กองทัพแถลงข่าว GT200: ไม่ชัดเจน ประชาชนสับสน!!!
ผมไม่เข้าใจเลยถึงการแถลงข่าวของผู้บัญชาการทหารบก เจ้ากรมยุทธการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 4 และนายทหารจากกองทัพอากาศ ที่ออกมายืนยันว่า GT200 มีประสิทธิภาพ
ในงานแถลงข่าวฟังท่านผบ.ทบ.พูดว่า ไม่เคยบอกว่าทหารไม่ยอมรับผลการทดลอง ทหารยอมรับทั้งสิ้น
แต่เวลากว่า 1 ชั่วโมง ประชาชนได้ยินแต่ทหารพูดว่า เครื่องใช้งานได้ เครื่องมีประสิทธิภาพ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ท่านมากล่าวทีหลัง โดยตำหนิสื่อมวลชนว่าสื่อสารผิดพลาด ไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด แปลความผิด
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง (ซึ่งเมื่อมานั่งดูซ้ำ ๆ หลายรอบ วิเคราะห์คำพูดอย่างละเอียด) ก็อาจจะพอเชื่อได้ว่าท่านต้องการหมายความว่าอย่างงั้น
รวมถึงที่ผมสอบถามนายทหารในพื้นที่แล้ว หลายคนพูดแล้วจับใจความได้ว่า กองทัพยอมรับผลการทดสอบ ตอนนี้ยังไม่มีเครื่องใช้งาน ใครอยากใช้ก็ก็ใช้ไปก่อน แต่ห้ามใช้ชี้บุคคล ส่วนการใช้หาวัตถุระเบิด ห้ามใช้เป็นเครื่องมือหลัก ส่วนใครไม่อยากใช้ก็งดใช้ไป
ซึ่งจากที่ถาม ๆ และเก็บข้อมูลดู นายทหารชั้นผู้น้อยหลายรายก็เพิ่งทราบว่าเครื่องใช้ไม่ได้หลังจากเริ่มมีกระแส และพอมีการทดสอบออกมาแบบนี้ ก็ยอมรับผลการทดสอบอย่างดี อย่างลูกผู้ชาย หลายคนบอกว่า ดีใจด้วยซ้ำที่รู้ว่าเครื่องมันใช้ไม่ได้ และก็ไม่อยากจะถือออกไปแล้ว อายชาวบ้านเขา
แบบนี้สิครับถึงเรียกว่าลูกผู้ชาย สุภาพบุรุษกองทัพไทยตัวจริง กล้าทำ กล้ายอมรับ นายทหารเหล่านี้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ยิ่งเมื่อเรามานั่งพิจารณาว่า นายทหารเหล่านี้ใช้เครื่องมือที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าใช้ไม่ได้มาหลายครั้ง ก็ยิ่งต้องนับถือน้ำใจที่เสี่ยงตายเข้าไปกู้ระเบิดโดยที่คนจัดซื้อไม่รู้อยู่ไหน พอรู้ว่าเครื่องใช้ไม่ได้ ก็กล้าพอที่จะหยุดการใช้ กำลังพลเหล่านี้ น่ายกย่องเชิดชู เพราะพวกเขาเป็นวีรบุรุษตัวจริง เสี่ยงตาย เสี่ยงชีวิต รักษาผืนแผ่นดินไทยอยู่ที่ปลายด้านขวานทุกวัน นายทหารเหล่านี้ ไปไหนรับรองได้ว่าจะมีแต่คนยกย่องเชิดชู
ส่วนตัวผมขอสดุดีวีระบุรุษตัวจริงทุกท่านเช่นกัน
แต่เสียงที่ได้ยินจากนายทหารชั้นผู้น้อยเหล่านี้ มันช่างขัดกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่เหลือเกิน ที่การแถลงข่าวทั้งชั่วโมง ได้ยินแต่คำพูดว่า เครื่องมีประสิทธิภาพ ๆ ๆ ๆ
