พอถึงเดือนเกิดนี่ ชีวิตผมสีสันวันเดอร์ฟูลมาก การงาน การเงิน ครอบครัว ขาขึ้นพร้อมๆ กัน เหมือนหมอลักษณ์ทำนายการเงินก่อนเลยครับ ปีนี้วันลาเกินกระหน่ำ จากที่ป่วยไข้เลือดออกไปร่วม 10 วัน ไม่รู้เบี้ยร่ายรายทางที่ป่วยบ้าง เที่ยวบ้างตลอดปี โบนัสปลายปีถูกหักไปแบบยิ้ม ๆ ...... ผมหมายถึง ยิ้ ม ทั้ ง น้ำ ต า แล้วยังมีหน้ามีใจป๋า เปิดบ้านปาร์ตี้ไป 3 วันรวด เสบียง เหล้ายาปลาปิ้งพร้อม เหมือนมีบลัตเลอร์มาคอยจัด คิดว่าผมหมดไปเท่าไหร่ 55555 พี่เพ็ญกลับมายังบอกเลยว่า ปาร์ตี้อีกซักแมชเถอะคะคุณปริ๊นซ์ เคลียร์ของ เพราะถึงเหล้าจะหมดแต่มิกซ์เหลือเพียบ ไหนจะข้าวเกรียบ ถั่วนานาชนิด
แต่ยังไม่ทันได้นัดปาร์ตี้เคลียร์บ้าน เปิดปีใหม่มา ดวงการงานก็ขึ้นเหมือนยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ เพราะโปรเจคใหญ่ที่ Kick off ไปเมื่อวันทำงานวันสุดท้ายของปีที่แล้ว เริ่มรันตั้งแต่เปิดงานปี 2024 ผมลงหน้างานวันแรกตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 มกรา
อ้อ เดี๋ยว Time line ไม่เรียง ผมขอกลับไปที่ดวงด้านครอบครัวก่อน
เนื่องจากวันที่ 5 หลานมีกีฬาสีที่โรงเรียน และด้วยความสูงผอมขายาว ก็ได้ลงเป็นนักกีฬา เย็นวันนั้นผมนี่ก็ต้องซ้อมวิ่งกับหลานตั้งแต่กลับไปบ้านอยู่หลายรอบ วันรุ่งขึ้นก็ไปร่วมงานกีฬาสีโรงเรียนหลาย แทนพ่อเค้าที่ติดงานต่างจังหวัด มีแม่หลาน(พี่สาว) ยาย(แม่ผม) และผม น้าปริ๊นซ์ แม่กับยาย เดินตามโบกมือให้หลานอยู่ด้านข้าง ส่วนผมได้ทำเลดีนั่งอยู่ที่พื้นริมสนาม เรียกว่าริงไซด์สุด ติดแค่แดดที่ส่องหน้าแบบไม่ปราณี แต่คิดว่าพิธีคงไม่นานเพราะเค้าไม่ให้เด็กๆ โดนแดด และแดดกำลังลง
สุดท้ายผมขยับย้ายทำเลตามแดดมาดูหลานแข่งกีฬา มุมผมนี่โคตร VIP ได้รูปหลานตามออเดอร์จากแม่และยาย และหลานก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ วิ่งกระจายตามที่ซ้อมมา
แต่แข่งเป็นแบบทีมครับ เพื่อนดันเกร็งสนามไม่วิ่งเอาดื้อๆ เลยทำให้เราไม่ได้เหรียญรางวัล ผมผู้เป็นโค้ช เลยต้องอัดฉีดนักกีฬสด้วยน้ำส้ม 1 แก้ว ก่อนกลับบ้าน แค่นั้นนักกีฬาพอใจมาก แต่เก่งแล้วคนสวย นี่ขนาดอากาศเย็นแล้วไอดึกๆ
