Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
24 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
กฎเหล็ก 7 ประการ ในการเป็นผู้นำ หมั่นศึกษา-มองกว้าง-วิเคราะห์



ตามคำจำกัดความของ "Dr.Paul Hersey" ผู้คิดค้นทฤษฎีผู้นำตามสถานการณ์
(situational leadership) อันโด่งดังและเป็นรูปแบบภาวะผู้นำ (leadership
model) ที่มีการอ้างถึงมากที่สุดในโลก "Dr.Hersey"
ให้คำจำกัดความของภาวะผู้นำไว้แบบง่ายๆ
แต่เข้าใจได้ลึกซึ้งว่าภาวะผู้นำหมายถึงความสามารถในการโน้มน้าวหรือสร้างอำนาจเหนือผู้อื่น

ดังนั้นจากการที่ผมได้มีโอกาสทำงานในฐานะโค้ชของผู้บริหาร(executive coach) ให้กับ
ผู้บริหารหลายๆ ท่าน ซึ่งหนึ่งในหน้าที่ของการเป็นโค้ช คือ การเฝ้าดูพฤติกรรมและพัฒนาการ
ของผู้นำซึ่งพอจะสรุปได้ว่า ผู้นำที่มีศักยภาพมักมีปัจจัยบ่งชี้ถึงความมีภาวะผู้นำ(leadership)
ของ พวกเขาอยู่ 7 อย่าง ได้แก่...


1.คนที่มีภาวะผู้นำชอบศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลมากกว่าคนอื่นๆ เพราะผู้นำไม่ได้เกิดมาพร้อมกับ
ญาณวิเศษ ในการที่จะคิดและมองเห็นทุกอย่างในภาพกว้างได้โดยไม่ต้องทำอะไร
ปัจจัยหนึ่งที่จะผลักดันให้ผู้นำมองภาพกว้างได้ดีคือการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ

ผู้นำรุ่นใหม่ๆ บางคนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการคิดอ่านที่เหนือกว่า มองเห็นในสิ่งที่เพื่อน
ร่วมงานคนอื่นมองไม่เห็น ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลให้เขาสามารถประสบความสำเร็จได้ มากกว่าคนอื่นๆ


2.คนที่มีภาวะผู้นำจะมองอะไรในภาพกว้าง (big picture) มากกว่าแค่หน้าที่ความรับ
ผิดชอบของตนเอง ผมขออนุญาตยกตัวอย่างหัวหน้างานท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก เธอคนนี้ได้รับการ
ทาบทามจากหัวหน้างานของเธอให้ดูแลแผนกอื่นเพิ่มเติม จากเดิมที่ดูแลอยู่แล้ว 2 แผนก
เพิ่มให้อีก 2 แผนก มันเป็นสิ่งที่หลายๆ คนอยากได้ เพราะนั่นหมายถึงการมีอำนาจในการ
ทำงานมากขึ้น และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เธอคนนี้มองว่า 2 แผนกที่เพิ่ม
เข้ามานั้นไม่ค่อยเหมาะกับหน้าที่ความรับผิดชอบของเธอเท่าไรนัก
เธอมองว่า 2 แผนกนี้เหมาะที่จะให้เพื่อนร่วมงานของเธออีกคนดูแลมากกว่า
เพราะเขาคนนั้นดูแลแผนกที่มีความสอดคล้องในการทำงานกับ 2 แผนกนี้มากกว่าเธอ
ซึ่งถ้า 2 แผนกนี้ไปอยู่ในการดูแลของเขา จะทำให้การทำงานของทั้ง 2
แผนกนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าอยู่ในการดูแลของเธอ

การที่เธอคนนี้มองสถานการณ์ในภาพกว้าง มองเป้าหมายขององค์กรมากกว่าความต้องการของ
ตนเองนั้น แสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะเด่นเฉพาะตัวของเธอเอง นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึง
การคิดอ่านของเธอว่าเป็นความคิดที่เป็นเชิงกลยุทธ์ และมองธุรกิจในภาพกว้าง


