|
นี่มันปีอะไร? ทำไมสะบักสะบอม |
|
หลังจากปาร์ตี้ปีใหม่อย่างหนักหน่วงเหมือนที่ผมเล่าไว้ในบล๊อกเพลง"นักมายากล"กิจกรรมช่วงปีใหม่ของผมก็ยังไม่ได้จบแค่ปาร์ตี้ครับ เพราะเปิดมาชีวิตก็หนักหน่วงเลยครับ
เริ่มจากกิจกรรมเบาๆ ส่งท้ายช่วงหยุดปีใหม่ ด้วยการทำสิ่งที่ปกติไม่ค่อยทำ คือ..... กินหมูกระทะ ...... 555555555555

จริงๆ มันไม่แปลกหรอกครับ แค่ผมไม่ค่อยกินหมูกระทะเท่านั้นเอง ผมอาจจะไม่ค่อยถนัดแนวปิ้งย่างเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ใช่กินไม่ได้ ดังนั้น ไหนๆ ก็อยู่บ้านชิล ๆ เลยลองสั่งหมูกระทะมากินที่บ้านซักหน่อยใช่ครับ .... ไม่ได้ไปนั่งกินที่ร้านนะ แต่สั่งมากินที่บ้าน ก็ดีไปอีกแบบนะครับ เพราะควันไม่ได้ตลบอบอวนเหมือนร้าน เย็นสบายได้ด้วยพัดลมของเราเอง ผมสั่งเตาพร้อมเนื้อนิดหน่อยจากร้านใกล้ๆ บ้าน แล้วสั่งเนื้อดีๆ เสริมมากจากร้านดังสายคลอง


อือหืออออ เนื้อที่สั่งมาเพิ่มมันดีเยี่ยมไปเลยครับ ส่วนน้ำจิ้มก็อร่อยมากๆ อร่อยจนมีใจอยากจะไปนั่งกินที่ร้านเลยครับ 555555 ทำใจแพร้บ
+++++++++++++++++ เริ่มงานวันแรก ก็ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ ส่งคนสวยที่บ้านไปทดสอบเข้าเรียน K1 ใช่ครับ หลานกำลังจะเข้าอนุบาลแล้ว การทดสอบก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ เพราะเป็นสิ่งพื้นฐานที่หลานเค้ารู้อยู่แล้ว หลังจากทดสอบและสัมพากษ์ผู้ปกครองเส็ด ก็มี School tour แล้วก็จ่ายเงิน คุยระเบียบการ อะไรหลายอย่าง ผมเลยขอออกไปใช้สมาธิไดร์ฟที่สนามไดร์ฟของโรงเรียนซักหน่อย ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้ตีเก่งนะ ถูๆ ไถๆ กระจุยกระจายหมด 55555
ไปถึงที่ทำงานเปิดตารางงานมาแทบเป็นลมเพราะตารางนัดหมายงานหนักหน่วงมากครับ คิวแน่นๆ 3 วันรวด แถมวันละ 2-3 ประชุม ที่ต้องออกไปขายงาน ประชุมลักษณะนี้จะเปลื่องพลังงานมากครับ เพราะนอกจากต้องทำพรีเซ้นเตชั่นไปนำเสนอแล้ว บางแมทต้องเริ่มตั้งแต่แนะนำตัวเองให้ลูกค้าใหม่ บางแมทต้องคุยเพื่อขายงานใหม่ ขอโปรเจคใหม่ นี่ก็ต้องทั้งนำเสนอทั้งForce บางแมทมี project on hand กันอยู่ ก็ต้องมีข้อมูลในมือว่าเค้าต้องการอะไรเพิ่ม เพราะมีโอกาสดันอะไรเพิ่มได้อีก แล้วเสนอขายงานเพิ่มครับ ซึ่ง Market ก็จะทำข้อมูลมาว่า บริษัทนี้กำลังจะมีProject อะไร ภายในเมื่อไหร่ และเป็นหน้าที่พวกผมต้องไปแมช เหนื่อยครับ เหนื่อยทั้งแรงเหนื่อยทั้งสมอง
