สวัสดีค่ะ
วันนี้มารีวิวภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งนะคะ กับเรื่อง พริกแกง ซึ่งเราได้ไปดูเมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นรอบสื่อมวลชนค่ะ โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจากลุงอ้วน กินกะเที่ยว นะคะ ขอบคุณลุงอ้วนมา ณ ที่นี้ค่าา
พริกแกง
กำกับโดย: ประเสริฐสุข เหมทานนท์, เมธี ปัญญาวิชา
นักแสดงนำ: นิรุตต์ ศิริจรรยา, เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล, อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ, นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล
วันที่เข้าฉาย: 11 สิงหาคม 2016
(เลื่อนฉายเร็วขึ้นจากเดิม 18 สิงหาคม 2559 ค่ะ)
เรื่องย่อ
เรื่องราวว่าด้วยการพยายามดำรงคงไว้ซึ่งอาหารไทยแท้ๆ ของสองครอบครัว ครอบครัวหนึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงอย่างร้านแทนทอง และอีกครอบครัวคือ ครูพิมพ์ ครูสอนในโรงเรียนสอนการทำอาหารไทยแห่งหนึ่ง กับความขัดแย้งกับคนรุ่นใหม่ที่มักเกิดคำถามว่า...แล้วมันจะปรับเปลี่ยนไม่ได้เลยเชียวหรือ??
ความรู้สึกที่ได้ดู
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ก่อนไปดูหนังเรื่องนี้ ควรไปในสภาพอิ่มเต็มที่นะคะ เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจจะโคตรหิวระหว่างดูหนังได้ค่ะ
เป็นภาพยนตร์ที่ตอนเราเห็นผ่านสื่อ (เฟซบุ๊คและแฟนเพจของหลายๆ ท่าน) นี่บอกเลยว่า อยากดูมากกกกกกกก แหมมมม หนังเกี่ยวกับอาหารไทย ทำไมจะไม่ควรดูหละคะ ใช่มั้ย? พอมีคำชวนก็เลยตกปากรับคำไปโดยทันทีค่ะ
สำหรับหนังเรื่องนี้คงต้องบอกก่อนว่า ที่จริงแล้วสิ่งที่ต้องการสื่อเราว่ามันโอเคมากนะคะ กับการพยายามรักษาความเป็นอาหารไทยแท้ๆ เอาไว้จริงๆ น่ะค่ะ แต่เสียดายว่า...สำหรับหนังเรื่องนี้มันยังไม่กลมกล่อมและปังแบบที่ควรเป็น พูดตรงๆ ว่าเสียดายมาก เพราะถ้าทำให้ดีกว่านี้ (เหมือนที่หนังเรื่องโหมโรงเคยทำได้มาแล้ว) หนังเรื่องนี้จะขึ้นหิ้งได้อย่างสบายๆ เลยแหละค่ะ
ก่อนจะไปบอกถึงสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังไม่สุด ขอพูดถึงสิ่งดีๆ ของหนังเรื่องนี้ก่อนนะคะ อันดับแรก เราชอบการแสดงของนักแสดงหลายคนเลยค่ะ คนแรกเลยคือ ตุลา เรารู้สึกว่าเค้าเป็นธรรมชาติมากๆ เหมือนไม่แสดงอะค่ะ ไม่เค้น ไม่พยายามเกินไป อีกคนคือคุณต่าย เพ็ญพักตร์ค่ะ แสดงเป็นธรรมชาติอ้ะ เวลาที่อ่อนโยนก็อ่อนโยนไปหมดทั้งเสียง กิริยา แววตาค่ะ เป็นสองคนที่เราชอบการแสดงในหนังเรื่องนี้มากนะคะ
ส่วนที่สองคือ เป็นหนังที่ทำให้หิวได้ดีมากๆ ภาพอาหารสวยหลายภาพเลยค่ะ ถ่ายแบบที่เรียกได้ว่า ทั้งกลิ่นและรสแทบจะพุ่งทะลุจอออกมาเลย
ส่วนต่อมาที่เราชอบคือ ทำให้เราได้รู้จักอาหารไทยหลายๆ อย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ (ทั้งที่เป็นสัญชาติอาหารที่ชอบที่สุดแล้วในการกิน) ไม่ว่าจะเป็นแกงสิงหล เนื้อนางเพา ไข่กบนกปล่อยบัวลอยอ้ายตื้อ ซึ่งนอกจากได้เห็นในหนังแล้ว ความโชคดีของเราวันนั้นคือ ในงาน (ที่แม้เราจะไปเลทเพราะ..ทำงานลาดกระบังอะนะ) มีอาหารพวกนี้มาให้กินด้วยค่ะ
