lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
เมษายน 2564
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
9 เมษายน 2564
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. 275 "หนอนหนังสือ"

ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 275  
"หนอนหนังสือ"
 
โจทย์โดยคุณ toor36
 

นี่คือเดินเข้ามาหา Board book ให้หลาน
 

ส่งงานล่วงหน้าครับผม


แต่เคยได้ยินไหมครับว่า “คนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด”
ผมอ่านเกินนะ 5555
สามารถอ่านคอนเทนท์ยาวๆ หน่อยได้ ถึงจะมีขี้เกียจอ่านบ้าง
จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ถ้ายาวมาก ๆ ผมจะบอกแม่ว่า อ่านให้ฟังหน่อยสิ 55555
 

ขอจั่วหัวไว้เลยว่า
“ผมไม่ใช่หนอนหนังสือ”
นอกจากหนังสือเรียน ผมไม่เคยอ่านอะไรจบ......
หนังสือเรียนบางทีก็อ่านไม่จบ แล้วอัจฉริยะข้ามคืนไม่สอบ
ที่เค้าฮิตๆ กัน แฮรี่ พอตเตอร์ เนี้ย ผมก็ไม่อ่าน เพราะสะกดชื่อตัวละครไม่ไหว
แต่ดูหนังนะครับ ไม่ได้ติดแต่ดูได้
เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง ชอบนะครับ แต่อ่านไม่ได้ ยืมเพื่อนมาอื่นได้ 20 กว่าหน้า

เลิก...... หนังสือหนาตั้ง 2.5-3.0 นิ้ว คงอ่านไม่ไหว


จริงแล้วผมจะรับรู้และจำได้จากการมองเห็นเป็นหลัก
คือถ้าพูดให้ฟัง โอกาสที่ผมจะ เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา มีสูงมาก
แต่ผมจะรับรู้ได้ด้วยการมองเห็นและเขียนสิ่งที่ต้องการจำ
ถ้าฟังมาคือต้องเขียนลงกระดาษ แล้วจะเริ่มจำได้เมื่อมือตัวเองเขียนลงกระดาษ
เวลาทบทวนคือ อ่านจากที่ตัวจด แล้วจะจำภาพการจดของตัวเองเป็นภาพในหัว
เวลานึก จะนึกจากภาพที่ตัวเองจำได้ แล้วถ้าถูกพูดให้ฟังซ้ำอีกคือจำได้เลย

 
พูดตรงๆ ได้ครับ
....ผมอ่านหนังสือช้า ช้ามาก.....
เรียกว่ามากจนทำข้อสอบที่ต้องอ่านโจทย์ยาวๆ ไม่ทัน
ข้อสอบที่อ่านบทความคือไม่ทันครับ อ่านรอบเดียวไม่รู้เรื่องด้วย
ต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมาก
ซึ่ง....ผมเคยเล่าป่าวว่า ผมเคยแฮ้งค์ไปสอบโทอิค...... - -‘’
ศัพท์ ฟัง อะไรไม่มีปัญหา มีแหละ....คือเบลอแล้วฝนคำตอบผิดข้อ
แต่ก็ยังผ่านไปได้ คะแนนก็ไม่ได้ทุเรศ แต่ Part อ่านนี่ ทุเรศเลยครับ
ทำไม่ทันทำไปได้แค่ 5 – 6 ข้อ เพราะอ่านไม่ทัน
ตอนที่เอาคะแนนมาส่งนาย ก็บอกนายว่า ผมแฮ้งค์.....
นายฮามากครับ แต่เค้าไม่ได้สนใจคะแนนเท่าไหร่ 55555
 
เพราะทุกคนมีรูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกันอ่ะครับ
นักจิตวิทยาได้ศึกษาแล้วบอกไว้ว่า มนุษย์มีรูปแบบการเรียนรู้ต่างกัน
คือ  ทางสายตา   ทางการได้ยิน   และการร่างกาย
 