ทำให้พอพ้นระยะปาร์ตี้ปีใหม่ปั๊บ ผมก็ต้องเริ่มทำพรีเซ้นเตชั่น ต้องเริ่มอ่านงาน กว่าจะได้นอนก็ ตี 2 ทุกวันแล้วตื่น 6 โมงครึ่งออกไปประชุุม ซึ่งต้องบอกว่า ช่วงปีใหม่นี่ถือว่าไม่ได้พักเลยนะครับ เพราะปาร์ตี้ทุกวัน ดื่มหนักทุกวัน บางวันนี่สารภาพเลยว่าดื่มจนภาพแทบตัด เพราะมันคือปาร์ตี้ในบ้านตัวเองไม่ต้องห่วงเรื่องขับรถกลับบ้าน แถมก่อนหน้าปีใหม่ ผมเพิ่งไปต่างจังหวัดยาวๆ 5 วันกลับมา ทริปนั่นก็เหนื่อยจัดเลยครับ ทั้งวิ่ง ขับขับรถ ทั้งขนของ ครบเครื่อง ไว้จะมาเล่าเรื่องทริปในฟังครับ โหด มันส์ ฮา มาก +++++++++++++++++ 
ออกไปประชุุมกับลูกค้าผมก้ใส่เต็มพลังครับ พร้อมวางแผนกินข้าวอร่อยๆ กันตามจุดที่ต้องไปประชุม คือประชุมเส็ดเย็นวันพุธ ผมกับพัทคุยกันเรื่องข้าวเที่ยงวันรุ่งขึ้นละ 55555 เรียกว่า Work hard, Eat harder วันพฤหัส เป็นวันที่ผมเหนื่อยมากครับ อาจจะเพราะต้องพรีเซ้นงานผู้ใหญ่ ตอบคำถามเยอะ แล้วนำเสนอเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ให้ผู้บริหารหลายรอบ เพราะพอได้คุยเสนองานกับผู้จัดการ เค้าสนใจและอยากให้นำเสนอกับคนที่ใหญ่กว่า เพื่อที่ผู้ใหญ่จะได้สนใจและตัดสินใจไวขึ้น พอพรีเซ้นผู้ใหญ่เส็ด คุยธุรกิจทั่วไปซักพัก ผู้ใหญ่บอกอยากเชิญCEO มาฟังด้วย ช่วยแนะนำที อ้าว....กุก็ต้องพูดอีกรอบ แล้วคุยทางธุรกิจจุลภาค มหาภาพอีกรอบ จบประชุมนั้น เหนื่อยอยากกลับบ้านเลยครับ 555555
แต่พอได้ข้าวหมูแดงเข้าไปก็ได้อยู่นะ ตบด้วยน้ำลำใยอีกซักแก้ว หายเหนื่อยครับ ทำงานต่อได้ ยังมีแอบรู้สึก "ยังไม่จบอีกหรอวะ" อยู่นะครับ 55555 แต่แค่เบื่อครับ หายเหนื่อยตั้งแต่หมูกรอบแล้ว

วันเสาร์ก็ยังกินอยู่ครับ เพราะอารมณ์ค้างมาจากช่วงปีใหม่ นี่ก็อยู่ๆ ก็ขับรถไปอยุธยา แค่เพื่อไปกินกุ้งเผา 555555เฮ้ย! บ้านใกล้ครับ อยุธยาก็แค่ปากซอย

ขับรถ 45 นาที ถึงตลาดกลางอยุธยา ไปยืนเลือกไซส์อยู่หน้าร้าน ซักพักก็ได้มา 1 จาน 1 โล พออิ่มๆ