นอกจากนั้นเราชอบความงามอย่างหนึ่งในหนังเรื่องนี้คือการที่ตัวละครมีซีนที่เอาขนม/อาหารไทยมอบให้กันแทนการจีบ/การแสดงความยินดี ฯลฯ ค่ะ ซึ่งเรารู้สึกว่ามันงามและมันเก๋มากเลย นั่นสินะคะ ทำไมเราคนไทยต้องให้เป็นเค้ก เป็นคุ้กกี้ ในเมื่อก็มีขนมไทยๆ ที่มอบให้กันได้อ้ะ แบบว่า...เห็นแล้วอยากทำมั่งเลยค่ะ (แต่ไม่สามารถง่าา อย่างมากคงได้แต่ซื้อไปให้กระมัง แหะๆ) คือ นอกจากแสดงถึงฝีมือของการทำอาหารของตนแล้ว อาหารมันแสดงถึงความรักหรือความรู้สึกดีๆ ที่เราจะทำให้ใครสักคนจริงๆ นะคะ เราชอบจังอ้ะ
อีกอย่างที่ชอบคือ เพลงประกอบเพลงหนึ่งของหนังเรื่องนี้ค่ะ เพราะเชียว เราว่ามันมีกลิ่นอายและความรู้สึกของความเป็นไทยด้วยค่ะ ทำนองก็คุ้นๆ (ไม่แน่ใจว่าเอาทำนองเพลงไทยเดิมมาปรับแต่งเพลงหรือเปล่านะคะ)
ในส่วนของความคิดในหนังเรื่องนี้กับเรื่องของการทำอาหารไทย ที่ดัดแปลงไม่ได้เลยเหรอ ...เอาในความคิดของเรานะคะ ถ้าจะบอกว่าเป็นอาหารไทยแท้ ไม่ควรดัดแปลงค่ะ แต่ถ้าดัดแปลง อย่าเรียกว่าอาหารไทย ให้เรียกว่าเป็นอาหารฟิวชั่นหรือไทยแปลงไปเลยดีกว่า คือ เราพูดในฐานะคนกินอาหารไทยคนหนึ่ง ที่หลายครั้ง เมื่อเราได้กินอาหารที่ร้านร้านหนึ่งที่เปลี่ยนมือคนทำ มันไม่ใช่แค่รสมือไม่เหมือนกัน แต่การปรับเปลี่ยนบางอย่างที่คนทำรุ่นหลังรู้สึกว่า แค่นี้ไม่เป็นไร ปรับได้ไม่เป็นไร (ซึ่ง..ไอ้ไม่เป็นไร นิดหน่อยเนี่ยแหละค่ะที่ทำเสียรส เสียสูตรเขามานักต่อนัก) กะทิกล่องไม่เป็นไร น้ำตาลนี้แทนน้ำตาลนี้ได้...ซึ่งมันล้วนแล้วแต่ไม่จริงอะค่ะ มันเป็นค่ะ เป็นมากด้วยกับรสชาติที่ได้กิน เพราะถ้าคนที่กินจริงๆ และรักการทำอาหารแบบเคารพสูตรจริงๆ เค้าจะรู้ว่า ไม่มีอะไรแทนอะไรได้ แทนได้ก็ไม่เหมือน (หนังเรื่องนี้ย้ำคำว่า วินัย บ่อยมาก ซึ่งเราเห็นด้วยค่ะ) เราเคยอ่านคนวิจารณ์หนังสือเล่มหนึ่งเป็นเกี่ยวกับสูตรอาหารของคุณอุ้ม (สิริยากร) แล้วพูดประมาณนี้แหละค่ะว่า บอกแต่ว่าต้องเอาวัตถุดิบนี้จากที่นี้ๆ แต่ไม่บอกเลยว่าใช้อะไรแทนได้ (ซึ่งเราอยากจะบอกเหลือเกินว่า มันใช้แทนกันไม่ได้ไงคะ เหอๆ)
โอเค เราอาจจะไม่ใช่คนทำอาหารเก่ง แต่เรามีแม่ ป๊า และน้าที่ทำอาหารเก่งมาก (และบ้านเราสรรกินทั้งบ้านค่ะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้าเราซึ่งทำแกงป่าได้สุดยอดมาก ทำแกงหัวตาลได้ และอื่นๆ ได้ เราก็จะเห็นว่าแกจะซีเรียสเรื่องวัตถุดิบมากๆ น้ำตาลโตนดต้องของที่นี่ กุ้งแห้งต้องของที่นี่ หรือแม้กระทั่งเวลาที่เรามีโอกาสได้ไปกินอะไรที่ไหน ก็มีหลายครั้งที่ได้ยินเสมอว่า ต้องใช้มะพร้าวจากทางใต้เท่านั้น (ขนมครกแม่หล่าย ณ แพร่ เป็นตัวอย่างหนึ่ง) ต้องใช้กุ้งแห้งของที่นี่เท่านั้น ฯลฯ ดังนั้นจะเห็นว่า วัตถุดิบสำคัญและไม่สามารถแปลงได้ค่ะ
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า แล้วถ้าต้องการสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้อาหารไทยหละ หรือถ้าอยู่ในที่ที่มันหาวัตถุดิบไม่ได้หละ ก็ไม่ต้องทำอาหารไทยกันเลยเหรอ คือ...ถ้าหาวัตถุดิบไม่ได้ก็แค่ไม่ใช่อาหารไทยแท้อะค่ะ อย่างแกงป่า การใช้ใบกะเพราหรือโหระพา มันก็ต่างกันจริงๆ นะคะ แต่คือ ถ้าแค่ทำกินน่ะ แก้ขัดก็ทำไป แต่ถ้าขนาดทำขายและจะบอกว่าตัวเองเป็น Authentic Thai มันก็ควร Authentic จริงๆ น่ะค่ะ