อย่างแรกคือ  
ทางสายตา (Visual Lerner) = V



พวกนี้จะเรียนรู้ด้วยรูปภาพ แผนภูมิ แผนผังต่างๆ
เวลานึกอะไรก็เหมือนกับการดูหนังฉากนั้นซ้ำ
เนื่องจากระบบการจัดเก็บข้อมูลจะจัดเก็บไว้เป็นภาพ
เค้าว่ากันว่า คนกลุ่มนี้มักเป็นพวกนักออกแบบ สถาปัตนิก
คนกลุ่มนี้มี 60-65% ของประชากร
 

อย่างที่สอง คือ
ทางการได้ยิน หรือการฟัง (Auditory Lerner) = A



พวกนี้จะเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ ได้ดีที่สุดถ้าได้ฟังหรือพูดมันออกมา
จัดเก็บข้อมูลเป็นภาพเหมือนพวกเรียนรู้ด้วยสายตา แต่ชอบฟังเรื่องราวซ้ำๆ
ชอบเล่า ชอบบรรยากาศในผู้อื่นฟัง ได้ละเอียด
เค้าว่ากันว่า คนกลุ่มนี้มักเป็น ครู  DJ  นักดนตรี  นักจิตวิทยา พิธีกร
คนกลุ่มนี้มี 30-35% ของประชากร
 

อย่างที่สาม คือ
ทางร่างกาย (Kinesthetic  Learner) = K



คนกลุ่มนี้มักจะเรียนรู้ผ่านทางความรู้สึก การเคลื่อนไหว และการสัมผัส
เรียนรู้ได้เมื่อได้สัมผัส ลงมือทำ หรือเกิดความรู้สึกต่อสิ่งนั้น
พวกนี้ให้นั่งเรียนในห้องเรียนนานๆ ไม่ได้หรอกครับ หงุดหงิด
ต้องได้ลงมือทำถึงจะเข้าใจ เช่น การลงแลป ลงworkshop
ถึงจะจัดการข้อมูล เชื่องโยงความรู้ต่างๆ ในหัวตัวเองได้
เค้าว่ากันว่า คนกลุ่มนี้มักเป็น นักกีฬา นักวิจัย วิศวะกร
คนกลุ่มนี้มี 5-10% ของประชากร
 

สภาวะของบุคคลในขณะที่รับรู้ข้อมูลซึ่งมีอยู่ 3 สภาวะคือ
สภาวะของจิตสำนึก (Conscious)  จิตใต้สำนึก (Subconscious)  และจิตไร้สำนึก (Unconscious)   


 
ดังนั้นสภาวะการรับรู้ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันเลยครับ
แบ่งหลัก ๆ ได้ซัก 6 แบบ เช่น


1. V-A-K  เป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ดีที่สุดหากได้อ่านและได้เล่าเรื่องต่างๆให้ผู้อื่นฟัง เป็นเด็กดีที่ขยันเรียนหนังสือ
2. V-K-A เป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ดีที่สุดหากได้ลงมือปฏิบัติตามแบบอย่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
3. A-K-V  เป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ดีที่สุดหากได้สอนคนอื่น ชอบขยายความเวลาเล่าเรื่อง
4. A-V-K  เป็นผู้ที่มีความสามารถในการเจรจาติดต่อสื่อสารกับคนอื่น
5. K-V-A เป็นผู้ที่เรียนได้ดีที่สุดหากได้ทำงานที่ใช้ความคิดในสถานที่เงียบสงบ  
6. K-A-V  เป็นผู้ที่เรียนได้ดีหากได้เคลื่อนไหวร่างกายไปด้วย หากฟังครูพูดมาก ๆ อาจเกิดความสับสนได้ 


