|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
 |
|
หัวหน้าที่เคารพ ผมจะเป็นศพอยู่แล้ว |
|
อย่างที่บอกครับ ว่า 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมป่วยสะบักสะบอมมาก แถมวางตารางงานไว้อย่างหรรษาเลยเรียกว่าเป็นสัปดาห์ชดใช้กรรมของแทร่เลยครับ และก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกว่า พี่โฟล์คหัวหน้าส่วนดูเป็นคนแปลกๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว หรือ มีเหตุผลอย่างอื่นเรื่องเริ่มแบบงงๆ ด้วยการที่ผมไปดื่มมา ไอ่รอบที่เจอพี่เขยที่ร้าน ซึ่งก็ดื่มเยอะพอสมควร แถมทั้งร้องเพลง ทั้งเต้นอยู่กลางวง ตื่นเช้ามาผมเริ่มไอนิดๆ ที่เป็นการไอแปลกๆ กึ่งก้ำว่าเป็นสัญญาณจะป่วย หรือว่าแค่ดื่มเยอะ ใช้เสียงเยอะ ทีนี้ผมก็ปล่อยเบลอเลยครับ ช่างแม่ง เดี๋ยวก็หาย เพราะไม่ได้มีอาการอื่นนอกจากไอ แต่มันก็ไอเพิ่มขึ้นทุกวันเหมือนกันนะครับ

ซึ่งตลอดทั้งอาทิตย์นั้นผมทำงานไปไอไป เข้าไซต์ไป สนุกสนาน ซักวันพฤหัสผมไอหนักมากจนเริ่มพูดไม่ค่อยไหว แถมเริ่มเหนื่อยผสมโรง วันนั้นช่วงเช้าผมกับทีมเข้าไซต์ บ่ายกลับเข้ามาที่ออฟฟิศ เพราะดันมีงานด่วนที่ต้องเข้ามาคุยบรีฟงานก่อนออกไซต์ในวันศุกร์ แล้วคือผมไอหนักมาก ยิ่งพูดก็ยิ่งไอ ยิ่งไอก็ยิ่งเหนื่อย คือเสียงพูดคงฟังดูเหนื่อยชัดเจนมาก
จนพัทกับไนท์บอกว่า"พี่ไลน์มาสั่งงานพวกผมก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องพูด"ส่วนพี่โฟล์คหัวหน้า ยืนขำ ตบไหล่ผมเบาๆ บอกว่า"สูบบุหรี่ป่ะเนี้ย ไอขนาดนี้วัณโรคป่าววะ" ตามด้วยหัวเราะเอิ่กอ้ากอยู่คนเดียว แต่ผมกับน้องไม่ขำนะ เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ ผมเลยพูดกับน้องอีก 2-3 ประโยคแล้วเดินกลับมานั่งที่ห้องทำงานตอนนี้ก็รู้สึกไม่เข้าหูนะครับ กับที่พี่โฟล์คพูด แต่คิดว่าเค้าเป็นคนปากไว พูดอะไรทะแม่งๆ ประจำอยู่แล้ว ยังไม่หมดครับ....เรื่องของความประหลาดของพี่โฟล์คยังไม่หมดแค่นี้ เพราะยังมีอีกหลายดอกระหว่างช่วงที่ผมป่วยนี่แหละ แล้ววันทำงานสัปดาห์นรกก็มาถึง เปิดทำงานวันจันทร์มา โชคดีที่ไม่ต้องเข้าไซต์ เพราะเป็นวันหยุดที่ไม่ได้หยุด 55555ผมนี่เข้างานสายครับ 10 โมง เพิ่งจะเข้ามาออฟฟิศ คือตอนนั้นผมสามารถไอเป็นชุด ๆ ติดกันไม่หยุด จนจอดับไปดื้อๆ ได้เลย มาถึงพี่โฟล์ค ก็เรียกให้ประชุมอัพเดทงานพร้อมกันทั้งแผนก ผมเหนื่อยนะ แต่เข้าใจได้ เพราะไอ่ผมเองก็มาสาย 555 และโอกาสที่จะอยู่ออฟฟิศพร้อมๆ กันทั้งแผนกมันน้อยมาก ด้วยเนื้อหางานที่ต้องอัพเดทเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผม ที่จะจัดแผนงาน แผนการเปิดโปรเจค แผนการนำเสนอโปรโจคใหม่ และงานในส่วนการตอบสนองนโยบาย ผมเลยต้องเป็นคนนำเสนอเอง
