ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 286 "ถูกปฎิเสธ"
โจทย์โดย คุณ toor36 พออ่านหัวข้อปั้บ ผมนึกถึงเรื่องเรื่องนึกขึ้นมาทันทีเลยครับ เรียกว่าเป็นนิยามของคำว่า "ถูกปฎิเสธ" ของผมเลย บอกเลยว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ ร่วม 7 ปีแล้ว แต่ความเจ็บแสบวันนั้นยังจำได้ดีเลยครับ 55555 คันมืออยากจะเล่าเป็นเรื่องแรก...แต่มันจะเปิดเรื่องดุเดือดเกินไปหน่อย จะเอาเรื่องฮาๆ ที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากก่อนดีกว่า
เอาจริงๆ ผมอาจจะเป็นคนชิลก็ได้ เพราะรู้สึกว่าในชีวิตเราผิดหวังน้อยมาก ๆ เรียกว่านับครั้งได้ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเสียอกเสียใจอะไร เออ....จีบไม่ติด คือ ถูกปฎิเสธ นั่นแหละ 55555 แต่นี่แหละ....เรื่องที่ผมจะเล่าคือการ ถูกปฏิเสธ จริงๆจังๆ ที่ผมสัมผัสความรู้สึกเฟลของการถูกปฏิเสธได้เลยฮะ
เริ่มจากเรื่มซอฟๆ ก่อน แต่ก็เฟลนะครับ  เรื่องแรก
สมัยปี 3 ช่วงปิดเทอมกำลังจะขึ้นปี 4 วันธรรมดามจะฝึกงานอยู่แถวพระราม 4 เออ...ผมฝึกงานเป็นหนุ่มออฟฟิศฮะ เรียกว่าถ่ายเอกสารคล่อง ชำนาญทางกว่าแมสเซนเจอร์ เสื้อแน่นเลยครับเพราะของกินเยอะมาก แถมมีเพื่อนไปด้วยกัน 3 คน เรียกว่าเป็นแก๊งเด็กฝึกงานตัวแสบที่หนีไปนั่งกินข้าวอยู่ละลายทรัพย์บ่อยมาก ไอ่ที่เล่าข้างบนไม่เกี่ยวกับเรื่อง แค่ไม่เคยเล่าเรื่องฝึกงาน
และช่วงนั้นผมจะมีงานถ่ายรายการที่สตูดิโอ แถวห้วยขวางด้วย แล้วพี่ในนั้นเค้าก็บอกมาว่า เออจะลองถ่ายviralโฆษณาไหม จะมีเคสวันอาทิตย์ที่โรงแรมนี่ๆ ติดต่อพี่คนนี้ส่งรายละเอียดเข้าไปได้ ตอนนั้นตื่นเต้นว่าจะถ่ายโฆษณาจริงหรอ หุย แม่ง ตังเยอะแน่นอน 5555 เลยติดต่อพี่ที่ดูแลจัดหาไป ถามรายละเอียดงาน เอ๊ะ! ทำไมbudget แค่นี้วะ มีพูดด้วย แต่ก็เอาเพราะปรึกษาที่บ้านแล้วว่า อาจจะได้งานอย่างอื่นต่อก็ได้ ก็ส่งรายละเอียดไปครับ แล้ววันนั้นผมก็นัดน้องชายที่เป็นลูกน้าไว้ ว่าให้ไปเป็นเพื่อน แคสเส็ดจะไปเล่น ice skate กันต่อที่ Central world

ซึ่งน้องชายกับผมอายุห่างกัน 2 ปี แต่มันสูงกว่าผมนะ น่าจะ 184-185 ได้ ไปถึงโรงแรมก็มีคนมาแคสหลายคนอยู่ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ผมเดินเข้าไปพร้อมกับน้องชาย แต่เค้าไปติดต่อคนเดียว พี่เค้าเลยบอกว่า มาด้วยกันรึป่าวคะ ผมบอกว่า ใช่ครับ น้องชาย พี่เค้าก็คุยกับพี่อีกคน แล้วบอกว่า น้องสนใจแคสด้วยไหม เข้าไปพร้อมกันเลยก็ได้ ผมก็ได้ๆๆ เดี๋ยวผมชวนน้องเอง แล้วก็บอกน้องว่าเข้าแคสด้วยกัน ทีแรกน้องก็ไม่เอาไม่เคย ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย แต่สุดท้ายก็เข้าไปพร้อมกันครับ โดยเป็นคิวผมก่อน หลังจากนั้นก็เป็นน้องชาย ผมยืนดูอยู่ น้องมันก็ขำๆ เขินๆ เป็นตัวมันนั่นแหละ เส็ดก็ไปเล่นไอซ์กัน จนผ่านไปน่าจะ 2 วัน น้องชายโทรมาบอกว่า "พี่ปริ๊นซ์ไอ่ที่ไปวันนั้นน่ะ ผมได้วะพี่"