ส่วนประเด็นเรื่องการสร้างสรรค์ (แบบที่นักเรียนคนหนึ่งของครูแทนทองบอก) เราก็เห็นด้วยกับการที่คุณแทนทองคิดนะคะ ถ้าคุณจะแปลง มันก็ไม่ใช่อาหารไทยของร้านนี้อ้ะ (ตอนดูนี่คิดถึงตอนไปกินร้านครัวเจ๊ง้อมาก ที่เรารู้สึกเลยว่า กินฝีมือเจ๊ง้อ กับกินฝีมือที่สาขาอื่นๆ ซึ่งก็จบมาจากร.ร.ที่สอนของครัวเจ๊ง้อ มันแตกต่างกันมากกกกกกกกกก ก็คงเพราะบรรดานักเรียนที่มาเป็นพ่อครัวแม่ครัวเหล่านั้น ไม่ละเอียดอ่อนพอที่จะเก็บและรักษาการทำอาหารด้วยสูตรดั้งเดิมไว้ด้วยนี่แหละ - นอกเหนือจากรสมือนะคะ ย้ำอีกที) เพราะงั้นถ้าจะสร้างสรรค์ ก็ขอให้เป็นอาหารฟิวชั่นหรืออะไรไปค่ะ ซึ่งเราไม่ได้รังเกียจอาหารฟิวชั่นเลย อาหารฟิวชั่นอร่อยๆ ก็เยอะแยะค่ะ เพียงแต่ต้องแยกแยะว่า อันไหนคืออาหารไทยแท้ อันไหนไม่ใช่แค่นั้นเอง
(แต่ก็..ไม่ได้เห็นด้วยกับความแรงความวีนที่คุณแทนทองใส่กับเด็กหรอกนะคะ เราชอบกิริยาแบบคุณธรรญาหรือครูพิมพ์มากกว่าง่ะ แหะๆ)
เราว่าการทำอาหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและใส่ใจ (ไม่ใช่เฉพาะอาหารไทย แต่อาหารหลายๆ สัญชาติก็เป็นอย่างนั้นนะคะ) เพราะฉะนั้นการคิดแต่จะเอาง่ายเข้าว่า เอาดัดแปลงเข้าไปใช้ มันมีโอกาสมากค่ะที่จะทำให้สิ่งนั้นกลับกลายเป็นอย่างอื่นและของแท้หายไปในที่สุดน่ะค่ะ เราถึงค่อนข้างเห็นด้วยกับประเด็นนี้ (เหมือนกับที่โหมโรงทำให้เห็นว่า...ดนตรีไทยแท้ๆ มันงดงามและน่าธำรงรักษาไว้แค่ไหนนั่นแหละค่ะ)
ต่อไปมาดูถึงส่วนที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่กลมกล่อม ไม่โดน ไม่ปังอย่างน่าเสียดายกันบ้างนะคะ
อันดับแรกค่ะ บทค่ะ บทหนัง คือ...มันไล่เรียงแบบ...มันไม่มีจุดพีค ไม่มีจุดจบแบบที่ควรเป็นน่ะค่ะ เหมือนแค่เล่าเรื่องและเอาสิ่งที่อยากบอกใส่ๆๆ ไปในหนัง (การอนุรักษ์อาหารไทย อาหารไทยทำได้ยากและต้องการความใส่ใจ การฝากไว้ให้คนรุ่นหลังช่วยกันรักษาไว้ ฯลฯ) โดยที่...มันขาดสุนทรียภาพของหนังน่ะค่ะ มันจบแบบ...อ้าว จบแล้วเหรอ คือ...ไงหละ มันเสียดายน่ะ มันควรจะปังกว่านี้ (อีกครั้ง...เหมือนที่โหมโรงทำได้ มีจุดพีค จุดหักมุม จุดผ่อนคลาย จบได้อย่างน่าประทับใจ และสื่อสารที่ต้องการสื่อได้อย่างครบถ้วนอีกต่างหาก - ที่เอาโหมโรงเทียบบ่อยๆ เพราะสารบางอย่างของหนังสองเรื่องนี้นั้นเหมือนกันค่ะ)
อย่างที่สอง บทพูดค่ะ บทพูดหลายๆ บท มันถูกยัดให้นักแสดงในเรื่องพูดง่ะ มันเป็นบทพูดแบบตัวอักษร ไม่ใช่คนเค้าพูดกันจริงๆ คือ สารบางอย่างมันไม่ต้องพูดออกมาให้ดูสวยงามหรือโต้งๆ แบบนี้ก็ได้ เพราะมันกลายเป็นความกระด้าง แห้งแล้ง และไร้เสน่ห์ค่ะ บทพูดมันดูไม่ถูกที่ถูกทางและยัดเยียดคำพูดใส่ปากเกินไปน่ะ (อีกครั้งกับโหมโรง (เอิ่ม...