"ตอนจะอายุขึ้นเลข 3 รู้สึกยังไงอ่ะ"
คำถามจากพัท เพื่อนที่แผนกถามขึ้นมา เพราะอยากจะเตรียมใจอายุ 30 บ้างในปีหน้า โถ่....ตั้งปีหน้า แถมปลายปีอีก มีเวลาเตรียมใจอีกนาน สำหรับผม มันก็....เสียดายเลข 2 ด้านหน้านิดนึงครับ และรู้สึกว่ากำลังถึงวัยสึกหรอ จะมาซ่าเหมือนตอน 20 กว่าไม่ได้แล้ว ผิดกับตอนจะอายุ 20 อันนั้นดีใจมากครับ อยาก 20 มาก รู้สึกเรากำลังจะเปลี่ยนจากเด็กผู้ชายเป็นผู้ชายจริงๆ ซักที การบรรลุนิติภาวะก็เหมือนการปลด Gold skill ครับ 55555 แต่.....เข้าผับ ร้านเหล้าแบบไม่ต้องคอยกลัวกัปตันหิ้วไปทิ้งซักที
ประเด็นวันนี้ไม่ได้อยู่ที่อายุเท่าไหร่ครับ แต่เพราะคุยเรื่องอายุ ผมเลยมาย้อนนึกได้ว่า เฮ้ย....เราทำงานมา 9 ปีแล้วหรอวะ แถวอยู่บริษัทนี้มาจะร่วม 9 ปีแล้วซะด้วย นี่ไม่ใช่บริษัทแรกที่ผมอยู่นะครับ และจริงๆ แผนไม่ใช่แบบนี้
ผมเรียนจบปั้บก็เอาหน้าไปโดนบริษัทปูนสีหวานด่ามาแทบจะทั้งคณะ "รู้ไหมถุงปูนสีอะไร"
สรุปก็ร่อนไป UK ตามเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน เหมือนเป็นสูตรสำเร็จว่าจบวิศวะนี้แล้วต้องไปเดินเตร่เป็น UK Boy ซักปีก่อน ใช่ครับ....แผนคือ "ซักปี"
ระหว่างนั้นเหงาๆ จะเริ่มรู้จักเวปหางาน ที่เรากรอกประวัติทิ้งไว้ ผมก็เริ่มทำไว้กะว่าจะได้มีใช้ตอนที่กลับไปหางานแล้ว แต่อยู่ที่โน้นได้ 3 หรือ 4 เดือนไม่แน่ใจ ทะลึ่งได้งานเฉย จากการสัมภาษณ์ออนไลน์ด้วยครับ เพราะผมบอกว่าตัวผมอยู่ UK ทีนี้พอเค้าถามว่าแล้วจะกลับมาเริ่มงานได้ไหม ก็ดันดีใจบอกว่า "ได้ครับ" งานนี้เลยต้องบ๊ายบายเพื่อนๆ บินกลับมาแบบงงๆ แต่ที่พีคกว่านั้นคือ.....งานแรกที่ได้โคตรทรมานทรกรรม ตอนนั้นร้อนวิชาอยากทำงานพวก On site engineer ครับ กับเงิน......... 12K ไม่มี บวก บวก ปรากฎว่า....3-4 เดือนแหละ.....ลาออก!!!!! ซวยชิบหาย.....กุแม่งไม่น่าบินกลับมาทำงานนี้เลย
ออกมาก็ถ่าย Extra ไป 2 งาน ได้ตังมา 1500-2000 ช่วงนั้นเพื่อนหลายคนเริ่มชวนว่า "ไปเป็นสจ๊วตเถอะ" "สอบนักบินกันเถอะ" "ไปสอนพิเศษเถอะ" "เป็น Sale Engineer เถอะ" ตอนนั้นเหมือนเริ่มรู้จักตัวเองว่า เราน่าจะเอาดีด้าน Sale Engineer ดูว่ะ อยู่ๆ มีบริษัทเรียกสัมภาษณ์ Location ก็ไม่ไกลมาก ไปสิครับรออะไร....
