ชาวพุทธส่วนมาก มักตั้งปัญหาระดับแก่น ถามๆ กัน ตย. เช่น เราต้องทำอย่างไรบ้าง เราถึงจะสามารถปล่อยวางกาย ปล่อยวางเวทนา และปล่อยวางจิตได้ครับ คำตอบ จะพูดว่า การปฏิบัติธรรม ปฏิบัติกรรมฐาน นั่งสมาธิ เจริญสมาธิ แนวสติ-ปัฏฐาน แนวอานาปาน-สติ จนจิตสงบถึงระดับหนึ่งแล้วประสบสภาวธรรมหลากหลายดังตัวอย่างที่นำมานั่นๆแล้ว ตนเองแก้ปัญหาทางจิตจนผ่านทะลุมันออกไปได้โดยสวัสดี นั่นคือคำตอบทุกตัว ตัวอย่าง ทางกาย ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีกเพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัวและเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริงแต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่วแต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา) กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร เสียงที่ได้ยินบอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้ คุณเคยได้ยินว่ามีคนผิดปกติทางกายจากการฝึกสมาธิแล้วไม่หายไหมคะ เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว จึงไม่กล้าทำอีก เพราะตอนที่เป็นนั้นเหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา ตอนออกจากสมาธิก็ยังเป็น ตอนนั้นค่อนข้างหวั่นใจ แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะตัวอย่าง ทางเวทนา ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนาแนวทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้า คือนั่งดูลมหายใจเข้าออกเฉยๆ ไม่บริกรรมและให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา 10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกันล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะเหมือนมีเข็มเป็น ร้อยๆเล่มอยู่ในหัว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมากระยะหลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บาง อาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอด เวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะตัวอย่าง ทางจิต ผู้รู้ช่วยบอกหน่อยค่ะ เป็นอันตรายหรือปฏิบัติผิดทางไหมค่ะ เพราะฝึกทำเองโดยไม่มีครูบาอาจารย์สอนค่ะ หนูฝึกดูจิตมาประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ แรกๆก็เห็นจิตฟุ้งซ่านมากช่วงหลังๆจิตเริ่มสงบ ไม่ไหลออกไปตามอารมณ์ข้างนอก แต่เริ่มเห็นจิต เฉยๆบ้าง สุขบ้างบางครั้งรู้สึกหดหู่ เป็นทุกข์ เบื่อโลกมากๆเลยค่ะ มันเป็นของมันเองควบคุมอารมณ์นี้ไม่ได้ ได้แต่ตามดูเฉยๆ รู้สึกว่ามันไม่ใช่ของเราเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ บางครั้งก็นอนดูจิตไปเรื่อยๆแล้วเหมือนว่าตัวเองจะเคลิ้มๆไป แต่ยังมีสติรู้สึกตัวค่ะ อยู่ดีๆจิตก็พูดว่า ลองหยุดหายใจตายดูหน่อยสิ แล้วหนูก็หยุดหายใจตามไปด้วยบังคับร่างกายไม่ได้เลยค่ะ ตอนนั้นขยับร่างกายไม่ได้ด้วยค่ะ รู้สึกเริ่มกลัวก็เลยพยายามฝืนจนหายใจได้ ตอนนั้นรู้สึกอึดอัด และรีบสูดลมหายใจเข้าปอดค่ะ ถ้าปล่อยไปนานกว่านี้คิดว่าตัวเองต้องตายจริงแน่ๆเลยค่ะ เกิดจากอะไรค่ะ หนูทำผิดทางไหมค่ะ ถ้าเกิดเป็นอีกจะทำอย่างไรดีค่ะ เรื่องของชีวิต ซึ่งก็คือ กาย เวทนา จิต ธรรม นั่นแหละ เขาแยกให้เห็นแต่ละด้านๆนี่แหละที่โยคีผู้ปฏิบัติแนวลึกนี่แล้วประสบสภาวะมัน ต้องกำหนดผ่านให้ เมื่อผ่านพ้นได้แล้ว แสดงว่าเข้าใจชีวิต เข้าใจธรรมะระดับแก่น หากมีคำถามสอดเข้ามาว่า ทำผิดทางไหม ? ตอบ ไม่มีใครทำผิดทางสักคน ทำถูกหมด แต่ขาดวิธีปฏิบัติต่อธรรมชาติแค่นั้นเอง เอ๊ะ ไม่เข้าใจ จะให้ทำยังไง ก็กำหนดรู้ตามที่ธรรมะ-ชาติมันเป็นซี่ เป็นยังไง กำหนดยังงั้น สงสัยอีก แล้วหนูจะตายล่ะ อ้าว ก็กำหนดว่า จะตายหนอๆๆๆ ซี่ กำหนดรู้ยังงั้นแล้ว มันไม่ตายหรอคะ/ครับ มันไม่ตายหรอก แต่มารคือกิเสล มันหลอก อย่านะจะตายเอานะ เลิกสะๆ เลิกนั่งสมาธิเหอะ พอเถอะ ตายนะๆๆๆ พอเราเลิกแล้วไม่เห็นเป็นอะไรเลย จบข่าว เสร็จมารไปรอบหนึ่ง วันดีคืนนี้อยากจะนั่งสมาธิอีก ก็นึกกลัวๆ ใจหนึ่งอยาก อีกใจหนึ่งกลัว มันกลัวก็กำหนดซี่ กลัวหนอๆๆๆ ตรงๆ อย่าหลบปัญหาเลี่ยงทุกขอริยสัจ