lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
สิงหาคม 2564
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
30 สิงหาคม 2564
space
space
space

ผู้(ดู)ร้าย...ให้ปากคำ


จากบล๊อกที่แล้วที่ผมเขียนเรื่องซีรีย์ แนนโน๊ะ
เอ้ย! ชื่อซีรีย์เค้าคือ  เด็กใหม่ 
แล้วตอนท้ายผมพูดถึงกิจกรรมรับน้องและห้องเชียร์บัญชี
ซึ่งผมไม่ค่อยรู้หรอกครับ เวลาคุยกับเด็กบัญชีไม่ได้คุยเรื่องห้องเชียร์ 5555
แต่เรื่องนี้มันทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า....



พี่หมิงคนเหนือ....พี่ที่แผนกที่ทำงานด้วยกันอยู่นี่แหละครับ
ปกติพี่แกเป็นคน...ธรรมะ ธรรมโม 
ใจเย็น มีน้ำใจ มี service mind และ gentle man 
ฟังดูแล้วตำแหน่งในห้องเชียร์ของพี่หมิงควรเป็นอะไรครับ
พี่เลี้ยงปี 2 สายซัพพอร์ตที่คอยส่งน้ำให้น้อง รึป่าว? 
ป่าวเลยครับ....เพราะตอนปี 2 พี่หมิงเป็น.....







"ว้ากเกอร์"






แล้วมันจะว้ากน้องยังไงไหว สุภาพงี้
ขนาดพี่ ผจก เป็นผู้ชายด้วยกัน พี่หมิงยังเปิดประตูให้
เลยคุยกับพี่แกว่า ตอนนั้นพี่เป็นว้ากเกอร์ได้ยังไงวะ แล้วมันเป็นยังไงบ้าง



ผมจะเล่าให้ฟัง

ว้ากเกอร์ คือ คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องมาสวมบท
"ผู้คุมวิญญาณ" ของเราจนจบห้องเชียร์.....ผู้คุมกฎ นั่นแหละครับ
ไม่ใช่เอะอะตะโกนด่าทอ หยาบคาย ไร้เหตุไร้ผล
(ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ในห้องเชียร์จะรู้สึกพี่ว้ากแม่งไร้เหตุผลก็ตาม)

แต่หลักของว้ากเกอร์คือ เสียงดัง ฟังชัด ไม่พูดคำหยาบ
และควบคุมห้องเชียร์ให้มีระเบียบ
สิ่งที่ว้ากเกอร์ต้องทำคือการกวนขันวินัย กฎระเบียบ 
คุมให้น้องเข้าห้องเชียร์ สร้างความผูกพันธ์ ความสามัคคีในรุ่น
สร้างความเคารพรุ่นพี่ ทั้งพี่ที่สัมผัสได้...เช่นปี 2 ปี 3
หรือผี เอ้ย พี่ที่สัมผัสไม่ค่อยได้ เพราะทำ senoir project ทั้งวันอย่างปี 4 


อ่านแล้วอาจจะเกิดคำถามในในว่า
"ใช่หรอวะ" 
ผมก็คิดแบบนั้น แต่ก็ฟังคำจากปากว้ากเกอร์หน่อยนะครับ


พี่หมิงให้ปากคำว่า....
พวกพี่ว้ากต้องซ้อมนะครับ ช่วงปิดเทอมต้องมาซ้อมว๊าก
และคำความเข้าใจกันว่าคือการควบคุมห้องเชียร์เท่านั้น
จุดประสงค์แค่ให้น้องเข้าห้องเชียร์ครบจำนวนที่สุด ให้มีระเบียบที่สุด
ให้น้อง 6-7ร้อยรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันที่สุด ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
แต่ต้องห้ามว้ากบูลลี่หน้าตา รูปร่าง ศาสนา 
ห้ามพูดคำหยาบเด็ดขาด ห้ามเรียกว่าพี่หรือน้อง เรียกได้แต่ คุณ กับ ผม
และห้ามถูกเนื้อต้องตัวน้องเด็ดขาดไม่ว่าเพศเดียวกันหรือต่างเพศ
ไม่ใช่คือมือ แต่ของที่ถืออยู่ในมือ หรือของใกล้ตัวก็ห้ามปา ห้ามเตะไปโดนน้อง


พี่ว้ากจะไม่โผล่มาเลยทั้งแต่ "วันแรกพบ"
รับน้องคณะ พี่ว้ากจะมาเป็นพี่เลี้ยงไม่ได้ และไม่เข้าร่วมกิจกรรม
น้องจะไม่รู้เลยว่าพี่ว้ากมันเคยเป็นใครมาก่อน รู้แต่ว่า มันเป็นคนโหด ๆ คนนึง


"ก้มหน้าไปครับ!!!!"
คำสุภาพด้วยเสียงดัง และหนักแน่น...แม่งก็ฟังไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่





หน้าที่พี่ว้ากจะเริ่มขึ้นทันทีเมื่อเริ่มเปิดห้องเชียร์
คือเปิดตัวมาเมิงก็เป็นผู้ร้ายเต็มตัวทันที
แถมด้วยพี่ว้ากเองก็ต้องมีวินัยกับตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
จากที่เคยกินข้าวเฮฮากับเพื่อนๆ ก็ต้องแยกตัวไปกินกับว้ากเกอร์ด้วยกัน
จะมานั่งเล่นกินขนมใต้คณะไม่ได้ จะมายิ้มแย้มเหมือนเดิมให้ใครเห็นไม่ได้
ต้องใส่ชุด นศ ถูกระเบียบ ช้อปถูกระเบียบเท่านั้น ห้ามใส่สุดนอนมาเรียน