3.คนที่มีภาวะผู้นำ มักเป็นคนที่มีความพยายามในการผลักดันตนเอง และมีความขยัน
ขันแข็งที่เด่นชัดกว่าคนอื่น ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่สามารถมองเห็นได้ง่ายในตัวคนแต่ละคน

ผมขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบพนักงานขาย 2 คนที่เริ่มต้นการทำงานพร้อมๆ กัน แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่ถึง 5 ปี ตำแหน่งหน้าที่การงานต่างกันค่อนข้างมาก
คนแรกสมมติชื่อว่าคุณสมศักดิ์ สมศักดิ์เริ่มต้นทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย
ทุกวันมีหน้าที่ออกไปพบปะลูกค้า และผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่องค์กรกำหนด

สมศักดิ์เป็นเหมือนพนักงานขายมือดีทั่วๆ ไป คือในแต่ละเดือนสามารถขายได้ใกล้เคียงกับ
เป้าหมายไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เดือนใดก็ตาม ที่ดูท่าว่ายอดขายจะทะลุเป้าไปมากเกินไป
ก็ดึงให้ตัวเลขยอดขายไปตกอยู่ในเดือนถัดไป
เพราะถ้าขายได้มากในเดือนนี้ก็อาจเสี่ยงกับการถูกตั้งเป้าที่สูงขึ้นในเดือนหน้า

ในขณะที่คุณสมชาย (นามสมมติ) เริ่มต้นงานในตำแหน่งเดียวกัน ในช่วงเวลาที่ไม่ต่างกัน
แต่แนวทางการทำงานต่างกันค่อนข้างมาก สมชายมีความทะเยอทะยานมากกว่าเพื่อนๆ
คนอื่นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากพยายามขายให้ได้ตามเป้าหมายที่องค์กรกำหนดแล้ว
เขายังดิ้นรนขวนขวายที่จะผลักดันตนเองให้เติบโตขึ้น

เป็นต้นว่าทุกๆ วันที่พนักงานขายออกตลาดไปแล้ว การจะกลับเข้าสำนักงานอีกครั้งในตอนเย็น
เกือบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ส่วนใหญ่ไปแล้วไปลับ แต่สมชายแปลกกว่าพนักงานขายทั่วๆไป
เขากลับเข้าสำนักงานทุกวันในตอนเย็นๆ กลับมาเพื่ออาสาช่วยงานผู้จัดการฝ่ายขาย
(ไม่ใช่เพราะอยากเอาใจ แต่ลึกๆ เพราะอยากเข้าใจว่าผู้จัดการฝ่ายขายมีหน้าที่ทำอะไร
เขาสนใจอยากเรียนรู้งานของผู้จัดการฝ่ายขาย เพราะอยากเป็นผู้จัดการฝ่ายขายในอนาคต)
เขาอาสาที่จะรับรายงานการขายประจำวันที่พนักงานขายคนอื่นๆ
ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายขายกลับไปพิมพ์ให้ที่บ้าน

ซึ่งผู้จัดการก็ยินดีเพราะเป็นงานที่ท่านไม่ค่อยพิสมัยอยู่แล้ว เมื่อรับพิมพ์บ่อยครั้งเข้าก็เริ่มเข้าใจ
ความเคลื่อนไหวของตลาดในภาพที่กว้างขึ้น (กว่าเฉพาะตลาดที่ตนเองดูแล)
เมื่อมีตำแหน่งงานในระดับที่สูงขึ้นว่าง จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาเป็นคนแรกที่ได้รับโอกาสนั้น


4.คนที่มีภาวะผู้นำจะมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์มากกว่าคนอื่น ในสมัยเด็กๆ เราคงเคย
ได้ยินเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่หลวงตาใช้ให้เด็กวัด 2 คนไปดูว่า "อีด่าง" (สุนัขที่กำลังท้องแก่)
มันคลอดลูกหรือยัง เด็กทั้งสองคนวิ่งหน้าตื่นกลับมาบอกหลวงตาว่า "อีด่าง" มันคลอดแล้ว
หลวงตาจึงใช้ให้เด็กทั้งสองคนไปดูว่ามันคลอดลูกออกมากี่ตัว

