ทำไมดวงผมช่วงนี้ถึงต้องเจอแต่คนประหลาดๆ วะ..... ประหลาดชนิดที่ไม่ใช่ผมที่คิดแบบนั้นคนเดียว
นี่ผมจะไม่รวมเรื่องที่เกือบถูกปล้ำซึ่งเล่าไปแล้วนะครับ 5555 อันนี้เรื่องใหม่ล้วน ๆ จนผมเริ่มคิดแล้วว่า ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยซักครั้ง...
*********************เรื่องที่ 1เมื่อปลายปีที่แล้วผมไปเปิดงานที่ไซต์ใหม่ ซึ่งช่วงนั้นผมไม่ค่อยสบายครับ เลยจะเงียบๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ใส่เสื้อโปโลบริษัท ผมไม่เซต ใส่แมส ใส่แว่นตลอดเวลา ช่วงนั้นผมน่าจะพูดแทบไม่ได้เลยครับ ในห้องประชุมทั้งหมดเลยจะเป็นพัทกับไนท์บรรเลงกันอยู่ 2 คน ส่วนผมนั่งฟังเงียบ ๆ พร้อมเปิดแมคบุ๊คทำงานอย่างอื่นไปด้วย เจ้าหน้าที่ที่ไซต์ เข้ามาประชุมด้วย 5 คน โดยเป็นคนที่เราคอนแทคด้วยแต่แรก 3 คน และอีก 2 คนน่าจะตามเข้ามาทีหลัง ซึ่ง 2 คนนั้นไม่ได้เข้ามาแลกนามบัตรกับเรา
2 คนที่ว่าน่าจะอายุราวๆ 25-26 พูดจาห้วน ๆ แนวเด็กช่าง พอถึงเวลาเดินหน้างานน้องผม 2 คนก็เป็นตัวหลักในการทำงาน ส่วนผมเดินตัวเปล่าตาม ไม่ถือกล้อง ถือกระดาษ หรืออุปกรณ์อะไรทั้งนั้น และไม่พูดครับ เพราะป่วยจัดๆ เดินสำรวจพื้นที่ไปได้ซักพัก 1 ใน 2 คนนั้นดูเหมือนจะจดสิ่งที่น้องผมพูดไม่ทัน เลยหันมาถามผม ขอสมมุติชื่อไอ่ 2 คนนี้ด้วย เอ กับ บี "ถอดฝาครอบออโต้หรือมือ" เอถาม ด้วยประโยคประมาณนี้ "ออโต้ครับ...แต่ปรับเป็นmanual ได้ครับ" ผมตอบเสียงเบาๆ แหบๆ "อ้อ...ไหนอ่ะ" ตรงนี้ผมชี้ให้ดูด้วยการผายมือ ไม่ใช้นิ้วชี้ ส่วนไอ่เอ ใช้นิ้วชี้ ก่อนที่จะอธิบายให้ฟังสั้นๆ ว่าทำยังไง และเคสไหนบ้าง "ยกให้ดูหน่อย" เอน่าจะสั่งผมนี่แหละให้ลองทำให้ดู ผมพยักหน้าแล้วกำลังจะเดินเข้าไป แต่พัทที่ยืนอยู่ข้างๆ สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะยกมือห้ามผมว่าไม่ต้อง แล้วเข้าไปอธิบายวิธีการให้เอกับบีดูแทน

จนช่วงที่พัทกับไนท์ทำหน้ากันอยู่กับทีมไซต์ เอกับบีที่เห็นผมยืนๆ เดินๆ อยู่รอบนอกก็เดินเข้ามาหา "รู้หน้างานยัง" ซักคนถามผม "ทราบคราว ๆ แล้วครับ" "แล้วนี่ปกติจะใช้เวลากี่วัน" "1-2 วันครับ" "ขอเลขหน่อย ไปจดจากหัวหน้ามาที" บีใช้ให้ผมไปจดข้อมูล พร้อมฉีกกระดาษยื่นมาให้ผมครึ่งแผ่น ผมรับมาแล้วเดินไปหาพัท ให้มันจดเลขมาให้ ก่อนจะกลับเอามาให้เอกับบี "ขอบใจ" มันตอบผม.......