(งงละสิว่าจะมีคนใส่ชุดนอนมาเรียนด้วยหรอ.....มีครับ....)
ตกเย็นวันศุกร์จะไปร้านเหล้า นี่ไม่ได้นะครับ กฎคือห้ามว้ากเกอร์ไป
ถ้าจะคุมกฎคนอื่น ตัวเองต้องรักษากฎให้ได้ก่อน 

ทั้งหมดนี้ต้องทำจนกว่าจะจบห้องเชียร์ครับ



คำถามว่า...ห้องเชียร์ ว้ากเกอร์ นี่เตี๊ยมไหม?
เตี๊ยมสิครับ 555555 หลังห้องเชียร์เลิก น้องๆ กลับหอ พี่ว๊ากต้องซ้อมคิวพรุ่งนี้ต่อ
บทจะต้องทำอะไร พูดเรื่องอะไร จะให้เกิดเหตุการณ์อะไรเพื่ออะไร
ใครต้องทำอะไร ทั้งหมดนี่ซ้อมหมดครับ อันนี้ผมยืนยันได้ 55555



แต่ที่แน่ๆ ว้ากเกอร์ต้องเป็นคนแก้ไขปัญหาได้ดีครับ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรในห้องเชียร์ พี่ว้ากจะต้องควบคุมความสงบของห้องเชียร์ให้ได้
เช่น น้องเป็นลม หรือป่วย ว้ากเกอร์ที่คุมห้องเชียร์อยู่จะจัดการทันที
แต่ไม่ใช่การตะโกนโวยวายตกอกตกใจนะครับ
ว๊าก 20 กว่าคนรอบห้อง ต้องดูว่ามีอะไรผิดปกติ
ถ้าเห็นแล้วว่าตรงนั้นน้องป่วย ต้องเรียกพยาบาลมาทันที
แล้วกันออกเงียบ ๆ ไม่ให้แตกตื่น ถ้าแตกตื่นไปแล้ว ต้องคุมกลับมาให้ไว





แล้วพี่หมิงตอนเป็นว้ากเกอร์เป็นยังไง....
ตอบจริงๆ คือ.....ผมไม่รู้เลย  55555
ก็ให้ก้มหน้าไม่ใช่หรอ แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปมองว่าพี่คนนี้เป็นใคร
ตอนปี 1 ผมไม่ได้เข้าห้องเชียร์สม่ำเสมอเท่าไหร่ 
ไม่ได้หนีนะครับ แต่ไปทำกิจกรรมอื่น แต่ถ้าไม่ติดอะไรก็เข้า
ส่วนตัวผมไม่กลัวห้องเชียร์ ไม่กลัวว้ากเกอร์อยู่แล้ว เจอมาตั้งแต่มัธยม
มาเห็นพี่หมิงรับบทว้ากเกอร์จริงๆ ก็ปี 2 พี่หมิงปี3
ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าห้องเชียร์สม่ำเสมออีกเหมือนเดิม
ถ้ามีถึงเวลามีบทให้เข้าถึงจะเข้าห้องเชียร์ แล้วไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้น
ตรงนั้นจะเตี๊ยมกันหลังม่านกับพี่หมิงโดยตรง 
ซึ่ง....พี่หมิงว๊ากโหดนะ  เพราะปกติเค้านิ่งๆ ดูนุ่มๆ 
พอได้ยินเสียงที่ไม่ดังมากแต่ได้ยินชัดทั่วเลยว่า  "พอครับ....พอ"
"ไม่เหนื่อยหรอครับ ร้องกันเองอยู่ 8-9 คน"
มันไม่ใช่เสียงตะโกนนะครับ เป็นเสียงพูดปกติที่เข้มหน่อย



พี่หมิงคนเหนือนี่ก็....เป็นว้ากเกอร์ขาโหดเหมือนกัน





อีกมุมนึง
ว๊ากเกอร์กับความเหลื่อมล้ำในสังคม

มองเห็นอะไรในระบบว๊ากครับ.....
ผมมองว่ามันคือการ
"อำนาจนิยม"
เราพยายามใช้อำนาจ เสียงดุดัน ให้รุ่นน้องกลัว แล้วยอมจำนน
ใช้เสียงดัง สั่ง  บังคับ ให้น้องทำตามที่รุ่นพี่ต้องการ 
ไม่ว่าจะ ห้ามพูด ห้ามเงยหน้า ห้ามลืมตา ห้ามหนีห้องเชียร์
เราได้น้องที่มาห้องเชียร์เพราะกลัว ไม่ใช่เพราะเห็นคุณค่าของห้องเชียร์
เราได้น้องมาไหว้เรา เพราะทำตามคำสั่ง ไม่ใช่เคารพว่าเราเป็นพี่ที่ดี

กฎระเบียบ มีเพื่อสร้างความเรียบร้อยให้กับการอยู่ร่วมกันในสังคม
แต่ไม่ได้มีไว้เพื่อกดขี่ ข่มเหง ควบคุมให้เป็นไปตามที่่เราต้องการ
ขอบเขตห้องเชียร์ คือ ต้องไม่
"ลุแก่อำนาจ"
ข่มขู่ บังคับ ให้น้องทำในสิ่งที่ขัดต่อสิทธิ์ในร่างกาย และจิตใจ ของตัวเอง





