Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
ทำอย่างไรให้กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม


Assertiveness in action

Assertiveness หรือการแสดงออกอย่างเหมาะสม คือ
พฤติกรรมหรือการแสดงออกด้วยคำพูด หรือกิริยาอาการว่า เรามีความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยไม่ปิดบัง
หรือ อ้อมค้อม ด้วยความสุภาพตรงไปตรงมาในเวลาที่เหมาะสมโดยไม่ก้าวร้าว

การแสดงออกอย่างเหมาะสม
เป็นการรักษาสิทธิ์หรือเป็นการแสดงสิทธิ์ของมืออาชีพ ที่พึงกระทำในโลกของการจัดการสมัยใหม่

หากจะพูดถึง Assertiveness เราต้องเข้าใจถึงระดับการแสดงออกก่อนว่ามันมีอยู่สามระดับ ได้แก่
Passive คือไม่กล้าแสดงออก
Assertive คือแสดงออกอย่างเหมาะสม
Aggressive คือการแสดงออกอย่างก้าวร้าว


คุณพูนทรัพย์ จรรยสุภาพ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการอาวุโสด้านพัฒนาบุคลากรของธนาคารเอเชีย
เคยให้คำแปลที่ฟังแล้วกระชับและคล้องจองของทั้งสามระดับว่า
Passive คือก้าวล้า Assertive คือก้าวลํ้า Aggressive คือก้าวร้าว

ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น
เย็นวันศุกร์ หัวหน้าให้สมศักดิ์มาทำงานสำคัญในวันอาทิตย์นี้โดยไม่บอกล่วงหน้า
ในขณะที่สมศักดิ์นัดหมายกับลูกสาวแล้ว ว่าจะพาไปมอบตัวโรงเรียนใหม่ซึ่งนัดล่วงหน้ามาสองสัปดาห์แล้ว
ทั้งๆที่ไม่เต็มใจหากสมศักดิ์แสดงออกแบบ Passive เขาจะตอบด้วยสีหน้าเฝื่อนๆว่า “ตกลงครับ”

หากเขาเลือกแสดงออกแบบ Assertive เขาจะบอกว่า “ขอโทษครับผมต้องพาลูกไปมอบตัวโรงเรียนใหม่
ซึ่งนัดกันมาสองอาทิตย์แล้ว อย่างไรก็ตามผมขอเช็คภรรยาก่อนว่าเธอพอจะไปแทนได้ไหม
หัวหน้าหาคนอื่นสำรองไว้ด้วยครับ หากจำเป็นผมคงต้องไปด้วยตนเอง”

สุดท้ายหากเขาเลือกแสดงแบบ Aggressive เขาจะบอกด้วยกิริยาก้าวร้าวว่า
“ไม่ได้ครับวันอาทิตย์เป็น เวลาส่วนตัว หากจะให้มาทำงานต้องบอกล่วงหน้าเนิ่นกว่านี้ซิครับ”

คนไทยมีแนวโน้มที่จะแสดงออกแบบ Passive มากเพราะวัฒนธรรมความเกรงใจ
และคำว่าไม่เป็นไรของเรานั่นเอง

อย่างไรก็ตามในโลกธุรกิจทุกวันนี้ โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติ Assertive เป็นสิ่งจำเป็น แล้วเราจะฝึกได้อย่างไร

เริ่มต้นเราต้องตระหนักก่อนว่า การแสดงออกอย่างเหมาะสมนั้นเป็นเรื่องจำเป็น
ตัวอย่างง่ายๆ เช่น
เวลาประชุม เรามีความเห็นที่แตกต่างกับคนอื่นเราก็สามารถพูดออกมาได้ ไม่จำเป็นต้องเออออห่อหมก
ที่สำคัญแม้ว่าเราเห็นด้วยกับคนอื่น เราก็ต้องพูดออกมาเพราะเขาจะได้ทราบว่าเราคิดอะไร

ในสังคมการทำงานสมัยใหม่ที่เรามีเพื่อนร่วมงานจำนวนมาก ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศ
หรือระดับปริญญาโท หรือเคยทำงานในองค์กรข้ามชาติมาก่อน
คนเหล่านี้เขาคุ้นเคยกับการแสดงออกอย่างเหมาะสม มาแล้วทั้งนั้น
ยิ่งชาวต่างชาติละก็ อยากให้คนไทยกล้าแสดงออกมากว่านี้อีกหลายเท่าตัว

ที่เราอาจจะไม่รู้กันก็คือชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่เคยทำงานกับบริษัทข้ามชาติมาก่อน มักจะเข้าใจผิดว่า
การที่คนไหนไม่กล้าแสดงออกนั้น อาจจะเป็นเพราะไม่มั่นใจ อาย ไม่กล้า ซึ่งมีส่วนถูก
แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือเขาตีความในแง่ร้ายว่า ไม่รู้ ฉลาดน้อย หรือต่อต้าน จึงไม่แสดงออกมา
ซึ่งในสามกรณีหลังนี้ ทำให้เรามีความเสี่ยงต่อโอกาสก้าวหน้าในงานของเรา


