ผมมีร้านขนมร้านโปรดอยู่ร้านนึง ที่มีก่อนกาล ก่อนจะมีตังกิน After you 555555 ถ้าเป็นตอนเรียน ผมจะชอบแวะกินไอติมลุงตี๋ที่บ้านหมู่บ้าน เรียกว่าเป็นของดีในย่านบ้านผมเลย เด็กโรงเรียนผมนั่งกินกันทุกวัน เป็นไอติมกระทิถังตักๆ ธรรมดาเลยครับ ใส่ถ้วยสแตนเลส ตอนนี้ก็ยังอยู่นะ ร้านใหญ่กว่าเดิม จากเดิมมีแค่ไอติม 2 ถัง ร่ม 2 คัน พอมาทำงาน ผมทำงานจริงๆ จังๆ ที่บริษัทปัจจุบัน เดิมทีออฟฟิศเราเช่าตึกอยู่แถวๆ อารีย์ พอเลิกงาน ซึ่งเมื่อก่อนผมเลิกงานดึก ทุ่ม 2 ทุ่ม บางวันมี 3 ทุ่ม ออกมาก็กินข้าวแถวนั้น แล้วค่อยกลับบ้านกลับคอนโด และ After you ของวิศวกรที่เพิ่งเริ่มทำงาน ก็คือ.... .....ปัง หยา อารีย์..... Real Street food เลยครับ แต่ผมชอบมาก 5555 เคยพาแฟนมากิน Greyhound ที่ Villa aree แล้วต้องเดินข้ามมากิน แฟนงงมากว่าขนาดนั้นเลยหรอ แต่กินแล้วก็ติดใจครับ ชวนเมื่อไหร่ก็มา เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็เพิ่งไปกินมาครับ สารภาพเลยว่า ผมไปทำงานนอก และทานมื้อค่ำที่โรงแรมโอคุระ กินแล้วยังไงไม่รู้ รู้สึกไม่ Complete เลยนึกถึง ปัง หยา อารีย์ ออกจากโรงแรมผมแวะกินของหวานต่อที่นั่นแหละครับ 555555 คิดดูว่า ไวน์กับของหวานที่โอคุระ ยังแทนที่ ปัง หยา อารีย์ ในใจไม่ได้ ที่ชอบเพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนตอนมัธยม หรือตอนเด็ก ๆ ดี ของหวานที่ไม่แพง ง่าย ๆ แต่อร่อย จริงๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมก็ไปกินมื้อเย็นที่ Greyhound แต่ไม่ได้ข้ามไป เพราะฝนตก เสียดายเลยครับส่วนตอนเช้าวันอาทิตย์ .... อยู่ๆ ออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผมนี่นอนแฮ้งอยู่ที่โซฟา เพราะเพิ่งปาร์ตี้มาหนักหน่วงเมื่อคืนวันเสาร์เลยผงกหัวไปดู เห็นพี่แว่นข้างบ้านยืนอยู่ บอกว่ากลับบ้านแม่ที่ราชบุรี เลยเอาหม่อน มาแบ่ง 1 ตะกร้าขนมจีน"น้องปริ๊นซ์กินได้เลยนะ ต้นที่บ้านเอง พี่ล้างฝุ่นแล้ว" "อ้อ ขอบคุณครับ" "เคยกินมาก่อนไหม" ผมส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงว่า เอ่อ...ไม่ถนัด รับมาผมก็จับยัดตู้เย็นไว้ ลองชิมไป 2-3 ลูกก็เปรี้ยวๆ ดี พี่เพ็ญบอกว่าให้เอาไปกินกับสลัดครับ น่าจะเวิร์คสำหรับคนไม่ถนัดลูกอะไรแปลก ๆ แต่แฟนผมดูชอบ เดินผ่านก็เปิดกิน แต่ที่ชอบสุดคือหลานครับ ขานั้นมาบ้านแป๊บเดียว นั่งกินจนจะครึ่งตะกร้าแล้ว 55555 ผมกลับมานอนที่โซฟาไม่ทันไร ก็มีเสียงประตูรั้วเปิด อันนี้เดาได้ว่าน่าจะเป็นใครจากบ้านพ่อแม่มาแน่นอนอยู่ๆ ก็เปิดมาเลยแบบนี้ เงยหน้าไปดู เจอพี่เขยกับ......