และผมไม่เห็นประโยชน์จากการว้ากเลยครับ
ความเคารพไม่ได้มาจากเสียงตะโกน หรือน้ำลายรุ่นพี่ที่ลงหัว
ความสามัคคีในรุ่น ไม่ได้มากจากการลงโทษหมู่ 
ระเบียบวินัย ไม่ได้มาจากการข่มขู่ ข่มเหง กดดัน



จำได้ว่าตอนผมไปยืนหน้าแถวน้องที่นั่งอยู่
ผมไม่เห็นสายตาของความยินดี ชื่นชม หรือสนุกกับกิจกรรมเลยครับ
ทั้งๆที่มันควรเป็นแบบนั้นป่าววะ 55555
ผิดกับบรรยากาศในเฟรชชี่เกมส์ปี 1 มาก ที่ทุกคนดูสนุกสนาน
ทำให้รู้สึกว่าเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดี
แต่ในห้องเชียร์นี่รู้สึกว่า "กุอยู่ผิดที่ป่าววะ อายชิบหาย"


ไอ่ว้ากกดดันเนี้ย ไม่ได้มีแค่ในห้องเชียร์นะครับ
แต่ในกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ หรือผู้นำเชียร์ ก็มี....มันรุ่นพี่ที่มาซ้อมให้

"ทำได้แค่นี้หรอ งั้นกลับบ้านไป ไม่ต้องซ้อมแล้ว"  
"คิดว่าเพื่อนอีกหลายร้อยเค้าจะผิดหวังกับคุณแค่ไหน"

ยังไม่รวมที่สั่งทำโทษเพื่อนให้ซ้อม หรือวิ่งหลายสิบรอบ
จนในทีมต้องเข้าไปบอกว่าจะซ้อมแบ่งโทษของเพื่อน


เอาจริงๆ ก็เข้าเกมส์รุ่นพี่ละครับ ว่าให้รักกันในทีม 
แต่เรารักเพื่อนเพราะเราใช้ชีวิตด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน
ไม่ใช่เพราะรุ่นพี่สั่ง


สุดท้าย เราก็เคารพรุ่นพี่ไปเอง เพราะเค้าดีกับเรา คุยกันได้
คอยห่วงใย แนะนำเรื่องเรียน เรื่องใช้ชีวิต
เรารักกันในรุ่นไปเอง เพราะเราเรียนด้วยกัน ทำแลปด้วยกัน ใช้เวลาด้วยกัน
เราเคารพอาจารย์เพราะอาจารย์ดูแลเราเหมือนพ่อแม่ให้ครอบครัวใหญ่
เราเข้าห้องเชียร์เพื่อเป้าหมายหนึ่งในชีวิตเด็กวิศวะ 





ไม่มีอะไรได้จากการว๊ากเลย

เจ็บคอฟรีแล้ววะพี่หมิง



ปล.    ทุกรูปยืมจากอิเตอร์เนตทั้งหมดนะครับ 
ปล. 2 เรื่องผู้นำเชียร์ไม่มีเรื่องunseen มาเล่านะครับ
         เป็นทำเนียบที่จะเอาเล่าไม่ได้ เหมือนห้องเชียร์ที่ไม่มีรูปนั้นแหละครับ
ปล. 3  มหาลัยผมเป็นมหาลัยที่ไม่มีระบบโซตัส ไม่มีให้หมอบให้คลานในห้องเชียร์
          ห้องเชียร์เหนื่อยแต่ไม่โหดร้าย ทุกอย่างอยู่ในกรอบ
          แต่ผมเข้าใจแหละว่า ไม่ใช่ทุกมหาลัยที่เป็นแบบมหาลัยผม

 




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2564
27 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2564 17:08:50 น.
Counter : 1838 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณnonnoiGiwGiw, คุณตะลีกีปัส, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณLittleMissLuna, คุณThe Kop Civil, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณlovereason, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณอุ้มสี, คุณดาวริมทะเล, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse

 

คนเขาจะรัก อยู่เฉยๆ เขาก็รัก ไปบังคับให้รักใครมันจะไปรัก เน้นนะครับ เรื่องนี้ใช้ได้กับคนทุกคน ไปบังคับให้เขาไหว้ เขาก็ไหว้เพราะสู้ไม่ได้ แต่ไม่ได้ไหว้ หรือเคารพจากใจ แต่เขาแค่คิดว่าไหว้หมา มันก็แค่นั้น

ห้องเชียร์เป็นอะไรที่ปลอมมาก แต่คนไทยมันไม่รู้จักรักษาสิทธิ์ไงปล่อยให้เขาเอาเปรียบ โดยใช้แนวคิดว่ายอมๆ ไปเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ผมพูดแค่นี้พอ

โควิดทำให้เราเป็นอะไรหลายอย่าง อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งไปเถอะ อย่างเรื่องเชียร์เนี่ยะ ไม่ว่าจะระดับ ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย กองเชียร์แบบนี้เราเป็นนักกีฬาเรารำคาญครับไม่รู้มันรร้องเพลงอะไรของมัน แต่ลองดูเกมการแข่งขันฟุตบอลสิครับ เสียงเฮเวลาเราเลี้ยงลูกหลบ 3-4 คน เข้าไปที่ปากประตู จังหวะแบบนั้นแหละที่นักกีฬาอยากได้ยิน ที่สำคัญผมต้องจ่ายเงินที่ไม่ควรจ่าย ไปกับกิขจกรรมที่ไม่อยากเข้าร่วม ถึง 1,000.- บาท เงินไม่ใช่น้อยๆ นะครับ ในยุคที่ข้าวจานละแค่ 35.- บาท คิดเองละกันว่ามันเป็นเงินที่มากขนาดไหน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 30 สิงหาคม 2564 15:23:49 น.  

