กลับมาที่เชียงใหม่ ในตอนเช้าอีกครั้ง ผมยกมือถือขึ้นมาดูอุณหภูมิว่าควรจะหยิบเสื้อกันหนาวไปดีหรือป่าว ซึ่งอุณหภูมิช่วงเช้านี้ ประมาณ 16-17 องศา พร้อมแดดสดใส แบบนี้อากาศคงกำลังสบาย 25-27 องศาในช่วงเที่ยง ๆ แน่นอน
หลังจากเมื่อวานขับรถหลงไปไกลจนเกือบเชียงราย 5555 เอ้ยยย เมื่อวานเป็นทริปแม่กำปอง เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นแบบโหด มันส์ ฮา วันนี้ผมวางแผนไว้ว่าจะพักจากการขับรถยาวๆ เที่ยวชิลๆ ในเมืองกันบ้าง
ดังนั้น วันนี้ สำหรับผมขอตั้งชื่อทริปว่า "Check-in at CNX City" มาดูกันว่าจะใช้ชีวิตชิลๆ แบบนักท่องเที่ยววัย...วัยทำงาน แนว Check-in ในตัวเมืองเชียงใหม่ยังไงกันบ้าง
จากเมื่อคืนที่นั่งดื่มเบียร์วุ้นเย็นๆ เคล้าบรรยากาศริมปิงชิลๆ มากแล้ว เช้านี้เลยอยากหาร้านอาหารเช้าแบบที่ไม่มีให้ กทม กินดูบ้าง ตัวเลือกแรกตามแผนที่วางไว้คือ "โกปี๊" ครับ แต่มีแอบเปิดแอป QueQ ร้าน โกเผือกโกดำ ดูนะครับ เปิดไปก็ได้แค่หัวเราะแล้วยักไหล่เบาๆ ครับ ...... 34 คิว ...... เจริญแล้วเพื่อน...... งั้นเอาตามแผนเดิม ไปโกปี๊นั่นแหละครับ
โกปี๊
ผมไปถึงร้าน ประมาณ 8 โมงเช้า ถือว่ากำลังดี เพราะคนไม่ได้เยอะมาก ยังมีที่นั่ง Outdoor ให้เลือก นั่งรับลมเย็นๆ ซึ่งนี่ก็นั่งลงเขียนสั่งแบบไม่สนเลยว่าจะกินหมดหรือไม่หมด กะเอาบันเทิงอย่างเดียว 55555
นั่งเขียนรายการอาหาร แล้วส่งบิลไปซักพัก เงยหน้าขึ้นมา หุยยยยย คนยืนรอคิวกันเต็มเลย ที่ฮาคือ มีคนนิมนต์มาฉันเช้าที่โกปี๊ 5 องค์ด้วย 555555 มิติใหม่ของการเลี้ยงพระวะครับ
โกปี๊อยู่นิมานครับ ไปง่าย แถมมีที่จอดรถจอดสะดวก วันนั้นผมยังพูดเลยว่า นี่ถ้าคิดอะไรไม่ออก มากินอีกก็ได้นะ
คือผมสั่งจัดเต็มมาก ทั้งขนมจีบ ฮะเก๋า กาแฟ ชาไทย ไข่กระทะ ข้าวต้ม ขนมปังสังขยา เฮ้ย! อร่อย! อร่อยทุกอย่างละครับ ขนมปังมีทั้งแบบย่างทั้งแบบสตีม ไอ่สังขยา 3 สี รสชาติมันต่างกันด้วยนะครับ ส่วนตัวผมชอบสีฟ้า กินแล้วนั้วนัว คิดไม่ออกเลยว่ามันรสอะไร 55555
แต่บอกตรงๆ ว่ากาแฟจางมากครับ ผมติดกาแฟเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ยิ่งเหนื่อยๆ ตื่นเช้า ยิ่งอยากดื่มกาแฟ แล้วตามชื่อทริปว่า "Check-in CNX" ดังนั้น มีที่นึงที่ผมคิดไว้เลยว่า ถ้ามาเชียงใหม่ จะต้องมา Check-in ให้ได้
Mars.cnx