.....ราบครับนาย.....กำลังคิดว่าจะไปคาเฟ่ที่เค้าว่ากันว่าเปิดใหม่ คือผมเซต Google map แล้วนะครับ กดนำทางแล้วด้วย แต่อยู่ ๆ ก็มีเบอร์แปลกโทรมา เบอร์คุ้นมากครับ เลยคิดว่า Kerry 55555 ไอ่ผมก็รีบรับสาย "สวัสดีครับ" ปลายสายไม่ได้บอกว่า มีของมาส่งนะครับ แต่กลับบอกว่า "พรุ่งนี้พี่นัดเที่ยงตรงที่โรงแรมXXX นะคะ พี่จะเปิดห้องให้ไม่เกิน 11โมงครึ่ง น้องเข้ามาก่อนนิดหน่อยแล้วฟิตติ้งชุดก่อนนะคะ ว่าถูกต้องไหม"ชิบหาย!!!! พรุ่งนี้มีงานวะ!!!!!ต้องรีบบอกแฟนว่า คาเฟ่ไว้ไปวีคหน้าได้ไหมเทอ พรุ่งนี้เรามีงาน เราแจ้งอก เอว ไปตั้งแต่ก่อนไปเชียงใหม่ แล้วนี่น้ำหนักขึ้นมา 2 โล เราจะใส่ได้หรอวะ พักก่อนนะ 55555555
สรุปกลับบ้านไปวิ่งไปเวทเลยครับ 55555 ไม่ช่วยหรอก แต่รู้สึกผิดน้อยกว่าไม่ทำอะไรเลย
+++++++++++++++++ 
งานอยู่จังหวัดใกล้ๆ กทม ครับ แต่ขับรถไป 2 ชั่วโมงอยู่เหมือนกัน ซึ่งผมควรไปถึงโรงแรมซัก 11 โมง settle ตัวเองก่อนซักหน่อย ห้องเปิดจะได้เริ่มเตรียมตัวเตรียมงานได้เลย เดี๋ยวครับ!!!! ผมไม่ได้รับงานเด็กเอ็นฯ หรือเด็กออฟนะ ถึงได้นัดที่โรงแรม!!! งุย! เท่ากับผมต้องออกจากบ้านไม่เกิน 9 โมง หุยยยยย ตื่นมาก็ 7 โมงครึ่งแล้ว ก็รีบจัดการตัวเองอย่างด่วน จัดข้าวของเล็ก ๆ น้อยๆ แล้วรีบออกจากบ้าน ก็ 9 โมงพอดีละครับ แฟนที่ตามไปด้วยนี่ต้องแต่งหน้าในรถเลยครับ
ต้องบอกไว้ก่อนว่าผมจะไม่มีรูปงานที่ทำนะครับ เพราะมีสัญญาห้ามเผยแพร่ภาพ แล้วปกติ ผมไม่เปิดเผยงานลูกค้า จ้างดิเดี๋ยวเปิดแบรนด์ให้ครับ 55555555 แล้วปกติ ผมไม่ได้มาเล่าด้วยว่ามีงานของอะไรบ้าง ซึ่งก่อนนี้ก็มีมาบ้างครับ
อ่ะไปถึง ผมไปถึง 11:30 พร้อมแวะซื้อข้าวเซเว่นมากินด้วย ไปถึงโรงแรม....แฟนนี่ชะโงกหัวไปดูป้ายอีกรอบเลยครับ พร้อมถามว่า "ไม่ใช่ม่ายรูดใช่ไหมเนี้ย" ผมก็ทำได้แค่ตอบว่า "เราไม่ได้รับงานอย่างว่านะ แต่เค้านัดที่นี่จริงๆ" คิดว่าไม่ใช่ม่านรูดครับ เพราะไม่มีม่าน 55555 ไปถึงก็ไปรับคีย์การ์ดที่ทางคนจ้างฝากให้ไปเปิดห้อง ขึ้นไป ทางเดินผีสิงมาก นี่ขนาดไม่กลัวผี ยังอดคิดไม่ได้ แฟนก็ถามว่า "ถ้ามาคนเดียว เทอจะกล้าขึ้นมาหรอ" "ก็คงหลอนๆ หน่อย" ผมก็เปิดเข้าห้องไป ไฟเฟยอะไรเปิดไม่ได้ กำลังพลิกการ์ดซ้ายทีขวาที อยู่ๆ ที่หางตาด้านขวาที่ติดกับทางเดินของผมก็เห็นเหมือนเงาอะไรที่หางตา เลยรีบหันกลับไป ปั๊บ!!!!!"อุ่ย เชี้ย!"