 

จากที่บล็อก


ตอบเรื่อง "ใหญ่ - เล็ก" ซะก่อน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ


ตอนไปฟลอเรนซ์เข้าไปดูรูปปั้นเดวิทที่พิพิธภัณฑ์อัคคาเดเมีย คนเยอะมาต้องต่อแถวยาวโพด ดีที่ซื้อตั๋วทางเนท ไม่ต้องต่อแถวเดินเข้าไปสวยๆได้เลย ทุกคนที่เข้าไปพุ่งตรงไปที่พ่อเดวิทเท่านั้น เค้าจะมีม่านสีดำกั้นไว้ เปิดให้ดูเป็นรอบๆ คนก็ไปยืนรอดู พอถึงเวลาเค้าก็ประกาศถ้าจะถ่ายรูปห้ามใช้แฟลชนะค้า แล้วก็เปิดม่าน ...... เท่านั้นแหละแสงแฟลชวาบๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ


พี่โดนเบียดจนไปยืนอยู่ข้างหลังพ่อเดวิท เลยถ่ายได้ "ก้น" ไม่ได้ถ่าย "เดวิทน้อย" แต่เพื่อนสาว และเพื่อนผู้หญิง ขอก๊อปรูปกันใหญ่ เห็นบอกว่า "กลมสวยดี" ฮ่าๆๆๆ ส่วน "เดวิทน้อย" ก็อย่างที่เห็นๆกัน น้อยสมชื่อ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: ทนายอ้วน 30 สิงหาคม 2564 15:33:19 น.  

 

เห็นด้วย.. เพราะพี่มีลุงรหัสเปนพี่วาก เลยได้สิทธิพิเศษ
คือวากตัวๆ มากกว่าคนอื่น ปวดหูมาก ไม่ได้อะไรเลย น่าเบื่อ
แต่พี่มีแอบมองบ้าง ว่ามีพี่วากหล่อบ้างหรือไม่ นะ.. แต่ส่วนใหญ่
ที่คัดๆ มาคือสูงใหญ่หน้าโหดเหมือนพญายม 5555+


ตั้งแต่กลับมาคุยอยู่สาวฟิกสิกตอนแต่อีกรอบ
ก็มักจะรู้สึกหน่อยๆ ว่าถ้าตอนนั้น ตู้ไม่ย้ายคณะ
มันจะเป็นยังไง อาจจะได้แฟนอยู่ในเอกฟิกสิกก็ได้นะ
วันๆ ไม่คิดเรื่องไรหรอก วนๆ อยู่แต่เรื่องผู้นี่แหละ กร๊ากกก

แนนโนะ.. น่าจะไม่ได้ดู ตอนนี้ วนเวียนดูอยู่ chesapeake shores
ดูมาถึงซีซันสามแล้ว แต่เหนเวบๆ ว่ามี Doctor X ก็ไม่แน่ว่าจะกลับไปดูอีกรอบ

 

โดย: nonnoiGiwGiw 30 สิงหาคม 2564 17:06:44 น.  

 

ว่าแต่พี่หมิงคนเหนือมนุษย์เนี่ยะ..
นึกภาพพี่ว๊ากไม่ออกเลยน๊าาาา
เออ นึกภาพพี่หมิงปกติก็ไม่ออกเหมือนกัน
เพราะไม่เคยเจอ 555555+

 

โดย: nonnoiGiwGiw 30 สิงหาคม 2564 17:07:27 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

ไม่เคยโดนว๊าก และไม่เคยว๊ากใครค่ะ
ไม่ได้จบมหา'ลัยแบบที่มีอย่างนี้
แค่รับน้องแบบสุภาพชน
เด็กบางคนเขาก็ชอบแบบโหดๆนะคะ
เอาไว้คุยเกทับกัน..55 ก็ตลกดี
แล้วแค่สไตล์ใครสไตล์มัน
แต่ว๊ากซะเกิดเรื่องอันตราย ไม่ดีค่ะ
อัญชันขาว สะอาดดี และเอาไปแต่งสีอาหารไม่ได้
หลายบ้านจึงชอบปลูกอัญชัญน้ำเงิน ม่วง คราม ฟ้ามากกว่าค่ะ
ที่บ้านมีทั้งม่วงและขาว

 

โดย: ตะลีกีปัส 30 สิงหาคม 2564 17:34:35 น.  

 

อ่านว่า.. ตั้งแต่กลับมาคุยวิดีโอคอลกับสาวๆ กลุ่มฟิกสิกส์ ขร่ะ

 

โดย: nonnoiGiwGiw 30 สิงหาคม 2564 18:01:52 น.  

