lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
มกราคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
29 มกราคม 2567
space
space
space

อ่อนแอก็แพ้ไป อ่อนไหวก็ตกงาน


ทำไมดวงผมช่วงนี้ถึงต้องเจอแต่คนประหลาดๆ วะ.....
ประหลาดชนิดที่ไม่ใช่ผมที่คิดแบบนั้นคนเดียว


นี่ผมจะไม่รวมเรื่องที่เกือบถูกปล้ำซึ่งเล่าไปแล้วนะครับ 5555
อันนี้เรื่องใหม่ล้วน ๆ
จนผมเริ่มคิดแล้วว่า ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยซักครั้ง...




*********************




เรื่องที่ 1
เมื่อปลายปีที่แล้วผมไปเปิดงานที่ไซต์ใหม่
ซึ่งช่วงนั้นผมไม่ค่อยสบายครับ เลยจะเงียบๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ใส่เสื้อโปโลบริษัท ผมไม่เซต ใส่แมส ใส่แว่นตลอดเวลา
ช่วงนั้นผมน่าจะพูดแทบไม่ได้เลยครับ 
ในห้องประชุมทั้งหมดเลยจะเป็นพัทกับไนท์บรรเลงกันอยู่ 2 คน
ส่วนผมนั่งฟังเงียบ ๆ พร้อมเปิดแมคบุ๊คทำงานอย่างอื่นไปด้วย
เจ้าหน้าที่ที่ไซต์ เข้ามาประชุมด้วย 5 คน
โดยเป็นคนที่เราคอนแทคด้วยแต่แรก 3 คน และอีก 2 คนน่าจะตามเข้ามาทีหลัง
ซึ่ง 2 คนนั้นไม่ได้เข้ามาแลกนามบัตรกับเรา



2 คนที่ว่าน่าจะอายุราวๆ 25-26  พูดจาห้วน ๆ แนวเด็กช่าง
พอถึงเวลาเดินหน้างานน้องผม 2 คนก็เป็นตัวหลักในการทำงาน
ส่วนผมเดินตัวเปล่าตาม ไม่ถือกล้อง ถือกระดาษ หรืออุปกรณ์อะไรทั้งนั้น
และไม่พูดครับ เพราะป่วยจัดๆ 

เดินสำรวจพื้นที่ไปได้ซักพัก 1 ใน 2 คนนั้นดูเหมือนจะจดสิ่งที่น้องผมพูดไม่ทัน
เลยหันมาถามผม
ขอสมมุติชื่อไอ่ 2 คนนี้ด้วย เอ กับ บี
"ถอดฝาครอบออโต้หรือมือ"  เอถาม ด้วยประโยคประมาณนี้
"ออโต้ครับ...แต่ปรับเป็นmanual ได้ครับ"  ผมตอบเสียงเบาๆ แหบๆ 
"อ้อ...ไหนอ่ะ" 
ตรงนี้ผมชี้ให้ดูด้วยการผายมือ ไม่ใช้นิ้วชี้ ส่วนไอ่เอ ใช้นิ้วชี้
ก่อนที่จะอธิบายให้ฟังสั้นๆ ว่าทำยังไง และเคสไหนบ้าง

"ยกให้ดูหน่อย" เอน่าจะสั่งผมนี่แหละให้ลองทำให้ดู
ผมพยักหน้าแล้วกำลังจะเดินเข้าไป แต่พัทที่ยืนอยู่ข้างๆ สะดุ้งเล็กน้อย
ก่อนจะยกมือห้ามผมว่าไม่ต้อง แล้วเข้าไปอธิบายวิธีการให้เอกับบีดูแทน







จนช่วงที่พัทกับไนท์ทำหน้ากันอยู่กับทีมไซต์
เอกับบีที่เห็นผมยืนๆ เดินๆ อยู่รอบนอกก็เดินเข้ามาหา

"รู้หน้างานยัง"  ซักคนถามผม
"ทราบคราว ๆ แล้วครับ"
"แล้วนี่ปกติจะใช้เวลากี่วัน"
"1-2 วันครับ"
"ขอเลขหน่อย ไปจดจากหัวหน้ามาที"  บีใช้ให้ผมไปจดข้อมูล
พร้อมฉีกกระดาษยื่นมาให้ผมครึ่งแผ่น 
ผมรับมาแล้วเดินไปหาพัท ให้มันจดเลขมาให้
ก่อนจะกลับเอามาให้เอกับบี

"ขอบใจ"  มันตอบผม.......


หลังจากเสร็จหน้างาน ระหว่างเดินกลับห้องประชุม
เอก็ควักนามบัตรตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

พร้อมส่งให้ผมด้วยการใช้นิ้วคีบ
"อ่ะ...เก็บไว้"  เอส่งมาให้พร้อมกับบีที่ส่งให้ผมเช่นกัน
"ขอบคุณครับ"
ผมพูดสั้นๆ แค่นั้น เพราะไม่ใช่แค่ไม่มีเสียงพูด 
แต่รู้สึกไม่อยากพูดกับไอ่ 2 คนนี่เท่าไหร่ 


ถึงห้องประชุมผมก็หยิบตามบัตรจากกระเป๋าตัง
ส่งให้เอกับบีคนละใบ 
"ตรีภพครับ"  โดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
แล้วกลับไปนั่งเงียบ ๆ ฟังสรุปงาน
ปกติผมจะแนะนำตัวเองเป็นชื่อเล่น แต่ถ้าผมเคืองใครก็จะใช้ชื่อจริง
เพื่อแสดงความไม่เป็นมิตร
ว่ากุไม่สนิท เมิงอย่าติดตลก
ยอมรับว่า ท่าทางมันกวนบาทาเหลือเกิน จนผมแอบยั้วมันนิดๆ 
ปนกับงงที่ทำไมมันถึงใช้ผมเยี่ยงโฟว์แมน
แต่ด้วยลักษณะคำถามและการวางตัวของ เอ บี ต่อวิศวกร
ผมเลยพอเดาได้ว่า
น่าจะเป็นหัวหน้าโฟว์แมน หรือหัวหน้าหน้างาน
ผมสังเกตุแล้วว่า 2 คนนั้นอ่านนามบัตรผมแล้วซุบซิบกัน 2 คน
ด้วยคำเปิดที่ว่า.....
ชิบหายแล้ว พี่เค้าเป็นรองผู้จัดการ


จนประชุมเส็ด ผมกับวิศวกรไซต์จะออกไปกินข้าวด้วยกัน
ขณะที่ผมยืนเก็บสายไฟอยู่ในห้องคนเดียว รอพัทกับไนท์ที่ไปห้องน้ำ
เอกับบีก็เดินมาหาผม พร้อมยกมือไหว้

