Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
11 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

เงื่อนไขแห่งความสำเร็จ ในการฝึกอบรมพัฒนาภาวะผู้นำในองค์กร



การฝึกอบรมได้ถูกใช้อย่างกว้าง ขวางเพื่อปรับปรุงภาวะผู้นำในองค์กร
โดยโปรแกรมส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มทักษะทั่วไป
และพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการจัดการ

การจัดฝึกอบรมโดยส่วนใหญ่จะจัดสำหรับผู้บริหารระดับต้นและระดับกลาง
มุ่งเน้นที่งานในปัจจุบันมากกว่าการเตรียมตัวเพื่องานในอนาคต

อย่างไรก็ตาม รูปแบบการฝึกอบรมแบบเป็นครั้งๆ
กำลังถูกทดแทนด้วยการจัดเป็นโปรแกรมการพัฒนาระยะยาว ที่เหมาะสมสำหรับนักบริหารในระดับต่างๆ

การฝึกอบรมภาวะผู้นำสามารถจัดทำได้หลายแบบ ทั้งระยะสั้นที่เน้นทักษะแคบๆ เฉพาะด้าน
ไปจนถึงโปรแกรมที่ใช้เวลาเป็นปีและครอบคลุมทักษะในระดับกว้าง
ทั้งนี้รูปแบบของโปรแกรมการฝึกอบรม ก็จะขึ้นอยู่กับการประยุกต์ทฤษฎีภาวะผู้นำในแต่ละทฤษฎี เช่น
ทฤษฎีภาวะผู้นำแบบเปลี่ยนผ่าน (Transformational Theory),
ทฤษฎีภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (Situational leadership) เป็นต้น

ประสิทธิภาพในการฝึกอบรมขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าดีแค่ไหน
การออกแบบ การฝึกอบรมควรจะใช้พื้นฐานทฤษฎีการเรียนรู้ การมีวัตถุประสงค์ การเรียนรู้ที่ชัดเจน
คุณลักษณะของผู้เรียน กระบวนการเรียนรู้ เทคนิคการฝึกอบรม
และเงื่อนไขข้อจำกัดทางการบริหารหลักสูตร มาใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบ

ซึ่งเงื่อนไขแห่งความสำเร็จดังกล่าวสามารถสรุปได้ ดังนี้

★1) มีวัตถุประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน
วัตถุประสงค์การเรียนรู้จะบรรยายถึงพฤติกรรม, ทักษะ, หรือความรู้ที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมถูกคาดหวังว่า
จะได้จากการฝึกอบรม การมีวัตถุประสงค์ที่ชัดแจ้ง จะช่วยให้เป้าหมายของการฝึกอบรมกระจ่างชัด
ซึ่งความชัดเจนของวัตถุประสงค์นี้จะไม่ได้ช่วยอธิบายแค่ว่า อะไรที่ควรจะต้องเรียนรู้
แต่จะบอกว่า การฝึกอบรมนี้มีคุณค่าอย่างไรต่อผู้เข้ารับการอบรม
และจะบอกได้ว่าจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการเป็นผู้นำได้อย่างไร


★2) เนื้อหาชัดเจนและมีความหมาย
เนื้อหาการฝึกอบรมควรจะชัดเจนและมีความหมาย
ควรจะสร้างขึ้นมาบนฐานความรู้เบื้องต้น ที่ผู้เข้ารับการอบรมมีอยู่ก่อนแล้ว ควรมุ่งเน้นในเรื่องที่สำคัญ
ควรมีตัวอย่างที่ชัดเจน จับต้องได้มากๆ และอยู่ในประเด็น
ควรสรุปเป็นช่วงๆ และเน้นย้ำประเด็นสำคัญ เพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจภาพรวมและสามารถจำเนื้อหาได้
การเรียนรู้เรื่องแนวคิด จะเกิดเพิ่มขึ้นได้โดยการใช้ระบบแบบลำดับชั้น การเปรียบเทียบ การใช้แบบจำลอง

การใช้ทฤษฎีควรให้ง่ายๆ เพียงเพื่อให้เกิดความจำได้และเกี่ยวข้อง
เพื่อช่วยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้แปลความหมายประสบการณ์ของตนเอง เข้ากับเนื้อหาที่ได้เรียนรู้


★3) มีการจัดเรียงลำดับเนื้อหาอย่างเหมาะสม
กิจกรรมการฝึกอบรมควรจัดระบบและเรียงลำดับในทิศทาง ที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ เช่น
ควรจะเรียนแนวคิดเบื้องต้น สัญลักษณ์ กฎระเบียบ และกระบวนการ ก่อนที่จะลงมือทำสิ่งที่ต้องใช้ความรู้เหล่านี้
การฝึกอบรมควรดำเนินไปจากแนวคิดที่ง่ายๆ ไปสู่ระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น
เนื้อหาที่ซับซ้อนควรจะแบ่งแยกออกเป็นส่วนๆ ที่ง่ายแก่การเรียนรู้ทีละส่วน
และควรมีการหยุดพัก เพื่อหลีกเลี่ยงการเหนื่อยล้าจากการฝึกอบรม