 

พี่ก๋ายังทันระบบโซตัส ระบบว๊าก
ระบบรับน้อง
ตอนพี่ก๋าเป็นประธานนักศึกษาเคยเสนอให้เลิกรับน้อง
กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับคณะเลยครับ 555
รุ่นพี่ที่จบไปแล้วกลับมาเกือบทุกรุ่น
บอกว่าพี่ก๋าเป็นใครมาเลิกธรรมเนียม ประเพณีที่ทำมาอย่างยาวนาน
พี่ก๋าบอกว่า

"ประเพณีเป็นสิ่งดีงาม แต่การรับน้องที่ผ่านๆมา ผมไม่เห็นว่ามันจะดีงามเลย
เพราะฉะนั้นจึงควรเลิกจัดได้แล้ว รวมทั้งการว๊ากน้องด้วย"

สุดท้ายอาจารย์มาไกล่เกลี่ยจนจัดต่อไปอีกปี พอปีถัดไปพี่ก๋าจบการศึกษา
ก็ยกเลิกระบบรับน้องแบบเก่าในที่สุดครับ

ตอนที่เพื่อนพี่ก๋าเป็นว๊ากเกอร์
ว๊ากน้องเสร็จมันก็เดินออกมาหัวเราะคิกคักสะใจกัน
ก็ว๊ากน้องเหมือนตอนที่ตัวเองโดนรุ่นพี่ว๊ากมานั่นแหละครับ
ทำตามๆกันไป ไม่มีอะไรใหม่

พี่ก๋าจึงเห็นด้วยกับที่น้องปริ๊นซ์เขียนนั่นแหละครับ
ไม่มีประโยชน์เลยที่คนเราจะต้องทำความรู้จักกัน
ด้วยการตะโกน การด่า การสั่งให้ทำนู่นทำนี่
มีวิธีอื่นอีกมากมายที่ทำให้เราสามารถรู้จักกันอย่างประทับใจได้

 

โดย: กะว่าก๋า 30 สิงหาคม 2564 18:51:06 น.  

 

รุ่นของเราตอนอยู่มข. ก็เข้มข้นไม่แพ้กันค่ะ เราอยู่คณะมนุษย์ ไม่แรงเท่าคณะวิศวะและคณะเกษตรฯ มข.
ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด ดิบ เถื่อน จนคณะข้าง ๆ เอาไปแซว
รุ่นพี่ว้ากกันสนุกสนาน จะได้ยินไดอะล็อกประมาณนี้เหมือนกันค่ะ เช่น "มองอะไรกันครับ! ก้มหน้าลงไป๊!" "สนุกมาก
เหรอครับ เห็นเพื่อนโดนทำโทษ" "เข้าป่าไป๊!" "ทำไมมา
ไม่ครบครับ เพื่อนที่เหลือหายไปไหน!!!" แฟนเราอยู่
วิศวะมข. เคยถูกพี่ว้ากเตี๊ยมให้เป็นคนโดนซ้อมแกล้ง
เป็นลม และโดนหิ้วปีกไปนั่งห้องพยาบาลด้วย
แบบ เฮิ่มมม ขบวนการอะไรนี่

ขอสารภาพว่า ตอนสมัยเรียน เราเคยถูกเพื่อนขอให้เตี๊ยมเป็นพี่ว้ากสาขาค่ะ เพราะหน้าดุมากเวลาไม่ยิ้ม 555 แต่ไม่ได้พูดแรงเท่าพี่ว้ากคณะนะคะ แค่เดินวนไปวนมาถลึงตาใส่น้อง น้องก็กลัวมากแล้ว ก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ พอเรามารู้ว่านี่มันคือการสืบต่อการใช้อำนาจในทางที่ผิด เราก็ไม่รับเป็นอีกเลยค่ะ เป็นแค่ปีเดียวพอเลย

 

โดย: LittleMissLuna 30 สิงหาคม 2564 19:29:20 น.  

 

ของพี่ตอนนั้นอยู่หอใน เรียกว่าอยู่หอกันหมดทุกคน เพราะเรียนฟรี เพราะฉะนั้นจะโดนรับน้องเกือบทั้งวัน ก็มีก้มหน้า ห้ามเหล่แบบน้องปริ๊นซ์นั่นหละ ห้ามถูกเนื้อตัว ของพี่มารู้ว่าใครเป็นว๊ากเกอร์ก็ตอนเห็นในรูปปีหลัง ๆ แล้วนะครับ รุ่นพี่บางคนดูบุคลิกแล้วไม่น่าเป็นว๊ากเกอร์ก็มี 555
รับน้องตอนนั้นโหดเหมือนกัน อ่านบล็อกน้องปริ๊นซ์แล้วนึกถึงบรรยากาศตอนนั้นเลยครับ

 

โดย: The Kop Civil 30 สิงหาคม 2564 19:46:27 น.  

 

ลืมโหวตให้ตอนมาตอบเรื่อง "เล็ก - ใหญ่" ฮ่าๆๆๆๆๆ พอเข้ามาจะโหวตเอ้า หมดกระเป๋าซะนี่


พรุ่งนี้นะครับ จะมาแต่เช้าเชียว วันนี้ร้านที่สั่งของสดเพิ่งมาส่ง บ้านนี้ไม่ได้เดินตลาดมาปีกว่าๆแล้วครับ สั่งห้างบ้าง ร้านมาส่งบ้าง ถ้าสั่งห้างมาก็เหนื่อยน้อยหน่อยเพราะผักของห้างแค้าแพคมาอย่างดีแล้วแค่เก็บให้เป็นระเบียบ


แต่ถ้าสั่งร้านให้เอามาส่งก็เหมือนกับเราไปตลาดเองอ่ะครับ ผักก็ต้องมาเลือกเหี่ยวๆ เสียๆ ทิ้ง จัดเก็บให้เป็นระบบ ระเบียบ เดินไปเดินมาในครัวตั้งแต่หกโมง เสร็จก็ขึ้นห้องอาบน้ำครับ เมื่อยมากกกกกกกกกกก อยากสลบ !!!