"ขอบคุณนะครับพี่หัวหน้าสำหรับวันนี้ วันลงเครื่องมีอะไรบอกผมได้นะครับ"
"ยินดีครับ" ผมตอบสั้นๆ เหมือนเดิม
ก่อนที่พัทกับไนท์จะกลับมาขนของขนอุปกรณ์ไปเก็บที่รถ
เอกับบี รีบวิ่งมาที่รถผม พร้อมกับตัวอย่างของที่จะให้เรากลับไปดู
พัทที่จอดรถข้างหลังผมก็เดินเข้ามาเอามือแตะแขนผม
เป็นเชิงว่า ไม่ต้อง เดี๋ยวดูให้เอง   แล้วเข้าไปรับของจากเอกับบี
2 คนนั้นกล่าวขอบคุณและสวัสดี พวกผม 3 คน



กลับมาออฟฟิศที่พัทกับไนท์ยังพูดเลยครับ
ว่ายั้วไอ่เอไอบีที่มันดูไม่มีมารยาทกับผม ใช้ลูกพี่กุได้ยังไงอะไรแบบนั้น
ผมเองก็งงครับ...แต่ไม่ยั้วมันแล้ว แค่งงว่า 
ถ้าผมเป็นโฟว์แมน มันต้องข่มกันขนาดนี้เลยหรอ เกินไป!





***********************************






เรื่องที่ 2
มี Marketing คนนึงเริ่มงานมาใกล้ๆ กับผม
แต่อายุราวๆ 35-36 แล้วครับ ผู้ชาย
ขอสมมุติชื่อว่า
พี่นพ ให้ใกล้เคียงชื่อพี่แกจริงๆ 
นิสัยพี่นพเป็นคนเสียงดัง Aggressive หน่อยๆ กับเพื่อนร่วมงาน
Toxic พอประมาณ ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยาก Contactด้วย

แต่โชคดีครับ ที่ไม่ค่อยมีใครมีธุระต้อง Contact กับเค้า
ยกเว้นพี่ ผจก. น้องๆ ทีมพี่ ผจก ก็ไม่ได้คุยครับ 
เพราะมีแค่พี่ ผจก ที่ทนได้อยู่คนเดียว และบอกคนอื่นๆ ว่าไม่ต้องคุย



ผมเคย Contact งานกับพี่นพ เมื่อตอนทำงานใหม่ ๆ ประปราย
ติดต่อกันอยู่ 2-3 พอแยกงานกันเป็นทางการ ผมก็ไม่ค่อยได้คุย
คุยก็แค่เรื่องทั่วๆไป เช่น พี่คนนั้นอยู่ไหม เอกสารมีคนเซ็นต์หรือยัง
มีประชุมวันที่เท่านี้ๆ เวลานี้ แค่นั้นจริงๆ ครับ ไม่มีงานด้วยกัน
ซึ่งไม่จำเป็นผมก็ไม่เลือกที่จะคุย ไม่ได้กลัวนะครับ

แต่ชีวิตมีเรื่องบ้าบอเยอะพอแล้ว ไม่อยากเจอคนบ้าอีก
ครับ พี่เค้าโวยวาย ด่ากราด สไตล์คนบ้าเลย เวลาของขึ้น




จนเมื่อก่อนหน้านี้
ผมดันมีโปคเจคที่เป็นส่วนของพี่นพทำหน้าที่การตลาด
ระหว่างนี้ผมก็ทำงานคุยงานกับลูกน้องพี่นพ

แต่พอถึงเวลาผมก็ต้องเข้าพรีเซ็นต์ในส่วนของงานวิศวะร่วมกับการตลาด
พี่นพเข้ามานั่งร่วมการประชุมด้วยร่วมกับทีม
ฝั่งผม แน่นอนว่ามีผม น้องในทีม และพี่โฟล์คหัวหน้าใหม่
ผมเป็นคนพรีเซ้นต์ ก็พูดจนจบ และชี้แจ้งรายละเอียด

"ตรงนี้มีคำถามอะไรไหมครับ"  ผมถามตามปกติ
"มี...."  พี่นพยกมือ ด้วยท่าทางกวนส้นตรีน เดินเข้ามายืนข้างหน้าผม
ก่อนจะบรรเลงด่าผม ด้วยเนื้อหาที่ผมโคตรงง
เช่น แกทำงานไม่มีสมอง แทนที่จะอธิบายลูกค้าก่อนว่า &@^$@
ถ้าเป็นพี่นะพี่จะ **@#%$  ทำงานมาตั้งนานแล้วทำไมแค่นี้คิดไม่ได้
รู้ไหม ว่าพี่เป็นคนเสนอเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่พี่ แกไม่ได้ขายของหรอก

และอีกหลายอย่างมาก ผมที่รู้ว่าพี่นพเป็นคน Toxic ก็ไม่ค่อยได้ฟัง

ผมเน้นเงียบ ยืนกอดอกถือ pointer ฟังเฉยๆ 
ไม่พูดไม่ตอบโต้ ไม่อธิบาย 

เพราะไอ่ที่เค้าโวยวายมาทั้งหมด ผมพูดไปหมดแล้วตอนพรีเซ้น
แต่เค้าใจว่าพี่เค้าน่าจะจิตหลุด หรือหลับในระหว่างฟัง
จนประโยคหลังๆ ที่ทำผมเริ่มโมโห (เพิ่งเริ่มนะ 5555)



"พี่พูดตรงๆ แกมันไม่เก่งเว้ย อยู่มาจนวันนี้ได้คือบุญหัว
คนเก่งต้องอย่างไอ่ย้ง"

จังหวะนี้ผมหลุดขำดัง "หึ" แต่เป็น หึ ที่ไม่เชิงขำ 
เพราะพัท ไนท์ พราว นี่มองหน้าผมหน้าเสียๆ 

"ไอ่ย้งเด็ดขาด กับลูกค้าถ้าไม่โอเคมันก็ไม่มียอม
ไม่อ่อนแบบแกหรอกปริ๊นซ์ พี่จะบอกแกให้นะ..."