ครับ....หลานผมนี่ใกล้เคียงผมเลย พอช่วงอากาศเย็นก็เริ่มไอ ไม่รวม PM2.5 ที่ทำเอาไอ น้ำมูกไหลบ่อยๆ เมื่อช่วงกลางเดือนธันวา ที่ผมโดน PM2.5 แล้วป่วยจัด นอน รพ ไปเหมือนกัน ตอนนั้นหลานป่วยก่อนก็เกือบได้นอน รพ เพราะไอจัดๆ จนนอนไม่ได้ พอไปหาหมอ X-ray ปอด ผมเห็นภาพ X-ray แล้วแอบเครียดในใจ เพราะดูออกว่าหลอดลมอักเสบ ที่รู้เพราะเห็นผลของตัวเองบ่อยเวลาป่วย แต่โชคดีที่ทุกคนสังเกตว่าเค้าไม่สบายแบบนี้บ่อย เลยไปหาหมอกินยารักษาอาการต่อเนื่องตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้หลานไม่เป็นอะไรมากไปกว่า ไอเก่งกลับมานี่การงาน....ผมเริ่มลงหน้างานตั้งแต่วันที่ 8 เพื่อเริ่มลงโปรเจคใหญ่มากอันนึงของ Q1 วันแรกก็ยังไม่ค่อยมีอะไรหนักหนา แต่เรื่องนี่เริ่มวันถัดไปนี่แหละครับ เพราะไอ่ทีมช่างของเราเองที่เข้ามาพร้อมผมนี่หมกเม็ด ลูกเล่นเยอะ แถมทำของชำรุดคามือที่หน้างาน ผมนี่ต้องยืนกุมกบาล แล้วมันก็พยายามสับขาหลอกแม้แต่กับพวกเดียวกัน ซึ่งผมอยากบอกมากว่า ไอ่ที่เมิงทำ กุก็ทำมาหมดแล้ว ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ ก็ต้องเบรกงานเรียกมาทำความเข้าใจใหม่ แต่อาการผมนี่ยั๊วมาก แน่นอนว่าตอนเรียกมา ก็เรียกมาคุยแบบ...วิศวกร... ปกติผมใจเย็นมาก แต่ที่โมโหนี่เพราะ เหนื่อยแล้วครับ ผมยืนมาแล้ว 3 ชั่วโมง แล้วเพราะความชุย ผมต้องยืนอีก 2 ชั่วโมงกว่า รวมวันนั้น เกือบ 6 ชั่วโมง ข้าวก็ไม่ได้กิน แต่มันได้กิน ขณะที่มันกิน ผมกับทีมต้องประชุมแก้ปัญหาให้มัน....
วันที่สามกับไซต์เดิม 3-4 ชั่วโมงแรกหมดไปกับการเตรียมงานหน้าและเริ่มเฟส 2 ซึ่งชีวิตการงานก็โรยด้วยกลียกุหลาบ....แต่โรยหนามมาด้วย.... เพราะมันเล่นพวกผมอีกแล้ว แต่คราวนี้เอาความบรรลัยมาฝากดอกเบ้อเร้อ จนจากที่งานเราจะจบราวๆ 1 ทุ่ม ซึ่งนั้นก็หนักแล้วนะ เพราะเราจัดกันมา 3 วันติดแล้ว แต่คราวนี้มันเล่นซะผมต้องฉลองศรัทธาด้วยการบอกว่า "Overnight ครับ"ไม่ต้องกลับบ้านแม่งแล้วครับท่านทั้งหลาย เพราะต้องรอช่วงลงหน้างาน แล้วเริ่มกันใหม่ กว่าจะเสร็จ กว่าจะเทส ก็พอดีเกือบเช้า
ผมกับทีมสลับกันดู สลับกันนอน นอนได้รีบนอน พอตี 3 ครึ่ง ผมถอนกำลังกลับบ้านไปนอน เพราะเช้ามีงานต่อ กลับบ้านมาตี 4 นิด ๆ ผมนอนก่อนอาบน้ำอีก เพราะต้องทำเวลา โชคดีนัดแรกผมคือ 10.30 ประชุมออฟฟิศลูกค้าที่ กทม นอนได้อีกหลายชั่วโมง แต่ผมก็ชัตดาวน์ไวครับ แป็บเดียวหลับเลย