ช่างไฟ ..... "ปริ๊นซ์ไปไหนป่ะเนี้ย พี่เอาช่างมาซ่อมไฟ" "ไฟไหนอ่ะพี่" "ไฟหน้าบ้านไง มันเสียมาซักพักแล้ว" "อ้าวหรอ ไม่ได้สังเกตเลย" ผมเลยปล่อยให้พี่เขยจัดการไป ส่วนผมก็ไปหามาม่าต้มยำกุ้งกิน แต่ไอ่ตอนไปควานหาว่าพอจะมีอะไรกินกับมาม่าได้บ้าง ก็เจออกไก่ที่ thaw ไว้แล้ว 2 ชิ้น ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่า วันจันทร์ต้องเข้าออฟฟิศ ไม่มีข้าวฟรีกิน อยู่ๆ ผีเชฟก็เข้าสิง จัดการเอาอกไก่มี full slice แล้วหมักเกลือ พริกไทย โรสแม่รี่กับนม แล้ว wrap ใส่ตู้เย็นเอาไว้ 3 ชั่วโมง พอหายแฮ้งก็มาย่างกับ Olive oil ใส่กล่อง ใส่ตู้เย็น ไว้เอาไปกินที่ทำงานเที่ยงวันจันทร์ ซึ่ง เฮ้ย!!! มันอร่อยมากครับ!!!!!! ทีแรกผมซื้อผักสลัดกับน้ำสลัดงาจากเซเว่นเอาไว้กะว่าจะกินพร้อมอกไก่ย่าง แต่มันอร่อยใช้ได้เลยครับ กินกับผักเปล่าๆ ได้เลย ไม่ต้องมีน้ำสลัดช่วย เรียกผมว่า "เชฟปริ๊นซ์"เอ้อ....สรุปไฟหน้าบ้านผมสายไฟขาดจากด้านในกำแพง ครับ ยังซ่อมไม่ได้ ต้องถอดโคมออก ทำให้กำแพงบ้านผมเหลือแค่นี้...... กินอิ่มก็นั่งชิลอยู่ที่โต๊ะทำงาน มานึกได้อีกทีว่า ... เฮ้ย! พรุ่งนี้ต้องไปทำใบขับขี่ใหม่นี่หว่า ยังไม่ได้ดูอบรมเลย!!!! จัดไปครับ....นั่งดูไปอีก 1 ชั่วโมง ใช่ครับ ใบขับขี่ผมหมดอายุ และ เพิ่งรู้ตัวเมื่อไม่นานนี้ว่าหมดอายุไปเกือบปี แล้ว ถ้าหมดไปเกิน 1 ปีนี่งานหยาบแน่นอน ดีที่รู้ตัวทัน ผมจองคิวได้วันอังคาร ที่ขนส่งปทุมธานี ซึ่งผมก็ไม่เคยไปครับ ปกติผมต่อที่ กรุงเทพ แต่งวดนี้อยากลองที่ปทุมดู อ้อ ลืมเล่าครับ.... จริงๆ ผมสอบขับรถทำใบขับขี่ครั้งแรกก็ที่ขนส่งปทุมฯนี่แหละ จริงๆ เค้าขึ้นชื่อเรื่องสอบยาก ซึ่ง...ผมก็สอบ 2 รอบ ..... อ่ะ....ดูอมรมจบ ก็แคปหน้าจอแล้วนั่งทำงานต่อชิลๆ อยู่ๆ พัทก็ไลน์มา...."เหงาไหม" "ไม่เท่าไหร่ นั่งคุยกับพี่โบ๊ต" "พรุ่งนี้เราไปทำงานแล้ว จะได้ไม่เหงา อ้าวลืม ไม่เจอกันนี่หว่า พี่ลาไปทำใบขับขี่ใช่ไหม" "ใช่ๆ เส็ดแล้วจะเข้าไปที่ไซต์" "ไม่ต้องหรอ ไม่มีอะไร หายๆ ไปเลย....