บริหารอารมณ์เมื่อถูกกดดัน
บ่อยครั้งใช่ไหมที่มีเรื่องให้เครียดในที่ทำงาน เช่น เพื่อนร่วมงานส่งรังสีบางอย่างให้รู้สึกว่าถูกคุกคามอาณาเขตส่วนตัวเข้าให้แล้ว ความมั่นเลยถดถอย สาเหตุคืออะไรและจะหาทางออกได้อย่างไร เพื่อป้องกันให้เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องลุกลามจนนึกเบื่องานพานลาออกไปพร้อมความไม่เข้าใจ
อาการที่ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจอย่างไม่มีสาเหตุ มักจะเกิดจากพฤติกรรมรอบตัวและสิ่งแวดล้อมใน ที่ทำงาน ทั้งจากเจ้านาย เพื่อนร่วมงานหรือเลยไปถึงแม่บ้านจอมมาเฟีย ถ้าใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ลองหลับตาแล้วสูดลมหายใจนับ 1-10 ทำสมองให้ปลอดโปร่ง รีบหาทางออกก่อนที่จะทนไม่ได้จนนึกอยากจะลาออกวันละสิบหน อย่าให้ถึงวันนั้นแล้วต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมไม่หาทางแก้ไข มาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตัวอย่างกันเลยดีกว่า หรือหันมาสำรวจตัวเราแบบว่า “เขากดดันเรา แล้วเราล่ะ...กดดันใครไหม?” ถ้าลองย้อนคิดกลับกันดู ที่ผ่านมาการถูกกดดันทางอารมณ์อาจเกิดจากการสร้างความกดดันแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้ คนที่ถูกกดดันอาจเคยกดดันคนอื่นมาก่อนแล้ว อยู่ที่ว่ารู้ตัวและพร้อมจะปรับปรุงหรือไม่
การกดดันแบบตั้งใจ การแข่งขันในที่ทำงานอาจเป็นเหตุให้มีการแบ่งฝ่าย แข่งขันทั้งเรื่องผลงานและเรื่องส่วนตัว บางคนหวงข้อมูล ไม่ให้ความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเพียงคนเดียว อยากเด่นดัง ทะเยอทะยาน ต้องการการยอมรับ ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้สามารถได้มาด้วยวิธีการที่นุ่มนวล แต่ต้อง ฝึกให้เคยชินเป็นนิสัย และผลที่ได้นอกจากจะประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว ยังเป็นที่รักของเพื่อนๆด้วย
การกดดันแบบไม่ตั้งใจ ไม่ว่าใครก็อาจตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้โดยเป็นผู้กดดันคนอื่นก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาจึงโต้ตอบกลับในลักษณะเดียวกัน สถานการณ์เช่นนี้เกิดได้ง่ายมาก ส่วนมากจะเกิดจากรสนิยม ความชอบ เช่น บางคนชอบน้ำหอมกลิ่นกำยานแต่เพื่อนไม่ชอบ บางคนชอบฟังเพลงบรรเลงเบาๆตอนทำงาน ในขณะที่อีกคนฟังแต่เพลงร็อกเร้าใจจะได้ไม่ง่วง เป็นต้น ถ้าอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่างฝ่ายคงต้องลดดีกรีรสนิยมลงหน่อย คิดเสียว่าลองไปทำความรู้จักกับสิ่งแวดล้อมใหม่ เพื่อประสบการณ์และความเข้มแข็งทางอารมณ์ที่สูงขึ้น
เปลี่ยนการถูกดดันทางอารมณ์ให้เป็นงานสร้างสรรค์ การสร้างความกดดันและถูกคุกคามทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด มันเป็นธรรมชาติในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก รสนิยมส่วนตัว และไม่ได้หมายความว่าเป็นความผิดของใคร เพียงแต่อาจจะยังเข้ากันไม่ได้ เนื่องจากผู้ถูกกดดันบางคนอาจจะดูเด่น เจ้าอารมณ์ ดูเชยเกินไปและเข้าใจยากเกินไป ฯลฯ ซึ่งหากลองวิเคราะห์ตัวเองให้เข้าบุคลิกที่แท้จริงแล้ว ลองหันมาควบคุมตัวเองให้ได้ก่อนที่จะไปลดการกดดันของฝ่ายตรงข้าม เท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนจากการกดดันให้เป็นการสร้างสรรค์ได้ และต่างฝ่ายก็จะยอมรับกันและกันในที่สุด
Create Date : 25 เมษายน 2552 |
Last Update : 25 เมษายน 2552 15:18:45 น. |
|
3 comments
|
Counter : 2207 Pageviews. |
|
|
|
เงียบ แระกะ ใส่หูฟังเพลง ดีกั่วรับรู้สิ่งรอบข้าง ทำไป ทำมา กลายเป็นไปกดดันเค้ากลับอีก หุหุ