สาบานเลยครับว่าอุทานแถมสะดุ้งด้วย เพราะผมหันไปเจอพี่เจ้าหน้าที่โรงแรมที่สูงไม่ถึงไหล่ผมมั้ง ยืนซะชิดหลังผมเลย"ครับ!""พี่มาดูไฟให้คะ" แล้วเค้าก็เข้ามาเปิดไฟเปิดแอร์ให้ พร้อมกับเอาโต๊ะเอาเก้าอี้เพิ่มมาให้ บอกว่า ทางคนที่เปิดห้องเค้าขอไว้เปิด พร้อมกับถามผมก่อนออกจากห้องไปด้วยเสียงเย็นๆ ว่า..... "น้องนอนไหมคะ" ผมรีบส่ายหน้ารัวๆ พร้อมโบกมือ "มะมะ...ไม่นอนครับ" แล้วพี่เค้าก็จากไป ทิ้งผมกับแฟนไว้พร้อมเสียงแอร์เบา ๆ
โอเค.....ไม่น่ามีอะไร ผมเลยรีบนั่งกินข้าวเซเว่นที่ซื้อมาซะให้เรียบร้อย แปรงฟัน ล้างหน้า กำลังจะชาร์ตมือถือ เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขึ้น
...... ก๊อกๆ ......ส่องตาแมวไปเจอผู้หญิง 2 คน ยืนอยู่หน้าห้อง ไถ่ถามเส็ดก็เปิดให้เข้ามานั่งรอเหมือนกัน ซักพักก็มีผู้ชายอีก 1 คน เข้ามาอีก เรา 5 คนนั่งมองหน้ากันอยู่พักนึง ก่อนจะมีคำถามว่า...... "ช่างแต่งหน้าอยู่ไหน" ผมโทรหาพี่ที่คนติดต่อ ก็บอกว่าอีกซัก 15 นาที คนอื่นเลยบอกว่า งั้นขอไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยวกลับมา ผมกับแฟนเลยนั่งเล่นมือถือกันอยู่ในห้อง แอบกังวลนิดๆ เพราะปกติกองไม่เคยช้า นี่เราไม่เจอแม้แต่คนว่าจ้างที่ควรจะมาหาหรือมีใครมาบรีฟ หรือมีอะไรมาให้อ่าน เอาเป็นว่า แฟนถามหาเงินมัดจำเลยครับ ว่าเราจะโดนเบี้ยวไหม

นั่งๆ อยู่ผมได้ยินเสียงกริ๊ก! เหมือนการ์ดประตู แล้วประตูก็เปิดผั่วะเข้ามา!!!! ผมตกใจมากเอาจริงวันนี้กุต้องตกใจกี่ช๊อตวะ!!!!แล้วคน6-7 คนพร้อมกระเป๋าลากสีดำก็เดินฉับๆ เข้ามาในห้อง ลากโต๊ะลากเก้าอี้จัดห้องกันอย่างรวดเร็ว "น้องผู้หญิงนั่งเลยค่ะ" ทีมแต่งหน้าครับ ผมก็รีบบอกก่อนเลย "อะไม่ครับๆ นี่แฟนผม" "อ้าวหรอคะ งั้นน้องนั่งค่ะลูก ผู้หญิงคนไหนกันคะ" "เดี๋ยวผมตามให้ครับพี่" แล้วผมก็โทรตามคนอื่นให้รีบขึ้นมา ซักครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้ว่าจ้างก็มาครับ ผมเส็ดคนแรกเลยมาบรีฟงานก่อน แล้วส่งไปอีกห้อง อ้าวววว มีอีกห้องด้วย ให้ไปฟิตติ้งชุดจีซัส ไครส์......พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์....กางเกงแน่น!!!! แต่ใส่ได้ครับ แบบพอดิบพอดี พอดี๊พอดี 5555555