คนทำหนังเรื่องนี้จะฆ่าอิชั้นมั้ย) ไม่ว่าจะเป็นบทพูด "ถ้าแพ้แล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าชนะ จะชนะได้ไปอีกนานแค่ไหน" (ไม่ quote) หรือบทพูดอื่นๆ มันอยู่ในที่ทางที่เหมาะที่ควรตลอดค่ะ) ทำให้รู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมชาติง่ะ รวมทั้งเราว่า สารบางอย่างมันสื่อในเหตุการณ์หรือภาพอื่นๆ ได้ (ช็อตเล่นระนาดคู่กับเปียโน และช็อตนายทหารออกมาเจอเด็กที่มีเรื่องแต่เลือกที่จะผ่านเลยไปของโหมโรง เป็นตัวอย่างที่ดีโดยไม่ต้องใส่บทพูดเลยว่า พ่อไม่ได้รังเกียจเครื่องดนตรีสมัยใหม่ และดนตรีมีความไพเราะในตัวของมัน งามในตัวของมันไม่ว่าจะเป็นชาติไหน หรือการยอมรับความผิดพลาดของตัวเองและใช้วิธีการให้อภัยคนที่ตัวเองเคยโกรธแค้น เป็นต้นค่ะ)
อย่างที่สาม เราว่าเสียงประกอบและเพลงบางอย่างมันมาไม่ถูกที่ถูกทางอะค่ะ มันไม่ได้กับอารมณ์ในซีนนั้นๆ อ้ะ แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะคะ ที่ชอบที่สุดคือตอนที่คุณแทนทองและคุณธรรญาอยู่ที่สวน แล้วทำข้าวคลุกกะปิกิน เพลงประกอบช่วงนั้นเราว่าเป็นช่วงที่เข้าที่สุดของหนังเรื่องนี้ค่ะ มันพอดิบพอดีกันเลย
ส่วนที่สี่ คือ ซับอังกฤษที่บางช่วงยังมีไม่ครบนะคะ แล้วก็บางคำศัพท์เราว่าไม่ตรงกับสารที่ภาษาไทยสื่ออยู่ในหนังอ้ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ทำใหม่ก่อนที่จะนำสู่สากลนะคะ
พูดยังไงดี คือ หนังเรื่องนี้หากแยกองค์ประกอบ (เหมือนวัตถุดิบ) แล้ว มีอะไรหลายๆ อย่างที่ดีนะคะ นักแสดงที่ดี การถ่ายภาพสวย เพลงเพราะ หรือสารที่ต้องการสื่อก็ดี (สูตร) แต่ปัญหาคือ การ "ปรุง" หรือการเอามาผสมผสานกันเป็นหนังเรื่องนี้แหละค่ะที่มันไม่ "กลมกล่อม" และ "อร่อย" แบบที่ควรเป็นง่า ซึ่งพูดตรงๆ ว่าเสียดายมากค่ะ เพราะถ้าทำให้ดีกว่านี้ เราว่าจะเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ดี จะเป็นหนังที่คนไทยอยากดู และเข้าสู่สากลได้อย่างไม่ยากเลย
อ้อแล้วก็ต้องบอกก่อนว่า...หนังเรื่องนี้มีการปรับบทด้วยนะคะ เพราะถ้าดูจากทีเซอร์บางอันในบางเว็บ จะพบว่ามีการเปลี่ยนเป็นอีกแบบ (ช็อตครูพิมพ์กับตุลา) ที่เราชอบแบบปรับใหม่นี้มากกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่รักอาหารไทยแท้ๆ มันแข็งกระด้างไปซะทั้งหมดค่ะ
ทีเซอร์ที่มีซีนครูพิมพ์และลูกก่อนปรับ
VIDEO
ซีนครูพิมพ์และลูกหลังปรับ นาทีที่ 1.44 (ให้ฟังเพลงด้วยนะคะ เพลงนี้เพราะเชียว)
VIDEO
สรุปสำหรับหนังเรื่องนี้นะคะ
เราก็ยังเชียร์ให้ดูนะคะ สำหรับใครที่รักอาหารไทย และอยากรู้จักอาหารไทย (รวมทั้งอยากหิว 555) ก็ควรไปดูค่ะ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนังที่เพอร์เฟ็ค แต่สำหรับเรา...ก็ยังอยากสนับสนุนให้ไปดูกันอยู่ดี
บางทีความรัก...ก็ไม่ได้ต้องการคนที่ดีพอนี่นา เนาะ (จบแบบนี้ได้ไงเนี่ยป้า 555)
ปฏิทินธรรม
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2559
1. งานอายุวัฒนมงคล 87 ปี ทายาทธรรมของท่านพ่อลี พระพุทธิสารเถร (หลวงปู่บุญกู้ อนุวฑฺฒโน)ณ ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วัดอโศการาม
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.335848433125466.75888.335629013147408/1147914245252210/?type=3&theater