นี่อย่างกับทริปคาเฟ่ฮอปปิ้ง อาหารเช้าหลุดปากก็ต่อด้วยคาเฟ่เลย คือผมน่ะ ชอบอะไรแนวอวกาศอยู่แล้วครับ อ่ะ...ใช่ ผมชอบดวงจันทร์ แต่รองจากดวงจันทร์ก็ Mars นี่แหละครับ
พอขับรถถึงหน้าร้าน นี่ถึงกับต้องร้อง เชี้ย! เลย!!!! แต่แฟนทักไว้ว่า ใจเย็นๆ เค้ามีป้ายมาที่จอดรถเลี้ยวเข้าซอย 55555 ยังไม่ 10 โมงดี รถเต็มลานเลยครับ ดีที่เราเช่ารถเล็ก ไอ่นี่ก็ใช้สกิลเดียวกับเวลาจอดที่ทำงาน ถอยเข้าไปจอดด้วยท่าพิสดาร
ข้างในตกแต่งอวกาศมากครับ ตอนดูรูปจาก กทม ก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง พอมาจริงๆ อ้อ...เค้าใช้เครื่องฉายภาพเอาครับ แต่บรรยากาศร้านผมชอบนะ เหมือนอยู่ผับมากกว่าคาเฟ่ 55555
บอกก่อนครับว่า เครื่องดื่มที่นี่อาจจะไม่ได้ว้าวเท่าไหร่ เพราะ 100% ของคนที่มา ไม่ได้อยากได้เครื่องดื่ม แต่อยากมาถ่ายรูปในร้าน ตรงนี้ต้องสั่งเครื่องดื่มคนละ 1 แก้วครับ เอาให้ตาค้างกันไปเลยคืนนี้
บล๊อกเกอร์มาทำคอนเท้นท์กันเพียบ โดนเฉพาะไอ่โซนส้มๆ นี่ครับ ถึงกับต้องต่อแถวถ่ายรูป อ่ะแน่นอน คนของผมก็อยากถ่าย ก็ต่อแถวกันไป แต่ผมใช้กล้องถ่ายครับ ลืมโหลดรูปออกมา
บอกตรงๆ ว่า จมอยู่ในดาวอังคารนานมากครับ เพราะเงยหน้ามาอีกที 11 โมงกว่าแล้ว ก็ว่าจะไปกินข้าว ไม่ได้หิวนะ เอาอะไรมาหิวก๊อนนนนน แค่อยากกินหลีกช่วงเที่ยง-เที่ยงครึ่งที่คนน่าจะเยอะแค่นั้นครับ
แต่ขับมาได้ไม่ไกล แฟนก็บ่นพึมพำ "ยังไม่ได้ถ่ายรูปร้านหวายเลย" "ไอ่ร้านนั้นอ่ะนะ ทำไมอ่ะ ไม่เห็นมันมีอะไรเลย" "มันต้องถ่ายปริ๊นซ์ ใคร ๆมาเชียงใหม่ก็ต้องถ่ายทั้งนั้นอ่ะ แต่นี่เราไม่ได้ถ่าย" "ก็จะแวะไหมละ" "มีเวลาหรอ"
ไม่ต้องมาถามเรื่องเวลาแล้วแหม่.....ไม่มีก็ต้องมีรึป่าวครับ พูดขนาดนี้ ก็ไม่ได้ติด reservation ร้านอาหารอะไร แวะได้อยู่แล้ว
ร้านหวายน้ำผึ้ง @ ช้างม้อย
ไม่รู้เหมือนกันว่ามันดียังไง แต่คนถ่ายรูปเยอะมากครับ อ่ะ แบบนี้ก็จัดไป เปิด Google เลยครับว่าเค้ามาถ่ายมันมุมไหน เอาให้นางกลับไปทำคอนเท้นท์ได้ ไม่มาบ่นเอาทีหลัง ภาพใช้กล้องถ่ายก็จริง แต่ต้องรีบโหลดออกมาส่งให้บอสครับ
นี่ถ่ายชุ่ยๆ ด้วยมือถือ
เบ็ดเส็ด ถ่ายมุมเดี๋ยวนี่อยู่เกือบ 20 นาที ก็ได้รูปที่ต้องการ อ่ะผมก็ถ่าย 55555 ไหนๆ ก็มาแล้ว สรุปคือมันก็สวยดีนะ
อันนี้ตั้งใจใช้พานาไลก้าถ่ายครับ จบหลังเลนส์ ก็สตรีทดี