★4) วิธีในการฝึกอบรมควรมีความหลากหลาย
วิธีในการฝึกอบรมควรสอดรับกับระดับทักษะ, แรงจูงใจ, และความสามารถในความเข้าใจ
และจดจำข้อมูลที่สลับซับซ้อนของผู้รับการฝึกอบรม
รวมถึงเหมาะสมกับความรู้, ทักษะ, ทัศนคติ, พฤติกรรม ที่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้ เช่น
การบรรยายที่เกิน 30 นาทีก็จะทำให้หมดความสนใจ จึงควรสลับด้วยการพูดคุยหรือกิจกรรม


★5) มีโอกาสในการฝึกปฏิบัติ
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมควรได้ปฏิบัติสิ่งที่ได้เรียนรู้ เช่น การแสดงพฤติกรรม,
การทบทวนข้อมูลที่อยู่ในความทรงจำ, การประยุกต์ใช้ หลักการเพื่อใช้ทำงาน เป็นต้น

การเน้นย้ำหลักการ จะช่วยทำให้ผู้เรียนรักษาและถ่ายโอนสิ่งที่ได้เรียนรู้ มากกว่าการจดจำ
ทั้งนี้ควรจะประยุกต์หลักการที่เรียนรู้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย
การลงมือทำนี้ควรมีทั้งในระหว่างการฝึกอบรมและเมื่อกลับไปทำงาน


★6) มีการให้ข้อมูลสะท้อนกลับอย่างทันเวลาและสอดคล้อง
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมควรได้รับข้อมูลสะท้อนกลับจากแหล่งที่หลากหลาย การสะท้อนกลับควรถูกต้อง ถูกเวลา
และสร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้ได้ข้อมูลการประเมินผล การเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง


★7) ทำให้ผู้รับการฝึกอบรมมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้น
กระบวนการสอน ควรทำให้ผู้เข้ารับการอบรมรู้สึกถึงผลที่ได้รับด้วยตนเอง
ผู้สอนควรสื่อสารให้ทราบถึงความคาดหวังในผลสำเร็จ
อดทนและสนับสนุนต่อผู้รับการอบรม บางคนที่อาจจะเข้าใจสิ่งที่สอนได้ยาก
ผู้รับการอบรมควรจะได้รับทราบถึงความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของตนเอง
การฝึกอบรม ควรเริ่มให้ทำตามจากง่ายไปยาก เพื่อให้ผู้เรียนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
รวมถึงการให้กำลังใจเพื่อก่อให้เกิดความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง


★8) มีกิจกรรมการติดตามผลที่เหมาะสม
ทักษะที่ซับซ้อนเป็นการยากที่จะเรียนรู้ในเวลาที่จำกัด และการให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพียงบางส่วน
การเรียนรู้ในบางเรื่องจึงควรมีการติดตามผลภายหลังการฝึกอบรม
เพื่อทบทวนความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้ทักษะใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้มา

การพูดคุยถึงปัญหาและความสำเร็จให้สนับสนุนเพิ่มเติม
รวมถึงการให้ทำโครงการที่ต้องใช้ทักษะที่เรียนรู้มาจากการฝึกอบรม
นอกจากนี้อาจจัดให้มีโปรแกรมการทบทวนแบบสั้นๆ
และการใช้ผู้ฝึกสอน (coach) ในระดับบุคคลเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


จากเงื่อนไขแห่งความสำเร็จในการฝึกอบรมข้างต้น จะเห็นได้ว่าการจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาภาวะผู้นำในองค์กร
เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้แบบบูรณาการของผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่ความรู้ในเรื่องของทฤษฎีภาวะผู้นำ
ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ ความเข้าใจในเรื่องเทคนิคการออกแบบหลักสูตร
รวมถึงการคัดเลือกวิทยากรที่เหมาะสม

ซึ่งความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ จะทำให้โปรแกรมการฝึกอบรมที่จัดทำขึ้นมา มีประโยชน์อย่างแท้จริงต่อองค์กร
ทั้งในแง่ความคุ้มค่าในการลงทุน และผลกระทบที่องค์กร บุคลากรจะได้รับภายหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม


ที่มา : //www.hrtothai.com
ภาพจาก : //notbyosmosis.com




 

Create Date : 11 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 11 มกราคม 2553 20:16:07 น.
Counter : 3107 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.