ผมน่ะเป็น
V-K-A  เห็นข้อมูลมาด้วยการมองเห็น
ถ้าอยากจำรายละเอียดส่วนใหญ่ให้ได้มากที่สุด 
ผมต้องเขียนสิ่งที่อยากจำลงกระดาษ แล้วผมจะจำภาพที่ผมเขียน
แล้วถึงจะเป็นการเล่า นำเสนอข้อมูลออกมาได้ครับ

ถึงอันดับแรกของผมจะเป็น Vision แต่ไม่ได้เขียนก็ม่องครับ
จะได้ยินกี่รอบก็จะเก็บข้อมูลได้น้อยมาก 
ถ้าจะจำคือฟังไปจดไป แล้วไปอ่านเอาจากที่จดอีกที

ย้ำอีกทีครับ.....ผมไม่ชอบอ่านหนังสือ 5555555
แต่ก็พยายามซื้อหนังสือนิทานให้หลานมากๆ 
ซึ่งหลานก็แหม่.....
แววดี





แม่เค้าอ่านให้ฟังทีไรทำท่าสนใจ คว้าๆ เอาไปถือ
แล้วก็ลุกเดินหิ้วไปหิ้วมา นางติดการนั่งๆ นอนๆ กอดหนังสือมากครับ
ไม่มีอะไรเล่น ได้ถือหนังสือไว้จะอุ่นใจมาก
ถ้าเผลอๆ ก็เอาไปแทะ.......คงหวังซึมซับทางลัด - -''

เฮ้อ........คงพอกันครับ - -''

 


Create Date : 09 เมษายน 2564
Last Update : 9 เมษายน 2564 10:38:03 น. 27 comments
Counter : 1117 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณPooh Station TH, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณตะลีกีปัส, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณเริงฤดีนะ, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณเซียน_กีตาร์, คุณ**mp5**, คุณmultiple, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ


 
อ่านแล้วนึกถึง สุ จิ ปุ ลิ หัวใจของนักปราชญ์ ซึ่งแปลว่า ฟัง คิด ถาม เขียน
แปลกที่ไม่มี "อ่าน" เนอะ น่าจะเข้ากับเราได้ดี คือเป็นประเภทไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือที่เป็นเล่ม
แต่อ่านในคอมนี่อ่านทุกวัน วันละมากกว่า 7 บรรทัดแน่นอนจ้า อิอิ

ชอบจะหยิบหนังสือติดไปทุกที เพื่อให้ซึมซับทางลัด 555
คือเอาไปไหนไปด้วย เวลานอนก็เอาไปไว้ข้างหมอน
อุ่นใจว่ามีหนังสืออยู่ด้วย ถ้าอยากอ่านเมื่อไหร่ก็หยิบอ่านได้ทันที


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:11:12:44 น.  

 
พี่อิจฉาเพื่อนๆที่เรียนในห้องครั้งเดียวรู้เรื่องจำไปสอบได้เลย ของพี่รู้ตัวเองว่าต้องผ่านการกรองหลายขั้นตอนมาก เรียนในห้องเรียน จดลงสมุด เอาในสมุดมาอ่านอีกรอบพร้อมกับเปิดหนังสือ แล้วจดสิ่งที่พลาด แล้วถึงทำสรุปย่อ


เพราะฉะนั้นพี่จะต่อต้าน supervised exam มาก ตอนเรียนโทใบแรกอาจารย์เปิดโอกาศให้ทำ Desertation ส่งทุกวิชา จำนวน words ขึ้นอยู่กับอัตราการสอบแบบ supervised ด้วย พี่เลือก 100% desertation เลย จะมีตั้งแต่ 10000 - 25000 words เพื่อนบอกว่าเสียเวลาทั้งเทอม แต่พี่ว่าเหมาะกับพี่

ถ้าเราวางแผนดีๆ เราจะทำ paper เสร็จแต่เนิ่นๆ หมายถึงทำ paper ด้วย เที่ยวด้วย ใช้ชีวิตด้วย แล้วเวลาที่เหลือก็เอา paper ไปคุยกับอาจารย์ว่าต้องเพิ่มตรงไหน มีเวลาส่งตรวจแกรมม่า


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:11:19:43 น.  