ตื่นมา 9 โมง โคตรง่วงเลยครับ อาบน้ำแต่งตัวชิลๆ .... เกือบ 9.30 กะจะออกจากบ้าน แล้วไปนั่งกินอะไรซักหน่อยก่อนประชุม เผื่อยืดเยื้อ แต่ไอ่จังหวะที่กำลังจะออกจากบ้าน พี่สาวก็โทรมา เสียงรีบร้อง ถามว่าผมอยู่ไหน "อยู่บ้าน กำลังจะออก มีไรไหมอ่ะ" แต่ในใจคิดว่า รีบๆ พูดซักทีได้ไหม มันต้องมีอะไรแน่นอน สรุปได้ความว่า ขอให้ผมช่วยไปรับหลานจากโรงเรียนด่วนๆ เพราะคุณครูโทรมาบอกว่า หลานมีไข้ 38 พ่อกับแม่ไม่อยู่ มีนัดตรวจสุขภาพ ทั้ง 3 พี่สาวอยู่ที่ทำงาน ผมอยู่ใกล้ที่สุด ผมละรีบเลยครับ รีบขับรถไปรับหลานที่โรงเรียน ปกติขับไป 25 นาที วันนั้น 16 นาที ผมจอดหน้าประตูโรงเรียนแล้ว
ผมเข้าไปรับหลานกลับมาบ้าน ระหว่างทางก็โทรหาลูกค้ากับพัท ว่าจะถึงช้าหน่อย เริ่มคุยไปได้เลย กลับถึงบ้านผมเรียกพี่เพ็ญมาช่วยกันจับหลานเช็ดตัว ส่วนแม่กับพ่อกำลังรีบกลับมาบ้านเพื่อดูแลหลาน เช็ดไปหลานก็ร้องไห้เสียงดัง ไอ่ถังขยะบ้านผมก็เจ้ากรรม เป็นเซนเซอร์เปิดปิดอัตโนมัติเวลาเข้าใกล้อยู่ๆ ก็ดันเปิด!!!! แบบที่ไม่มีใครไปใกล้มันหลานหยุดร้องแล้วหันไปมองถังขยะแล้วหัวเราะ "Open and Shut, Open and Shut, Open and Shut" คือ ร้องเป็นเพลง พร้อมทำมือขำ ๆ แต่ผมกับพี่เพ็ญมองถังขยะแล้วหันมองหน้ากันอัตโนมัติ รอแค่ใครจะเปิดก่อน...ก่อนที่ผมจะหันไปบิดผ้าต่อ
"แม่ซื้อนี่จะอยู่กับเราถึงกี่ขวบครับ?" ผมถามไปบิดผ้าไป "9ขวบ 10 ขวบมั้งคะ" พี่เพ็ญทำแหยๆ ผมยิ้ม ๆ พอใจที่เปิดเรื่องได้สำเร็จ พร้อมกับพี่เพ็ญที่หันมาเช็ดตัวหลานต่อตามที่ผมบอก ก่อนจะพูดลอยๆ ว่า "รักน่ะเนอะแม่ ไม่ได้รังแกหรือทำให้เจ็บนะ แค่อยากให้หายป่วยจ้า" 555555555ที่เราอยู่ในจุดที่คุยกับแม่ซื้อรู้เรื่องตั้งเมื่อไหร่พอ 10.30 พ่อกับแม่กลับมารับช่วงต่อ ผมนี่รีบสับแหลกไปหาลูกค้าทันที เวลานี้ไม่ได้คิดถึงใบสั่งใดๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต
จากนั้นก็ประชุมกับลูกค้าช่วงบ่ายต่ออีก 2 ราย จริงๆ วันนั้นลูกค้าขอดินเนอร์ต่อครับ แต่ผมเหนื่อยๆ จากงานเมื่อคืนกับไนท์ที่ผมให้พักไปเลย 1 วัน เลยขอตัวว่าไม่ไหว ขอกลับไปพักผ่อนดีกว่า
แต่กลับบ้านคืนนั้น 5 ทุ่มได้เรื่องเลยครับ 55555 ผมหอบซะได้มานั่งยิ้มพ่นยาอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน แต่เรียกว่า พ่นยาไปหลับไป เพราะง่วงจัดมาก พยาบาลถึงกับต้องสะกิดว่าเป้นอะไรเงียบเชียว ซึ่งตอบง่ายมาก... "ผมหลับหรอ"