แต่พอพูดก็ไอ ยิ่งพูดก็ยิ่งเหนื่อย และยังคงต้องพูดด้วยเสียงเหนื่อยๆ แบบนั้น จนน้องผมบอกว่า ถึงจะไม่รู้เรื่องทั้งหมดแต่จะเป็นคนพรีเซ็นให้เท่าที่ทำได้เอง"เดี๋ยวผมต่อให้ครับพี่" ไนท์พูดขึ้นมา"ฮั่นแน่ จะเทคโอเวอร์ลูกพี่แล้ววะไนท์" พี่โฟล์คยักไหล่ ก่อนจะพูดต่อ"จะสรุปงานแทนปริ๊นซ์อ่ะ รู้รึยังว่าปริ๊นซ์มันกดค่า Overhaul เท่าไหร่""อันนั้นพี่ค่อยถามพี่ปริ๊นซ์ก็ได้ครับ" ไนท์ยังคงยืนยัน แต่พี่โฟล์คก็สะกิดให้มันหยุดแล้วเรียกให้ผมพูดต่อ และเป็นคนตอบคำถาม defence กับ Marketing ซึ่งทางนั้นเค้าก็ไม่อยากคุยกับผมหรอก

พูดไปไอไปได้อีกซักพัก นี่เริ่มเหนื่อยจนต้องพูดเป็นช่วงสั้นๆ พี่ ผจก ดูทรงแล้วผมน่าจะไม่ไหว เลยบอกขอเบรก แต่พี่โฟล์คกลับบอกว่า "เอาให้จบๆ ไปเลยไหมอ่ะ จะได้เปลี่ยนเรื่องเปลี่ยนคน จบทีละทีม จะได้กลับไปบรีฟแยกต่อทีละทีม" ก่อนจะเรียกให้ผมต่อ
ตอนนั้นผมเริ่มมีอาการหอบ แต่เป็นระดับเก็บอาการได้ถ้าไม่พูด แต่มือนี่เริ่มเอายาพ่นมาหมุนเล่น ให้กำลังใจตัวเองว่า อดทนนะมึง 5555พี่ ผจก นี่หงุดหงิด ทำท่าจะเดินออกนอกห้องประชุม แต่ก่อนออกก็สะกิดแขนผมแล้วพยักหน้าให้เดินออกไปพร้อมกันซะซึ่งผมก็แค่พยักหน้าว่ารู้แล้ว แล้วยกpointer ในมือว่า เอาให้เสร็จๆ นี่แหละพี่ ผจก ก็ถอนหายใจแล้วไปยืนกอดอกอยู่ท้ายห้องประชุม
ทีนี้พอผมพูดแบบเหนื่อยๆ ไปได้อีก 4-5 ประโยค ทีนี้ทั้งไอ ทั้งเหนื่อย พูดไม่รู้เรื่อง แล้วรวนเสียอาการไปหมดเลยครับ 5555 ด้วยความไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ตรงนั้น ในตอนนั้น ผมโยน pointer แม่งลงบนโต๊ะ ดัง แป๊ะ! แล้วก้มหน้าเดินจะออกนอกห้อง"ชิบหายป่ะละ ไปปริ๊นซ์"พี่ ผจก เดินปรี่เข้ามาหา พร้อมมองหน้าพี่โฟล์ค 1 ที ส่วนน้องผม 2 คนก็ลุกออกจากห้องประชุมพร้อมกัน คือผมลุกน้องลุก เท่ากับทีมผมออกจากห้องประชุมทั้งหมด ถ้าพี่โฟล์คอยากจะคุยต่อ ก็คุยกับทีมอื่น ซึ่งย้งก็เอื้อมมือมาหยิบ pointer รับช่วงต่อในการทำเสนอการประชุม แต่ก็ต่อได้ไม่นานครับ เพราะทาง Marketing รู้สึกว่าควรพอก่อน พร้อมกันเมื่อไหร่ค่อยนัดใหม่