หลังจากเสร็จหน้างาน ระหว่างเดินกลับห้องประชุม เอก็ควักนามบัตรตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ พร้อมส่งให้ผมด้วยการใช้นิ้วคีบ "อ่ะ...เก็บไว้" เอส่งมาให้พร้อมกับบีที่ส่งให้ผมเช่นกัน "ขอบคุณครับ" ผมพูดสั้นๆ แค่นั้น เพราะไม่ใช่แค่ไม่มีเสียงพูด แต่รู้สึกไม่อยากพูดกับไอ่ 2 คนนี่เท่าไหร่
ถึงห้องประชุมผมก็หยิบตามบัตรจากกระเป๋าตัง ส่งให้เอกับบีคนละใบ "ตรีภพครับ" โดยไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วกลับไปนั่งเงียบ ๆ ฟังสรุปงาน ปกติผมจะแนะนำตัวเองเป็นชื่อเล่น แต่ถ้าผมเคืองใครก็จะใช้ชื่อจริง เพื่อแสดงความไม่เป็นมิตร ว่ากุไม่สนิท เมิงอย่าติดตลก ยอมรับว่า ท่าทางมันกวนบาทาเหลือเกิน จนผมแอบยั้วมันนิดๆ ปนกับงงที่ทำไมมันถึงใช้ผมเยี่ยงโฟว์แมน แต่ด้วยลักษณะคำถามและการวางตัวของ เอ บี ต่อวิศวกร ผมเลยพอเดาได้ว่า น่าจะเป็นหัวหน้าโฟว์แมน หรือหัวหน้าหน้างาน ผมสังเกตุแล้วว่า 2 คนนั้นอ่านนามบัตรผมแล้วซุบซิบกัน 2 คน ด้วยคำเปิดที่ว่า..... ชิบหายแล้ว พี่เค้าเป็นรองผู้จัดการ
จนประชุมเส็ด ผมกับวิศวกรไซต์จะออกไปกินข้าวด้วยกัน ขณะที่ผมยืนเก็บสายไฟอยู่ในห้องคนเดียว รอพัทกับไนท์ที่ไปห้องน้ำ เอกับบีก็เดินมาหาผม พร้อมยกมือไหว้ "ขอบคุณนะครับพี่หัวหน้าสำหรับวันนี้ วันลงเครื่องมีอะไรบอกผมได้นะครับ" "ยินดีครับ" ผมตอบสั้นๆ เหมือนเดิม ก่อนที่พัทกับไนท์จะกลับมาขนของขนอุปกรณ์ไปเก็บที่รถ เอกับบี รีบวิ่งมาที่รถผม พร้อมกับตัวอย่างของที่จะให้เรากลับไปดู พัทที่จอดรถข้างหลังผมก็เดินเข้ามาเอามือแตะแขนผม เป็นเชิงว่า ไม่ต้อง เดี๋ยวดูให้เอง แล้วเข้าไปรับของจากเอกับบี 2 คนนั้นกล่าวขอบคุณและสวัสดี พวกผม 3 คน
กลับมาออฟฟิศที่พัทกับไนท์ยังพูดเลยครับ ว่ายั้วไอ่เอไอบีที่มันดูไม่มีมารยาทกับผม ใช้ลูกพี่กุได้ยังไงอะไรแบบนั้น ผมเองก็งงครับ...แต่ไม่ยั้วมันแล้ว แค่งงว่า ถ้าผมเป็นโฟว์แมน มันต้องข่มกันขนาดนี้เลยหรอ เกินไป!