พี่ทีมงานยิ้มให้เลยครับ "ปีใหม่ก็กินเยอะอ่ะเนอะ" ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ "ครับพี่^^"
เริ่มงานจริงก็ เกือบ 4 โมงเย็นครับ แต่ทีมงานดีครับ น่ารักทุกคน ตั้งแต่ทีม make up ทีมภาพ ทีมผู้ว่าจ้าง มีสัญญาระบุรายละเอียดต่างๆ ชัดเจนให้เซ็นต์รับทราบ รวมถึงแจ้งว่าอาจจะต้องมีการขอกันคิ้ว หรือตัดผม แล้วแต่ความเหมาะสม ผมแจ้งพี่เค้าไว้ว่าช่วงนี้ผมไม่ค่อยสบาย ถ้าเหนื่อยต้องขอพักหน่อย เค้าก็ดูแลดีครับ เห็นโดดไปโดดมา 4-5 รอบ ก็บอก "อ่ะไปพักก่อนลูก" เส็ดงานจริงๆ ....3 ทุ่มครับ แฟนขับ ผมหลับยาวถึงบ้านเลยครับ ถึงบ้านเกือบ 5 ทุ่มครับ
ซึ่งไม่ใช่ว่าจะนอนได้เลย เพราะไหนจะต้องล้างหน้า แถมต้องมานั่งอ่านงานเตรียมสำหรับประชุมวันจันทร์อีก ส่วนหัว ก็นอนมันทั้งแบบนั้นแหละ ค่อยมาสระเอาตอนเช้า แต่โคตรคัดหัวเลย
+++++++++++++++++ แน่นอน วันจันทร์ผมมีประชุมพรีเซ้นงาน 2 ประชุมพร้อมทีมงานคุณภาพ พัทกับไนท์ พอเจอกันที่ลานจอดรถ ผมก็เริ่มบรีฟน้องเลยครับ เดินไปบรีฟไป ว่าผมจะพูดอะไร จะทำอะไร อยากได้อะไร แล้วน้องต้องบอกอะไรหรือไม่บอกอะไร รู้ตัวอีกทีลิฟต์เปิดที่ชั้น high zone เรา settle ตัวเองครั้งสุดท้ายก่อนพบลูกค้า ใครพร้อมแค่ไหนไม่รู้ แต่ผมนี่ต้องเอานิ้วยกแมสหายใจเลยครับ 55555 น่าจะพูดจนเหนื่อย แล้วน่าจะใส่แมสเดินไปพูดไป

เข้าห้องประชุม คุยวอร์มเครื่องอยู่ซักพักพอให้เครื่องติดก็เริ่มคุยงานครับ โดยผมเป็น main speaker พรีเซ้นตัวโปรเจคหลักเส็ดก็เข้าสู่ช่วงถามตอบพูดคุย ขายของเพิ่มกันต่อ พูดกันตรงๆ เลยว่า ผมรู้สึกไม่สบายแปลกๆ มาซักพักแล้ว แต่เฮ้ย! นี่ทำงานอยู่ แต่จริงๆ แล้วพัทบอกว่ามันสังเกตได้เลยว่าเสียงพูดดูแปลกๆ ทำหน้าแปลกๆ เหมือนเหนื่อยๆ (ผมถอดแมสคุยงานนะครับ atk ก่อนมาเจอกันครับ) แล้วเหมือนเอามือแตะหน้าอกบ่อย แต่อันนี้ผมไม่รู้ตัวเลยนะ ซึ่งผมก็ว่าพัทน่าจะรู้ว่าผมไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันไม่พูดไม่ถาม แต่มันมองหน้าแล้วทำท่าเหมือนอยากถามตลอด คงเห็นว่าผมไม่พูดอะไร ก็เลยไม่กล้าถามแต่พัทคิดถูกครับ...