อ้าวเจด! สุดยอด งานแรกได้ Viral เลยโคตรเจ๋ง! ก็เลยถามว่าคุยรายละเอียดกันหรือยัง ก็คุยกันมาแล้ว โอเคครับเลยบอกว่า ตกลงไปเลย
งวดนั้นไอ่คนที่ตั้งใจไปแคสอย่างผม ไม่ได้งาน แต่คนไปเป็นเพื่อนไม่ได้ตั้งใจอย่างน้องชาย ได้แทนครับ ไม่เสียใจนะครับ ดีใจที่น้องเราได้ แค่รู้สึก เฮ้ยอะไรวะเนี้ย!!!!!!!!! 5555
แต่น้องชายก็น่าจะได้จริงๆ ครับ ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วหลายคนเคยเห็น Viral นี้บท BTS ครับ เพราะผมก็เห็น ยังยิ้มทุกครั้งที่เห็นโฆษณา เป็นการถูกปฎิเสธงานที่.....เสียดาย แต่ยิ้มเสมอที่นึกถึง แล้วน้องก็ได้งานภาพนิ่งต่ออีกซักพัก ก่อนน้องจะหยุดเพราะเรียนหนัก ********************
เรื่องที่ 2
เรื่องนี้แหละที่ผมบอกว่าฮาร์ดคอร์หน่อย เรียกว่าเจ็บปวด...ไม่เจ็บปวด แต่เจ็บแสบบบบ ที่สุดที่เคยโดนปฎิเสธ เกิดขึ้นตอนที่เรียนจบปี 4 สด ๆ ร้อนๆ ยังไม่ทันรับปริญญา ยังไม่จบด้วยฮะ เพราะเกรดเทมอสุดท้ายยังไม่ออก เป็นการไปสมัครงานครั้งแรกในชีวิต โดยออกใบเกรด 7 เทอมก่อน บริษัทนั้นเป็นบริษัทชื่อดังเลยครับ เรียกว่าอันดับต้นในวงการ เรียกเด็กปี 4 จบใหม่ให้ไปสมัคร แต่....เอาแค่ 2 มหาลัยเท่านั้น ผมก็เพื่อนอีก 10 กว่าคนก็ไปสมัคร เริ่มจากการทำข้อสอบ IQ แล้วความรู้ทั่วไป และเริ่มมีคนทะยอยเข้าไปสัมภาษณ์ เพื่อนที่ออกมามักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ถึงได้กุก็ไม่เอา" แล้วออกไปรอข้างนอก หมายถึงนอกตึกเลยครับ

จนถึงคิวที่ผมเข้าไปสัมภาษณ์ กรรมการ 3 คนนั่งเรียงกันอยู่ หน้าตาเฉยๆ ผมสวัสดี เค้าเรียกให้นั่ง แล้วรู้ไหมครับว่าคำถามแรกที่กรรมการคนกลางพูดกับผมคืออะไร "(ชื่อมหาลัย)ใช่ไหม" ผมตอบ ใช่ครับ แล้วกำลังจะแนะนำตัว เค้าก็พูดขัดขึ้นมาว่า "หึ....เด็ก ม. นี้มีแต่พวก aggressive" ในใจผมตอนนั้นคือ งงมากครับ อะไรวะเนี้ย คืออย่างที่ผมบอกเสมอว่า บุคลิกผมเป็นคน nice ครับ คือ nice กว่ากุ ก็ประตูเซเว่นแล้ว จะได้ยินดีต้อนรับทุกคน ผมเลยงงมากกว่า กุ...ก็ยังไม่ได้พูดอะไรซักคำเลย แต่ก็ยังยิ้มๆ แล้วแนะนำตัวต่อ จนจบ พอจบ กรรมการคนกลางที่ก้มอ่านข้อมูลผมอยู่ตลอดเวลา ก็พูดว่า "IQ ก็ทำได้เยอะ ข้อสอบก็ได้คะแนนดี ทำไมไม่ได้เกียรติ์นิยม" ผมก็บอกว่า คือผมไม่ได้ดรอปวิชาที่ตกมีนครับ อยากจะพยายามดู เลยได้ D คือพูดไปก็ยิ้มเขินๆ ไป ไม่ได้ทำอะไรไม่สุภาพเลย กรรมการข้างๆ เลยถามเป็นงานเป็นการหน่อย คุยดีมากๆ ด้วย ประมาณ ฝึกงานที่ไหน แล้วคุณชอบหรือเปล่า อะไรที่คิดว่าต่างจากที่เรียนมา พูดถึงกิจกรรมใน portfolio หน่อย ถ้าต้องเป็นหัวหน้าคนที่อายุมากกว่าจะเป็นยังไง ผมพูดตอบอยู่ซัก4-5 คำถาม กรรมการคนกลางก็พูดขึ้นมา พร้อมท่าทางรำคาญ "ในคณะได้เกียรติ์นิยมเยอะไหม" ผมตอบว่า ก็มีหลายคนครับ "ไปเอาเพื่อนเกียรติ์นิยมมาสมัครไป เชิญครับ"
เชิญครับ!!! คือเชิญลุกออกไปนอกห้องนะครับ สิ้นสุดการสัมภาษณ์!!! ผมงงมาก งงเชี้ยๆ ก็ขอบคุณที่ให้เวลา แล้วลุกเดินออกมา คนกลางก็เรียกผม "คุณ....." ผมหันกลับไป ไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไง ยังยิ้มไหวไหม หรือว่า หน้าเสียไปแล้ว น่าจะเสียแหละครับ แต่ก็ตอบรับ "ครับ" "คุณรู้ไหมว่าxxxสีอะไร" ขอเซนเซอร์ผลิตภัณฑ์นะครับ พูดไปรู้กันทั้งประเทศ ผมตอบว่า "สีน้ำตาลครับ" คนกลางส่ายหน้า แล้วบอกว่า "สีxxx" เซนเซอร์สีครับ รู้ทั้งประเทศเหมือนกัน จังหวะนั้นผมหน้าชามาก มือสั่นปากสั่น บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไรจากการเรียกผมมา แล้วพูดแบบนี้