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2559
1. ถวายภัตตาหารและจตุปัจจัย แด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าหนองช้างคาว จ.อุดรธานี
ณ ชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.อาคาร ท.102 ชั้น 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิต บางกรวย
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.335848433125466.75888.335629013147408/1158008237576144/?type=3&theater
วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2559
1. ทำบุญตักบาตร พระธุดงคกรรมฐาน สาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน 10 รูป เวลา7.30 น.
ณ ลานด้านหน้าอาคารสำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผลหรืออาคาร สวป. ราม ๑ (หัวหมาก) กทม.
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=311066152569514&set=gm.1130033927058817&type=3&theater
วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2559
1. สวดมนต์ถวาย ในหลวง พระราชินี จัดสวดตลอดปี 2558 รวม 12 ครั้ง
ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลา 16.00น. ทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.572181122825528.1073741826.335629013147408/924827967560840/
2. ชมรมพุทธทีโอที ขอเชิญทุกท่านร่วมฟังการบรรยายธรรม โดยท่านเจ้าคุณ พระภาวนาเขมคุณ วิ.(สุรศักดิ์ เขมรํสี) เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา
ณ ห้องชมรมพุทธ บมจ.ทีโอที อาคาร 5 ชั้น 3 สำนักงานใหญ่แจังวัฒนะ
https://www.facebook.com/kammatan.tot/photos/a.718127611543877.1073741829.718115048211800/1138513002838667/?type=3&theater
วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2559
1. ตักบาตรและฟังธรรมพระกัมมัฎฐาน (ทุกวันเสาร์ต้นเดือน)
ณ วัดพุทธบูชา เวลา 6.30 - 10.30 น.
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/479378802105761/?type=1&relevant_count=1
วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ
https://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 สิงหาคม 2559 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2559 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)
1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย ณ ลานเปรมปรีดิ์ มูลนิธิบ้านอารีย์
เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.net
2. ขอเชิญร่วมเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นอาจริยบูชาแด่ พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) เวลา 19.00น.
ณ วัดป่ามณีกาญจน์ ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
//www.watpamaneekarn.com/
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 27 - 28 สิงหาคม 2559
1. งานบุญประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1,469,696+3560469 =5030165/12322/1194
ถ้าจะได้ดู
ก็คงต้องดูจากดีวีดีครับ
ในโรงหนังคงยากที่จะไปดูครับ