พี่นพหยุดพูดแล้วตะแคงหน้ามองผมใกล้ๆ 
"แกไม่มีปากตอบหรอ พี่ถามแกเป็นร้อยคำถาม หรือไม่มีปัญหาตอบ"
"ผมตอบไปหมดแล้วครับ"  ผมพูดเบาๆ เบาแบบเบ๊าเบา....
"ไม่ได้ยิน ตอบกับผีในห้องหรือไง"  อะไรทำนองนั้นครับ ตรงนี้ผมจำไม่ได้
หูอื้อไปแล้ว








เพราะพี่นพพูดยังไม่ทันจบ มือ 2ข้างของผมก็ตบลงไปที่โต๊ะตรงหน้าพี่นพ
แน่นอนว่าดัง
ปัง! สนั่นห้อง




"ก็เพราะมันไม่ฟังไงพี่" 
พอคนที่ปกติเสียงเบา นิ่งๆ เงียบๆ อย่างผมเสียงดังขึ้นมา
พร้อมกับตบโต๊ะสนั่นห้องประชุมแบบนั้น เงียบบบบบเลยครับทีนี้
ไอ่พี่นพก็หน้าเสีย เดินถอยหลังกลับไปนั่งที่ตัวเอง 
พร้อมพูดเบาๆ
"ก็ไม่ใช่ไม่ฟังหรอกน้องปริ๊นซ์"




ทีอย่างงี้เรียกกุ น้องปริ๊นซ์เชียวนะมึง! 
แต่ตอนนั้นในใจผมคือ
'ใครน้องมึง ไอ่เปรต'




"พี่กลับไปอ่าน Meeting Minutes นะครับ แล้วกลับมาตอบผมว่าได้ฟังหรือไม่ได้ฟัง"
"โอเคน้องปริ๊นซ์ เดี๋ยวพี่ให้ทีมส่งแผนใหม่ตามน้องปริ๊นซ์รายงานไปให้นะครับ"
พี่นพตอบเสียงเบา พร้อมกับผมนั่งเดินกลับไปลงนั่งที่เก้าอี้
กอดอกแล้วถอนหายใจแรงๆ เหนื่อย!


ส่วนพัทไม่ได้มานั่ง Calm down ผม แต่วิ่งไปดูโปรเจคเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
เพราะตอนนี้ขาตั้งมันพับแล้วกลิ้งตกโต๊ะลงไปต้องซอกระหว่างช่วงปลั๊กไฟ
พร้อมเอาหน้าลงให้เสร็จสรรพ 

"ชิบหาย....." พัทพูดเบาๆ แล้วเงยมามองผม
"เป็นไงอ่ะ" ผมมองกลับ
"เดี๋ยวดูให้พี่ แม่งเหมือนจะพัง"
"อ้าวเหี่ยละ จริงป่ะเนี้ย"
ปรากฎว่าไอ่โปรเจคเตอร์พังครับ ขาหัก เลนส์ร้าว
ไนท์แบกเอาไปส่งคืนธุรการให้พร้อมกับผมที่เดินกลับไปสารภาพผิด
ธุรการก็ไม่ได้โทษผมเลยนะ แต่ดูกล้องวงจรปิดก่อนว่าตกเองรึป่าว

สรุป...จังหวะที่ผมตบโต๊ะนั่นแหละ ผมตบมันหน้าคว่ำลงไปด้วย
ธุรการเลยแจ้งว่า.....หักเงินชดใช้นะคะ ฮืออออ T_T



แต่พี่ ผจก ธุรการ โทรมาบอกผมว่า 
ผู้ใหญ่ไม่หักเงินผม เพราะสงสาร 5555555
เห็นผมเป็นคนดี นิสียดี ทำงานดี งานก็เยอะอยู่แล้วไม่อยากให้เสียใจ
ที่พังก็ช่วยไม่ได้ ครั้งหน้าระวังด้วยแล้วกัน 

โอ้! ผมขอบคุณ ยกใหญ่ รับปากว่าจะระวังมือไม้ให้มาก 
คือผมไม่ได้กร่าง ไม่อวดเก่งว่า หักไปเลยพี่ ผมชดใช้
ไม่เลยครับ ผมเสียงอ่อนเสียงหวาน ขอบคุณอย่างดี
พร้อมกับพี่ ผจก ธุรการที่จับแขนแล้วบอกผมว่า....

"พี่รักน้องนะ"
ขนลุก....แต่เพื่อไม่ให้เสียงตัง ผมก็จับมือกลับ "ขอบคุณครับพี่"


**********************





เรื่องที่ 3
คือไอ่ที่ผมทะเลาะกับทีมช่าง 
เรื่องมันหมกเม็ดหลอกผมกับลูกค้าที่หน้างาน 
ทำของพังคามือ ทั้ง ๆ ที่ผมเตือนแล้วว่าอย่าทำ
ตอนนั้นผมหงุดหงิดมาก แล้วก็เรียกช่างมาใส่ยับๆ 
แล้วไปยืนกอดอกสงบสติอารมณ์อยู่ห่างๆ ซักพักถึงจะจูนติด


ไหนจะพี่โฟล์ค ที่ซำแซะ ย้ำคิดย้ำทำ
ทำงานก็ออกทรงบาดหน้าเค้กกัน ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
แต่ทำเอาทีมงานหงุดหงิดไปตามๆ กัน
ซึ่งผมก็ต้องเป็นคนไกล่เกลี่ย ประณีประนอมเสมอ
แต่บางทีผมก็หงุดหงิดไม่ไหวเหมือนกัน






อยู่ๆ คืนนึง ผมออกกำลังกายอยู่ในห้อง
อยู่ๆ ช่วงที่ plank ในหัวก็ฟุ้ง 


แล้วรู้สึกไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้ ไม่อยากตื่นไปทำงาน 
ไม่อยากให้เช้าแล้วต้องไปทำงาน
รู้สึกเบื่อ รู้สึกเครียด ไม่ได้อยากลาออก แต่ไม่อยากไป
อยากหายไปเงียบๆ ซักอาทิตย์ แบบไม่ต้องรับรู้เรื่องงาน
แต่วันรุ่งขึ้นผมมีงานที่ไซต์ ไม่ไปก็ไม่ได้ 

ผมเลยไลน์ไปหาพี่ ผจก. เพราะสนิทกันและเป็นระดับหัวหน้าด้วยกันทั้งคู่
ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมจะพูดกับลูกน้องก็ไม่ได้อ่ะครับ
แต่พี่ ผจก ตีไนท์กอล์ฟอยู่ ผมเลยบอกว่า
ไม่มีอะไร แค่เบื่อๆ ไว้คุยกัน









สรุป วันรุ่งขึ้นผมไปทำงานไปได้ครึ่งวัน
ก็ออกไปนั่งทอดอารมณ์ซักพักในช่วงบ่าย งานการไม่ทำ