ที่ร้ายที่สุด สไลต์ของกองทัพ กลับไปเอารูปการ์ดจอร์คอมพิวเตอร์ยี่ห้อ Nvidia รุ่น GT200 มาขึ้นที่ Powerpoint สงสัยตอนทำคงพิมพ์คำว่า GT200 ใน Google แล้วหา
หมดเลยครับ ความน่าเชื่อถือไม่รู้ไปไหนแล้ว
ฟังข่าวโดยละเอียดที่ท่านผบ.ทบ.ออกมาให้สัมภาษณ์ตำหนิสื่อมวลชนที่ตีความผิดพลาดไปนั้น ผมคิดว่า ถ้าแม้นนายทหารบังคับบัญชาหมายความว่าต้องการเลิกใช้จริง ๆ
ผมก็ขอนุญาตฟังธงไปตรงนี้เลยว่า กองทัพล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งนั่นก็คือล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการปฏิบัติการกิจการพลเรือน
เพราะประชาชนฟังแล้ว แทบไม่มีใครเข้าใจเลยว่า ท่านยอมรับผลการทดสอบ ทุกคน แม้แต่ผมเองซึ่งฟังทหารพูดบ่อย ฟ้งแล้วยังเข้าใจได้ในตอนนั้นเลยว่า ทหารไม่ยอมรับผลการทดสอบ
โพลของสวนดุสิตที่ออกมาก็ชัดเจนว่า ประชาชนยังสบสันว่ากองทัพมีจุดยืนอย่างไรกันแน่
ดังนั้น ในเมื่อยังไม่มีใครเข้าใจกันจริง ๆ และกองทัพก็ไม่พูดอย่างชัดเจนเลยว่า จะเลิกใช้เครื่องไหม และเมื่อใด และถ้าตอนนี้ยังอนุญาตให้ใช้ไปก่อนจนกว่าจะมีอะไรมาทดแทนนั้น เมื่อมีอะไรที่ว่ามาทดแทนแล้ว จะเลิกใช้เครื่องไหม และเมื่อใด
ผมตั้งคำถามตรงนี้เลยว่า สรุปแล้ว กองทัพจะทำยังไงกับ GT200 นี้ ขอให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียวจากตัวเลือกดังต่อไปนี้
ก. จะยุติการใช้ทันที ข. จะยังอนุญาตให้กำลังพลที่อยากใช้ใช้ไปก่อน แต่จะทำการอธิบายผลการทดลองให้ผู้ใช้ฟังจนเข้าใจ และยุติการใช้ ค. จะยังอนุญาตให้กำลังพลที่อยากใช้ใช้ไปก่อน จนกว่าจะมีเครื่องมือมาทดแทนหรือมีการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี แล้วจึงยุติการใช้ ง. จะไม่ยุติการใช้เป็นอันขาด
แต่ละตัวเลือก ลองคาดเดาผลดังนี้
ก. จะยุติการใช้ทันที
ตรงนี้ไม่ยากเลยครับ ท่านผู้บัญชาการเหล่าทัพ สามารถสั่งการได้ในทันทีให้ทุกหน่วยยุติการใช้งาน เพราะมันก็เป็นอำนาจของท่านตามสายการบังคับบัญชา
ดังนั้น ถ้าเลือกข้อนี้ ก็หยุดใช้ได้เลย
ประชาชนจะให้คะแนน 10 เต็ม 10 ที่กล้ายอมรับผลการทดสอบแบบลูกผู้ชาย
ข. จะยังอนุญาตให้กำลังพลที่อยากใช้ใช้ไปก่อน แต่จะทำการอธิบายผลการทดลองให้ผู้ใช้ฟังจนเข้าใจ และยุติการใช้
ถ้าท่านต้องการสื่อออกมาแบบนี้ อันนี้พอเข้าใจได้ครับ เพราะตรงนี้อาจจะเป็นเพราะว่า ยังมีกำลังพลอีกส่วนหนึ่งที่ยังมั่นใจในประสิทธิภาพและยังเชื่อมั่นอยู่ การทำความเข้าใจต้องใช้เวลา ดังนั้นกองทัพต้องใช้เวลาสักพักในการทำความเข้าใจ เนื่องจากกลัวกำลังพลจะเสียขวัญ
