Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
31 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

“ปัจจัยสาม” แห่งความก้าวหน้า



ในโลกการทำงานทุกวันนี้ ทุกคนก็หวังที่จะก้าวหน้าใช่ไหมครับ
แล้วคุณคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมที่ทุกคนจะก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน

ในยามที่เศรษฐกิจขยายตัว อาจจะเป็นไปได้นะครับ เช่น
ผมมีลูกค้าอยู่รายหนึ่งที่ธุรกิจเติบโตมาก ขยายออกไปในหลากหลายอุตสาหกรรมในหลายประเทศ

หลายปีก่อน ผมทำงานกับทีมผู้บริหารระดับกลาง
วันนี้เห็นท่านเป็นผู้บริหารระดับสูง (CEO)ของบริษัทในเครือไปก็หลายท่านอยู่
แต่เศรษฐกิจก็ไม่สามารถขยายตัวไปได้ตลอดนะครับ มันมีวงจรของมันอยู่
แม้นักเศรษฐศาสตร์จะพยายามคาดการณ์และจัดการล่วงหน้าไว้ก่อน แต่ก็ไม่เคยทันเลย
ดูได้จากวิกฤตต้มยำกุ้งและวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เป็นตัวอย่าง

พอเศรษฐกิจหดตัว บริษัทบางแห่งก็หดตาม คราวนี้คงจะนึกภาพกันออกแล้วใช่ไหมว่า
ทุกคนคงไม่สามารถก้าวหน้าในหน้าที่การ งานได้เท่ากันแล้ว

คราวนี้ถ้าคุณอยากจะสร้างศักยภาพ ที่จะทำให้คุณก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ผมมีคำแนะนำมาฝาก3 ข้อครับ

★ ข้อแรก คุณต้องบริหารเวลาให้เป็น
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเวลาคือสิ่งที่มีค่าที่สุด เพราะการสร้างคุณค่าในทุกขั้นตอนนั้นต้องใช้เวลา
และทุกคนก็มีเวลาเท่ากัน คือ 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ดังนั้นคนที่บริหารเวลาได้ดีกว่าจะทำสิ่งต่างๆ ได้มากกว่า
และถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องมีความสำคัญต่ออนาคต ก็ย่อมที่จะประสบความสำเร็จได้มากกว่า

จากประสบการณ์ที่ผมพบ คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่มักใช้แรงกายเข้าสู้
พอหน้าที่การงานเติบโตมากๆ ความรับผิดชอบมากขึ้นก็มักจะทำไม่ไหว
ทำให้คุณภาพของงานแย่ลง และความเครียดสูงขึ้น

จริงๆ แล้วมีแนวทางมากมายในการจัดการกับเรื่องนี้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจน เพื่อที่จะสามารถประเมิน ได้ว่าสิ่งใดสำคัญ สิ่งใดไม่สำคัญ
ถ้าไม่มีเป้าหมายเป็นหลักยึด เราก็อาจทุ่งเททำงานที่ไม่สำคัญ
คนจำนวนมากถึงได้เสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องไงล่ะครับ

★ ข้อที่สอง คุณต้องแสวงหาความรู้ใหม่ๆ
ความรู้เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการทำงาน อย่าเข้าใจว่าผมหมายถึงปริญญาหรือวุฒิบัตรเพียงอย่างเดียวนะครับ
ความรู้อะไรก็ได้ที่ช่วยให้เราสามารถทำงานในปัจจุบัน และงานในอนาคตได้ดีที่สุด
บางคนมัวแต่ทำงานมากจนเกินไป จนลืมลับมีด มีดดีแค่ไหนใช้ไปทุกวันก็ทื่อครับ
ความรู้ก็เช่นเดียวกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป องค์ความรู้ก็เปลี่ยนไป เช่น
ถ้าวันนี้ผมได้เจอนักการตลาดที่บอกว่าไม่รู้จัก Facebook ผมทายได้เลยว่าแย่แน่
ดังนั้น คุณต้อง update ความรู้อยู่เสมอ คอยติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือ ไปสัมมนาในด้านที่ทำงานอยู่
ทำได้หลายอย่างครับ พอความรู้ของคุณดีกว่าของคนอื่นๆ คุณก็จะสามารถทำงานได้ดีกว่า
อันนี้ก็จะทำให้เกิดความได้เปรียบ

★ และข้อสุดท้าย คุณต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้มากขึ้น
บางคนบอกว่าไม่ชอบเทคโนโลยี บ้างก็กลัวไปเลย บางคนบอกว่าแพง
แต่ถ้าเราดูเข้าไปถึงเนื้อแท้ของเทคโนโลยีเราจะพบว่าเป็นการทุ่นแรง ผมขอยกตัวอย่างคอมพิวเตอร์นะครับ
บางคนก็ว่าแพง ใช้ยาก ตกรุ่นบ่อย แต่ถ้าเราเปรียบเทียบคนสองคนที่ทำงานคล้ายกัน
คนหนึ่งใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน อีกคนไม่ใช้ ทุกท่านคงพอจะเดาได้นะครับว่าใครทำงานเสร็จเร็วกว่า
และมีคุณภาพดีกว่า ทุกวันนี้เราก็จะเห็นว่าองค์กรที่มีเทคโนโลยีที่ดีกว่า (และใช้เป็น) จะเจริญก้าวหน้าได้เสมอ

ผมว่าแค่“ปัจจัยสาม”แห่งความก้าวหน้า ที่เล่ามานี้
หากใครทำได้จริง ชีวิตจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนในทุกสถานการณ์


โดย ธนัย ชรินทร์สาร
ที่มา : //www.manager.co.th




 

Create Date : 31 มกราคม 2553
2 comments
Last Update : 31 มกราคม 2553 20:39:04 น.
Counter : 1719 Pageviews.

 

แวะมาเยี่ยม...ขอบคุณสำหรับบทความดีมีประโยชน์ครับ

 

โดย: **mp5** 31 มกราคม 2553 22:05:21 น.  

 

บางทีเราทุกคนก็ต้องเจอกับความเครียด ท้อแท้ สิ้งหวัง
นั้นไม่ใช้อะไรที่แปลกไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ แต่การที่คุณยอมรับว่ากลัวสิ่งนั้นต่ะหากละ
ที่เรียกว่าความกล้า กล้าทีจะยอมรับในสิ่งที่คุณกลัว กล้าจะยืนหยัดเเละต่อสู้กับมัน
แต่วันนี้ถ้าสิ่งที่คุณแบบรับไว้นั้นมันเกินกว่าที่คุณจะทนได้ ถ้ายังงั้น
วันนี้คุณลองเปิดใจให้ พระเจ้าเข้ามามีส่วนช่วยคุณคลายปัญหาของคุณได้มั้ย
ลองดูสิเเล้วคุณก็จะผ่านทุกอย่างไปได้อย่างแน่นอน!!
เหมือนที่ฉันได้ผ่านมานมาจนได้!

 

โดย: da IP: 124.120.7.136 14 พฤษภาคม 2553 0:54:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.