กับแฟนผมไม่พูดเรื่องแบบนี้ด้วยครับ 
จะเหนื่อยจะเบื่อก็ไม่พูด และพี่ ผจก ทำงานด้วยกัน เจออะไรมาเหมือนๆ กัน
ถ้าคุยด้วยน่าจะเข้าใจกันมากที่สุด 



จนผมเลือกที่จะลาพักร้อนในวันเกิด
เพราะไม่อยาก มานั่ง Burnout ในวันเกิดครับ 
แล้วไปพักสมองพักอารมณ์ในหายอ่อนใจ



หลังจากหลายๆ เรื่องที่ผมเจอมา 
ตอนนี้ผมก็ปกติดี อาการ Burn out เหมือนหายไป ทำงานได้ปกติ
อยู่กับทีมอย่างมีความสุขเหมือนเดิม ยกเว้นพี่โฟล์ค
แต่...ผมกลับดื่มมากขึ้น วันงานแต่งเพื่อนผมจัดไปซะสุดซอย
กินข้าวกับลูกค้าผมก็นั่งดื่มเงียบๆ แบบยกหายยกหาย
นั่งๆ อยู่บ้านก็ซื้อเบียร์มานั่งดื่มคนเดียวที่บ้าน 









จนพี่สาวผมสังเกตแล้วตั้งข้อสงสัยว่า....
เป็นเพราะสร้อยข้อมือหยกที่พี่ซื้อมาให้ผมใส่รึป่าว 555555
คือพี่แค่เห็นมันสวยดีผมน่าจะชอบใส่ เลยซื้อมาฝากโดยไม่ได้ศึกสงศึกษา
เลยคิดว่า ผมอาจจะไม่เหมาะกับหยกหรือป่าวเลยทำให้เครียดง่าย หงุดหงิดง่าย
หรือใครมีความรู้เรื่องนี้ แนะนำผมได้นะครับ 
เอาจริงๆ ผมไม่ได้เชื่อเรื่องหิน แต่ก็ชอบมันในฐานะเครื่องประดับ

 



Create Date : 29 มกราคม 2567
Last Update : 29 มกราคม 2567 15:04:02 น. 33 comments
Counter : 540 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmultiple, คุณเนินน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSleepless Sea, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณหอมกร, คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณอุ้มสี, คุณRain_sk


 
เรื่องคนรอบตัวมีหลายแบบจริงๆ จ้า
แต่มาตบท้ายตรงสายมูเสียนี่
ภาพประกอบสุดท้ายไม่ได้ช่วยนะปริ้น



โดย: หอมกร วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:15:39:08 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ น้องปริ๊นซ์

งานที่ต้องพบปะคนตลอดนี่ มันน่าเบื่อจริงๆนะ
คนเราไม่ได้อารมณ์ดี พร้อมรับฟังและให้อภัยได้ ในทุกๆวัน
นี่น้องยังคุมอารมณ์ได้เยอะนะคะ น่าจะเพราะน้องโตขึ้นนั่นหละ

ตัวพี่เอง45แล้ว ก็ใช้ชีวิตประคองตัวไปค่ะ
แต่ก่อนก็ไม่ยอม พี่สายบู๊ค่ะ หลังๆช่างแม่ง
นอกจากเหลืออดจริงๆ หรือ กาแฟไม่ถึงค่ะ 5555





โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:16:26:38 น.  

 
สวัสดีครับ น้องปริ๊นซ์

ขอบคุณที่ไปเจิมบล็อกครับ ไว้ดึกๆมาอีกครั้งครับ


โดย: Sleepless Sea วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:17:21:48 น.  

 
"รู้สึกเบื่อ รู้สึกเครียด ไม่ได้อยากลาออก แต่ไม่อยากไป
แต่...ผมกลับดื่มมากขึ้น"

เหนื่อยแทนเลยค่ะ
ไม่อยากออก แต่ไม่อยากไป ... กลับมาดื่มมากขึ้น
ทำให้นึกถึงโฆษณา "จน(เบื่อ) เครียด กินเหล้า"

ขอให้พบทางออกไว ๆ นะคะ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:17:28:23 น.  

 
ยะมาเในสปาเกตตี้
มาไม่ทัน แกรทำให้พี่อยากกินสปาเกตตี้ จนวันนี้ต้องมมแงะร้านเสต๊ก
แต่มันไม่มีสปาเกกตี้มะเขือเทศ
มันมีคาโบกับผักพริกไทยดำ
พี่ไม่ได้กินสปาเกตตี้มะเขือเทศ

แง..

จากบล็อก
ไปแสมสารมา กลับมาดำกว่าเดิมสองเท่า

ยังไม่ได้อ่านนะ
เดวกลับมาอ่าน
กินเสต๊กที่ไม่มีสปาเกตตี้ก่อน



โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:18:58:31 น.  

 
อ.เต๊ะ แบตหมด นั่งสัปประหงกอยู่555
เดี๋ยวขอชาร์ตแบตก่อน ค่อยมาใหม่นะครับ แฮ่



โดย: multiple วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:19:49:54 น.  

 
ทำงานกับคน
ปัญหาใหญ่ๆจึงมาจากคนจริงๆครับ
แต่คนที่ก่อปัญหา
บางครั้งก็เป็นครูที่แฝงตัวมา
เพียงแต่เป็นครูที่ใครก็ไม่ค่อยอยากเจอ 555

Burn out คำนี้ทำให้พี่ก๋านึกถึงบอสทีมลิเวอร์พูลเลย
ที่ประกาศลาออกเพราะคำนี้



พี่ก๋ากลับมาดูมวยสนุกเพราะบอสชาตรีเลยครับเนี่ย
ทุกวันศุกร์ไม่เคยพลาดเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:22:16:10 น.  

 
พอทราบว่าน้องปริ๊นซ์เป็นรองผู้จัดการ
การพูดจาปฏิบัติตัวเปลี่่ยนไปเลยนะคะ

น้องปริ๊นซ์กลับมาทำงานได้ปกติ
อยู่กับทีมแล้วมีความสุขเหมือนเดิมเป็นทิศทางที่ดีค่ะ
ส่วนทิศทางเรื่องดื่มดูจะตรงข้ามหน่อยๆรึเปล่า
ยังไงก็รักษาสุขภาพนะคะน้องปริ๊นซ์


โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:1:06:44 น.  

