ทำอย่างไรจึงจะดึงดูดผู้สมัคร ให้มาสัมภาษณ์งานกับเรา
ผู้ทำบันทึกขึ้นหัวข้อนี้ ก็เพราะเห็นว่าหลาย ๆ ท่านประสบปัญหาว่า เมื่อประกาศรับสมัครงานแล้ว มีผู้สมัครให้ความสนใจส่งใบสมัครทั้งทางจดหมาย และทางอีเมล์เข้ามามากมาย แต่พอเวลาให้มาสัมภาษณ์กลับไม่มา ทั้ง ๆ ที่บางรายยืนยันการรับนัดแล้ว พอถึงเวลากลับไม่มาก็ยังมี
ผู้ทำบันทึกข้อเสนอแนะการแก้ไขจากภายในองค์การ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะปรับปรุงได้ง่ายและเร็วกว่า เช่น เคยเขียนจากประสบการณ์และความรู้สึกนะครับ สำหรับผู้ทำบันทึก ความมีชื่อเสียงขององค์การไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะทุกที่มีก็มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณการรับพนักงานอยู่แล้ว ผมมองว่าการสื่อสารระหว่างองค์การกับผู้สมัครต่างหาก ที่น่าจะเป็นประเด็นหลัก
ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้สื่อสารในที่นี้ส่วนใหญ่ก็คือฝ่าย HR นั่นแหละ ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความรู้สึกให้ผู้สมัคร อยากมาสัมภาษณ์กับองค์กรของเรา ที่นี้จะทำอย่างไรที่จะสื่อสารซึ่งก็คือการใช้โทรศัพท์นั่นแหละ
ผู้ทำบันทึกมองว่ามีความสำคัญมาก ๆ เพราะจะเป็นเหตุถึงขั้นให้ผู้สมัครงานตัดสินใจว่าจะมา หรือไม่มาดี และจะขอพูดรวมไปถึงขั้นตอนที่เมื่อผู้สมัครมาแล้ว จนสัมภาษณ์เสร็จจะกลับ เพื่อให้ครบถ้วน และจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์การได้เป็นอย่างดี ขอเสนอให้พิจารณาดูดังนี้
★ 1. คำพูดที่ใช้ เคยเห็นใน web hr center นี้บ่อย ๆ เลยขอมายกตัวอย่างประกอบ เช่น “เรียกมาสัมภาษณ์” กับ “เชิญมาสัมภาษณ์” สองคำนี้วัตถุประสงค์เหมือนกัน แต่การสื่อออกไปให้ความหมายต่างกันมากทีเดียว ผู้สมัครก็คือบุคคล ๆ หนึ่งที่เห็นประกาศโฆษณารับสมัครงานของเรา และเห็นว่าตัวเขามีคุณสมบัติเพียงพอ จึงส่งเอกสารสมัครงานมาให้เราพิจารณา เขามีความรู้ความเข้าใจในองค์การของเราน้อย
ดังนั้นการสื่อสารเมื่อแรกเริ่ม จึงเป็นการสร้างภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในใจเขา ใช่ไหมครับ อยากให้ใช้ใจตัวเราเองสมมติว่าเป็นตัวผู้สมัคร แล้วตอบตัวเองดูนะครับว่าชอบคำพูดแบบไหน
★ 2. การนัดหมาย ส่วนมากจะนัดแล้วนั่งรอเลย มา-ไม่มา ขอลุ้นเอาในวันสัมภาษณ์เลย ถ้าผู้สมัครไม่มาก็แจ้งผู้สัมภาษณ์ว่า “นัดแล้ว ไม่มาค่ะ/ครับ” ง่ายดีใช่ไหมครับ ความผิดเป็นของผู้สมัคร แต่คุณลืมไปอย่างหนึ่งว่า หากเกิดซ้ำ ๆ บ่อย จะมีคำถามจากผู้สัมภาษณ์ว่า “แล้วคุณคิดหาทางแก้ปัญหานี้อย่างไร” คุณนั่นแหละจะเป็นผู้เสียหายเอง
ขอเสนอว่า ถ้าเราแค่เพิ่มการโทรศัพท์อีกสักครั้งในช่วงใกล้วันนัดสัมภาษณ์ นอกจากจะเป็นการยืนยันการนัดหมายซ้ำแล้ว ยังแสดงถึงความใส่ใจในตัวผู้สมัคร อีกทั้งยังพอตอบคำถามผู้สัมภาษณ์ในข้างต้นได้อีกใช่ไหมครับ(ควรจดวัน-เวลา ที่โทร.ไว้เป็นหลักฐานด้วย) อีกทั้งเราเองยังมีเวลากลับตัวหากผู้สมัครท่านนั้นจะไม่มา ก็ยังสามารถเชิญผู้สมัครลำดับรองลงไปได้อีกด้วย จะได้ไม่เสียเวลาผู้สัมภาษณ์ ไม่น่ายากเกินไปใช่ไหม
★ 3. น้ำเสียงระหว่างการติดต่อ คำพูดที่ฟังดูดี น้ำเสียงที่หวาน – นุ่ม ชวนฟัง เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในการใช้ดึงดูดผู้สมัคร ของแบบนี้ฝึกกันได้นะครับ และยิ่งหากสามารถให้ข้อมูลขององค์กร – สวัสดิการที่ให้พนักงานอย่างคร่าว ๆ หรือข้อมูลที่เป็นจุดเด่นขององค์กร และทั้งนี้ต้องเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นเท็จนะครับ อนึ่ง คนที่พูดห้วน ๆ หรือ ขาดทักษะของการให้บริการ ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะให้มาทำงาน ณ จุดนี้