 
ดูจากรูปการณ์แล้วหลานสาวปริ้นคนนี้
น่าจะเป็นหนอน.. ในอนาคตแน่ๆ



โดย: หอมกร วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:11:19:45 น.  

 
จากบล็อก ...

เชื่อเถอะ สีแดงไปอย่างนั้นเอง
ไม่เผ็ดจริง ๆ จ้า เพราะคนทำก็กินเผ็ดมากไม่ได้เหมือนกัน


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:11:29:13 น.  

 
ถ้าเป็นนิยาย นี่ผมนั่ง/นอนอ่าน ชนิดไม่ต้องกินข้าวยังได้เลย
..

แต่ตำราเรียนนี่ชั้นล่าง ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องกับเขาหรอก 555 สอบ
เกือบผ่านต้องซ่อมไงนี้แหละ

แต่ถ้า กม./ภาษี/แพ่ง พวกนี้เปิดนี่ โยงไปอีกแห่งมิให้พลาด
จำเป็นต้องอ่านไม่งั้น ลูกค้าถูกสอย เราต้องดูให้แน่ให้ลูกค้า
เสียเงินน้อยที่สุดครับ 555

...
แต่ปัจจุบันเรา ๆ อ่านหนังสือเป็นเล่มน้อยมาก เกือบจะไม่อ่านส่วนใหญ่ดูในเน็ตนี่แหละ เลยไม่ได้เป็นหนอนกะเขา


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:11:56:39 น.  

 
55555+ ซึมซับทางลัดเลียนแบบน้าปริ๊นซ์ไงคะ

พี่ก็ไม่ใช่หนอนหนังสือ(เรียน)ค่ะ อ่านแต่นิยายล้วนๆ
กร๊ากกกกก..



โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:11:57:06 น.  

 
ไม่ชอบอ่านก็ไม่ชอบจิ ย้ำทำไมซะมาก
555555555 ห้าล้านตัว
คนเราไม่ได้เอาดีได้เฉพาะจากการอ่านนี่นา
แต่ที่จำเป็นก็ต้องอ่านให้จบนะคะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:12:22:12 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
มาอ่านบล็อกน้องปริ๊นซ์วันนี้ ได้ความรู้ด้านจิตวิทยาไปด้วยเลยครับ ของพี่ต้องลงมือทำเหมือนกันถึงจะจำได้ จะจดช็อตโน๊ตไว้สั้น ๆ ในสมุดของเรา ฟังนี่จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน
แต่เรื่องการอ่านนี่ พี่ติดมาจากพี่สาว สมัยก่อนการ์ตูนเล่มละบาท แกซื้ออ่าน พี่เลยเอามาอ่านต่อ ติดงอมแงม ขายหัวเราะอะไรพวกนี้ด้วย
กับสยามกีฬา แต่ก่อนชอบมาก ตัดคอลัมน์เอาไว้เลย
พอมัธยม พี่ไปเรียนหนังสือในตัวจังหวัด เสาร์ - อาทิตย์กลับบ้านที่ต่างอำเภอ ยืมหนังสือจากห้องสมุดมาอ่านระหว่างนั่งรถกลับบ้าน
พอตอนทำงานแล้ว ขึ้เกียจอ่านมาก มันย้อนแย้งกัน 555
สุขสันต์วันหยุดครับน้อง


โดย: The Kop Civil วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:14:11:36 น.  

 
อ่านแต่หนังสือเรียน ---- ทำไมแกรอินเวิดกับพี่ขนาดเน้


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:16:21:45 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

ไม่ชอบอ่าน แต่เก่งได้ ก็โอเคค่ะ
สไตล์ใครสไตล์มันนะคะ

pornhub มันเคลื่อนไหวได้รึเปล่าคะ

ปกขาวนี่ไม่เคลื่อนไหว แต่เด็กชาวสวนสมัยโบราณอย่างพี่ โอ๊ย...จาเป็นลม!!! ระทึกมาก


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:16:43:27 น.  