 
อ.เต๊ะ แบตเต็ม มาแล้วคร้าบ 555

เรื่องแรกนี่ มีทุกที่ครับ คนมาจากสถาบันต่างกัน
การอบรมเลี้ยงดูมาต่างกัน การวางตัวก็เลยเป็นแบบนี้
สมัย อ.เต๊ะ เป็น สถาปนิกจบใหม่ไปทำงาน
ในวงการก่อสร้าง เจอกับผู้รับเหมา เจอกับช่างนี่ ก็สารพัดปัญหา
ผู้รับเหมาก็ว่า ตัวเองแน่ ช่างก็จอมเก๋า555

คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง บอกอะไรก็ไม่ฟัง
ต่างคนก็ต่างทำงานไป แค่อย่าทำผิดแบบ ผิดวิธี ก็แล้วกัน
ผิดแบบเมื่อไหร่ ก็โดนสั่งรื้อ ให่ทำใหม่
รื้อบ่อยๆ ก็เจ๋งซิคร้าบ 555

หลังจากนั้นมา ทั้งช่างทั้ง ผู้รับเหมา พูดจาอ่อนหวาน
มือไม้อ่อนไปหมด ยิ้มหวาน ไหว้ตลอดเวลาเลยเชียวครับ 555

ส่วนเรื่อง การควบคุมอารมณ์ เวลาโกรธนี่
มันยากจริงๆ เวลาเจอคนงี่เง่า
อ.เต๊ะ สมัยหนุ่มๆ เลือดร้อน เคยโมโห เจ้านายมาก
เคยคิด จะไปตัดสายเบรค รถเจ้านาย แบบในหนัง
แต่พอคิดได้ สงสารเจ้านาย ลูกยังเล็ก เลยเปลี่ยนใจ ไปขูดสีรถแทน เย้ย 555

ส่วนเรื่องเบื่องาน เบื่อลูกน้องนี่ เป็นกันทุกคน
เราแก้ไขเค้าไม่ได้ ได้แต่แก้ที่ตัวเองเท่านั้น

สมัย อ.เต๊ะ ทำงานสนามบิน นี่ เวลาเบื่อๆ
ก็จะเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร ไปคุยกับน้องประชาสัมพันธ์สาวๆ
กลับมาก็จะอารมณืดี หายเป็นปลิดทิ้ง 555

แล้วก็ เรื่องลาออกนี่ สมัยนั้นคิดทุกวัน แต่ที่ไม่ลาออกเพราะ ยังเสียดายโบนัส 7เท่า กับเจ้านายสาวสวย นี่แหละคร้าบ 555

ปล. อ.เต๊ะว่า สร้อยข้อมือหยก นี่เกี่ยวข้องแน่นอน
ลองสืบดู เจ้าของเก่าที่เอามาขายด้วยว่า ประวัติที่มาเป็นยังไง
พูดแล้ว ขนลุก บรี๋ออออ555
แต่เพื่อความสบายใจ เราควร ทำบุญแผ่ส่วนกุศล ให้เจ้าของเก่า
เค้าด้วยก็ดีนะคร้าบ อิอิ



โดย: multiple วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:5:27:57 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:5:32:30 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
พี่มาอ่านเมื่อคืนได้เรื่องเดียวแต่หลับไปก่อนนะครับ วันนี้มาอ่านจบแล้วครับ เรื่องแรกตามไซด์งานมักพบเจอคนกร่างแบบนี้ตลอดเลยนะ แต่นี่กร่างผิดคนไปหน่อย 555 พี่ว่าบางทีการแต่งตัวก็เหมือนเป็นบททดสอบคนเหมือนกันนะ
เรื่องที่สองพี่นพน่าจะหลับแล้วฝันไปหรือเปล่าครับ
เรื่องที่สามพี่ว่าเกิดจากการเหนื่อยล้า พักผ่อนน้อยด้วยป่าวครับน้องปริ๊นซ์


โดย: The Kop Civil วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:10:47:05 น.  

 
วันนี้ลางานมาเอามือถือ แต่...
มือถือมีรอยจะเปลี่ยนเครื่องใหม่
จะได้เครื่องมีนาคมเลย ให้พี่ไปต่อคิวสุดท้ายของร้าน
พี่โมโหเลยยกเลิกการจองเลย
ให้นางคืนเงิน พอไปดูร้านอื่นมันก็ไม่มีสีที่พี่จะเอาแล้วของ
ก้อได้ปลาย กพ เลย ถ้าจะเอาอีแทก
ร้องรูดเต็ดแล้วเทรดเครืาองให้ร้านไปเลย
แล้วค่อยมาเอาเครื่องอีกทีปลายกพ

แล้วร้านที่ราคามันโอเคไม่มีสีเหลืองแล้ว
พี่ปวดใจหนักเลย ไม่ซื่อแม่มเลย
ใช้เครื่องเก้าไปก่อน
อุปสรรคเยอะจัง กะว่าคอยซื้อ
S25 ทีเดียว นี่.....
สรุปเหมือนลางานมาเดินห้างเล่น
บ้าบอมาก..


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:13:38:09 น.  

 
ดำน้ำ แต่ไม่สวยเลย
น้ำขุ่นแต่ละทัวโปรยอาหารปลาเปนว่าเล่นเพื่อจะให้ปลามาถ่ายรูปกะลูกทัว


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:13:39:11 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:14:04:18 น.  

 
, เจ้าหน้าทีสิเปนคนโปรย​
เค้าจะให้ปลามากันเยอะๆเพื่อถ่ายรูป
พี่ก้อยัง​งง​เลย


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:16:48:20 น.  

 
สรุปว้าก็รอนะได้เครื่องหบัง25กพ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:17:53:59 น.  

 
พี่ก๋าเพิ่งเขียนเสร็จไปสองภาพในเดือนนี้
หลังๆหนักไปทางเขียนพู่กันเดียวครับ
จริงๆภาพ one pen ก็เขียนสนุกดี

สมัยก่อนตอนเป็นวัยรุ่น
พี่ก๋าใจร้อนมาก
เวลาเรียกพนักงานมาคุยในห้อง
ตบโต๊ะที ดังไปถึงหน้าร้านเลยครับ 555
เสียงด่าก็ดังมาก รุนแรงมาก

พอสัก 30 ก็เริ่มเปลี่ยน
ไม่ใจร้อนแล้ว
พนักงานก็งงกัน ว่าเหมือนได้เจ้านายใหม่ 555

ตอนนี้พี่ก๋าใกล้จะ 50 แล้ว
น่าจะเป็นเจ้านายที่ไม่เหมือนเจ้านายที่สุดแล้วมั้ง
ถ้าไม่มีปัญหาในการทำงาน
พี่ก๋าไม่เคยเข้าไปยุ่งเลย
ปล่อยเค้าทำงานกันไป ปัญหาก็น้อยด้วย