***********************************เรื่องที่ 2มี Marketing คนนึงเริ่มงานมาใกล้ๆ กับผม แต่อายุราวๆ 35-36 แล้วครับ ผู้ชาย ขอสมมุติชื่อว่า พี่นพ ให้ใกล้เคียงชื่อพี่แกจริงๆ นิสัยพี่นพเป็นคนเสียงดัง Aggressive หน่อยๆ กับเพื่อนร่วมงาน Toxic พอประมาณ ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยาก Contactด้วย แต่โชคดีครับ ที่ไม่ค่อยมีใครมีธุระต้อง Contact กับเค้า ยกเว้นพี่ ผจก. น้องๆ ทีมพี่ ผจก ก็ไม่ได้คุยครับ เพราะมีแค่พี่ ผจก ที่ทนได้อยู่คนเดียว และบอกคนอื่นๆ ว่าไม่ต้องคุย
ผมเคย Contact งานกับพี่นพ เมื่อตอนทำงานใหม่ ๆ ประปราย ติดต่อกันอยู่ 2-3 พอแยกงานกันเป็นทางการ ผมก็ไม่ค่อยได้คุย คุยก็แค่เรื่องทั่วๆไป เช่น พี่คนนั้นอยู่ไหม เอกสารมีคนเซ็นต์หรือยัง มีประชุมวันที่เท่านี้ๆ เวลานี้ แค่นั้นจริงๆ ครับ ไม่มีงานด้วยกัน ซึ่งไม่จำเป็นผมก็ไม่เลือกที่จะคุย ไม่ได้กลัวนะครับ แต่ชีวิตมีเรื่องบ้าบอเยอะพอแล้ว ไม่อยากเจอคนบ้าอีก ครับ พี่เค้าโวยวาย ด่ากราด สไตล์คนบ้าเลย เวลาของขึ้นจนเมื่อก่อนหน้านี้ผมดันมีโปคเจคที่เป็นส่วนของพี่นพทำหน้าที่การตลาด ระหว่างนี้ผมก็ทำงานคุยงานกับลูกน้องพี่นพ แต่พอถึงเวลาผมก็ต้องเข้าพรีเซ็นต์ในส่วนของงานวิศวะร่วมกับการตลาด พี่นพเข้ามานั่งร่วมการประชุมด้วยร่วมกับทีม ฝั่งผม แน่นอนว่ามีผม น้องในทีม และพี่โฟล์คหัวหน้าใหม่ ผมเป็นคนพรีเซ้นต์ ก็พูดจนจบ และชี้แจ้งรายละเอียด "ตรงนี้มีคำถามอะไรไหมครับ" ผมถามตามปกติ "มี...." พี่นพยกมือ ด้วยท่าทางกวนส้นตรีน เดินเข้ามายืนข้างหน้าผม ก่อนจะบรรเลงด่าผม ด้วยเนื้อหาที่ผมโคตรงง เช่น แกทำงานไม่มีสมอง แทนที่จะอธิบายลูกค้าก่อนว่า &@^$@ ถ้าเป็นพี่นะพี่จะ **@#%$ ทำงานมาตั้งนานแล้วทำไมแค่นี้คิดไม่ได้ รู้ไหม ว่าพี่เป็นคนเสนอเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่พี่ แกไม่ได้ขายของหรอก และอีกหลายอย่างมาก ผมที่รู้ว่าพี่นพเป็นคน Toxic ก็ไม่ค่อยได้ฟัง
ผมเน้นเงียบ ยืนกอดอกถือ pointer ฟังเฉยๆ ไม่พูดไม่ตอบโต้ ไม่อธิบาย เพราะไอ่ที่เค้าโวยวายมาทั้งหมด ผมพูดไปหมดแล้วตอนพรีเซ้น แต่เค้าใจว่าพี่เค้าน่าจะจิตหลุด หรือหลับในระหว่างฟัง จนประโยคหลังๆ ที่ทำผมเริ่มโมโห (เพิ่งเริ่มนะ 5555)
"พี่พูดตรงๆ แกมันไม่เก่งเว้ย อยู่มาจนวันนี้ได้คือบุญหัว คนเก่งต้องอย่างไอ่ย้ง" จังหวะนี้ผมหลุดขำดัง "หึ" แต่เป็น หึ ที่ไม่เชิงขำ เพราะพัท ไนท์ พราว นี่มองหน้าผมหน้าเสียๆ "ไอ่ย้งเด็ดขาด กับลูกค้าถ้าไม่โอเคมันก็ไม่มียอม ไม่อ่อนแบบแกหรอกปริ๊นซ์ พี่จะบอกแกให้นะ..." พี่นพหยุดพูดแล้วตะแคงหน้ามองผมใกล้ๆ "แกไม่มีปากตอบหรอ พี่ถามแกเป็นร้อยคำถาม หรือไม่มีปัญหาตอบ" "ผมตอบไปหมดแล้วครับ" ผมพูดเบาๆ เบาแบบเบ๊าเบา.... "ไม่ได้ยิน ตอบกับผีในห้องหรือไง" อะไรทำนองนั้นครับ ตรงนี้ผมจำไม่ได้ หูอื้อไปแล้ว

เพราะพี่นพพูดยังไม่ทันจบ มือ 2ข้างของผมก็ตบลงไปที่โต๊ะตรงหน้าพี่นพ แน่นอนว่าดัง ปัง! สนั่นห้อง"ก็เพราะมันไม่ฟังไงพี่" พอคนที่ปกติเสียงเบา นิ่งๆ เงียบๆ อย่างผมเสียงดังขึ้นมา พร้อมกับตบโต๊ะสนั่นห้องประชุมแบบนั้น เงียบบบบบเลยครับทีนี้ ไอ่พี่นพก็หน้าเสีย เดินถอยหลังกลับไปนั่งที่ตัวเอง พร้อมพูดเบาๆ "ก็ไม่ใช่ไม่ฟังหรอกน้องปริ๊นซ์"ทีอย่างงี้เรียกกุ น้องปริ๊นซ์เชียวนะมึง! แต่ตอนนั้นในใจผมคือ 'ใครน้องมึง ไอ่เปรต'"พี่กลับไปอ่าน Meeting Minutes นะครับ แล้วกลับมาตอบผมว่าได้ฟังหรือไม่ได้ฟัง" "โอเคน้องปริ๊นซ์ เดี๋ยวพี่ให้ทีมส่งแผนใหม่ตามน้องปริ๊นซ์รายงานไปให้นะครับ" พี่นพตอบเสียงเบา พร้อมกับผมนั่งเดินกลับไปลงนั่งที่เก้าอี้ กอดอกแล้วถอนหายใจแรงๆ เหนื่อย!