คือคนที่ทำงานด้วยกัน ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้น ยังรู้สึกว่าควรพอก่อนเลยครับ เรื่องน่ารำคาญผ่านไป มีเรื่องฮาตอนบ่าย คือบางช่วงผมก็เหนื่อยๆ ไม่สู้จะสบายตัว นั่งอยู่ที่ห้องก็รำคาญพี่โฟล์ค(ห้องบริหารจะนั่งรวมกันครับ กับผู้จัดการฝ่ายอย่างพี่โฟล์ค กับผู้จัดการ รองผู้จัดการ แผนกผม ในห้องจึงมี พี่โฟล์ค พี่ผจก ย้ง ผม นั่งด้วยกัน)ผมเลยถือแก้วกาแฟไปกดน้ำร้อนในห้องเบรกว่าจะนั่งจิบน้ำเบาๆ ในห้องมันไม่ได้เปิดไฟ ผมก็ไม่เปิดไฟนะ กดน้ำเสร็จก็ยืนดื่ม แล้วถอยหลังมานั่งก้มหน้าเอาแขนเท้าขาอยู่ที่เก้าอี้ นั่งไปก็ไอไป จิบน้ำไปชิลๆ แล้วเคยจิบน้ำแล้วตอนกลื่นมีซาวเอฟเฟ็คไหมครับ 55555 แบบ เอ้อ.... อืม... นิดนึงเวลาอยู่คนเดียวไอ่ผมก็ทำงั้นแหละ สลับกับถอนหายใจอยู่คนเดียว แล้วเปลี่ยนมานั่งเงยหัวพิงพนัง หลับตาเงียบ ส่วนมือก็เอาแก้วบางบนโต๊ะ ซักพักมีเสียง "พี่..."ผมนี่สะดุ้งลืมตา แล้วลุกขึ้นมาหันไปตามเสียง คนที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงข้ามกับผมคือ พราว....น้องผู้หญิงตัวแสบในแผนกที่นั่งกินมาม่าอยู่มืด ๆ ไฟเฟยอะไรไม่เปิด"เฮ้ย! อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ" ผมถามมันงงๆ"ก็นั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่พี่เดินเข้ามาละ" หน้ามันก็งงเหมือนกัน ที่ผมไม่เห็นมันมั้ง"พี่โอเคป่ะ...""โอเคอยู่"จากนั้นมันก็ยิ้ม ๆ บอกว่า "เวลากินน้ำพี่ต้องทำเสียงเซ็กซี่แบบนั้นด้วยหรอ ดีนะเป็นพราว เป็นคนอื่นเห็นทั้งภาพทั้งเสียงเมื่อกี้ เค้าคงคิดดีไม่ได้แล้ว"แล้วมันก็ขำ แบบข้ำ...ขำ ส่วนผมนี่นั่งกุมหัวขำเบาๆ อายมันมาก ยิ่งมันพูดยิ่งอาย ซึ่งมันเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วนะครับ ไม่มีอะไร แต่ใครเจอมันพูดก็ต้องเขิน วันรุ่งขึ้นผมก็จัดเลยครับ...ลาเช้า เพราะนอนก็ไม่ได้นอน ไอมาก แน่นหน้าอก เหนื่อย ไม่สบายตัวมาก แต่บ่ายมีงานโปรเจคใหญ่มาก ที่แผนกผมต้องลงพร้อมกัน 2 ทีม ทีมนึงคือทีมผม และอีกทีมคือทีมพี่ ผจก. แล้วทีมผู้บริหารของลูกค้า เข้ามา Attend ด้วยกับทั้ง 2 ทีม แน่นอนว่า ผมก็ต้องหอบสังขารไปให้ได้เช่นกัน