 

โดย: ทนายอ้วน 30 สิงหาคม 2564 20:56:47 น.  

 

สวัสดีค่ะ
ดีจังมหาลัยที่ไม่มีระบบโซตัสเนี่ย
ทางนี้เหนื่อยตั้งแต่ปี1ยันมาปี2พอ34ค่อยยังชั่ว เอาจริงๆ ตอนปี1นี่จัดว่าเป็นในกลุ่มเพื่อนจะเป็นแนวเรียบร้อยโดนว๊ากก็ก้มหน้าก้มตาไม่มองจริงๆ โดนทำโทษไม่สนุก ยิ่งออกไปนอกมหาลัยด้วยแล้วยิ่งไม่ชอบมีหลบมีแอบบด้วยแต่พอโดนจับได้คือวิ่งรอบอ่างเก็บน้ำอะ สุดๆ เลย
นึกแล้วอยากอยู่มหาลัยที่ไม่มีระบบแบบนี้ หรือไม่ก็เลิกๆไปให้หมดเลย จะว๊ากทำไม เจ็บคอเปล่าๆ 55
ผ่านมาได้โล่งใจค่ะ อยากถามพี่หมิงเลยว่าตอนเป็นพี่ว๊ากแบบอึดอัดใจมั่งมั้ยหรือว่าโอเค
แนนโน๊ะเนี่ย โดนบิ๊วเยอะ จ่ายเน็ตฟลิกซ์ไปแล้วค่ะ 55

 

โดย: lovereason 30 สิงหาคม 2564 20:59:45 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

บล็อกนี้ มาเล่าเรื่อง "ว้าก" รำลึกถึงความหลังในสมัย
เรียนเหรอ เล่าเป็นฉาก ๆ เลย ลักษณะเด่นของว้ากเกอร์ที่เล่ามา
ไม่ได้โหดอะไรนี่นาไม่โหดเหมือนข่าวที่เคยมีมาถึงตายเลย อย่าง
นั้น น่าจะเรียกว่า "พวกบ้าอำนาจ ชอบแสดงอำนาจ" มากกว่า
ที่จะเรียกว่า ว้ากเกอร์ สมัยครู พี่ ๆ ทีมว้ากเกอร์ ของสมัยครู
ไม่โหด ส่วนใหญ่จะว้ากตอนซ้อมเชียร์ หลังเชียร์ ก็น่ารักทุกคน
ไม่รู้ว่าสมัยนี้ มันคิดกันอย่างไร ถึงกับมีการรับน้องโหด ๆ ถึงตาย
ที่เป็นข่าวกันอยู่ จิตใจคนสมัยนี้ คงขาดความอ่อนโยนไปเยอะ
บล็อกวรรณยุกต์ที่ครูเขียนครั้งนี้ ไม่ได้คาดหวังว่า เพื่อน ๆ
ชาวบล็อกจะชอบและจำกฎที่ครูคิดขึ้นหรอก เพราะฉันรู้ดีว่า เพื่อน ๆ ในบล็อกนี้ ไม่ได้อยู่ในวัยเรียน หรือวัยที่จะต้องไปสอบ
แข่งขันกับเขาด้วยข้อสอบภาษาไทย (ยกเว้นการสอบเลื่อนยศ
ของทหาร ตำรวจ ) ฉันหวังเพียงเป็นความรู้ที่ลูก ๆ หลาน ๆ
ของเพื่อน ๆ ชาวบล็อกได้นำไปสอบทั่วไปและการสอบแข่งขัน
ได้นำไปใช้ จ้ะ

บล็อกนี้ สงสัยเธอคงเบื่อ ไม่อ่านอย่างละเอียด เขียนผืด
เรื่องวรรณยุกต์ก็มีนะ อักษรต่ำ ใช้รูปตรีไม่ได้จ้ะ เช่น แนนโน๊ะ
กวนขัน น่าจะพิมพ์เร็วไป น่าจะเป็น กวดขัน ผูกพัน ไม่ต้อง
มี ธ์ จ้ะ คงไม่ว่าครูยุ่งกับภาษาของเธอนะ เธอเป็นคนเขียน
เล่าเรื่องได้สนุก ก็อยากให้ภาษาเธอดีตามด้วย จะเพิ่มคุณค่า
ของงานเขียนมากยิ่งขึ้น จ้ะ

โหวดหมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 30 สิงหาคม 2564 21:59:33 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2564 6:27:35 น.  

 

อ่านแล้ว อมยิ้ม.. มีแบบนี้ด้วย ครั้งที่เรียนอยู่ยังไม่เข้มข้น
เท่าใด 555
...
แต่เวลาทำกิจกรรมกัน สนุกดีมีบางคน รุนหลังให้ คุณไวน์
ร่วมด้วย
ทำอะไร
รำวงมาตรฐาน
ไม่เอาไม่เป็น
น่า เราจะแต่งหน้าให้ด้วย สวยแบบหล่อ

เหว๋อ.. ไม่เเอาไม่เคยรำ
555 ใครจะไปยอม ให้แต่งตัวแบบลำตัด แต่งหน้า เราฟัง
แต่เพลง แฟร้งค์ ซิเนตต้า แพท บูน เพอรี่โคโม

...
แต่ งง..คนภาคเหนือไง ต้องสมถะ สุภาพเนาะ 555

...