สักครู่เด็กทั้งสองคนวิ่งกลับมาบอกหลวงตาว่า "อีด่างคลอดลูกออกมา 7 ตัว" พอหลวงตาถามต่อว่า "ตัวผู้กี่ตัว ตัวเมียกี่ตัว" เด็กคนแรกวิ่งกลับไปดูแล้วกลับมาตอบ
ในขณะที่เด็กคนที่สองตอบได้ทันที เพราะดูมาตั้งแต่คราวแรก
หลวงตาถามต่ออีกว่ามีสีอะไรบ้าง เด็กคนแรกวิ่งกลับไปดูอีกครั้งก่อนกลับมาตอบ
ในขณะที่เด็กคนที่สองตอบได้เลยโดยไม่ต้องวิ่งกลับไปดูอีก

ความแตกต่างของเด็กสองคนนี้ แม้จะเป็นเรื่องเล่าประเภทนิยายปรัมปรา แต่ก็สอนให้เรารู้ว่า
เด็กคนที่สองคิดวิเคราะห์ได้มากกว่าเด็กคนแรก อย่างน้อยที่สุดก็วิเคราะห์ได้ว่า
ข้อมูลอะไรบ้างที่ "หลวงตา" ต้องการ ในขณะที่เด็กคนแรกต้อง รอคำสั่งก่อนจึงลงมือทำ

เราก็ทดสอบความสามารถนี้ได้ไม่ยากนัก วิธีง่ายๆ คือลองหาข้อมูลอะไรสักอย่างที่มีส่งให้คน
สองคนลองวิเคราะห์ว่า เขาเห็นอะไรจากข้อมูลที่ให้ไปบ้าง เชื่อผมเถอะครับว่าคนสองคนมอง
เห็นข้อมูลที่ได้ไปไม่เหมือนกัน คนที่มีความสามารถในการร้อยเรียงข้อมูลได้ดีกว่า
มองเห็นความเชื่อมโยงของข้อมูลได้มากกว่า มักเป็นคนที่มีทักษะในการวิเคราะห์ที่ดีกว่า


5.คนที่มีภาวะผู้นำ สามารถรับมือกับความเครียดได้ดีกว่า สามารถทำงานภายใต้สภาวะกดดัน
ได้นานกว่าคนอื่นๆ โดยปกติคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์(EQ)ที่ดี มักเป็นคนที่สามารถบริหาร
อารมณ์ได้ เหมาะสม วุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่ได้หมายความว่าไม่แสดงอารมณ์
อันที่จริงผู้ที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี คือผู้ที่แสดงอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม หมายความว่า
เมื่อโกรธก็แสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ (แต่ไม่ใช่โวยวาย)
เมื่อชอบใจก็แสดงให้เห็นว่า พอใจ (แต่ไม่ใช่ปากหวาน)

เราจะสังเกตเห็นได้ว่าคนบางคนสามารถบริหารอารมณ์ได้ดีกว่าคนบางคน
โดยเฉพาะเมื่ออยู่ภายใต้สภาวะที่กดดัน
เช่น เกิดความขัดแย้ง มีการโต้เถียง หรือต้องทำงานจำนวนมากภายใต้เวลาที่จำกัด

ปัจจัยนี้โดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับผู้นำ เพราะเท่าที่ผมมีโอกาสสัมผัส
ผู้นำส่วนใหญ่ต้องทำงานภายใต้ความกดดัน การบริหารอารมณ์เป็นเรื่องสำคัญ
และเท่าที่ผมสังเกต(อาจจะผิดก็ได้)ผมพบว่าความมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่
ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ก็เป็นทักษะที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เรายังเด็กและติดตัวเรามาตลอด
ดังนั้นการปรับเปลี่ยนแก้ไขจึงทำได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลา บวกความตั้งใจจริง