เพราะช่วงที่คุยงานผมรู้สึกหัวใจเต้นแปลกๆ เหมือนสะดุดๆ ใจสั่นเป็นพัก ๆ เวลาพูดจนเหนื่อย แล้วอยู่ๆ ก็พีคครับ ผมร้อนมาก รู้สึกไม่มีอากาศหายใจ อึดอัด เวียนหัว ผะอืดผะอมมาก ลูกค้าก็นั่งตรงหน้า นั่งเก็บอาการจนไม่ไหว รู้สึกว่า "กุน่าจะเหลือเวลาอีกไม่เกิน 10วิ" เพราะใจสั่น หูอื้อ ภาพสีเฟดแล้ว รีบหันไปหาพัท ซึ่งหันปุ๊บพัทคว้าแขนปั๊บ
จำได้ว่าบอกพัทง่ายๆ เลยครับ "พี่จะเป็นลม พี่จะเป็นลม"พูดกี่รอบไม่รู้ รู้แต่พูดถี่มาก 55555 ส่วนพัทพูดอะไรไม่รู้หูผมอื้อ 55555 แต่รู้สึกว่าพัทเอาแขนสอดมาใต้แขนกันไม่ให้ร่วงไป แล้วผมภาพตัดเลยครับ รู้เรื่องอีกทีก็ที่พื้น พร้อมลูกค้าเอาพัดลมมาตั้งเป่าให้ด้วย
"ยังไม่ต้องลุกพี่ นอนเฉยๆ ไปก่อน" นี่คือได้ยินเสียงพัทเหมือนพูดในน้ำ แต่ตอบอะไรไม่ได้ ก็แค่เช็คตัวเองว่าควบคุมตัวเองได้แค่ไหน แล้วนอนหลับตาต่อให้หายเวียนหัว รู้สึกว่า เชี้ยเอ้ย กุไม่มีอะไรจะเสียแล้ว กุนอนต่อดีกว่า 555555 ซักพักพอลุกขึ้นมานั่งมึนๆ ได้ ลูกค้าคนอื่นไม่ได้อยู่ในห้องแล้วครับ มีแค่ผม พัท ไนท์ พี่ทิพย์....จำพี่ทิพย์ที่ชอบจับมือผมน่ะ พี่แกมานั่งลุ้นอยู่ใกล้ๆ และพี่ตั้ม ลูกน้องพี่ทิพย์ที่พวกผมดีลดีเทลงานด้วย พี่ทิพย์ก็เข้ามาลูบหลังค่อยๆ ถามว่าเป็นยังไง เกิดอะไร ให้ช่วยอะไรไหม แล้วบอกว่าให้กลับไปพัก ส่วนเรื่องที่คุยกันค้างไว้ พี่เค้าจะจัดการต่อให้เอง ซึ่งตอนนั้นผมก็อยากออกจากตรงนั้นแหละครับ เพราะโคตรเสียหน้ามหาศาล
แต่เอาจริงๆ ผมเดินไม่ไหว พอเดินๆใช้แรงหน่อยหัวใจจะเต้นสะดุดๆ ไม่รู้หน้าผมมไม่โอเคหรือยังไงพี่ทิพย์กับพี่ตั้มเลยเดินตามลงมาที่ชั้น G เพื่อต่อลิฟต์ไปลานจอดรถ ช่วงยืนรอลิฟต์น่าจะเดินเหนื่อย ยืนนาน ช่วงนั้นเริ่มไม่ไหว รู้สึกหัวใจเต้นแปลกๆ ถี่มาก พอพัทกับไนท์หิ้วเข้าลิตฟ์ ผมพูดคำแรกเลยว่า "พี่ไม่ไหว" แต่ในใจคือบอกตัวเองตลอดเลยนะครับว่า "ไม่ๆๆๆ กุห้ามตายๆ" ก่อนจะได้ยินเสียงโวยวาย แล้วภาพตัดไปอีกรอบ