คราวนี้ผมสี Aim ในใจว่าอะไรที่อยากทำอะไรที่ไม่อยากทำ พอคุยทั่วไปเส็ดผมก็เปิดว่า สนใจเป็น Sale Engineer แต่คำตอบที่ได้คือ "ที่นี่ไม่มีตำแหน่ง sale Engineer" ชิบแล้ว.... "แต่ลองฟัง JD ดูก่อนไหม" ฟังแล้วก็.....ลองสัมภาษณ์กับที่แผนกดูก่อนก็ได้
แล้วเอาจริงๆ ครับ ใจผมตอบว่า "ตกลง" ตั้งแต่แรกเจอคนที่เข้ามาสัมภาษณ์เลย ไม่ใช่สาวสวยนะ 5555555 อย่าเข้าใจผิด แต่คนที่เข้ามาคือ คุณ VP กับพี่ ผจก คนเก่า ที่ลาออกไปนานแล้ว ทั้ง 2 คนใส่เชิร์ตสีขาว กางเกงดำ รองเท้าหนัง และมีความดูดีมาก ๆ ดูดีแบบที่ผู้ชายด้วยกันรู้สึกว่า เฮ้ย! ทำไมดูดีจังวะ บุคลิกดีมากๆ การนั่งการพูด การยิ้มน้อยๆ สายตา หน้าตา ผิวพรรณ เป็นผู้ชาย 2 คนที่ดูเฟอร์เฟคมาก ไม่ได้หล่อพี่ติ๊ก แต่ดูเป็นคนมีสเหน่น่ามอง "คุณพูดอเมริกัน แต่กลับมาจาก UK น่ะหรอ" จำคำถามนี้ได้เลย ในใจผมคือ "ก็กุพูดอเมริกันมาทั้งชีวิต ไป3เดือนจะได้ติดอะไรมา" แต่ผมตอบ "ครับ" แล้วแค่ยิ้มเบาๆ เท่านั้น "คุณต้องลองหันพูดให้ช้าลงนะ การพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดกับจะทำให้คุณดูดี" นั่นคือแนะนำจากคุณ VP หลังจากจบการสัมภาษณ์ทั้งไทยทั้งอังกฤษ ตรงนั้นผมว่าไอ่งานนี้ต้องตอบโจทย์ชีวิตผมแน่นอน ไม่ได้นั่งโต๊ะ ไม่ทำงานจำเจ ออกไปเมื่อไหร่ก็อิสระ ฟังยังไงก็เหมือน Sale Engineer มีเงินเดือนแน่นอนที่ดี แต่ไม่มีค่าคอมฯ และไม่ต้องทำยอดเหมือน Sale
ขับรถกลับมายังไม่ทันถึงบ้าน ทาง HR ก็ตอบกลับมาว่า "มาเริ่มงานเดือนหน้าได้เลยนะคะ" เย้ยยยยยยย งวดนี้ดีใจมาก ตอบตกลงทันทีไม่มีลังเล คุยเงินเดือน อะไรเรียบร้อยทั้งที่ขับรถอยู่งี้แหละ พอเริ่มงานวันแรก มาถึงแผนกนี่ มีพี่อีก 3 คนที่เป็นสมาชิกในแผนก ทุกคนดู Nice มาก และดูแลน้องใหม่อย่างผมดีมากๆ แต่ก็ไม่พลาดการถูกรับน้องด้วยการ ห้ามพูดไทย 2 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลที่ว่าทำงานต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารที่ชัดเจน เราคนไทยไม่ค่อยได้พูดอังกฤษ ก็มาพูดตอนนี้เพื่อเรียก Speaking skill หลักจากนั้นก็ถูกส่งไปอบรมเรื่อง Safety และที่สำคัญคือ.... Workshop การเจรจาต่อรองและโน้มน้วงจิตใจ 5555555 ส่วนอื่นๆ พี่ในแผนกจะแนะให้ เช่น นั่งประชุมยังไงให้ดูดี มือเอาไว้ตรงไหนดีเวลาพรีเซ็นต์งาน รวมถึงโกรธยังไงไม่ให้ดูโกรธ 55555
และทุกอย่างในงานนี้ก็ตรงกับที่ผมตามหามากๆ ออกไซต์บ้าง นั่งออฟฟิศบ้าง เจอคนมากมาย เดินทางบ้าง ซึ่งก็เน้นใกล้ๆ ไม่ได้ห่างไกลมาก นานๆ ถึงจะไปค้างไกลๆ ซักที อิสระเหมือนอย่างที่คนรุ่นผมต้องการ จะแวะ จะนั่ง จะกิน อะไรก็ได้ ทำงานเส็ดแวะนั่งคาเฟ่ได้ แวะกินข้าวดีๆ ได้ แวะเดินห้างเล่นได้
ที่สำคัญคือ รายได้สมเหตุสมผล (แต่บางทีเหนื่อยมากก็รู้สึกไม่คุ้มตาย) สังคมที่แผนกดีมาก เราอยู่กันแบบครอบครัว และเป็นเพื่อนที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน แต่เป็นเพื่อนเหมือนที่หาได้จากสมัยเรียนเลยครับ มีพี่มีน้องที่รักกัน ดูแลกัน จริงๆ และเจ้านายดีมากๆ ครับ คือนายก็เข้าใจธรรมชาติของ เด็กหนุ่มๆ ที่อยู่ด้วยกันเยอะๆ ว่ามันจะจับให้อยู่ในกฎในระเบียบไม่ได้หรอก ไม่อะไรนายก็ปล่อยๆ ไป
เผลอแป้บเดียว ก็ผ่านมา จะเข้าปีที่ 9 แล้ว พี่ที่ผมเห็นในวันแรกของการทำงานมีเหลืออยู่แค่คนเดียว คือพี่ผจก คนปัจจุบัน ที่เหลือก็เปลี่ยนหน้ากันไปหลายรุ่นมาก