ส่วนพัทไม่ได้มานั่ง Calm down ผม แต่วิ่งไปดูโปรเจคเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะ เพราะตอนนี้ขาตั้งมันพับแล้วกลิ้งตกโต๊ะลงไปต้องซอกระหว่างช่วงปลั๊กไฟ พร้อมเอาหน้าลงให้เสร็จสรรพ "ชิบหาย....." พัทพูดเบาๆ แล้วเงยมามองผม "เป็นไงอ่ะ" ผมมองกลับ "เดี๋ยวดูให้พี่ แม่งเหมือนจะพัง" "อ้าวเหี่ยละ จริงป่ะเนี้ย" ปรากฎว่าไอ่โปรเจคเตอร์พังครับ ขาหัก เลนส์ร้าว ไนท์แบกเอาไปส่งคืนธุรการให้พร้อมกับผมที่เดินกลับไปสารภาพผิด ธุรการก็ไม่ได้โทษผมเลยนะ แต่ดูกล้องวงจรปิดก่อนว่าตกเองรึป่าว สรุป...จังหวะที่ผมตบโต๊ะนั่นแหละ ผมตบมันหน้าคว่ำลงไปด้วย ธุรการเลยแจ้งว่า.....หักเงินชดใช้นะคะ ฮืออออ T_T
แต่พี่ ผจก ธุรการ โทรมาบอกผมว่า ผู้ใหญ่ไม่หักเงินผม เพราะสงสาร 5555555 เห็นผมเป็นคนดี นิสียดี ทำงานดี งานก็เยอะอยู่แล้วไม่อยากให้เสียใจ ที่พังก็ช่วยไม่ได้ ครั้งหน้าระวังด้วยแล้วกัน โอ้! ผมขอบคุณ ยกใหญ่ รับปากว่าจะระวังมือไม้ให้มาก คือผมไม่ได้กร่าง ไม่อวดเก่งว่า หักไปเลยพี่ ผมชดใช้ ไม่เลยครับ ผมเสียงอ่อนเสียงหวาน ขอบคุณอย่างดี พร้อมกับพี่ ผจก ธุรการที่จับแขนแล้วบอกผมว่า.... "พี่รักน้องนะ" ขนลุก....แต่เพื่อไม่ให้เสียงตัง ผมก็จับมือกลับ "ขอบคุณครับพี่"
**********************เรื่องที่ 3คือไอ่ที่ผมทะเลาะกับทีมช่าง เรื่องมันหมกเม็ดหลอกผมกับลูกค้าที่หน้างาน ทำของพังคามือ ทั้ง ๆ ที่ผมเตือนแล้วว่าอย่าทำ ตอนนั้นผมหงุดหงิดมาก แล้วก็เรียกช่างมาใส่ยับๆ แล้วไปยืนกอดอกสงบสติอารมณ์อยู่ห่างๆ ซักพักถึงจะจูนติด
ไหนจะพี่โฟล์ค ที่ซำแซะ ย้ำคิดย้ำทำ ทำงานก็ออกทรงบาดหน้าเค้กกัน ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่ทำเอาทีมงานหงุดหงิดไปตามๆ กัน ซึ่งผมก็ต้องเป็นคนไกล่เกลี่ย ประณีประนอมเสมอ แต่บางทีผมก็หงุดหงิดไม่ไหวเหมือนกันอยู่ๆ คืนนึง ผมออกกำลังกายอยู่ในห้อง อยู่ๆ ช่วงที่ plank ในหัวก็ฟุ้ง แล้วรู้สึกไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้ ไม่อยากตื่นไปทำงาน ไม่อยากให้เช้าแล้วต้องไปทำงาน รู้สึกเบื่อ รู้สึกเครียด ไม่ได้อยากลาออก แต่ไม่อยากไป อยากหายไปเงียบๆ ซักอาทิตย์ แบบไม่ต้องรับรู้เรื่องงาน แต่วันรุ่งขึ้นผมมีงานที่ไซต์ ไม่ไปก็ไม่ได้
ผมเลยไลน์ไปหาพี่ ผจก. เพราะสนิทกันและเป็นระดับหัวหน้าด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมจะพูดกับลูกน้องก็ไม่ได้อ่ะครับ แต่พี่ ผจก ตีไนท์กอล์ฟอยู่ ผมเลยบอกว่า ไม่มีอะไร แค่เบื่อๆ ไว้คุยกัน

สรุป วันรุ่งขึ้นผมไปทำงานไปได้ครึ่งวัน ก็ออกไปนั่งทอดอารมณ์ซักพักในช่วงบ่าย งานการไม่ทำ
กับแฟนผมไม่พูดเรื่องแบบนี้ด้วยครับ จะเหนื่อยจะเบื่อก็ไม่พูด และพี่ ผจก ทำงานด้วยกัน เจออะไรมาเหมือนๆ กัน ถ้าคุยด้วยน่าจะเข้าใจกันมากที่สุด
จนผมเลือกที่จะลาพักร้อนในวันเกิด เพราะไม่อยาก มานั่ง Burnout ในวันเกิดครับ แล้วไปพักสมองพักอารมณ์ในหายอ่อนใจ
