การบริหารและจูงใจคน
"การบริหารและจูงใจคน" (เปิดโลกทัศน์)
คำถามเริ่มแรกที่ผู้บริหารมักถูกถามอยู่เสมอ ก็คือ อะไรเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน ซึ่งคำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่ หรือเป็นคำตอบในอันดับต้นๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ "คน" ไม่ว่าองค์กรหรือบริษัทใดจะก้าวล้ำทางเทคโนโลยีไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถขาดการขับเคลื่อนและสนับสนุนจากทีมงาน หรือบุคลากรภายในองค์กร ได้
สมัยก่อนผู้บริหารมักจะมองคนเป็นค่าใช้จ่าย (expense) ที่ทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินไปในแต่ละวันแต่ละเดือน โดยที่ไม่ได้อะไรกลับมา
แต่ ปีเตอร์ เอฟ ดรักเกอร์ (Peter F. Drucker) กลับเป็นนักวิชาการทางด้านการจัดการคนแรกๆ ที่ให้ผู้บริหาร หรือองค์กรทั้งหลายเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับคนเสียใหม่ จากค่าใช้จ่ายกลายเป็นสินทรัพย์ (asset) เพราะถือว่า คนเป็นสินทรัพย์ที่สามารถก่อให้เกิดมูลค่าได้ หรือสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้ (Value added) ทำให้ในปัจจุบันเราจึงใช้คำว่า ทุนมนุษย์กันอย่างแพร่หลาย เมื่อวิธีคิดเปลี่ยน วิธีการในการจูงใจคนก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ในกระบวนการการจัดการทรัพยากรมนุษย์นั้น ประกอบด้วยขั้นตอนที่สำคัญ 3 ประการได้แก่ การดึงดูดพนักงาน (attracting employees) การพัฒนาพนักงาน (developing employees) และ การรักษาพนักงานไว้ให้ได้ (retaining employees)
แน่นอนว่าขั้นตอนทั้ง 3 ประการมีความสำคัญ แต่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น เรื่องการรักษาพนักงานไว้กับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถหรือคนเก่ง เพราะคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับองค์กรที่จะได้คนที่มีความรู้ ความสามารถมาทำงาน เนื่องจากตลาดแรงงานในปัจจุบันขยายตัวเป็นอย่างมาก และประกอบกับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาใหม่ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้องค์กรมีโอกาสที่จะได้ตัวเลือกที่ดีที่สุดได้ โดยเฉพาะองค์กรที่ใหญ่และมีชื่อเสียง ที่มีค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดี ยิ่งมีโอกาสในการได้มาซึ่งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มากกว่าองค์กรทั่วๆ ไป แต่การได้มาแล้วไม่รู้จักรักษาไว้นั้น อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อองค์กรได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายในการสรรหา และคัดเลือกบุคลากรใหม่เพื่อเข้ามาทด แทนบุคลากรเดิมที่ลาออกไป
ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบัน จึงได้มีการพูดกันถึงเรื่องการบริหารคนเก่งกันมากยิ่ง ขึ้น (Talent Management) เพราะการบริหารคนเก่งเป็นเรื่องที่สำคัญต่อความเจริญก้าวหน้า และความสำเร็จ ขององค์กร ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารคนเก่ง คงหนีไม่พ้นเรื่องการ จูงใจ
วิธีการจูงใจคนในองค์กรมีมากมายหลากหลายวิธี แต่โดยทั่วไปการพนักงานมักถูกจูงใจด้วยรางวัล 2 แบบ อันได้แก่ รางวัลจากภายนอก (Extrinsic Reward) อันได้แก่ ค่าตอบแทน สวัสดิการ เงินเดือน และคำชมต่างๆ