ซึ่งเราทั้ง 2 ทีมไปถึงก่อนเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อน 2 ทีม นั่งแยกห้องกัน ทีมละห้อง ไอ่ผมก็สะโหลสะเหลไปเลย พอบรีฟงาน เตรียมงานกับทีมตัวเองเสร็จ ซึ่งพี่โฟล์คมานั่งอยู่ที่ห้องผมก่อน เพราะทีมผมจะเริ่มพรีเซ้นก่อน และลงหน้างานก่อน ด้วยความรำคาญพี่เค้าพูดเยอะ ถามเยอะ คิดไอ่นั่นไอ่นี่ ล่วงหน้าเยอะ ผมเลยเดินไปที่ห้องพี่ ผจก แล้วไปนั่งฟุบอยู่กับโต๊ะ"ทำไมต้องมาวะ" พี่ผจก ถาม"มีงานอ่ะพี่ ก็ต้องมาป่ะ" ผมพูดทั้งๆ ที่ยังฟุบอยู่ที่โต๊ะ"ทำไมอ่ะ มันไม่ควรต้องมาแล้วป่ะ เค้าทำงานไม่ได้หรอ" พี่ ผจก เริ่มหัวเสีย"เออ ช่างมันเถอะพี่" เห็นพี่ ผจก เริ่มมีอารมณ์ ผมเลยลุกแล้วเดินกลับไปที่ห้องประชุมตัวเอง
ถึงเวลาก็เริ่มทำงาน โดยพัทเป็นคนพรีเซ็นงานให้แทน เพราะผมพูดไม่ไหวแล้ว ไม่อยากให้มีภาพหลุด Performance พอเตรียมจะลงหน้างาน พี่โฟล์คก็หันมาหาผมเล็กน้อย"ปริ๊นซ์ไม่ค่อยสบาย ไม่ไปด้วยไม่เป็นไรมั้ง"แต่อะไรคือ ไม่เป็นไรมั้ง วะครับ ผมละงง สรุปคือเป็นหรือไม่เป็น ผมเลยบอกว่า "ก็ไปนั่นแหละครับ จบ" ว่าแล้วก็อัดยาไป 1 ดอก แล้วคว้าเสื้อคว้าหมวกเดินตามพัทไป พี่โฟล์คที่เดินตามมาข้างๆ ก็พูดติดตลกว่า"เอาออกซิเจนป่ะ" พร้อมหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว"ไม่ใช่เรื่องตลกป่ะครับ" พัทหันมาพูด พร้อมกางร่มในมือแล้วดึงผมให้เข้าไปอยู่ในร่มด้วยกัน ส่วนไนท์ก็กางร่มของตัวเอง ก่อนจะเดินฉีกไปอีกทาง ทิ้งที่โฟล์คเดินร้อนอยู่คนเดียว จนเจ้าหน้าที่ไซต์แบ่งร่มให้

จนเสร็จงานกันทั้ง 2 ห้อง ก็มานั่งรวมกันทำข้อมูลพร้อมคุยงานกันต่อเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้คุย เพราะพอพี่ ผจกกับทีม ขนของเดินเข้าห้องมา พี่ ผจก ก็ใส่พี่โฟล์คทันที"เมื่อเช้าปริ๊นซ์มันลาป่วย พี่รู้ป่าว แล้วทำไมต้องให้มันมาอีก""ก็ปริ๊นซ์บอกว่าจะมา" พี่โฟล์คตอบ พร้อมเปิดไลน์ที่ผมพิมไปให้ดู"มันควรหยุดไปเลยไหมพี่""น้องมันรับผิดชอบงานละมั้ง""แล้วพี่รับผิดชอบมันได้หรอครับ" ทั้งเสียงทั้งหน้าพี่ ผจก ดูหงุดหงิดเต็มขั้น ส่วนผม....ผมนั่งเฉยๆ ดูเค้าเถียงกัน5555 ป่าวหรอ ผมเหนื่อย เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นดีกว่าเถียงกับเค้า"ถ้ามันออกไปทำงานแล้วป่วยหนัก เข้า รพ อยู่ที่ต่างจังหวัด เป็นพี่พี่จะทำยังไง" พี่ ผจก ถาม"เอ้า ก็ต้องให้มันพักก่อนอยู่แล้ว งานก็ให้เด็ก ๆ เคลียร์กันไปก่อน"ตรงนี้พี่ ผจก ส่ายหน้าอย่างมีอารมณ์"มันอยู่ชลบุรี ผมขับรถไปหาน้องตอนนั้นเลย ติดต่อแฟนมัน งานวันนั้นผมช่างแม่ง อยู่ด้วยกันหมด พัทก็อยู่ เจมส์ก็อยู่ รุ่งขึ้นค่อยไปเคลียร์งาน พี่น้องเค้าอยู่กันแบบนี้เว่ยพี่ พี่ก็ควรถามมันบ้างนะครับ ไม่ใช่ถามแต่เรื่องงาน"ว่าแล้วพี่ ผจก ก็สะกิดให้ผมเก็บของ บอกให้กลับบ้านตอนนี้เลย สรุปงานอะไรช่างแม่ง ไม่ต้องทำ ให้พี่โฟล์คทำซะ เรียกว่าเดือดเลยครับ พี่ ผจก ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต่างคนต่างเข้ามาทำงานที่นี่วันแรก