แต่จากการที่ผมนั่งวิเคราะห์คำแถลงของท่าน ถ้าท่านกลัวกำลังพลเสียขวัญ อยากจะอนุญาตให้กำลังพลที่ยังมั่นใจใช้ไปก่อนและจะค่อย ๆ อธิบายให้กำลังพลฟังนั้น กองทัพก็ไม่จำเป็นต้องแถลงข่าวแบบนี้
เพราะความจริงมีทางที่จะแถลงได้โดยให้ผลแบบเดียวกันนี้ แต่ไม่ต้องพูดแบบนี้ก็ได้ กองทัพก็สามารถเป็นพระเอกได้โดยไม่จะเป็นต้องไปดึงเครื่องจากมือเจ้าหน้าที่ ออกทันทีด้วยซ้ำ แต่ภาพที่ออกมาเมื่อวันแถลงข่าวนั้น มันเหมือนกับว่ากองทัพเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชน พร้อมแตกหักกับรัฐบาล กระทรวงวิทยาศาสตร์ และประชาชน ผมก็ยังคิดเลยว่ากองทัพไม่ยอมรับผล ต้องมานั่งดู นั่งฟัง ฟังคำถามของสื่ออีกหลายรอบถึงจะพอคิดว่าอาจจะเข้าใจ
ถ้าท่านหมายความว่าแบบนี้จริง ก็ต้องบอกว่า เจตนาน่าเชื่อได้ว่ามีเจตนาดี แต่การสื่อสารนั้น ล้มเหลวแบบได้คะแนนติดลบ
ถ้าเลือกข้อนี้ประชาชนจะให้คะแนน 8 เต็ม 10 ที่ก็กล้ายอมรับผลการทดสอบแบบลูกผู้ชาย และยังมีเจตนาดีคิดถึงกำลังพล แต่หัก 2 คะแนนในฐานะล้มเหลวในด้านการสื่อสารกับประชาชนอย่างสิ้นเชิง
ค. จะยังอนุญาตให้กำลังพลที่อยากใช้ใช้ไปก่อน จนกว่าจะมีเครื่องมือมาทดแทนหรือมีการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี แล้วจึงยุติการใช้
เมื่อมาพิจารณาว่า ท่านนายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์หลายครั้งแล้วว่า ไม่ต้องการให้กองทัพใช้งานต่อไป ก็น่าจะเคลียร์หมดแล้ว
และตอนนี้ก็มีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ว่า รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีกลาโหม และกระทรวงวิทยาศาสตร์ ได้รับมอบหมายให้พิจารณาเครื่อง FIDO และ Sabre 4000 ว่าจะสามารถนำมาทดแทน GT200 ที่ใช้งานไม่ได้ได้หรือไม่นั้น ก็น่าจะเป็นตัวชี้วัดแล้วว่า ตอนนี้กำลังมีความพยายามที่จะรีบหาเครื่องมาทดแทน ยิ่งเครื่องทั้งสองชนิดนั้นเป็นเครื่องมือที่อธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าเครื่องไม่เสียแล้ว ให้ทดสอบผลต้องออกมาดีกว่า GT200 หลายช่วงตัวแน่นอน ยิ่งหลายหน่วยงานมีเครื่องมือสองเครื่องนี้ใช้งานอยู่ ก็สามารถสอบถามถึงประสิทธิภาพได้ เหล่านี้ก็น่าจะยืนยันได้แล้วว่า ตอนนี้มีความพยายามในการหาเครื่องมือมาทดแทนแล้ว
ตอนนี้ก็น่าจะเลิกใช้ได้แล้วครับ
ถ้าเลือกข้อนี้ประชาชนจะให้คะแนน 4 เต็ม 10 ที่ก็ยังยอมรับผลการทดสอบ แต่หักคะแนนไปเนื่องจากกองทัพต้องการรักษาหน้าตัวเองมากเกินไปจนลืมคิดถึงกำลังพลผู้ใช้งานและความรู้สึกของประชาชน
ง. จะไม่ยุติการใช้เป็นอันขาด