และรางวัลจากภายใน (Intrinsic Reward) อันได้แก่ ความรู้สึกภาคภูมิใจในการทำงาน และการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร โดยบุคคลที่ถูกจูงใจในลักษณะนี้มักคิดว่า องค์กรไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้าปราศจากการมีส่วนร่วมของตน เมื่อพูดถึงการจูงใจทั้งสองประเภทนี้ เลยทำให้นึกขึ้นมาได้ถึง ประสบการณ์ในการคัดเลือกหรือสัมภาษณ์คนเข้าทำงานในระดับสูงของคุณ ธนินทร์ เจียรวนนท์ ที่สรุปได้ว่า บุคคลที่ถามเรื่องเงินเดือนก่อนอื่นเลย มักเป็นคนไม่เก่ง แต่คนที่เก่ง มักจะถามถึงอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งสำคัญในการจูงใจต่อการทำงานของคนในลักษณะนี้ คือการจูงใจที่มาจากรางวัลภายใน ถ้าผู้บริหารรู้ว่าพนักงานคนไหน ที่ถูกจูงใจจากรางวัลภายในมากกว่ารางวัลจาก ภายนอกแล้วละก็ ผู้บริหารต้องพยายามมอบหมายงาน และความรับผิดชอบให้พนักงานมากยิ่งขึ้นใน ระดับของความยาก ที่เหมือนกันกับงานเดิมที่พนักงานคนนั้นทำอยู่เพื่อทำให้ พนักงานไม่เกิดความเบื่อหน่าย หรือที่เรียกว่า Job Enlargement หรือให้ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่มากขึ้นในระดับที่สูงขึ้นแก่พนักงาน มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือที่เรียกว่า Job Enrichment หลายๆ คนบอกว่าพนักงานมักไม่มีความพึงพอใจที่ดีต่อการทำงานในองค์กร ทั้งนี้ เป็นเพราะเงินเดือนน้อย ซึ่งอาจเป็นจริงในบางกรณีแต่ไม่ใช่จะเป็นจริงเสมอไป เพราะความต้องการหรือทัศนคติในการทำงานของบุคคล มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามลำดับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น หรือตามสถานการณ์ ทำให้ผู้บริหารต้องทำความเข้าใจพนักงานของตนเองให้ชัดเจน และสร้างระบบการให้รางวัล เพื่อการจูงใจ หรือกระตุ้นพฤติกรรมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การออกแบบงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การให้ผลตอบแทนที่เป็นธรรม การสร้างบรรยายกาศในการทำงานที่มีความสุขและเป็นกันเอง หรือการสร้างค่านิยมในการทำงานที่ส่งเสริมการปฏิบัติงาน ที่มีประสิทธิภาพมาก ยิ่งขึ้น
การสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นในที่ทำงานทั้งจากภายใน และภายนอกเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้บริหารต้องนำมาปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ใช้เฉพาะแต่การให้เงินหรือผลตอบแทนแต่อย่างเดียว แต่การให้คำชมหรือการยกย่องก็เป็นอีกรูปแบบของการจูงใจ ที่สำคัญที่ต้องนำมา ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เกิดขวัญและกำลังใจที่ดีในการทำงาน
ดังที่ Mary Kay เจ้าของบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังได้กล่าวเอาไว้ว่า สองสิ่งที่สำคัญมากกว่า เงิน และ เซ็กส์ ก็คือ การระลึกถึงจดจำได้ (Recognition) และคำชม (Praise) อาจกล่าวได้ว่าผู้บริหารที่ได้กระทำ 2 สิ่งนี้แก่พนักงานของตนในจังหวะและเวลาที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ใช่การพูดเรื่อยเปื่อย หรือทำให้ดูเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระสำคัญ (ชมไปทั่ว) อย่างนี้ก็สามารถเกาะกุมใจพนักงานของตนได้แล้ว
ที่มา : //www.dmh.go.th ภาพจาก : //tickledbylife.com
Create Date : 18 มกราคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 18 มกราคม 2553 21:28:01 น. |
Counter : 1287 Pageviews. |
|
|
|