อีกวันผมเข้าออฟฟิศมาอีกตอนเช้า มาสั่งงาน มาบรีฟทีม คำนวนราคา เซ็นต์เอกสารงานให้ทีมพอดีกับที่คุณ VP เปิดนโยบายมาให้ ผมรับเรื่องมา ก็ต้องเรียกน้องมาบรีฟใหม่ พร้อมแจ้งพี่โฟล์คยืนฟังด้วย จะได้รู้พร้อมกันไม่ต้องพูดหลายรอบ แล้ววันนั้นหลอดลมมันน่าจะตีบมาก ไอ่ผมก็เหนื่อย หายใจไม่สะดวกพูดไปพูดมา ก็ไอเป็นชุด ไอแบบหยุดไม่ได้ต่อเนื่องกันเรื่อยๆ แล้วจังหวะนั้นมันหายใจไม่ได้เลยครับ ซึ่งผมตกใจ แล้วไม่คุยงานต่อสุดท้ายผมกลับมานั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมีพี่ ผจก ยืนเก็บของบนโต๊ะให้"มึงไหวไหมเนี้ย ไป รพไหม พี่ขับรถให้""ไหวๆ พักแป็บนึงเดียวกลับแล้ว""กุญแจรถอยู่ไหน พี่ขับเอง"ผมตบกระเป๋ากางเกงให้รู้ว่ากุญแจรถอยู่กับตัวแล้วนั่งเงียบๆ แล้ววันนั้นก็ได้กลับบ้านโดนพี่ ผจก ขับรถกลับบ้านมาให้ ขากลับเค้าก็เรียกแกร๊บกลับไปที่ออฟฟิศหลังจากนี้ผมก็นอน รพ ไป 3 วันมาทำงานอีกทีวันจันทร์ ซึ่งผมก็เข้าไซต์ทันทีตามตารางงานผมเจอพี่หัวหน้าอยู่ที่ไซต์พร้อมพัทกับไนท์ น้องบอกว่า พี่ผจก รายงานคุณ VP ว่าผมป่วย ขอให้พี่โฟล์คทำหน้าที่แทน พี่โฟล์คเลยต้องเข้าไซต์มาด้วยจนกว่าคุณ VP จะเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
แต่......แต่.....ผมเจอพี่โฟล์คในสภาพสะโหลสะเหล่ ดูไม่สบายเท่าไหร่"ไม่สบายหรอครับ" ผมถามคำแรก"อือ น่าจะติดจากแฟน" พี่โฟล์คตอบหน้าแย่ๆ เสียงแห้งๆ "งั้นวันนี้พี่พักนะครับ ไม่ต้องเดินหน้างานด้วย มีอะไรมาอัพเดทกันอีกที""เอางั้นหรอ""ครับ"ผมนี่ยังไอจัดๆ เรียกว่าที่พูดไปนั่นก็ไอไม่ได้พัก แต่ถือว่าดีขึ้นจากตอนแรกแล้ว เพราะไม่เหนื่อยเหมือนก่อนหน้า แล้ววันนั้นผมก็เดินหน้างาน ประชุมงานกับทีมตามปกติ

วันรุ่งขึ้น ผมมีประชุมกับลูกค้าพร้อมพัทช่วงสาย ๆ ใน กทม. พี่โฟล์คก็เตรียมตัวออกไปด้วย เพราะนายยังสั่งว่าไม่ต้องไป และทุกคนก็ยังเห็นว่าผมก็ยังดูหน้าเพลียๆ เงียบ ๆ และไอจัดๆ อยู่ แต่ผมที่เพิ่งเดินกลับมาจากไปพ่นยาเช้าในห้องน้ำ ก็เคาะโต๊ะที่พี่เค้านั่งเท้าหัวอยู่เบาๆ ก๊อก ก๊อก..."พี่ครับ....ไม่ต้องออกไปประชุมนะครับ อยู่พักที่นี่ไป ถ้าไม่ไหวพรุ่งนี้ก็ลาพักผ่อนนะครับ งานผมทำได้ปกติครับ"พี่โฟล์คยิ้มอ่อนพยักหน้าว่า โอเค ตามนั้น