เตรียมของพร้อมไหม" "เตรียมไรอ่ะ เพิ่งฟังอบรมจบ" "ใบรับรองแพทย์ มีรึยัง" "ห๊ะ?! ยัง" "คลินิกเลย 100บาท" โห ถ้าไม่ได้พัทนี่ผมชิบหายแน่นอน เพราะไม่ได้อ่านเลยว่าต่อใบขับขี่ต้องใช้ด้วยทีนี้ก็ว้าวุ่นเลยครับ ต้องไปหาคลิกนิกออกใบรับรองแพทย์ ไปถึงคลิกนิกคือง่ายมากครับ นี่เพิ่งรู้ ปกติไปโรงบาลตลอด กรอกเอกสารเส็ด หมอเรียกไปเจอ เอาหูฟัง ฟังๆ แล้วบอกว่า "เรียบร้อยครับ" จ่ายตัง 80 บาท ได้ใบรับรองแพทย์เรียบร้อย Done! วันรุ่งขึ้นก็ไปขนส่งครับ.... คิว 11 โมง ผมออกจากบ้าน 9 โมง 55555 ทำไมต้องไปเร็วขนาดนั้น เพราะทีแรกวางแผนไว้ว่า ไปถึงเร็วก็เส็ดเร็ว แต่......หลงครับ 55555555555555 คือหมุด google map มันผิดครับ คนหลงเยอะจนมีป้ายบอกว่า "ขนส่งไม่ได้อยู่ที่นี่" งานหยาบทันที ผมนี่ต้องขับรถไปเสิร์ชไป ตั้ง map ใหม่ ถนนโล่งมากจนคิดในใจว่า ไม่ใช่กุมาผิดอีกละ จะ 10 โมงละเนี้ย แต่พอมาเรื่อยๆ ก็เหมือนเข้าเขตเมือง รถเยอะขึ้นและเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่ถ้าไม่เห็นว่ามีรถออกมาเยอะมาก ๆ คงไม่คิดว่าขนส่งจะเข้าไปอยู่ในนั้น สรุปมาถึงจนได้ 10 โมงพอดีครับ ผมก็เอาคิวขึ้นไปทำเรื่องเลย พอถึงคิวเรียกเอกสาร ผมนำส่งให้ แล้วคิดว่าจะมีแค่ถามตาบอดสี แต่ที่ไหนได้ เจ้าหน้าที่บอกว่า "เข้าห้องทดสอบสมรรถภาพร่างกายได้เลยค่ะ" เดี๋ยว....ทดสอบอะไรก่อน....นี่ไม่ได้เตรียมตัวมา ผมไปยืนแอบดูที่หน้าห้อง มันคือทดสอบ responding สี สายตา ตื้นลึก "วางเอกสารตรงนี้ แล้วเข้ามานั่งเลยค่ะน้อง" พี่ผู้หญิงที่นั่งรออยู่ก่อนเรียกให้ผมเข้าห้อง เพราะเห็นยืนลังเลๆ "เอ่อ.....เดี๋ยว....เดี๋ยวผมกลับมาครับ" ว่าแล้วก็วิ่งกลับไปที่รถ หยิบแว่นสายตามาทันที ทดสอบแบบนี้ไม่ใส่แว่นก็ไม่ต้องหวังผ่านละครับ ช่วงเวลาที่ผมทดสอบมีหลายคนอยู่ ทำให้ต้องนั่งรอราวๆ 10 -15 นาทีได้ โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกไปเป็นชุดๆ ชุดละ 5 คน รอบผมมีผู้หญิงคนนั้น และอีก 2 คน ผู้ชายอายุพอ ๆ กับผมและผม คุณพี่ที่ทักผมคนนั้น คุยเก่งมากครับ คุยกับคนนั้นทีคนนี้ที ตอนผมทดสอบเหยียบคันเร่งเหยียบเบรกพี่แกก็เชียร์ครับ แต่ผมเหยียบก่อนแกบอกแบบชิล ๆ น่าจะเพราะเล่นเกมส์เยอะ"หุยเร็วมากอ่ะน้อง คนแก่อาย" ผมแค่ยิ้มๆ ไม่ได้ตอบอะไร แล้วทดสอบอย่างอื่นต่อ และระหว่างยืนรอไปทำใบขับขี่ เอาจริงๆ พี่แกก็ผ่านฉลุยเลยเหมือนกันนะ แต่เค้าน่าจะรู้ว่าผมสายตาสั้น และไม่ได้ใส่แว่นติด เพราะเค้าจะคอยเรียกผมให้เอกสารไปวางตรงนั้นตรงนี่ตลอด เพราะผมมองไม่เห็นว่าช่องที่ต้องไปคือเบอร์ไหนทำใบขับขี่เส็ด ก็ไปหาคาเฟ่ทางผ่านนั่งทำงานครับ นั่งๆ อยู่ นึกขึ้นมาได้ว่า เอ้ย....