 
การเรียนรู้
ไม่ได้ผ่านจากการอ่านอย่างเดียวแน่นอน
แต่พี่ก๋าคิดว่าในเด็กเล็ก
การฟังสำคัญที่สุดครับ
ไม่ต้องรับอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่เล็กๆ
ลูกพี่ก๋ากว่าจะเขียนได้ ป.1 เทอม 2 เลยล่ะครับ

แต่การฟังสำคัญมทากจริงๆ
โดยเฉพาะการเล่านิทาน
พี่ก๋าว่ามันช่วยเรื่องอารมณ์และจินตนาการมากๆเลยครับ



หมิงอายุ 12 สูง 170 กว่าแล้วครับ
ใส่รองเท้าเบอร์ 43
พี่ก๋าใส่เบอร์ 39 เอง 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:16:51:02 น.  

 
ลืมบอก ซื้อก่อนอ่านทีหลังของพี่มีน้อยมาก
ถ้านับเป็นเปอร์เซ็นก็คงมีแค่ 2% เพราะงบน้อย
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยซื้อตุน 555+


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:17:30:01 น.  

 
วันนี้คนเขียนส่งวกันก่อนเต็มไปหมด (สงสัยจะไปเที่ยวกัน)

บ้านนี้ออกแนววิชาการเลยนะครับ อันที่จริงหนังสือมันคือสื่อบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหาได้ไม่ยาก (มั้ง) สมัยก่อนใกล้ๆ มือเลยก็หนังสือพิมพ์ แต่เดี๋ยวนี้รูปแบบการรับสื่อบันเทิงมันเปลี่ยนไปเยอะ

คำพูดที่ว่า "คนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด" (ต่อปี) ถือเป็นคำพูดที่ตีความได้หลากหลาย คนไทยไม่รักการอ่าน หรือ คนไทยไม่มีความสามารถพอที่จะอ่าน หรืออะไรอย่างอื่นก็สามารถตีความได้เช่นเดียวกัน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:17:58:42 น.  

 
แววหลานสาวตัวน้อยนี่
จะรักหนังสือ
รักการอ่าน
และเป็นหนอนหนังสือแน่นอน

แบบสภาวะการเรียนรู้นี่
กากไม่โดนภาวะบังคับ

พี่อ้อจะกึ่งๆข่้อ 5

เป็นผู้ที่เรียนได้ดีที่สุดหากได้ทำงานที่ใช้ความคิดในสถานที่มีเสียงดังกึ่ดก้อง

เปิดHeavy metal
ลั่นห้อง เวลาคิดงานหรือท่องหนังสือ
ความคิดเรื่องอื่นจะกระเจิง
แล้วสมาธิจะมา..



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:19:43:21 น.  

 
สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์

ตะพาบครั้งนี้ไม่ใช่ธรรมดา
ให้ความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์และการแพทย์ด้วย
คือปัง คือดีจริงๆ ครับ

ส่วนสภาวะการรับรู้ ของผมอาจจะ 1+2 ผสมกัน
แต่... ผมก็ไม่ได้ขยันมากมายอ่า ขี้เกียจก็เยอะ อิอิ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 9 เมษายน 2564 เวลา:22:58:26 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2564 เวลา:6:56:44 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 
สวัสดีครับยามเย็นครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 11 เมษายน 2564 เวลา:18:52:33 น.  

 
Little Prince..ปีถัดมา
คนไทยอ่านหนังสือ 8 บรรทัด/ วัน
และ 80 นาที/วัน.ในปี 2563 แล้วนะคะ

คงเพราะต้องเรียนหนังสือon line
และใช้ Social เพิ่มมากขึ้น

หยุดยาวววว...ได้ไปทัศนาจรที่ใด
้ดินทสงแลอดภัยไร้โรคานะคะ

Stay safe..Take care ค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 เมษายน 2564 เวลา:20:09:05 น.  