เล่นวินด์เซิร์ฟ ใช้ทักษะเยอะจริง ใช้ตั้งแต่ฝ่าเท้าสองข้าง
กล้ามเนื้อน่อง ลำตัว กล้ามแขน ในการบังคับบอร์ด ใบ บูม
ผมเล่นครั้งละ ชม. หรือ สอง ชม.ถ้าลมดี
เล่นเสร็จนอนแผ่หลา หมดแรง เลยต้องเพิ่มกำลังดื่มน้ำพรรค์นั้นที่มีฟอง (เมื่อก่อน) ปัจจุบันไม่แล้วน้ำดำอย่างเดียว

้อ้อ.. เล่นวินด์เซิร์ฟ ใช้ใบหูด้วยน้า.. 555 เอะให้ใบหูกาง
รับลมให้ับอร์ดวิ่งเหรอ.. ไม่ใช่ครับใช้สัมผัสลมพัดจะได้
รู้ทิศทาง... ยืนบนบอร์ดข้างหน้าเป็น ใบ ถ้าลมเข้ามาหน้าหู
จะล้ม.... ต้องให้ลมพัดจากหลังใบหูจึงจะบังคับให้บอร์ด
วิ่งไป

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 31 สิงหาคม 2564 7:00:20 น.  

 

เห็นด้วยกับปริ้นทุกประการจ้า
อะไรที่ไม่ดีก็ควรเลิกได้แล้วเนอะ

 

โดย: หอมกร 31 สิงหาคม 2564 7:39:53 น.  

 

กิจกรรมกลุ่มที่สร้างสรรค์เพื่อทำความรู้จักหรือให้รู้รักสามัคคีน่าจะมีวิธีอื่นนะคะ
จริงๆแล้วความผูกพันจนรักเคารพกันต้องใช้เวลา
การบังคับกันในเวลาสั้นๆ สีหน้าแววตาผู้ร่วมกิจกรรมไม่ได้สะท้อนความรู้สึกสุขสนุกแบบนี้
แทนที่จะประทับใจกลับกลายเป็นจำฝังใจ
อยากให้มีกิจกรรมดีอื่นๆมาทดแทนค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 31 สิงหาคม 2564 10:06:54 น.  

 

ตอนพี่อยู่ปี 1 จุฬา
จำได้ว่าพี่เข้าขั้นเกลียดว้ากเก้อร์
ก็พี่เค้าทั้งไม่หล่อและเก๊กมาก
แต่ใครๆก็ชมว่าเค้าว้ากเก่ง
ไม่รู้นะ พี่ไม่ชอบให้ใครมาตะโกน
เสียงเหมือนเค้นออกมาจากลำคอ
ถ้าดังด้วยลำโพงก็อีกเรื่องนึง

ขอบคุณที่ไปเปิดคอมเม้นท์และโหวตนะคะ


 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 31 สิงหาคม 2564 13:09:50 น.  

 


บางยุคในสมัยก่อน
มีคำถามจากวัยรุ่น
ถามหา "ความหมายชีวิต"
พี่ก๋าว่ามันเป็นคำถามที่น่าสนใจดีนะ
ตอนเป็นวัยรุ่นก็เคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้เหมือนกัน
แต่กว่าจะตอบคำถามได้ก็ต้องใช้ชีวิตไปสักระยะนึงเลย

 

โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2564 19:40:50 น.  

 

มาตอบจากที่ไปเม้นบล็อกทาร์ซานนะคะ ช่วงนี้อารมณ์อยากขุดการ์ตูนสมัยเด็กมาดูใหม่เพื่อดูว่าเราได้อะไรใหม่ ๆ จากการดูการ์ตูนสมัยเด็กมั่ง ได้เยอะเลย 5555 เขียนได้เป็นเรื่องเป็นราว ดีใจที่ชอบนะคะ เดี๋ยวเอาเรื่องอื่น ๆ มาเขียนอีกนะคะ

เรื่องโซตัส > ส่วนวลี "เข้าป่าไป" นั้นเป็นวลีเฉพาะที่
วิศวะมข. เลยค่ะ (ไม่รู้ว่าที่อื่นมีไล่เข้าป่ามั้ย
เราก็สงสัยอยู่ว่าถ้ามีสระน้ำก็คงจะไล่ลงไปว่ายน้ำแทนละมั้ง
5555) เพราะมข. ป่าเยอะมาก 70% เป็นป่าเขียวครึ้มเลยค่ะ
การไล่เข้าป่าคือการไล่ไปวิ่งในดงต้นไม้เยอะ ๆ อะค่ะ
ให้ยุงกัดเล่น ให้เหนื่อยเล่น
อยากให้เลิกและหมดไปได้ซะทีนะคะประเพณีแบบนี้

 

โดย: LittleMissLuna 31 สิงหาคม 2564 20:05:34 น.  

 

จากที่บล็อก


อยากไปเชค โครเอเชีย มากๆ ดู walking tour ในยูทู้ปแล้วยิ่งอยากไปมากกกกกกกกกก


ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้บล็อก - สะพานตุ๊กตา พระราชวังบางปะอินด้วยนะครับ

 

โดย: ทนายอ้วน 31 สิงหาคม 2564 20:44:36 น.  