เที่ยงพอดี แต่ไม่มีความหิวเลยครับ ผมตัดสินใจแวะเที่ยวฆ่าเวลา ตอนนี้ก็เอาให้เลยเที่ยงไปก่อน วัดถ้ำอุโมงค์ เป็นตัวเลือกของผมครับ เพราะครั้งที่แล้ว กำแพงวัดแห้งแล้งมาก ครั้งนี้มาอากาศเย็นๆ น่าจะพอเขียวอยู่
เค้าต้องมากันฤดูไหนวะ ถึงจะได้กำแพงสีเขียว!!!! แห้งน้อยกว่าครั้งที่แล้วหน่อย แต่ก็จัดอยู่ในเกณฑ์แห้งแล้งครับ ฮือออออ แต่อากาศดีครับ ต้นไม้เยอะ อากาศสดชื่นมาก เรียกว่าไม่ได้กลิ่นควันธูป มีแต่กลิ่นสะอาดๆ กับอากาศเย็นกำลังสบาย เนื่องจากมาเพื่อแก้มือ แล้วดันแก้ไม่ได้ ผมเลยใช้เวลาที่นี่ไม่นานครับ แค่ราวๆ 30 นาที แล้ว กลับเข้านิมมาน ไปตามลายแทงที่ตั้งใจไว้
ข้าวซอยนิมมาน
การันตีความดังด้วย มิชลิน ไกด์ 2020 สิ่งแรกที่เห็นเลยคือ..... คิว คร้าบโผ้มมมมมมม
ผมบอกว่า เนี้ย...ร้านไหนนะ ที่มันเสิร์ชหาได้อันดับต้นๆ ใน Google คนกรุงเทพเยอะทั้งนั้น แต่ผมเหมือนพูดคนเดียวนะ เพราะบอสเหมือนไม่ได้ฟังแต่สะพายกระเป๋าแทน "ปลดล๊อดดิ๊" "เทอจะทำไมน่ะ" "จะลงไปเอาคิว" "กินแน่หรอ คนเยอะนะ" "เออน่ะ เราไม่ได้รีบนี่ กว่าเทอจะหาที่จอดได้ ก็พอดีได้กิน เทอขับไปเรื่อยๆ เลย"
อ่ะโอเค ปลดล๊อคเลยจ้ะ แฟนก็โดดลงไป ส่งผมก็ขับไปหาที่จอดรถ และสาบานเลยว่า ผมขับวนอยู่ 3 รอบกว่าจะได้ที่จอดแบบ....จะล๊อคล้อป่าววะ....
เดินกลับมาก็ยังไม่ได้คิวนะครับ แต่แฟนบอกว่าคิวเดินไวอยู่ และเหลืออีกแค่ 6 คิว นั่งรออีกแค่ไม่เกิน 15 นาทีก็ได้โต๊ะแล้ว
เอามาเลยครับ เอาให้สมกับที่วนรถยากเหลือเกิน แต่อร่อยจริงครับ อร่อยทุกอย่าง ปกติผมไม่ได้ชอบกินข้าวซอย แต่ร้านนี้คืออร่อยครับ กำลังดีเครื่องเทศไม่ได้มากไป หมูสะเต๊ะก็อร่อยมาก ตบท้ายด้วยขนมหวานก็กำลังชื่นใจ นั่งกินอยู่คน บ่าย 2 ครึ่ง จากคนแน่นๆ ก็ซา โต๊ะว่างๆ แล้วครับ ร้านนี้นอกจากอาหารอร่อยมากแล้ว บริการยังดีมาก ๆ ครับประทับใจมาก ๆ
อิ่มสิครับ.....จริงๆ มีคาเฟ่ที่อยากแวะครับ เลยแวะเข้าไป Check-in โรงแรมก่อน อ้อ ผมย้ายโรงแรมครับ ย้ายจากฝั่งท่าแพ ไปอยู่กลางนิมมาน ไม่รู้จะย้ายทำไม 55555 แต่ย้ายเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศครับ แต่ผมไม่ชอบห้องพักเลยครับเอาจริงๆ เพราะมันอยู่ติดกับลิฟต์ ออกลิฟต์มาก็เปิดประตูห้องเลย ใครๆ ก็ต้องมาเดินผ่าน แถมประตูห้องเปิดมาก็ตรงกับเตียงนอน ห้องน้ำไม่มีประตู แต่เป็นม่าน!!! แฟนผมถามว่า ม่านรูดมันหน้าตาแบบนี้ไหม ผมตอบแบบคนฉลาดว่า "จะไปรู้ได้ยังไง เราไม่เคยไป" โวะ....