ยิ่งเจอโควิดปิดร้านมา 3 สามปี
พอกลับมาเปิดร้าน
เรียกพนักงานเก่ากลับมาทำงาน
ดูทุกคนตั้งใจทำงานกว่าเก่า
มีความสุขในการทำงานมากกว่าก่อน
บรรยากาศในร้านตอนนี้ดีมากครับ
ทุกคนรู้แล้วว่างานที่ทำมีคุณค่าความหมายเพียงใด



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:19:34:52 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

อ่านเรื่องเล่าทั้ง 3 เรื่อง ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เธอไม่สบอารมณ์
เรื่องที่1 เป็นเรื่องของคนชอบข่มคนอื่น ซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่ดีไม่ควรเอา
เยี่ยงอย่าง มีตาหามีแววไม่ อิอิ ไม่รู้จักรองปริ๊นซ์ ขะนี่ แต่ก็ยังดีที่
พอรู้แล้ว ลดนิสัยไม่ดีลงไปบ้าง
เรื่องที่สอง เรื่อง เพื่อนร่วมงาน ที่อวดเก่ง ดูถูกคนอื่น สมควรแล้วที่โดนทุบโต๊ะ แล้วคำรามใส่ หงอยไปเลย แต่สงสารบริษัทนะ
เครื่องโปรเจ๊กเตอร์พังไป1 เครื่อง ห้าห้าห้า เจ้านายก็น่ารัก ไม่ให้
ชดใช้ โชคดีไป จ้ะ
เรื่องที่ 3 เรื่องอารมณ์เบื่องาน อยากหยุดแต่ไม่อยากลาออก
ก็เป็นธรรมดาของช่วงชีวิตบางช่วง ก็มีอารมณ์เช่นนี้เหมือนกัน แต่
เซ็งด้วยการดื่ม ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา นะจ๊ะ สุขภาพปรกติก็ไม่
ค่อยดีอยู่แล้ว เบื่อ ต้องหาสาเหตุแห่งความเบื่อ จ้ะ เบียร์ เหล้า
ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ จ้ะ
โหวดหมวด งานเขียน ฯ
เรื่องขี่อูฐ ก็ไม่ยากอะไร กลัวเหมือนกัน แต่มันก็ทำหน้าที่
ของมันจนเคยชิน น่ะ ขึ้นและลงตอนขี่ ก็เสียว ๆ อยู่แต่บริกรเขา
ก็มาช่วยให้เราปีนขึ้นตัวอุฐ ต้องอูฐมันลุกขึ้นยืน ก็เสียว ร้องกัน
ทุกคนเหมือนกัน จับเชือกแน่นเลย ห้าห้าห้า มีโอกาส เธอก็ไป
เที่ยวนะ เตรียมหยูกยาให้พร้อม คนขับรถต้องคนในพื้นที่จ้ะ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:21:35:35 น.  

 
ทำใจหน่อยนะครับ มันอาจจะสั้นหรือยาวผิดปกติ ตอนแรกผมพิมพ์ตอบไปแล้ว แต่มันเกิดการผิดพลาดทางเทคนิคที่ผมพิมพ์ไว้หายหมดเลยครับ เกือบทำใจแทบไม่ได้เลย

พิมพ์หมดแล้วโพสตะกี้โพสไม่ได้อีก เดี๋ยวค่อยๆ โพสทีละเรื่องก็แล้วกัน

วันนี้คอมเม้นต์ 5 คอมเม้นต์รวดเดียว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:49:51 น.  

 
เรื่องแรก พวกกระจอกมักเป็นแบบนี้ ยกตัวเองเข้าข่ม เท่าที่ดูแล้วนิสัยคล้ายกันมากจริงๆ คือ ดูคนแค่ที่ตำแหน่ง ถามว่าผมเคยเจอมั้ย ที่ออฟฟิศผมตอนนี้ก็มีครับ เจอแบบนี้ผมเคืองนะ ถ้าเป็นสมัยก่อนผมจะงัดตรงๆ ให้ล้มเลย ด้วยคำพูดให้เขาเสียหน้าต่อหน้าประชาชีกลางออฟฟิศซึ่งผมเคยทำมาแล้ว (ผ่านไปไม่นานมันลาออกเลย) แต่ตอนนี้ผมเลือกที่จะพูดกับผู้ใหญ่ พร้อมมอบทางเลือกให้ผู้ใหญ่ว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้ผม หรือจะให้ผมเป็นคนจัดการ ผมไม่อยากจัดการเอง เพราะถ้าผมจัดการเขาน่าจะเสียความน่าเชื่อถือในสายตาเพื่อนร่วมงานพอสมควร ให้เขาตัดสินใจครับ หน้าที่ผมจบแล้ว แต่ถ้าผลไม่ออกมาอย่างที่ดูน่าพอใจ เราค่อยมาดูกันอีกที ซึ่งเท่าที่ดูผลก็ออกมาน่าพอใจนะ ผมมันคนเงียบด้วยมั้ง พอเงียบบางคนก็เอาใหญ่


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:51:36 น.  

 
เรื่องที่สอง ผมเจอเคสคล้ายๆ กัน เป็นเรื่องของคนมาลองวิชา ผมเลยสวนกลับเขา โดยเขาถามผมว่า "ซื่อ" (shì) แปลว่าอะไร มาถามผมแค่นี้ผมก็ตอบไปสิครับว่า "ถ้ามีแค่นี้ ไม่รู้ครับ" ใครมันจะไปรู้ เล่นถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ต้องเขาใจตรงนี้ก่อนว่าภาษาจีนมันมีคำที่เสียงเดียวกันเยอะมาก

จริงๆ ผมรู้แหละว่ามันน่าจะหมายถึงคำว่า 是 ตัวอักษรนี้ที่แปลว่า ใช่ แต่น้ำเสียงคนถามมันไม่เหมือนมาถามเพราะความสงสัย แต่เหมือนถามเพราะต้องการกวนตีนหรืออวดวิชา มันว่าผมเลยว่าแค่นี้ก็ไม่รู้ ไหนว่าเรียนภาษาจีนมาได้ใบประกาศมา บลาๆๆ ตอนนั้นผมก็เป็นพวกเลือดร้อน แต่ผมก็ยังใจเย็นพอนะ ผมสวนกลับเลย

是否的是 (ซื่อจากคำว่าใช่บ่)
考试的试 (ซื่อจากคำว่าสอบ)
事情的事 (ซื่อจากคำว่าเรื่องราว)
市场的市 (ซื่อจากคำว่าเมือง)
世界的世 (ซื่อจากคำว่าโลก)

那个 (อันไหน)