ส่วนผม ยกน้ำดื่มเสร็จก็เดินออกไป คุยกับพัท ไนท์ เจมส์ พี่ ผจก ที่เพิ่งมาทำงานเดินสวนเข้าห้องไปนั่งที่่โต๊ะ พร้อมถาม "พี่ไปประชุมกับปริ๊นซ์ด้วยป่ะครับ"พี๋โฟล์คส่ายหน้า "วันนี้ไม่ไหว ขอพักก่อน""แล้วพี่ถามมันยัง ว่ามันไหวไหม""ปริ๊นซ์บอกเมื่อกี้ว่า ไม่ต้องไปพรีเซ้นโปรเจคให้ มันทำเอง""แล้วปริ๊นซ์ทักพี่คำแรกว่าอะไรอ่ะครับ นอกจากสวัสดี""บอกว่าป่วยก็พัก ... แต่ปริ๊นซ์ดูแลได้อยู่แล้วละ สบาย" พี่โฟล์คยิ้มให้ แต่พี่ ผจก ทำเสียง หึ เบาๆ พร้อมยักไหล่"...พี่นะพี่โฟล์ค....ทุกวันผมได้ยินพี่ทักมันคำแรกแต่เรื่องงาน"พี่โฟล์คก้มหน้าไปเปิดเอกสารอ่านเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่"แต่งานคำนวนมันคมมากนะ เทคนิคอลแน่น...เอ้อ วันก่อนในที่ประชุม มันdefence พี่ขาดเลยเหมือนกัน แม่งบอก...พี่โฟล์คหยุดครับ5555""แต่เวลากินข้าว ปริ๊นซ์ไม่ชอบคุยเรื่องงานนะครับ...เผื่อพี่ไม่รู้"ข้อนี้พี่ ผจก พูดถูกใจผมมาก นี่แหละครับ คนที่รู้ใจกันจริงๆ พี่เค้าคงสังเกตว่า เวลาไปกินข้าวด้วยกันแล้วถูกถามเรื่องงานขึ้นมา หรือมีใครคุยกันเรื่องงานขึ้นมา หลายๆ ครั้ง ผมออกปากเลยว่า"เราไม่ชอบคุยเรื่องงานตอนกินข้าว"แต่ก็หลายครั้งอีกเหมือนกันที่เรื่องงานถูก rise ขึ้นมาพูด เหมือนสิ่งที่ผมพูดไปไม่เคยถูกใส่ใจ
แปลกไหมถามใจกันดูแต่รอบนี้พี่ ผจก ก็ ปะ ฉะ ดะ กับ พี่แกไปหลายดอก จริงๆ ในยามปกติ ผมเองก็จัดหลายดอก แต่ช่วงนี้ จะปากแจ๋วมากไม่ได้ครับ ขอเก็บปากไว้ไอก่อน
Create Date : 08 มีนาคม 2567 |
Last Update : 8 มีนาคม 2567 13:52:16 น. |
|
15 comments
|
Counter : 632 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณmultiple, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSleepless Sea, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน |
โดย: หอมกร วันที่: 8 มีนาคม 2567 เวลา:14:13:31 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 8 มีนาคม 2567 เวลา:16:45:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2567 เวลา:19:48:13 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 8 มีนาคม 2567 เวลา:20:13:31 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 มีนาคม 2567 เวลา:20:41:55 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มีนาคม 2567 เวลา:22:51:28 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|