 
เดินทางปลอดภัย*


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 เมษายน 2564 เวลา:20:10:06 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 12 เมษายน 2564 เวลา:16:35:21 น.  

 
สมัยก่อน ถ้าจะให้จำได้ ก็ต้องจดบันทึกไปด้วย
ตาดู หูฟัง มันถึงจะเข้าหัวนะครับ

แต่เดี๋ยวนี้ จากประสบการณ์ อ.เต๊ะ
นศ. มาเรียน ตาก็ดูสาว มือเล่นมือถือ
หูก็ฟังเพื่อนคุย สรุปไม่ได้ฟังครูพูดเลย555

ส่วน เทคนิคการจำด้วยภาพนี่ ได้ผลดีมากเลยนะครับ
สมัยที่สอนเรื่องยากๆ อย่างทำ 3D หรือ animationนี่

อ.เต๊ะ พูด อธิบาย อย่างเดียว นศ.จะจำไม่ค่อยได้
สอนเสร็จ นศ. ยกมือถามพรึ่บ เพราะตามไม่ทัน

แต่พอมีภาพประกอบ เริ่มดีขึ้น นศ.ถามน้อยลงแยะ

พอตอนหลัง ทำเป็นวีดีโอ ประกอบการสอนทุกครั้ง
นศ.เลิกถามอีกเลย สงสัยไป drop หมด เย้ย ไม่ใช่ซิ555

ปล.หลานชอบอ่าน ชอบดูรูปดีแล้วครับ
เดี๋ยวอีกหน่อยมีพัฒนาการ เขียนได้ละก็
ฝาบ้าน โซฟา เบาะรถ จะกลายเป็นพื้นที่วาดเขียนหมดเลยนะครับ 555



โดย: multiple วันที่: 13 เมษายน 2564 เวลา:3:25:04 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับน้องปริ๊นซ์


โดย: The Kop Civil วันที่: 13 เมษายน 2564 เวลา:10:50:27 น.  

 
สวัสดีวันสงกรานต์ครับคุณปรินซ์



ขอให้โควิดหายไปเร็วๆ
คุณปรินซ์จะได้ไปเที่ยวเมืองนอกปีละสามสี่ครั้ง
จะให้เยี่ยมที่สุดคือ ไปเที่ยวทุกเดือนเลยนะครับ



โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) วันที่: 13 เมษายน 2564 เวลา:23:01:54 น.  

 
สวัสดีวันสงกรานต์ครับคุณปริ๊นซ์

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกและส่งกำลังใจนะครับ
เช้าๆ ค่อยแวะใหม่นะครับ ^^


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 13 เมษายน 2564 เวลา:23:17:08 น.  

 
ได้ความรู้และดูว่าสภาวะการรับรู้ของเราตรงกับแบบไหนด้วยค่ะคุณปริ๊นซ์
หนังสือเด็กสีสันสดใสน่าจูงใจ
ภาพหลานสาวกับหนังสือน่ารักมากค่ะ

สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 14 เมษายน 2564 เวลา:0:45:57 น.  

 
ส่งการบ้านร่วมกิจกรรมใหม่
"ซัมเมอร์นี้ฉันต้องรอด"
สุขสันต์วันครอบครัว
สัวสดีปีใหม่ไทยค่ะ Little prince




ครอบครัว ตัว อ.และ ป้าโอ เนินน้ำ
ดูหน้าก็รู้ว่า Enjoy eating กันแค่ไหน



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 เมษายน 2564 เวลา:10:54:53 น.  

 
สวัสดีด้วยเหมือนกันจ้าาาา


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 14 เมษายน 2564 เวลา:21:00:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space