จากนี้ก็จะเบลอๆ ครับ ได้ยินเสียงแว่วๆ โรงบาลครับ รอบนี้โรงบาลเลย ก็ดีเหมือนกัน เพราะเริ่มกัวแล้วว่ากุเป็นอะไรวะ ได้ยา ได้กลูโคส ได้น้ำเกลือไปซักครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มโอเคขึ้นครับ ก็เริ่มห่วงนัดประชุมนัดต่อไป แต่ไนท์รีบบอกเลยครับ "ไม่ต้องห่วงพี่ เราจัดการเอง เราไปเอง ให้พัทอยู่กับพี่นี่แหละ พี่ก็พักไป" "ไหวนะ" "พี่เชื่อใจเราดิ" "มีไรไลน์มา" "ได้ มีอะไรเราไลน์มานะ พี่ไม่ต้องห่วงเลย"
พัทที่รับโทรศัพท์ตลอดเวลาครับ พูดไปหันมามองผมไป ก็น่าจะคุยเรื่องผมนี่แหละส่วนผม....ปลง....หลับสิครับ จะรออะไรวันนั้นผมยาวๆ เลยครับ เพราะโรงบาลให้ตรวจหัวใจ Full set แต่ผลออกมาก็เจอแหละครับว่า มีอาการหัวใจเต้นสะดุดจริงๆ แต่เป็นอาการที่ไม่ได้อันตรายอะไร ซึ่งจริง ๆ รู้มานานมากแล้ว
บอกง่ายๆ เลยว่า อาการครั้งนี้ที่ถี่ขึ้น หนักขึ้น เกิดจาก...... ดื่มหนัก พักผ่อนน้อย ความเครียด บวกกับยาขยายหลอดลม เพราะพูดตามตรงว่า ช่วงอาทิตย์มานี่อาการหอบผมไม่ค่อยดี มีอาการทั้งกลางวันกลางคืนเป็นระยะๆ ทำให้ต้องใช้ยาเต็มอัตรา ทั้งหมดก็น่าจะต้องงดดื่ม แล้วหาเวลาพักผ่อนครับความฮาคือพี่โฟล์คหัวหน้าก็โทรมา แต่ผมไม่รับเลยโทรหาพัท แล้วแบบตกใจมากครับที่ผมวูบ "เฮ้ย! มันวูบใช่ไหม ตอนมันอยู่กับพี่มันก็เป็นบอกว่าใจสั่นจะวูบ แล้วหมอบอกมันเป็นไร" "พี่ปริ๊นซ์มันเทคยาอ่ะครับ" "บ้า!!! พี่เห็นมันแดรกแต่ยาแก้แพ้ มันเป็นไรเอาจริงๆ"
พัทก็กวนตีนเนอะ....... แต่มันก็บอกไปว่า เป็นผลจากยาที่ผมใช้อยู่ แถมดื่มหนัก พักผ่อนน้อย เลยใจสั่นมาก บวกเพลียๆ อยู่แล้ว เลยวูบ "พี่โฟล์คอยู่กับพี่ปริ๊นซ์ที่ต่างประเทศกัน 2 คนตั้งนาน ไม่รู้หรอครับ" "ก็มันไม่เคยบอกอะไรพี่" พัทบอกว่าพี่โฟล์คเสียงเซ็งๆ แล้วบอกว่าก็ฝากดูแลกันด้วย แล้วบอกหน่อยเผลอไม่ได้....เด็กผมมันเล่นลูกพี่ตลอด.....