★ 4. การแนะนำเส้นทาง เพื่อการเดินทางมาสัมภาษณ์ของผู้สมัคร การช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งผู้สมัครและองค์กรด้วยอีกประการหนึ่ง
★ 5. การให้การต้อนรับ ควรเริ่มกันตั้งแต่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(เมื่อแลกบัตรเข้ามา), เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ (การให้การต้อนรับ ระหว่างนั่งรอ), แม่บ้าน(กาแฟสักแก้ว หากประหยัด น้ำสักแก้วก็จะเป็นพระคุณยิ่งแล้ว) เจ้าหน้าที่บุคคลที่ทำหน้าที่ให้กรอกใบสมัครและทดสอบ(ถ้ามี) และการให้คำชี้แจงเรื่องที่จำเป็นแก่ผู้สมัคร ทั้งหมดที่กล่าวมา ควรอบรมให้มีความรู้ในข้อมูลของบริษัท พร้อมรอยยิ้มแนบด้วยเสมอ นอกจากจะเป็นการแสดงความมีน้ำใจ ยังเป็นตัวบอกอุณหภูมิในองค์กรของคุณได้อีกด้วย
★ 6. สถานที่ที่ให้ผู้สมัครกรอกใบสมัคร ควรเป็นที่มิดชิดพอควร และหากตกแต่งให้ดูดีด้วยก็จะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี หากไม่มีจริง ๆ ก็กรอกใบสมัครตรงหน้าโต๊ะเราที่แหละ และควรขอโทษเขาเล็ก ๆ ที่ทำให้ไม่สะดวก จะมีความรู้สึกเข้าใจและให้อภัยจากผู้สมัคร เมื่อเขาได้ยินคำขอโทษ สิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจมาก ๆ คือสถานที่ต้องดูสะอาด
★ 7. สถานะของผู้สมัคร ถ้ามีผู้สมัครงานในตำแหน่งระดับสูง ๆ ควรที่ระดับ supervisor หรือผู้จัดการจะไปต้อนรับเอง ถือเป็นการให้เกียรติผู้สมัครอีกทางหนึ่ง อย่าให้พนักงานระดับเจ้าหน้าที่ไปต้อนรับเด็ดขาด
★ 8. แสดงความขอบคุณที่สละเวลามา ควรทำเป็นให้เป็นธรรมเนียม การเดินมาส่งและกล่าวขอบคุณ ยอมสละเวลาเพียงเล็กน้อย และคำพูดอีกสองสามคำ จะสร้างความประทับใจให้กับผู้สมัครได้เป็นอย่างดี
★ 9. พาหนะรับ-ส่งหรือค่าพาหนะ บางครั้งหากสถานที่ตั้งของเราอยู่ห่างไกลออกไป การเดินทางไม่ค่อยสะดวก การจัดรถไปรับ ณ จุดที่กำหนดในเวลามา และกลับออกไป ก็เป็นอีกหัวข้อหนึ่ง ที่จะช่วยกระตุ้นผู้สมัครให้มาสัมภาษณ์งานกับเรา
ผู้ทำบันทึกเองเคยทำงานอยู่ที่หนึ่งซึ่งกำหนดไว้เลยว่า หากเชิญผู้สมัครมาจากต่างจังหวัด จะมีเงินช่วยเหลือเป็นค่าเดินทางให้จำนวนหนึ่ง
★ 10. การแจ้งผล ข้อนี้สำคัญมาก ลองนึกถึงจิตใจของผู้สมัครว่า เมื่อเสียเวลามาสัมภาษณ์แล้วย่อมต้องอยากรู้ผล ธรรมชาติของคนเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว การแจ้งผลทำได้หลายวิธี เช่น การแจ้งผลทางจดหมาย, การแจ้งทางโทรศัพท์ การแจ้งผลทาง e-mail สมัยนี้องค์การส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน มักจะใช้วิธีเงียบ ถือเป็นการรับรู้โดยปริยายว่า ผู้สมัครไม่ได้งานที่นี่แล้วนะ ลองแจ้งผลดูสิครับ สำหรับผู้สมัครทุกท่าน ผมว่ามันจะเป็นผลบวกให้แก่องค์การของคุณได้เป็นอย่างดี
บทสรุป การดึงดูดผู้สมัคร โดยการสร้างความรู้สึกดี ๆ ซึ่งในช่วงแรก ๆ จะเป็นการใช้โทรศัพท์ ซึ่งจะได้ยินแต่เสียง เสียงบ่งบอกความรู้สึกได้ ให้เขารู้สึกว่าเขาได้รับเกียรติ จะทำให้เขาอยากมาสัมภาษณ์
ทั้งหมดที่กล่าวมา หากมองภาพรวมจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสื่อสาร เน้นไปที่ผู้ที่มีหน้าที่ติดต่อกับผู้สมัครงาน การให้บริการ และ ความมีน้ำใจ อย่าหลงลืมคำว่า “ใจเขา ใจเรา” และควรเข้าใจด้วยว่าการบอกต่อของผู้สมัครเกี่ยวกับองค์การของเราคือ การประชาสัมพันธ์ทางหนึ่ง ที่มีผลต่อภาพลักษณ์ขององค์การเป็นอย่างยิ่ง........
ที่มา : //www.hrtothai.com
Create Date : 29 มกราคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2553 21:08:43 น. |
Counter : 1703 Pageviews. |
|
|
|