Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
บริหารอารมณ์เมื่อถูกกดดัน



บ่อยครั้งใช่ไหมที่มีเรื่องให้เครียดในที่ทำงาน
เช่น เพื่อนร่วมงานส่งรังสีบางอย่างให้รู้สึกว่าถูกคุกคามอาณาเขตส่วนตัวเข้าให้แล้ว ความมั่นเลยถดถอย
สาเหตุคืออะไรและจะหาทางออกได้อย่างไร
เพื่อป้องกันให้เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องลุกลามจนนึกเบื่องานพานลาออกไปพร้อมความไม่เข้าใจ

อาการที่ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจอย่างไม่มีสาเหตุ มักจะเกิดจากพฤติกรรมรอบตัวและสิ่งแวดล้อมใน
ที่ทำงาน ทั้งจากเจ้านาย เพื่อนร่วมงานหรือเลยไปถึงแม่บ้านจอมมาเฟีย
ถ้าใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ลองหลับตาแล้วสูดลมหายใจนับ 1-10 ทำสมองให้ปลอดโปร่ง
รีบหาทางออกก่อนที่จะทนไม่ได้จนนึกอยากจะลาออกวันละสิบหน
อย่าให้ถึงวันนั้นแล้วต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมไม่หาทางแก้ไข มาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตัวอย่างกันเลยดีกว่า
หรือหันมาสำรวจตัวเราแบบว่า “เขากดดันเรา แล้วเราล่ะ...กดดันใครไหม?” ถ้าลองย้อนคิดกลับกันดู
ที่ผ่านมาการถูกกดดันทางอารมณ์อาจเกิดจากการสร้างความกดดันแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้
คนที่ถูกกดดันอาจเคยกดดันคนอื่นมาก่อนแล้ว อยู่ที่ว่ารู้ตัวและพร้อมจะปรับปรุงหรือไม่


การกดดันแบบตั้งใจ
การแข่งขันในที่ทำงานอาจเป็นเหตุให้มีการแบ่งฝ่าย แข่งขันทั้งเรื่องผลงานและเรื่องส่วนตัว
บางคนหวงข้อมูล ไม่ให้ความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเพียงคนเดียว
อยากเด่นดัง ทะเยอทะยาน ต้องการการยอมรับ ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้สามารถได้มาด้วยวิธีการที่นุ่มนวล แต่ต้อง
ฝึกให้เคยชินเป็นนิสัย และผลที่ได้นอกจากจะประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว ยังเป็นที่รักของเพื่อนๆด้วย


การกดดันแบบไม่ตั้งใจ
ไม่ว่าใครก็อาจตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้โดยเป็นผู้กดดันคนอื่นก่อนโดยไม่รู้ตัว
เขาจึงโต้ตอบกลับในลักษณะเดียวกัน สถานการณ์เช่นนี้เกิดได้ง่ายมาก ส่วนมากจะเกิดจากรสนิยม ความชอบ
เช่น บางคนชอบน้ำหอมกลิ่นกำยานแต่เพื่อนไม่ชอบ บางคนชอบฟังเพลงบรรเลงเบาๆตอนทำงาน
ในขณะที่อีกคนฟังแต่เพลงร็อกเร้าใจจะได้ไม่ง่วง เป็นต้น
ถ้าอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่างฝ่ายคงต้องลดดีกรีรสนิยมลงหน่อย คิดเสียว่าลองไปทำความรู้จักกับสิ่งแวดล้อมใหม่
เพื่อประสบการณ์และความเข้มแข็งทางอารมณ์ที่สูงขึ้น


เปลี่ยนการถูกดดันทางอารมณ์ให้เป็นงานสร้างสรรค์
การสร้างความกดดันและถูกคุกคามทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
มันเป็นธรรมชาติในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก รสนิยมส่วนตัว
และไม่ได้หมายความว่าเป็นความผิดของใคร เพียงแต่อาจจะยังเข้ากันไม่ได้
เนื่องจากผู้ถูกกดดันบางคนอาจจะดูเด่น เจ้าอารมณ์ ดูเชยเกินไปและเข้าใจยากเกินไป ฯลฯ
ซึ่งหากลองวิเคราะห์ตัวเองให้เข้าบุคลิกที่แท้จริงแล้ว
ลองหันมาควบคุมตัวเองให้ได้ก่อนที่จะไปลดการกดดันของฝ่ายตรงข้าม
เท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนจากการกดดันให้เป็นการสร้างสรรค์ได้ และต่างฝ่ายก็จะยอมรับกันและกันในที่สุด




Create Date : 25 เมษายน 2552
Last Update : 25 เมษายน 2552 15:18:45 น. 3 comments
Counter : 2207 Pageviews.