 

สวัสดีค่า
จักรวาลเน็ตฟลิกซ์ งือออ มีแต่เรื่องน่าดู
แนนโน๊ะ อยู่ในคิวแล้วไม่พลาดแน่ค่ะ
vincenzo ก็จดจ้องอยู่ยังไม่ดูก่อน
game of thrones น่าจะได้ฤกษ์ดูยาวๆ ซะที เยอะจัด แหะๆ
yin yang master ก็อยากดู งืออออ
เจอปรมาจารย์ลัทธิมารอีก โอ๊ย วงวาร ดูในวีทีวีแล้วมาเจอเน็ตฟลิกซ์อีก ออกจากกูซูไม่ได้จริง 55

จริงๆนะคะ เวลาคุยกับเพื่อนสนิทแบบรู้ใจกัน เพื่อนพูดถึงสุดหล่อจริงๆ ต้องรู้ละว่าคนไหน 555 ยกเว้นมีหลายคน แล้วเพื่อนมันก็จะรู้ใจอีกว่าคนไหนบ้าง อิอิ
จริงๆ เรื่องสร้อยเด๋วอ.เค้าจะมีเฉลยอีกค่ะ แต่อยู่ในความคิดคำนึงของรุ้งแล้ว อีกหลายตอนอยู่ค่ะ เรื่องมันยาวเนี่ย สามปียังไม่จบเลยค่ะ ยาวมากกกกก ><
พระเอกชื่อคุณภพเยอะมากๆ เลยค่ะ นิยายไทยตอนนี้พระเอกชื่อแนวนี้เยอะจนมีกฏห้ามว่าชื่อไหนที่แปลว่าแผ่นดินแล้วห้ามใช้บ้าง คืองง แต่ก็เข้าใจได้ค่ะ
ระบบโซตัสเนี่ย ปีสองยังไม่สบายเลยค่ะ นี่หน้าก็ไม่โหด ปากก็ไม่ร้ายแต่เกือบเคยโดนให้เป็นพี่ว๊ากด้วยอะ คิดดูค่ะ นศ.ชั้นปีมีกี่คน เราก็ออกจะเรียบร้อย ทำไมๆ ไม่เข้าใจเลย รู้สึกถูกเพื่อนๆ โบ้ยให้ไงพิกลแต่สุดท้ายคนอื่นรับไปค่ะ รอดตัว 55
ขอบคุณมากๆ เลยค่า

 

โดย: lovereason 31 สิงหาคม 2564 20:52:45 น.  

 

สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์

เพิ่งได้เข้ามาคุย ..แฮร่ ^^

ส่วนตัวผม อคติกับเรื่องรับน้องค่อนข้างมากครับ
อาจเพราะเริ่มเจอเรื่องที่ไม่ชอบตั้งแต่ตอนเข้า ปวช.
ปวช. 1 ก็คือเด็ก ม.4 อ่ะเนาะ แล้วทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ตอนนั้นพอดีว่าผมก็เป็นเด็กที่ติวศิลปะก่อนสอบเข้ามา ทำให้รู้จักรุ่นพี่อยู่บ้างแล้ว เพื่อนที่สอบติดเข้ามาด้วยกันก็มีหลายคน และทุกคนก็เออออกันหมด (โห่ย ไรเนี้ย) ตอนนั้นผมก็กลัวเค้าแหละ ดูออก แต่ทำไมรุ่นพี่ต้องสร้างความกลัวให้รุ่นน้องด้วย งง ตรงนี้

พอเข้ามหาลัย ก็มาเจอแบบนี้อีก ถึงขนาดโทรไปคุยกับที่บ้านเลยว่าอยากออกแล้ว ทำไมต้องมาเจอแบบนี้อีก แอนตี้มาก โดดรับน้องเย็นทุกวัน เคยเจอไฟลท์บังคับอยู่ 2-3วัน และรู้สึกว่าไม่ได้นิยมชมชอบกิจกรรมที่มานำเสนอให้ทำเลยครับ เหมือนถูกบังคับโดยไม่สมัครใจ เรื่องรับน้องจึงเหมือนหลุมดำสำหรับผมมาก

อ้าว นี่มาบ่นให้ฟังซะงั้น 55

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
จากบล็อก แมวคงนึกในใจ
นุดคนนี้ไรว้า เล่นด้วยไม่ยอมเล่น 555

 

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา 31 สิงหาคม 2564 23:12:46 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 1 กันยายน 2564 6:09:20 น.  

 

 

โดย: Sweet_pills 1 กันยายน 2564 10:40:44 น.  

 

อ่านแล้วยิ้มเลยจ้า คริคริ
ช่วงนี้พี่ดองบล็อก
ไม่ใช่อะไรดอก
พี่นึกเพลงประกอบบล็อกให้ออก
แช่ไปก่อน
นึกเพลงได้เมื่อไหร่จะอัพบล็อก
(มีงี้อีก)

 

โดย: อุ้มสี 1 กันยายน 2564 23:33:50 น.  

 

แวะมาอ่านและทักทายค่ะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 2 กันยายน 2564 12:28:03 น.  

 

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ

 

โดย: **mp5** 2 กันยายน 2564 15:06:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

BlogGang Popular Award#20


 
จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space