แนวทางในการพัฒนาทักษะการกล้าแสดงออกก็คือ ฝึกฝน
โดยการพูดคนเดียวหน้ากระจกบ่อยๆ
หลังจากนั้นลองใช้เวทีการซื้อของ
ฝึกการแสดงออกอย่างเหมาะสมกับการต่อรองสินค้ากับร้านค้าย่อยพวก 199 บาทนั่นแหละ
หรืออาจละลองโทรคุยกับพนักงานขาย พวกที่ให้เบอร์โทรติดต่อขายสินค้าทางทีวีก็ได้

ลองฝึกต่อรอง บ่ายเบี่ยงดู การฝึกฝนในแบบต่างๆเหล่านี้ จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น
หลังจากนั้นเริ่มพูดแสดงความเห็นในที่ประชุมให้มากขึ้น ขอให้เชื่อมั่นในตนเอง
และเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมงานและฝ่ายตรงข้ามว่าเขายินดีรับฟังเรา
และควรเตรียมข้อมูลและเหตุผลพอสมควร แต่ไม่จำเป็นต้องรอจนมีข้อมูลมากมายจนสายเกินไป
ระมัดระวังภาษากายและน้ำเสียง ตรงไปตรงมาอย่างสุภาพ

มีคำพูดสำหรับมือใหม่ที่เรียกว่าการออกตัวแบบนอบน้อม เช่น
“ผมอาจจะผิดก็ได้ ขอแสดงความเห็นว่า...”
“ขอผมช่วยคิดดังๆหน่อยนะครับ ผมคิดว่า...”
“ขออนุญาตแสดงความเห็นหน่อยครับ ผมคิดว่า...”
“ขอคิดแบบเร็วๆครับ ผมเสนอว่า...”
“อย่าถือสากันนะครับ หากความเห็นผมอาจจะไม่ตรงกัน ผมคิดว่า...”

ที่สำคัญก็คือ คนที่กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมแล้วนั้น
ควรสนับสนุนและให้กำลังใจกับเพื่อนที่ยังไม่กล้าแสดงออก โดยการรอให้คนอื่นแสดงความคิดเห็นก่อน
ชมเชยความคิดเขา เช่น บอกว่า “น่าสนใจครับ” สำหรับความเห็นพื้นๆ
หรือหากเห็นว่าความเห็นนั้นดีจริงก็ชมไปเลยว่า “ความเห็นนี้ดีมากเลย”

อย่าด่วนตัดหน้าแสดงความคิดเห็นอยู่คนเดียว คนที่ Assertive อยู่แล้วนั้น
ต้องยกระดับ โดยทำหน้าที่เป็น Coach คอยกระตุ้นให้คนอื่นๆกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
เพราะท่านพูดมากอยู่แล้ว และหากยังพูดมากต่อไปก็จะเหนื่อยอยู่คนเดียว
สู้ฝึกเพื่อนเราให้กล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วท่านก็ไปรับภาระกิจที่ยากขึ้นไปอีก
ซึ่งหมายถึงคุณค่าในตัวท่านมากขึ้น และพร้อมจะรับผลตอบแทนที่มากขึ้นได้


ที่มา : //www.hrtothai.com


Create Date : 24 ธันวาคม 2552
Last Update : 24 ธันวาคม 2552 20:13:53 น. 5 comments
Counter : 3861 Pageviews.

 
ชอบ blog นี้มากค่อ ขอบคุณที่นำเนื้อหา ข้อความดีๆ ให้อ่านค่ะ


โดย: นิน IP: 58.11.101.17 วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:10:41:39 น.  

 
เป็น blog ที่ดีมากเลยนะครับ
ขอบคุณมากครับในเนื้อหาที่มีประโยชน์อย่างนี้


โดย: pUngpOuNd IP: 10.0.1.195, 58.8.202.169 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:02:22 น.  

 
นำไปใช้ได้จริง มีประโยชน์ดี


โดย: แป้ง IP: 27.130.93.221 วันที่: 5 เมษายน 2555 เวลา:7:57:21 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีดี ทั้งหมดนี้


โดย: ริน IP: 58.9.82.44 วันที่: 30 กรกฎาคม 2555 เวลา:23:56:48 น.  

 
ผมว่าเป็นเนื้อหาที่ดีมากๆเลยเพราะตอนนี้ผมทำงานอยู่โรงเเรมเเละต้องการความกล้าเเสดงออกมาก ขอบคุณครับ


โดย: สมาพล IP: 125.27.87.26 วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:23:00:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.