คนถามช็อคครับ เจอผมใส่ภาษาจีน ก่อนที่ผมจะใส่อีกคำว่า 快说啊!! (พูดมาดิ)

ลองจินตนาการว่าผมพูดภาษาจีนใส่เขาก็แล้วกันแล้วภาษาจีนพูดเสียงเบาลำบากนะครับ คนถามอึ้ง คนแถวนั้นอึ้ง ผมเลยถามจี้ไปอีก ตกลงที่ถามจากตัวไหนละครับ มันมีหลายตัวนะ จากที่ผมยกตัวอย่างเมื่อกี้ หรือที่ยกตัวอย่างมันไม่มี

ปรากฎว่าเจอตอบเสียอ่อยๆ ว่าพี่ก็ไม่รู้ ผมใส่เลยว่า "พี่ไม่รู้ไม่รู้แล้วผมจะไปรู้ได้ไง ภาษาจีนเสียงเดียวกันแต่เขียนต่างกันมีไม่รู้กี่สิบตัว ในเมื่อคำที่คุณถามบริบทอะไรก็ไม่มี อยู่ๆ เจ๋อขึ้นมาคำเดียว คุณไปเอาคำนี้มาจากไหนล่ะ จากหนัง?" เขารีบบอกเลยว่าใช่จากหนัง ผมถึงเฉลยไปว่า แปลว่า "ใช่" แล้วอธิบายที่ผมรัวจีนใส่เขาไป พวกมันตะลึงจากนั้นก็ไม่กล้าลองดีกับผมอีกเลย

เรื่องลักษณะนี้หัวหน้าเก่าคนหนึ่งวเขาเคยสอนผมว่า ปล่อยให้มันพล่ามไป ให้มันแย๊ปไป เราอัปเปอร์คัตเปรี้ยงเดียวให้ร่วงก็พอ แล้วเขาก็แสดงให้ดู ซึ่งผมก็ชอบซะด้วย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:52:40 น.  

 
เรื่องทีสาม หยกเท่าที่อาจารย์คนจีนเคยพูดถึง มันเป็นสิ่งที่เอาไว้ดูพลังลบที่จะมาถึงตัวนะ แต่อาจเป็นแค่ความเชื่อส่วนบุคคลก็ได้ โดยทั่วไปเขาไม่ค่อยพูดว่าร้ายหยก ขนาดเผลอทำแตกยังมองเป็นเรื่องดีเลย แสดงว่ามันดูดพลังงานลบมากเกินไปจนตัวมันรับพลังงานลบอีกไม่ได้เลยแตก

อันที่จริงคนทำงานอะนะ พูดกันดีๆ ก็ได้ พูดกันดี ไม่กวนตีนมันจะตายรึไง ผมถือคติแบบโชเซ่ มูรินโญ่ ว่า

"ถ้าพวกเค้าไม่มาหาเรื่องผม ผมจะไม่หาเรื่องใคร แต่ถ้าพวกเค้าเล่นผม ผมจะเล่นกลับให้เจ็บยิ่งกว่า..."


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มกราคม 2567 เวลา:23:53:03 น.  

 
จากบล็อกที่มาพูดคุย

เอสโซ่ ผมมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้น้ำมันของเขาอยู่นะครับ น่าเอามาโชว์ในของสะสมจริงๆ แต่ผมก็ใช้อยู่นะ มันอาจจะเก่า หรือไม่ได้อยู่ในสภาพสะสม แต่น่าเอามาโชว์เหมือนกัน การตลาดดีมั้ย? ผมไม่ทราบเลยครับ สมัยก่อนเคยคอลแลป กับทั้ง โค้ก และแมคโดนัลเลยนะ มันยังอยู่ในความทรงจำผมเลย

รางวัลมีมันก็ดีแหละครับ เอาไว้ลุ้น เพราะบางทีเงินขาดมือมันก็ช่วยได้นะ 555 แต่ผมไม่ได้คาดหวังหรอกครับ

สายเฟรนลี่ เอาจริงๆ นะ ผมว่าคนน่าจะไม่ค่อยชอบเฟรนลี่แบบผมเท่าไหร่ ชอบเฟรนลี่แบบปลอมๆ มากกว่า หรือผมควรจะเป็นเฟรนลี่แบบปลอมๆ แกล้งอ่าน แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ เคยทำแล้วด้วย แต่มมันสูญเสียความเคารพตัวเองอย่างมาก เลยเลิกทำ

Best of the Blog ปีที่แล้วผมก็เคยได้นะ แต่ปีที่แล้วเนื้อหาหลายๆ อันก็สุดจัดจริงๆ


น้อนเทโอ ที่ได้รับรางวัลหน้าใหม่จากปวงชน จากการโหวตของหลายๆ คนที่เขียนบล็อก น่าจะน้อยใจนะครับ ไม่มีคนพูดถึงเธอเลย 555



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:0:01:20 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

เมื่อคืนพี่ก๋าก็นั่งดู
แต่ทำนู่นทำนี่ไปด้วย
ดูแบบไม่มีสมาธิเท่าไหร่ 555

หันมาอีกที 2-1 เสียดายครับ
ทีมสู้ได้เลย เล่นดี

พี่ก๋าเย็นลงได้
เพราะทริปเมืองจีนครับ
เคยเล่าหลายรอบแล้ว
แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
คือยืนมองภูเขาแล้วเห็นตัวเล็กลงๆๆๆๆ
จนไม่รู้สึกถึงความมีตัวตนของตัวเอง
ทุกข์ในใจตอนนั้นมันหายไปเลย

พอกลับมาจากทริปนั้น
ที่บ้านงงมากเพราะเปลี่ยนตัวเองเยอะมาก
ถ้าบางบ้านอาจจะบอกว่าโดนของผีเข้า 555

แต่ไม่ใช่ว่ามันจะเย็นลงเลยทันทีนะครับ
ใช้เวลาฝึกตัวเองอีกเป็นสิบๆเลย
แม้กระทั่งตอนเลี้ยงลูกก็ยังระเบิด
เพียงแต่นานๆครั้งก็จะดุลูกแรงๆ
ใช้แค่เสียงอย่างเดียว ไม่มีความรุนแรงอื่น
ซึ่งมาดามบอกว่าแค่เสียงอย่างเดียวลูกก็ตัวสั่นแล้ว 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:4:46:39 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ น้องปริ๊นซ์

สายบวกคนนี้นี่ น่ากลัวเลยนะเนี่ย 5555
สปีด(อารมณ์)เร็วกว่านรกมากค่ะ จาก0เป็น100
เราไม่เป็นความดันสูงใช่มั้ย
แบบอารมณ์ขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