แต่ผมก็หลับไปเลยจริงๆ พร้อมห่มผ้านอนรอดูอาการ แต่สุดท้ายก็มีคนสะกิดเรียก "ปริ๊นซ์ ปริ๊นซ์...." ผมสะดุ้งลืมตามา เห็นแฟนที่เป็นคนพามา รพ. "เราอยากนอนมากเลยพลอย" "น้าปริ๊นซ์...."และเสียงนี่แหละนี่เล่นเอาผมตื่นเลย และสิ่งที่ผมเห็นคือ พี่สาวที่อุ้มหลานมายืนอยู่ พร้อมกับแม่ผม "อ้าว!" พี่สาวพยักหน้าให้ "ไข้ขึ้น 38.8 ไม่ลงเลย เลยต้องมา รพ."จังหวะเหมาะมาก "น้าหลาน ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง"สรุปผมน่ะได้กลับบ้าน แต่หลานต้องนอนโรงพยาบาล พร้อมกับเสียงวิงวอนคุณหมอที่ห้องฉุกเฉิน "คุณหมอขา หนูจะกินน้ำเยอะๆ หนูจะกินยา หนูจะเช็ดตัว คุณหมอขาาาาา หนูไม่นอนโรงพยาบาลได้ไหม" หมอพยาบาลก็ขำ ๆ กันไป แต่สุดท้ายก็ต้องนอน รพ ให้ยา ให้น้ำเกลืออยู่ดีส่วนผม....วันพรุ่งขึ้นก็สะโหลสะเหล่ไปทำงานต่อ ทั้งง่วง ทั้งไม่สู้จะสบาย พูดเยอะเหนื่อย เดินเยอะเหนื่อย ไอซะกินข้าวไม่ลง แล้วผมต้องร่อนตามไปหาลูกค้าซะทั่ว ลูกค้าบอก โอ้ ไอมาตีกอล์ฟ ผมก็ต้อง โอเค งั้นไอไปเจอที่สนามกอล์ฟ!
กว่าจะแล้ว กว่าจะได้กินข้าวล่อไป บ่าย 2 ครึ่ง
VIP มาครับ ทั้งร้านมี 2 โต๊ะ
เหนื่อยมากครับ เหนื่อยทั้งทำงาน เหนื่อยทั้งป่วย แถมดีได้อยู่ไม่กี่วัน เช้าวันนี้ผมทำหน้าจะอาการไม่เวิร์คอีกแล้ว แล้วหมอบอกว่า นอกจากให้หลีกเลี่ยงอากาศเย็น สิ่งที่แพ้ ออกกำลังกายเหนื่อยๆ แล้ว ให้หลีกเลี่ยงความเครียด และพักผ่อนให้มากๆ
ถามหน่อยครับ....ผมจะเอาอะไรที่ไหนมาพักก่อน.....
Create Date : 15 มกราคม 2567 |
Last Update : 15 มกราคม 2567 17:25:34 น. |
|
17 comments
|
Counter : 826 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmultiple, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณRain_sk, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2567 เวลา:19:49:05 น. |
|
|
|
โดย: สวยสุดซอย วันที่: 15 มกราคม 2567 เวลา:20:27:48 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 มกราคม 2567 เวลา:20:58:16 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 15 มกราคม 2567 เวลา:22:56:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มกราคม 2567 เวลา:5:18:18 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 16 มกราคม 2567 เวลา:7:39:58 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 16 มกราคม 2567 เวลา:17:29:54 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 17 มกราคม 2567 เวลา:2:11:59 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 18 มกราคม 2567 เวลา:8:10:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มกราคม 2567 เวลา:11:01:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|