เนื่องจากมือถือกับกล้องแบตหมดครับ เลยนั่งๆ นอนๆ รออยู่ในโรงแรม รอ Fast Charge ซักพัก นอนเล่นท่าไหนไม่รู้ ผมหลับ 555555 กาแฟที่กินมาไม่ได้ช่วยอะไรกุเลย 4 โมงครึ่ง!!!!! รีบเลยครับ รีบออกไปคาเฟ่ที่ตั้งใจจะ Check-in
ดีนะคาเฟ่ที่ว่าอยู่ใกล้มาก ขับรถรวมจอดรวมเดินแค่ 20 นาที ที่นี่คือ The Baristro Asian Style
จ่ายค่าเข้าคนละ 80 บาท เอามาแลกเป็นค่าอาหารเครื่องดื่มได้ โอ้โห ร้านสวยมากครับ เหมือนหลุดเข้ามาประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นมันไม่มีแบบนี้ 55555 ร้านนี้ดีไซต์เหมือนบ้านเศรษฐีญี่ปุ่นโบราณที่เห็นตามการ์ตูนเลยครับ ทุกอย่างดูหรูหรา อบอุ่น สบายตา ติดอย่างเดียวคือร้านใกล้จะปิด บรรยากาศเลยเหงาๆ ซักหน่อย แถมพระอาทิตย์ยังใกล้เลิกงานด้วยครับ
มีเคาน์เตอร์ชงชาโชว์ ซึ่งเราอยากเห็นครับ ผมเลยพลีชีพ สั่งมัชชะอะไรก็ไม่รู้มาแก้วนึงเพื่อจะได้ดูโชว์ที่ Show bar ปรากฎ อิท่าไหร่ไม่รู้ พนักงานบอกให้ไปเอาที่อีกเคาน์เตอร์ อ้าว....ทะ...เทจากขวดนี่นา....ไม่ได้ชงให้ดูหรอกหรอ ฮือออออ
อ่ะเอาวะ ถือว่าลองกินมัชชะดี ๆ แล้วกัน
เสียค่าเครื่องดื่มไปเกือบ 4 ร้อยบาท ปาดน้ำตาครับ ทีนี้ก็อยู่ถ่ายรูปเล่น นั่งเล่นที่ร้าน จนร้านปิด 6 โมงเย็น..... ร้านนี้สวยมากครับ อยากกลับมาอีกตอนที่มีแสงมากกว่านี้ จะได้รูปสวยๆ
วันนี้เรา No plan สำหรับร้านอาหารเย็น ไม่ได้มี Book ไว้ เลยถามว่าบอสอยากกินอะไร บอสก็บอกว่า ต๋องเต็มโต๊ะ ว่าแล้วก็ออกจากคาเฟ่แล้วขับออกไปให้เข้ารัศมีที่จอดจาก QueQ ได้ ขับๆ อยู่ ผมก็ถาม.... "ชาเขียวเราอยู่ไหนนะ" แฟนทำหน้างงๆ บอก "ก็เทอถืออยู่คนเดียว"
ชิบหาย!!! ความทรงจำสุดท้ายของผม คือ "บนหลังคา" เฮ้ย!!! ผมหันมองกระจกหลัง ผมออกตัวโคตรแรงมันน่าจะหกสาดกระจกนะ แต่ "ไม่มี" น้ำหก ไม่มีน้ำสาด ไม่มีอะไรตกให้เห็นตอนออกตัว
เชี้ย!!!! มันก็คงตั้งโด่เด่อยู่บนหลังคานั้นแหละครับ!!!!!
และจังหวะนรกมาก ที่ผมกำลังติดไฟแดงอยู่กลางแยก MAYA "เทอว่ามันยังอยู่ป่ะ" "คิดว่าไม่นะ น้องน่าจะไปทั้งเทอทิ้งโค้งแรกแล้ว" "ถ้าอยู่นี่ดังเลยนะ เป็นดาว Tiktok เลยนะ" ว่าแล้วผมก็มองซ้านมองขวา ทรงไม่มีใครมองแปลกๆ ก็เปิดกระจกแล้วเอื้อมมือไปคล่ำๆ ที่หลังคา "ไม่มี...ไม่มีวะ" นี่คือพูดไปขำไปนะครับ ขำแรงมากด้วย
แต่คนที่มองผมแรงกว่าคือ น้องนักศึกษาที่จอดมอร์ไซค์อยู่ข้างๆ น้องผู้หญิง 2 คนหันไปยิ้มกันเอง พูดทั้งหัวเราะเต็มเบอร์
"หาอะไรอยู่พี่ ชาเขียวอยู่บนหลังคา" พูดไปหัวเราะไป "ยะ....ยังอยู่อีกหรอคับ!!!"