ทำไมไม่ไปรับหลานละ ว่าง ๆ เค้าน่าจะดีใจ เพราะเค้าดีใจตลอดเวลาที่ผมไปรับ เลยพักงานไว้ก่อน ออกไปหาอะไรกินเป็นชิ้นเป็นอัน นี่เลยครับ ก๋วยเตี๋ยวเรือ วากิว...... นุ่มไม่เท่าไหร่ แต่โคตรเผ็ด งดน้ำตาลอะไรแตกหมด เพราะต้องสั่งน้ำเก็กฮวย พร้อมเฉาก๊วยมากินแก้เผ็ด มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจอ่านแล้ว อ๋อ ก็น่าอร่อยดี แต่ผมว่า อาจมีบางคนจำได้ว่า ปกติแล้ว "ผมไม่กินเนื้อวัว" อ่ะใช่ครับ ปกติผมไม่กินเนื้อวัว เพราะไม่ชอบกลิ่น แต่จริงๆ คือ.....ผมไม่กินเนื้อวัวไทย เพราะมีชอบกลิ่นแต่เนื้อนอก กินได้ครับ 5555555 อ้อ...US ก็ไม่กินเหมือนกัน ปกติถ้ามีใครถามผมก็ตอบง่ายๆ ไปเลยว่าไม่กินเนื้อ เพราะบอกเหตุผลแล้วคนชอบหาว่ากระแดะ เอารูปปังหยาอารีย์ให้หลานดู หลานบอกว่า "Next time ข้าวไปโด้ย" VIDEO
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2566 22:38:42 น.
22 comments
Counter : 637 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว , คุณSweet_pills , คุณtoor36 , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณหอมกร , คุณnonnoiGiwGiw , คุณThe Kop Civil , คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ , คุณฟ้าใสวันใหม่ , คุณกะว่าก๋า , คุณtanjira , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา , คุณเริงฤดีนะ , คุณอาจารย์สุวิมล
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2566 เวลา:23:57:50 น.
โดย: หอมกร วันที่: 8 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:14:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:35:18 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา:4:39:46 น.
โดย: tanjira วันที่: 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา:16:44:09 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา:20:42:37 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา:0:46:54 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา:5:30:33 น.
โดย: tanjira วันที่: 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:43:05 น.
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา:15:00:50 น.
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:56:24 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 11 พฤศจิกายน 2566 เวลา:1:05:59 น.