน ตะคริว จับโปง เมื่อยขบ
สำหรับส่วนผสมในตำรับยาก็คือ
พริกไทย ข่า กระชาย หอม กระเทียม มหาหิงคุ์ ยาดำ ทั้ง 7 อย่างนี้ให้นำมาอย่างละ 1 ส่วน
ตะไคร้หอม ใบขี้เหล็ก ใบตองแตก ใบมะขาม ใบเลี่ยน ทั้ง 5 อย่างนี้ให้นำมาอย่างละ 4 ส่วน
นอกจากนี้ยังมี ใบมะคำไก่ 16 ส่วน
นำส่วนผสมเหล่านี้มาตำให้ละเอียด แล้วนำมาห่อด้วยผ้าขาวบางคั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณที่มีอาการเส้นตึง
เป็นตะคริว หรือเมื่อขบ

นอกจากจะสูตรลูกประคบเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ จะมีความสำคัญแล้ว
เคล็ดลับในการประคบ ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน
โดยเคล็ดลับมีอยู่ว่า หากต้องการให้การรักษาอาการได้ผลแล้ว
การประคบแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที และหลังจากประคบแล้ว
ให้เว้นช่วงไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนไปอาบน้ำ เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าไปใต้ผิวและไปรักษาอาการต่างๆ ก่อน

สำหรับกรณีใช้การประคบเพื่อรักษาอาการลมอัมพฤกษ์-อัมพาต และต้องนำลูกประคบไปนึ่งก่อนนำมาใช้นั้น
สิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างยิ่งก็คือ ควรตรวจสอบก่อนว่าลูกประคบนั้นร้อนเกินไปหรือไม่
ความร้อนจะไปลวกผิวให้เกิดอาการไหม้ หรือบวมแดงหรือไม่
ทั้งนี้เนื่องจาก คนเป็นโรคลมอัมพฤกษ์-อัมพาตนั้น ประสาทรับความรู้สึกของเขาจะสั่งการช้า
หากเราใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป เขาอาจจะรู้ตัวต่อเมื่อผิวเกิดอาการไหม้แดงแล้ว
เรื่องนี้จึงพึงระมัดระวังให้จงหนัก


โดย เอมอร คชเสนี
ที่มา
//www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9470000000604
//www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9470000000320


สารบัญ บทความ สุขภาพ
คลิกดู ที่นี่ค่ะ




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552
1 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 4:30:42 น.
Counter : 6257 Pageviews.

 

ขอบพระคุณมากค่ะ

 

โดย: แอล IP: 180.183.181.231 6 สิงหาคม 2559 12:58:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.