ผมเดินออกจากห้องผ่านเพื่อนที่รอสัมภาษณ์อยู่ อาการเหมือนคนอื่นๆ ที่เดินออกมาก่อนหน้านี้ แล้วออกไปรอข้างนอกกับเพื่อนคนอื่นๆ รอไปกินข้าวพร้อมๆ กัน ทุกคนโดนคล้ายๆ กันหมด เพื่อนผู้หญิงนี่เดินร้องไห้ออกมาจากห้องก็มี ทุกคนออกมาด้วยความกระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าโกรธ เจ็บใจ ผิดหวัง หรืออะไร ผมยังไม่รู้ตัวเองเลย 5555 รู้แต่อาการเหมือน move on ไม่ได้ 55555
ประโยคสุดท้ายเป็นประโยคปฏิเสธที่....เหมือนเอามีดมาปักกลางอก down มาก สิ้นหวัง จะโกรธก็ไม่สุด จะเสียใจก็ไม่รู้จะเสียใจตรงไหน เคว้งคว้างว่างเปล่ามาก เสียทรงไปหลายวัน รู้สึกว่าสิ่งที่ผ้ใหญ่พูดกับว่า "จบจากที่ไหนก็ไม่สำคัญ ทำงานเก่งเป็นพอ"
แม่งไม่จริง!!!!!! เหมือนที่บอกว่า ไม่พบล็อตตารี่ขายเกิน 80 บาท หรือ ไม่พบรถเมล์ควันดำใน กทม นั่นแหละครับ!!!!

ระบบสถาบัน ระบบรุ่นพี่รุ่นนอก เลือกมหาลัยแม่งยังมีอยู่ แถมยังไม่ใช่แค่สถาบันการศึกษา แต่เรื่องเกียรตินิยมด้วยครับ จริงๆ คนไม่ได้เกียรตินิยมไม่ใช่ว่าจะทำงานไม่เก่ง คนที่ไม่ได้จบจากสถาบันดังไม่ใช่ว่าจะทำงานไม่เก่ง แถมผมนี่ไม่เคยคิดเลยว่าว่าจะต้องมาเจอกับการกัดกันสถาบัน ถึงจะเจอก็คิดว่าเราไม่น่ามีปัญหานี้ พร้อมกับเจอความจริงว่า จบ ป.ตรี แทบไม่มีงานทำ!!!
แล้วผมก็หายจากการสมัครงานไปหาประสบการณ์ซักพัก ก่อนจะ.....มาบริษัทโทรไปเรียกสัมภาษณ์หลายแหล่งมาก ผมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ไป แล้วได้ด้วยครับ เลยต้องบินกลับมาเริ่มงาน ที่ทำงานแรกในชีวิต 55555
Create Date : 20 กันยายน 2564 |
|
31 comments |
Last Update : 21 กันยายน 2564 15:50:55 น. |
Counter : 2046 Pageviews. |
|
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณเริงฤดีนะ, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณThe Kop Civil, คุณRain_sk, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณtuk-tuk@korat, คุณmultiple, คุณkatoy, คุณโอพีย์คุณนายกุ๊งกิ๊ง, คุณlovereason, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณnewyorknurse, คุณSertPhoto, คุณ**mp5** |
| |
โดย: ทนายอ้วน 20 กันยายน 2564 15:08:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 20 กันยายน 2564 17:39:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 20 กันยายน 2564 19:10:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 21 กันยายน 2564 0:33:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 21 กันยายน 2564 6:53:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 21 กันยายน 2564 13:29:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 21 กันยายน 2564 17:31:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 21 กันยายน 2564 19:57:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 21 กันยายน 2564 20:05:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 22 กันยายน 2564 6:52:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 24 กันยายน 2564 15:43:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 24 กันยายน 2564 19:58:18 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
แหม.. ไม่นับตัวเองเล้ยยยย..
ขอทำงานแว๊บเดวมาอ่าน..