พี่อ่ะสายบู๊ค่ะ เป็นพวกเก่งแต่ปาก
ยังไม่เคยลงไม้ลงมือกับใคร นอกจากพี่น้องกันค่ะ 5555 (เก่งกับที่บ้านเป็นพิเศษ)
ตอนเด็กอ่ะเนอะ แต่โตขึ้น ก็ค่อยๆควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นค่ะ
เคยเจอประสบการณ์แย่ๆเพราะความอารมณ์ร้อนค่ะ หลายครั้ง
แล้วตัวเองก็มานั่งคิดมาก มานั่งเสียใจ
หลังจากคิดได้ ซึ่งก็เป็นช่วงอายุ30ปลายๆแล้วค่ะ ส่วนมากเรื่องงานทั้งนั้นค่ะ
เลยค่อยๆซอล์ฟลง ซอล์ฟลง บางอย่างไม่อยากยอม แต่ก็จำเป็นต้องยอม
ไม่พูดออกไป เพื่อโลกสงบสุขค่ะ แต่ก็ยังมีบ้างบางเรื่องที่พี่ไม่ยอมทนค่ะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:16:52:35 น.  

 
ทำไมพี่คิดเองว่า หยกมันเย็น
ใส่แล้วจะใจเย็นลงอ่ะ ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้
แต่พี่ก็ไม่มีความรู้เรื่องหยกเลย แต่อ่านนิยาย
เรื่องพนันผ่าหินได้หยกเยอะอยู๋นะ 555+

แกรช่วงนี้ ดูเครียดงานมาก
พี่ไม่รู้จะแนะนำอะไร แต่จากประสบการณ์
ส่วนตัว พูดได้เลยว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
เรื่องงาน พี่หวิดอยากออกหลายรอบ
แต่หนี้ค้ำคอไว้ เจอสถานการณ์กดดันจิตใจ
ก็หลายรอบ แต่สุดท้าย มันก็ผ่านไปได้เอง
มาปัจจุบันนี้ ทุกอย่างดูดีกว่าเดิมเยอะเลย
ไม่ได้หมายถึงเงินนะ หมายถึงการปะทะกับคนอื่นๆ

ปีนี้ ออฟฟิตพี่เรื่องงานเรื่องคนไม่มีปัญหา
แต่........... ปัญหาเรื่องกำไรลดลง ไม่แน่ใจว่า
โบนัสช่วงที่ 3 จะได้หรือเปล่า ที่นายพี่ตัดเซอวิสทิ้งทุกอย่าง
งานปีใหม่ก็ไม่มี ท่องเที่ยวก็ไม่มี ตรวจสุขภาพก็ไม่มี
ลุ้น เหลือเกินว่าโบนัสจะมาไหม เหอๆ

ส่งกำลังใจเรื่องงานให้แกรนะ . .
เบียร์วุ้นจะเยียวยาทุกสิ่ง
แต่ใดใด คือ เมาไม่ขับนะจ๊ะ
ใชีวิตด้วยความไม่ประมาท อิอิ
นี่พี่เห็นแก้วบีบๆ แป๊บซี่ที่เค้าขายกัน
ที่บีบๆ แล้วได้แป๊บซี่วุ้นอ่ะ
ยังคิดเลย เปลียนเอาเบียร์ใส่จะได้เบียวุ้นไหม กร๊ากก

แต่พี่ก็พูดไป ตั้งแต่วันเค้าดาวมาพี่ก็ไม่ได้กินเหล้าเบียร์อีกเลย
หมดวัย ไปเที่ยวนี่คือ เพื่อนๆ ตื่นเต้นแต่กับการกินกั้ง
กลับถึงที่พักก็นอนไม่ได้สังสรรค์อะไรเลย ดำน้ำเหนื่อยเกิน


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 31 มกราคม 2567 เวลา:17:42:15 น.  

 
หลายเรื่องจริงๆ มาก


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:28:31 น.  

 
เม้นตั้งยาว แต่อ่านโดน จึ๊กกกกก บรรทัดสุดท้ายบรรทัดเดียว


สาวแก่จิตใจวัยรุ่น - - - - - - โอคนะ 5555+


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:43:54 น.  

 
หลังไมคค์อะไร เรื่องดราม่าหรอ

ตอนนี้ พี่เศร้าหนักยิ่งกว่าถูกผู้ชายทิ้งคือ หวยแดรกอีกแล้ว
คุณย่าใหญ่ย่ากลางย่าเล็กทำพิษพี่แล้ว


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:48:12 น.  

 
กำลังจะออกไปทำงานครับ
ไว้เลิกงานจะกลับมาอ่าน


โดย: Rain_sk วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:2:36:04 น.  

 
จากบล็อก
พี่นอนตั้งแต่ทุ่มนึงเลยครับน้องปริ๊นซ์ โชคดีรอบนี้นอนหลับสบายหน่อย
แต่พี่ว่าสนามบุรีรัมย์นะสนุกมันส์กว่า เพราะได้เต้นด้วย มีวงดนตรีตลอดเส้นทาง 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:9:49:01 น.  

 
ขอบคุณครับน้องปริ๊นซ์

ชาร้อนมากๆนี่ลวกปาก
เคยเจอครับ 555

พี่ก๋าไม่ดื่มกาแฟ
ดื่มแต่ชาจีน
ชาลิปตันก็ไม่ชอบครับ

แต่ก็ไม่ได้พิถีพิถันอะไรนะครับ
ชงง่าย ดื่มง่ายครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:29:24 น.  

 
กลับมาอ่านล่ะครับ เจอคนแบบ นายเอ กะ นาย บี น่าเบื่อนะครับเข้าใจอารมณ์ สุดทายมันรู้ตัวสมน้ำหน้ามัน

ตรีภพ... ชื่อนี้ก็ดีนะครับ .... ผมว่างานที่ทำกับคนหลายพวกหลายกลุ่มมันมักจะเจอปัญหาบ้างครั้งยากที่จะแก้

ทำให้รู้สึกว่าอยากลาพักร้อนระยะยาวฮ่า


ผมขอเป็นกำลังใจนะครับ อีกไม่กี่ปี คงได้เลื่ออนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ

ปัญหาตรง อายุน้อยหน้าอ่อน คนไม่รู้ไม่มีมารยาทอย่างนายเอและบี...มีเยอะ...อาจจะทำให้หงุดหงิดได้บ่อย
.
.
.

เห็นขึ้นบล็อกใหม่... ไว้มีเวลา จะตามอ่านนะครับ


โดย: Rain_sk วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:2:57:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space