หลังจากหลายๆ เรื่องที่ผมเจอมา ตอนนี้ผมก็ปกติดี อาการ Burn out เหมือนหายไป ทำงานได้ปกติ อยู่กับทีมอย่างมีความสุขเหมือนเดิม ยกเว้นพี่โฟล์ค แต่...ผมกลับดื่มมากขึ้น วันงานแต่งเพื่อนผมจัดไปซะสุดซอย กินข้าวกับลูกค้าผมก็นั่งดื่มเงียบๆ แบบยกหายยกหาย นั่งๆ อยู่บ้านก็ซื้อเบียร์มานั่งดื่มคนเดียวที่บ้าน
จนพี่สาวผมสังเกตแล้วตั้งข้อสงสัยว่า....เป็นเพราะสร้อยข้อมือหยกที่พี่ซื้อมาให้ผมใส่รึป่าว 555555 คือพี่แค่เห็นมันสวยดีผมน่าจะชอบใส่ เลยซื้อมาฝากโดยไม่ได้ศึกสงศึกษา เลยคิดว่า ผมอาจจะไม่เหมาะกับหยกหรือป่าวเลยทำให้เครียดง่าย หงุดหงิดง่าย หรือใครมีความรู้เรื่องนี้ แนะนำผมได้นะครับ เอาจริงๆ ผมไม่ได้เชื่อเรื่องหิน แต่ก็ชอบมันในฐานะเครื่องประดับ
Create Date : 29 มกราคม 2567 |
Last Update : 29 มกราคม 2567 15:04:02 น. |
|
33 comments
|
Counter : 929 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmultiple, คุณเนินน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSleepless Sea, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณหอมกร, คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณอุ้มสี, คุณRain_sk |
โดย: หอมกร วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:15:39:08 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:19:49:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:22:16:10 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:1:06:44 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:5:27:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:5:32:30 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:14:04:18 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:19:34:52 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:49:51 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:51:36 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:52:40 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:53:03 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:0:01:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:4:46:39 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:28:31 น. |
|
|
|
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:43:54 น. |
|
|
|
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:48:12 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:2:36:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:29:24 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:2:57:28 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
แต่มาตบท้ายตรงสายมูเสียนี่
ภาพประกอบสุดท้ายไม่ได้ช่วยนะปริ้น