ส่วนพี่ ผจก ก็โทรมาบอกพัทว่าส่งพี่หมิงกับเจมส์มาหา เจมส์มาหาผมกับพัท ส่วนพี่หมิงจะเข้าไปดูไนท์เผื่อมีอะไร แล้วจะมาขับรถผมกลับบ้านให้
+++++++++++++++++ สรุป ต้องงดปาร์ตี้ กินดื่ม งดแบบงดไปก่อนเลยครับ คุณ VP สั่งให้งดออกไซต์ แต่ผมมีงานวันศุกร์นี้ที่ต้องเข้าเองจริงๆ ส่วนงานอื่นๆ ของสัปดาห์นี้ผมงดครับ ให้น้อง หรือพี่โฟล์คเข้ากันไป
งดจัดตี้ ตีป้อม counter strike อะไรตอนเที่ยงคืนตี 1 ด้วยครับ 555555555555 ก่อนนี้ตี้เรียกร้อง ให้ต้องจับอาวุธกันทุกคืนเลย
คุณ VP ปรี๊ดมากครับ วันนี้ผมเข้าออฟฟิศ โดยซักไปจัด ๆ ว่าคุณเป็นอะไร ต้องคุยกันนะ มีอะไรคุณต้องบอกผมสิ ผมให้คุณทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ไม่ได้ให้ตายในหน้าที่ส่วนค่าใช้จ่ายที่โรงบาล พี่ทิพย์ตามมาจัดการให้ครับขอบคุณพี่ทิพย์ กับ พี่ตั้มมากที่ช่วยเหลือดูแลอย่างดี
เรื่องนี้แฟนผมไม่รู้นะ ผมไม่ได้บอก รู้แค่เมื่อเช้าแต่งตัวจะออกจากบ้าน อาการเดิมเลยครับ นี่ก็นอนดมยาดมจ่อพัดลม ยิ้มแห้งๆ ให้แฟน เลยลาเช้า เข้าออฟฟิศมาบ่ายแล้วมานั่งเซ็ง ๆ ลูกน้องออกไซต์กันหมดนี่แหละครับ เลยมีเวลาอัพบล๊อกเลยครับเดี๋ยวไว้จะพาไปเที่ยวครับ เที่ยวธรรมชาติสิครับ เที่ยวกลางคืนคงต้องพักยาว เหอะๆ
ผับจ๋า....ลาก่อย
Create Date : 10 มกราคม 2566 |
Last Update : 10 มกราคม 2566 16:44:37 น. |
|
30 comments
|
Counter : 251 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเริงฤดีนะ, คุณSweet_pills, คุณRain_sk, คุณกิ่งฟ้า, คุณtanjira, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณkae+aoe |
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 มกราคม 2566 เวลา:22:37:11 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:0:46:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:5:33:46 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:8:11:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:11:17:08 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:11:49:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:19:35:37 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:20:17:21 น. |
|
|
|
โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:23:42:43 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 12 มกราคม 2566 เวลา:0:40:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2566 เวลา:5:29:24 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 12 มกราคม 2566 เวลา:7:44:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2566 เวลา:18:57:27 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 13 มกราคม 2566 เวลา:0:23:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2566 เวลา:5:41:59 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
หลังจากพักเราก็ต้องมาลุยกันต่อ นอนน้อยอันตรายนะ ยิ่งขับรถด้วย ยังไม่ทันขาดคำนั่นไงล่ะเกิดเรื่องจนได้ ต้องรักษาสุขภาพมากกว่านี้ คิดถึงแฟนกับพ่อแม่เราดีกว่า บริษัทเขาไม่สนเราหรอก เราเคยป่วยลาก็ลาล้วยังจะโทนศัพท์มาถามงานตามงาน คือมารยาทมันมีมั้ย บริษัทไทยเท่าที่เจอมาไม่ค่อยมืออาชีพเลย (ต่อให้เป็น บ. ต่างชาติเข้ามาตั้งก็เถอะ)