ผมหันไปพร้อมเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะ แล้วเปิดประตูรีบวิ่งไปคว้าเอาไอ่ชาเชียวเวรที่อยู่บนหลังคากลับเข้ารถ ขึ้นรถได้ผมก็เหมือนน็อตหลุด ขำแบบ ค้ำขำน้ำตาไหล กอดพวกมาลัยขำตัวเอง แฟนก็จำ ไอ่น้องนั่นก็ขำ แฟนก็บอก "ปิดกระจ๊กสิปริ๊นซ์ ปิดกระจกก่อน" ผมก็นึกได้ หันไปขอบคุณน้อง 2 คนนั้น แล้วปิดกระจก นั่งขำต่อ "โอ้ยยยย เมื่อไหร่จะไฟเขียว โคตรอายเลยวะ" "ดาว Tiktok คนใหม่" แฟนผมพูด เพราะก่อนหน้าเรามาเพิ่งดูคลิปเองครับ ที่มีคนลืมตุ๊กตาไว้ที่ท้ายรถ แล้ววิ่งไปเที่ยวเชียงใหม่ มีคนถ่ายคลิปแล้วค้ำขำ ผมอาจจะดังไปแล้วก็ได้นะ 5555555
พอ!!!! พอกันที ไปกินข้าวได้แล้ว!!!!
สรุปเรา ได้คิวที่ร้าน ต๋องเต็มโต๊ะ สาขาใหม่ที่ซอย 17 ดีครับ รอ 3 คิวก็ได้โต๊ะแล้ว ชิลมาก แต่ผมออกตัวว่า "วันนี้พักวันนึงนะ เราไม่กินเบียร์นะ"
ผมบอกแฟนสั่งอะไรสั่งเลยนะ ผมขอแค่สามชั้นทอดน้ำปลา กับต้มแซ่บเห็ดถอบ ก็พอ แฟนร้อย "What!!! ยูเนี้ยนะจะกินเห็ดถอบ กินเป็นหรอ" "เออน่า...เราเคยกิน หากินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ากินที่เหนือ" "ก็ดี เทอกินได้ก็ดี นานๆ จะกินอะไรแปลกๆ ได้"
อาจจะไม่เต็มโต๊ะ แต่อิ่มกำลังดีมากครับ อร่อยทุกอย่าง สมกับที่ต้องมาซ้ำอีกรอบ แต่บอกก่อนครับ ว่าตอนกินผมรู้สึกไม่สบายใจเลยครับ เพราะเมื่อ 3 ปีก่อน ผมมากินต๋องเต็มโต๊ะแบบมีความสุขมาก ในค่ำวันแรกที่มาถึงเชียงใหม่ สั่งอาหารเหนือแปลกๆ มากินหลายอย่าง
จบมื้อนั้น ขึ้นรถไปผมรู้สึกเจ็บคอเหมือนมีอะไรบาด เลยคิดว่าเป็นเพราะ ใบอะไรซักอย่างผัดไข่ แล้วก้านมันบาดคอ หลังจากวันนั้นคือผมเจ็บคอมากขึ้นเรื่อยๆ จนป่วยหนักมากในคืนนั้น
เหมือนหลอนอ่ะครับ ผมรู้สึกกลัวแปลกๆ เวลากินอาหาร พอต้องกลับมาที่สุดท้ายก่อนเกิดเหตุอีก ก็รู้สึกแปลก ๆ ครับ แต่นั้นแหละครับ ครั้งนั้นหนักหนาสำหรับผมมากจริงๆ หนักจนหลอนเลยครับ....
กินข้าวเส็ดก็ไปเดินถนนคนเดินครับ คนเยอะมาก ต่างชาติก็เยอะมากเหมือนกันครับ แต่โตแล้ว ไม่ได้ซื้ออะไรไร้สาระ แค่เดินเอาบรรยากาศ แต่นอกจากบรรยากาศแล้ว ยังประหนึ่งได้ทดสอบภูมิโควิดธรรมชาติ ว่าหลายเดือนแล้วยังมีภูมิอยู่จริงไหม 55555 ผมว่าต้องโดนมาแล้วบ้างแหละ ต่างชาติไม่มีใครใส่แมสซักคน แต่ชาย-หญิงไทย อายุ 30 ร่างกายแข็งแรง ฉีด 4 เข็ม บวกภูมิธรรมชาติ เอาอยู่นะคร้าบบบบบบ
แล้วคืนนั้น.........ผมก็ได้หงุดหงิดเลย เนื่องจากไอ่ทำเลที่นอนที่ผมไม่ชอบเป็นทุนเดิม แต่ก็ต้องนอน ยังคิดอยู่ว่า ทำไมกุไม่ไปขอเค้าเปลี่ยนห้องวะ ในเมื่อเราไม่ชอบ
ทำไมไอ่ตัวล่างต้องมองตูดตัวบนวะเนี้ย!!!!