ถ้ากองทัพเลือกข้อนี้ แปลว่า กองทัพไม่ยอมรับผลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งความจริง นายทหารชั้นผู้ใหญ่แทบทุกคน จบการศึกษามาจากสายวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น ถ้าไม่ใช้วิศวกรรมศาสตร์ก็วิทยาศาสตร์
ก็น่าจะทราบดีกว่าหลักการหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์คือ สังเกตุ --> ตั้งสมมุติฐาน --> ทดลอง --> สรุปผล นั้นท่านต้องเคยใช้มาแน่นอนอย่างน้อยก็ตอนเรียน
ทำไมท่านไม่ยอมรับกระบวนการทางวิทศาสตร์เล่าครับ
การที่ท่านกล่าวอ้างว่า กำลังพลในพื้นที่รายงานมาว่าใช้งานได้ดี มีประสิทธิภาพ ก็เลยเชื่อการปฏิบัติงานในสนามซึ่งความสำเเร็จที่เครื่อง GT200 หาระเบิดได้นั้นมาจากความน่าจะเป็นตามหลักคณิตศาสตร์ ไม่ได้เกิดจากเครื่อง GT200 มากกว่าการทดลองที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์
ถ้าเลือกข้อนี้ประชาชนจะให้คะแนน 0 เต็ม 10 เพราะไม่ยอมรับสัญญาลูกผู้ชายที่ตนเองทำไว้ ซ้ำยังตบหน้าประชาชนอย่างรุนแรง
ทั้งหมดนี้คือ 4 ตัวเลือกที่กองทัพต้องเลือก
ที่สำคัญ คณะกรรมการทดสอบ ก็มีนายทหารเข้าไปนั่งอยู่ในคณะกรรมการด้วยคือ ปลัดกระทรวงกลาโหม และเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก
ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมรับผลการทดสอบที่ทหารก็มีส่วนร่วมในการออกแบบการทดสอบและร่วมทำการทดสอบด้วยตนเอง
และถ้ากองทัพไม่เลือกที่จะยุติการใช้งาน ทั้ง ๆ ที่ก็มีสัญญาลูกผู้ชายกับทุกฝ่ายอยู่แล้วว่า ไม่ว่าผลการทดสอบออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ
แต่ถ้ากองทัพไม่หยุดการใช้งาน แปลว่ากองทัพไม่ยอมรับสัญญาลูกผู้ชายนั้นใช่หรือไม่?
ตรงนี้เป็นปัญหาที่กองทัพต้องเร่งรีบออกมาชี้แจงประชาชนให้เข้าใจอีกครั้งว่า สรุปแล้ว กองทัพจะตัดสินใจอย่างไร เพราะที่ผ่านมา ประชาชนก็ยังสับสนอยู่ดี การแถลงข่าวไม่เพียงแต่ไม่ช่วยอะไร การกลัวเสียหน้าของนายทหารบังคับบัญชา กลับทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพและทหารคนอื่นทั้งกองทัพต้องมัวหมอง
ถ้ากองทัพยังไม่ทำอะไร คงยากที่ประชาชนจะเชื่อถือกองทัพอีกต่อไป
ศักดิ์ศรีและความสง่างามของกองทัพกำลังอยู่ในอันตราย
ผมขอเรียกร้องให้กองทัพทำทุกอย่างให้ชัดเจนเสียแต่ตอนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ห้ามสีเสื้อใดเอาไปอ้างอิงในทางการเมืองเด็ดขาด ผมสงวนสิทธิในการดำเนินคดี
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2553 18:35:06 น. |
Counter : 2885 Pageviews. |
|
 |
|