เมื่อสุดทางฝัน หลายๆ คนเลือกหาประสบการณ์ที่นี่ซักพักแล้วไปเริ่มงานที่ตัวเองฝันต่อไป เพื่อนร่วมงานผมลาออกไปแล้วไม่น้อยกว่า 10 คน 4 คน ไปเป็น Sale Engineer ที่เหนื่อยแบบได้ค่าคอมฯ ทำงานไปเที่ยวไป 1 คน ไปเป็นนักบินเรียบร้อย 3 คน ไปเป็นสจ๊วต ด้วยพื้นฐานที่ภาษาดี โปรไฟล์ดี บุคลิกดี หน้าตาดี 1 คน กลับไปเรียนจนจบ ป.เอก 1 คน กลับไปอยู่กับที่บ้าน เรียนขี่ม้า ทำ Youtube ไม่ได้ทำงานต่อด้วยปัญญาสุขภาพ 1 คน ไปเปิดบริษัทรับเหมาของตัวเอง เท่ๆ เท่าที่จำได้มีเท่านี้
กับที่ตรงนี้ กับบางคนอาจจะ สุดทางฝัน แล้วไปเริ่มเส้นทางฝันใหม่ในสิ่งที่ตัวเองคาดหวังไว้ แต่ความฝันมันมีอยู่ทุกทีแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าปัจจัยตรงนั้นมันตอบโจทย์ของใคร
แต่ความฝันของผมมันยังไม่สุดทาง ยังต้องเดินต่อไปครับ สุดทางเมื่อไหร่ ผมจะสร้างทางใหม่ต่อมันไปเองครับ .....เพราะ....หนี้เยอะมาก......
คิดจะพัก....คิดถึง...หนี้สิน จบ 55555555555555
ปล. เอาจริงๆ ผมก็เกือบไปเป็นสจ๊วตครับ ติดแค่เพื่อนบอกว่าต้องล้างส้วมด้วย...... และเกือบจะไปเป็นนักบินป้าจำปี กับหางแดงครับ แต่สอบไม่ติด 55555 ปล2. หลังจากทำงานมาได้ 2 ปีผมก็เรียนป.โท ต่ออีก 2 ปี ปล3. จากคนแค่ 4 คนในตอนนั้น ตอนนี้แผนกมีกันชาย 9 หญิง 1 หลังบ้านอีก 3 รวม 13 คน โตขึ้นเยอะครับ แผนกผมก็ยังซน เสียดัง วุ่นวายอยู่ดี แต่ก็เป็นที่พึ่งในคนทั้งชั้นตั้งแต่แปลงไฟล์PDF LAN หลุด ยันชักโครกพัง ตอบโจทย์ "วิศวะซ่อมได้ทุกอย่าง" - -''
และ....ผม 30 แล้วนะครับ พัทมันอายุน้อยกว่าผม แค่เราเป็นเพื่อนกัน ^^
Create Date : 28 มีนาคม 2565 |
Last Update : 28 มีนาคม 2565 23:34:30 น. |
|
28 comments
|
Counter : 1119 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณกะว่าก๋า, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtoor36, คุณกิ่งฟ้า, คุณอุ้มสี, คุณkatoy, คุณหอมกร, คุณlovereason |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 28 มีนาคม 2565 เวลา:18:55:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2565 เวลา:18:57:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2565 เวลา:23:26:26 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:0:38:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:6:54:54 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:9:58:35 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:11:27:01 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:12:23:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:13:13:30 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:21:06:17 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:21:20:24 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:22:20:48 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:22:36:53 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 29 มีนาคม 2565 เวลา:23:09:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2565 เวลา:6:12:44 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มีนาคม 2565 เวลา:7:56:38 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 30 มีนาคม 2565 เวลา:8:38:17 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 30 มีนาคม 2565 เวลา:20:46:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สุดทางฝันก็ต้องหาทางไปต่อนะคะ อายุยังน้อย หนทางยังอีกยาวไกล
คิดจะพัก คิดถึง ... หนี้สิน อิอิ