6.คนที่มีภาวะผู้นำ จะปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าคนอื่น
นักปราชญ์สมัยโบราณเคยกล่าวไว้ว่า เผ่าพันธุ์ที่อยู่รอดไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแรงที่สุด
แต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่สามารถปรับตัวได้มากที่สุด ซึ่งผมคิดว่าหลักการนี้ยังคงใช้ได้อยู่
แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแล้วก็ตาม ลองสังเกตดูง่ายๆ จาก ธรรมชาติก็ได้ว่า
เมื่อลมแรงต้นไม้ใหญ่ต่างหาก ที่ล้ม (ตาย) เพราะมันยืนต้านลม
แต่ต้นหญ้าเล็กๆ ที่คอยลู่ตามลมไม่เคยล้ม(ตาย) เพราะลมแรงเลย
คนที่มีภาวะผู้นำอยู่ในตัวก็เช่นกัน เราจะสังเกตเห็นได้ว่าคนเหล่านี้
มักเป็นคนที่ปรับตัวเร็ว มีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลง
บางคนที่มีภาวะผู้นำสูงๆ อาจลุกขึ้นและสร้างหรือนำการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง
โดยไม่ต้องรอให้สภาพแวดล้อมหรือคนรอบข้างกดดันให้ต้องเปลี่ยนแปลงเลย


7.คนที่มีภาวะผู้นำ จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงกว่าเพื่อนๆคนอื่น อันที่จริงความมั่นใจ
ในตนเองกับการไม่ฟังคนอื่น มีเส้นบางๆกั้นอยู่แต่ยากที่จะบอกให้ชัดเจนได้ว่า ตรงไหนคือเส้น
แบ่งเส้นนั้น ส่วนใหญ่คนที่มีภาวะผู้นำมักเป็นคนที่ออกจะดื้อและบริหารจัดการยากกว่าพนักงาน
คนอื่นๆ ส่วนคนที่ว่านอนสอนง่ายประเภทได้ครับพี่ ดีครับนาย ใช้ได้ครับท่าน
หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า yes man นั้น ส่วนใหญ่มักมีภาวะผู้นำน้อยกว่า คนประเภทแรก
แต่ปัญหาคือหัวหน้าส่วนใหญ่ชอบพนักงานที่ ว่านอนสอนง่ายมากกว่าพนักงานที่จัดการลำบาก
แต่ผมบอกทุกๆ ท่านได้เลยว่าม้าดีต้องพยศครับ ซึ่งเมื่ออ่านครบทั้ง 7 ข้อแล้ว
ลองหันกลับมาดูตัวเองด้วยใจเป็นกลางซิครับว่า เรามีภาวะผู้นำแล้วสักกี่ข้อ
แล้วข้อที่ยังไม่ (ค่อย) มีจะเพิ่มเติมอย่างไร

ลองเลือกมาสักข้อสองข้อที่คิดว่ายังทำได้ไม่ดี แล้วกำหนดเป็นเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเอง
ก็น่าจะดีไม่น้อย ?

โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา



Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:59:16 น. 3 comments
Counter : 1785 Pageviews.

 
ดีครับ ผมคิดว่าจำเป็นทุกข้อ ผมก็พยายามอยู่ที่จะมีให้ครบ
ขอบคุณมากครับ


โดย: maimicky IP: 124.120.113.207 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:57:35 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ ที่หาสิ่งดี ๆ มาให้อ่าน ขอให้เจริญ ๆ ค่ะ


โดย: แป้น IP: 87.63.47.116 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:26:03 น.  

 
ผมอยากได้กฏเหล็ก 21 ข้อครับ ผมหาเว็บไหนก้ไม่มีเรย ผมต้องทำส่งอาจารย์ ผมหาไม่เจอเครียดมากครับ


โดย: มีน IP: 223.205.34.130 วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:20:05:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.