เตรียมตัวอย่างไร เมื่อต้องพรีเซ้นต์งานนอกสถานที่
Preparation? When working outside.
การทำงานในทุกวันนี้ไม่ได้จำกัดเพียงในพื้นที่ออฟฟิศอีกต่อไป หลายครั้งที่พบว่าการประชุม สัมมนา การขายงาน และถ้าบังเอิญโอกาสแบบนี้ได้เกิดขึ้นกับคุณบ้าง จะมีวิธีการคิดดำเนินการอย่างไร ให้สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยม บรรลุเป้าหมาย และนี่คือคำแนะนำที่ WP สรรหามาฝากค่ะ
1. กำหนดวัตถุประสงค์ และกิจกรรมนโยบาย ในการจัดกิจกรรม นอกสถานที่เกิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างหลากหลาย ดังนั้นก่อนการสร้างสรรค์จริง จึงต้องจัดทำโครงการเสนอก่อน เพื่อการอนุมัติรับรอง รูปแบบของใบโครงการ ควรประกอบด้วย วัตถุประสงค์ คอนเซ็ปต์ และแนวคิดของการจัดกิจกรรม รายละเอียดกิจกรรม ผลที่คาดหมายว่าจะได้รับ และงบประมาณ ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจต้องมีการแก้ไข และปรับเปลี่ยนหลายครั้ง จนได้รับความเห็นชอบ การเขียนโครงการให้ผ่านได้สะดวก คือ ยึดจุดมุ่งหมายของโครงการเป็นหลัก และพยายามวางแผนการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
2. เลือกสถานที่ให้สัมพันธ์กับงบประมาณ สถานที่ควรเลือกให้สอดคล้องกับกิจกรรม เดินทางสะดวก ใช้เวลาไม่นานจากสำนักงานหรือจุดนัดหมาย ที่สำคัญต้องมีพื้นที่และอุปกรณ์เครื่องมือพร้อม เพื่อความสะดวกในการ ทำกิจกรรม และทั้งหมดนี้ต้องเลือกให้สัมพันธ์กับงบประมาณค่าใช้จ่ายที่ได้รับการจัดสรร
ก่อนการตกลงวางเงินหรือคอนเฟิร์ม คุณและทีมงานควรวางแผนการเยี่ยมชม ด้วยการตระเวนชมสถานที่จริงหลายแห่ง ถ่ายภาพแล้วนำมาทำรายงานสรุป เปรียบเทียบจุดดีจุดด้อย ราคา วัสดุอุปกรณ์ที่ให้บริการ เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม
3. กำหนดตารางกิจกรรม และประชาสัมพันธ์ กำหนดกิจกรรมลงเป็นตารางเวลา แบบละเอียด ระบุวัน จำนวนชั่วโมง และกิจกรรม จากนั้นนำเสนอที่ประชุมจนผ่าน แล้วกระจายไปยังแผนกหรือบุคคลที่จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อรับทราบ ในกรณีที่เป็นองค์กรใหญ่อาจต้องมีการทำสื่อสนับสนุนอื่น เช่น โบรชัวร์ และโปสเตอร์ ข้อความประชาสัมพันธ์ ควรอ่านง่าย ชัดเจน และไม่มีประเด็นมาก ประกอบด้วย ชื่อกิจกรรมโครงการ วัตถุประสงค์ วันเวลา และสถานที่จัด การนัดหมาย
4. แบ่งงานรับผิดชอบ และจัดประชุมย่อย ในกรณีที่คุณหรือแผนกต้องเตรียมเนื้อหางานในการร่วมพรีเซ้นต์ในวันงาน ควรจัดแบ่งในทีมเป็นส่วนต่างๆ เพื่อแยกกันดูแลรับผิดชอบ เช่น ฝ่ายจัดเตรียมข้อมูลและพรีเซ้นต์ ฝ่ายสร้างสรรค์กิจกรรม ฝ่ายสถานที่ และฝ่ายอำนวยการ จากนั้นควรนัดประชุมแต่ละฝ่ายเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและติดตามความคืบหน้าของงาน
5. ควบคุมเวลา และความกระชับของกิจกรรมในวันงาน สิ่งสำคัญที่สุดในวันงานคือการประสานงาน และควบคุมเวลาให้เป็นไปตามแผนงาน ต้องอาศัยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และปฏิภาณพลิกแพลงให้ปรับเปลี่ยนตารางงานได้ตามสถานการณ์ คุณอาจไม่ต้องยึดกับตารางงานเสมอไป สามารถโยกย้ายสับเปลี่ยนได้ แต่ต้องทำทุกกิจกรรมที่วาง แผนให้ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์
6. สรุปและประเมินผลความสำเร็จ หลังกิจกรรม ควรมีการประเมินโครงการทั้งในแง่ของผู้ดำเนินการ และกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจวัดจากการให้ทำแบบสอบถามหรือการสัมภาษณ์ เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว ต้องเขียนเป็นบทสรุปโครงการในแบบเดียวกับการทำหนังสือเสนอโครงการ ซึ่งประกอบด้วย วัตถุประสงค์และผลการบรรลุ พฤติกรรมและการตอบสนอง พฤติกรรมของผู้ร่วมโครงการ มุมมองทัศนคติหรือความรู้ที่เพิ่มพูนตามวัตถุประสงค์ของผู้ร่วมโครงการ บัญชีงบประมาณการใช้จ่าย ความสำเร็จของโครงการ จุดที่ต้องแก้ไขของโครงการ และแนวคิดที่ควรนำไปประยุกต์ใช้กับโครงการอื่นในอนาคต
Woman plus Vol.8 No. 407
Create Date : 26 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2552 15:15:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 841 Pageviews. |
|
|
|
|
|