 
ง่า ถุงกะเคยโดนนะ ถูกกดดันแบบตั้งใจ กะใช้ความสงบ สงบความกดดัน

เงียบ แระกะ ใส่หูฟังเพลง ดีกั่วรับรู้สิ่งรอบข้าง ทำไป ทำมา กลายเป็นไปกดดันเค้ากลับอีก หุหุ


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:20:21:43 น.  

 
สู้ๆ
หลับฝันดีนะก้าบ

โจจัง...พลังชีวิต


โดย: พลังชีวิต วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:21:41:24 น.  

 
ก้อยังสู้ต่อไป ใช้ความเงียบเท่านั้น และรอคอยกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใครเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้ในสายตาของใครๆ เขาก็มองเห็นฉันเป็นคนก่อเรื่องทุกครั้งเลย ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำ แย่จังเลย! เคยคิดจะลาออกจากงานหลายรอบแล้ว แต่พอได้งานใหม่ ก็เศร้าเหมือนมันมีความผูกพันกับที่ทำงาน เพราะวันๆใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับที่ทำงาน วันละสิบสามชั่วโมง และทำงานอยู่ที่นี่มาสี่ปีกว่าแล้ว ต้องทนกับคำพูดเสียดสีกระทบกระแทกทุกวัน โดยเฉพาะเด็กคนนั้นเราเป็นคนสอนงานให้เขาเองจนเก่งหมดทุกอย่าง อยู่มาวันหนึ่งจากเคยเป็นคนดีก็เปลี่ยนเป็นอีกคนที่พูดจาเสียดสีและพฤติกรรมและการกระทำทุกอย่าง ร่วมถึงการด่าคำหยาบด้วย เด็กคนนี้พึ่งเข้างานได้แค่ประมาณหกเดือนเอง และเคยทำให้ฉันเสียใจมาสองครั้งแล้ว แต่ฉันก็ให้โอกาสเขาเพราะหัวหน้าเดินมาขอว่าสอนงานให้น้องหน่อยน้องยังเด็กอย่าไปถือสาเขาเลย ฉันก็ตอบว่าได้จะสอนให้ เวลาผ่านมาแค่สี่เดือนพฤติกรรมไม่ดีก็เริ่มออกชัดเจนขึ้นทุกที เดินมาเตะของใส่เราพร้อมกับท้าทายเราทุกอย่าง นะวันนั้นฉันได้แต่ยืนนับหนึ่งถึงสิบแล้วก็ยิ้มให้เขา เขาก็ด่าทอฉันว่าไปก้าวก่ายงานของเขา ซึ่งที่ฉันพยามบอกให้เขาเพราะฉันอยากให้เขาได้ดี แต่กลับคิดว่าเราประสงค์ร้ายกับเขา มันเป็นสิ่งที่ฉันเสียใจที่สุด อีกอย่างหนึ่งก็คือถ้าฉันว่างฉันจะช่วยทุกๆ คนทำงานรวมถึงหัวหน้าด้วย ฉันทำแบบนี้มาตั้งวันแรกจนถึงวันที่ 16 เมษายน 2556 ฉันหยุดทำทุกอย่าง โดยเลือกที่จะไม่พูดเงียบ จะไม่บอกไม่เตือนใครๆ หรือทำอะไรให้กับใครอีกแล้ว จะทำงานในหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น ลืมบอกไปว่าฉันเป็นพนักงานแนะนำสินค้า ก้อเลยคิดว่าจะพูดกับลูกค้าเท่านั้นและบริการลูกค้าให้ดีที่สุด แต่การเงียบกับรอยยิ้มนิดๆของฉันกับผิดอีก ทำให้เขาพูดจากระทบกระแทกแรงขึ้นทุกที (ตอนหัวหน้าไม่อยู่เท่านั้นเขาถึงพฤติกรรมแย่ๆใส่ฉัน) แต่ถ้าหัวหน้าอยู่ เขาทำตัวดีมากๆ พูดจาไพเราะทุกคำพูด ตอนนี้ฉันก้อได้แต่รอกาลเวลาเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์
ว่าใครเป็นอย่างไร สักวันก็คงมีใครสักคนที่เขาใจฉัน แต่ก็มีคนบอกว่าทำให้ตายก็ไม่มีใครเห็นหรอก มีแต่ใช้เราเป็นบันไดเท่านั้น แต่ฉันคิดกลับกันทำความดีคนไม่เห็นแต่ตัวเรารู้ ผีเห็นเราก้อมีความสุขแล้ว ไม่ช้าก้อเร็วความดีนั้นก้อจะกลับมาหาเราเอง จะสู้ต่อไปจ้า อดทนและอดทน


โดย: จำเรียง วงค์จันทร์ IP: 115.67.67.204 วันที่: 5 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:26:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.