ผมนอนไม่หลับเลยครับ ด้วยอะไรก็ไม่รู้ นอนไม่ได้เลย แฟนก็เหมือนกัน เตียงยวบ บวกกับเสียงเครื่องบิน บินผ่านหัวอย่างถี่ ไม่รวมแอร์ที่เดี๋ยวร้องเดี๋ยวหนาว หรือ proportion ของห้อง ที่ทำให้รู้สึกไม่เหมาะกับการนอน.......หรือมันจะคือม่านรูดจริงๆ วะ??? บอสถึงกับลุกขึ้นมาถามผมตอนเที่ยงคืนว่า "เครื่องบินมันจะบินทั้งคืนไหม" ผมบอกว่า "ไม่หรอก ไม่น่าเกิน ตี 1 ก็น่าจะหยุด แล้วแค่กฎแต่ละสนามบิน" "นี่ฉันต้องรอถึงตี 1 เลยหรอ!!!" "แต่นี่ก็เที่ยงคืนแล้วนะ ภูเก็ตยังหยุดตอนเที่ยงคืนครึ่งเลย" ก็กระฟัดกระเฟียดห่มผ้าเงียบไป
ตี 2 ก็ฮึดๆ ฮัด ๆ อีกแล้ว คราวนี้ผมหงุดหงิดดิ "ไม่พลิกไปพลิกมาได้ไหม เรานอนไม่ได้เลย" "ก็ฉันนอนไม่หลับ" "ย้ายโรงแรมไหม เราก็ไม่โอเคเหมือนกัน" แต่เสียงผมไม่ซอฟนะ เสียงน่าจะเหมือนกวนตีน "ก็หาที่นอนให้มันได้แล้วกัน" "เออไปนอนที่เดิมนั่นแหละ....."
แล้วต่างคนต่างเงียบหนีครับ ซึ่งผมก็นอนไม่หลับจนเช้าเลย พรุ่งนี้ก็ต้องขับขึ้นแม่ริม แล้วกุจะเอาแรงที่ไหนไปขับรถ!!!!
บล๊อกนี้น่าจะ Check-in ที่เทรนดี้ในเชียงใหม่ใหญ่ๆ ได้หลายที่ ลอกการบ้านได้นะครับ รับรองว่า ดีทุกที่เลย เจอกัน EP หน้ากับทริปโหด มัน ฮา ที่เชียงใหม่ครับ
ปล. ผมป่วยครับ.....แต่ไม่ได้เป็นโควิดนะครับ เป้นอยู่หลายวันสุดท้ายเกิดเหตุต้องนอน รพ จนได้ แต่ถ้าใครจะอยู่ รพ แล้วต้องทำงานไปด้วย ก็ผมนี่แหละ....... นี่ผมนั่งตอบเมลล์ ไลน์สั่งงาน เมลล์เจรจางาน ตั้งแต่บ่ายเลยครับ
บล๊อกนี้ดราฟไว้ซักพัก นั่งๆ นอน ๆ ว่างๆ เลยได้ทำรูปใส่พอดี อาจจะไม่ค่อยได้ตอบเม้น ไว้จะตามไปช่วงที่ดีขึ้นนะครับ
Create Date : 19 มกราคม 2566 |
Last Update : 19 มกราคม 2566 16:00:12 น. |
|
21 comments
|
Counter : 1081 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณเริงฤดีนะ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณLittleMissLuna, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณRain_sk, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณทนายอ้วน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกิ่งฟ้า, คุณtuk-tuk@korat |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 มกราคม 2566 เวลา:19:50:06 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 มกราคม 2566 เวลา:21:08:17 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 19 มกราคม 2566 เวลา:21:36:08 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:1:15:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:5:26:02 น. |
|
|
|
โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:6:33:46 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:8:31:04 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:13:22:45 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:15:02:35 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:20:56:55 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 มกราคม 2566 เวลา:15:49:16 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 22 มกราคม 2566 เวลา:0:10:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|