Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 110 ~ เป็นเพราะเรารักกัน!!

**ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****



ที่บ้านของครอบครัวฮวางโบ
คุณพ่อตาจอมดุกำลังนั่งทานอาหารค่ำอยู่ที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่ลูกเขยตัวดีนั่งคุกเข่ารออยู่ที่พื้นห้องนั่งเล่น

คุณแม่ยายแสนดีเอ่ยปากเรียกเขา “นี่ ฮยอนจุง ทำไมเธอไม่มาทานด้วยกันล่ะจ๊ะ?”

ชายหนุ่มได้ยินก็ทำตาโตแล้วรีบส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธทันทีว่า “ไม่เป็นไรฮะ คือว่า ผมอิ่มแล้วฮะ ขอบคุณมากฮะ”

ส่วนคุณพ่อเหวี่ยงสายตาใส่ภรรยาทันทีที่ได้ยินคำชวน...

คุณแม่รีบหลบตาวูบแล้วพูดว่า “จะไม่ให้ชั้นชวนแขกที่มาเยี่ยมเยียนถึงบ้านเราให้ทานอาหารค่ำด้วยกันได้ยังไงล่ะคะ?”

”คุณกำลังเรียกใครว่าเป็นแขกน่ะ ฮึ???”

”ถ้าเขาไม่ใช่แขกของคุณ งั้นชั้นก็คิดว่าเขาเป็นแขกของชั้นแล้วกันนะคะ...”

”อะไรนะ?” คุณพ่อเริ่มแผดเสียงด้วยความไม่พอใจ

คุณแม่ยายพยายามทำใจดีสู้เสือพูดต่อไปว่า “โธ่คุณคะ อย่าพูดเสียงดังที่โต๊ะอาหารนักสิคะ พวกเราไม่ได้อยู่กันตามลำพังนะ”

คุณพ่อจ้องหน้าเธอด้วยสายตาคมกริมราวกับมีดโกนก่อนจะวางช้อนกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดัง กึก

<หา ท่าทางของจะขึ้นอย่างแรงเลยนะ สามีชั้น....วันนี้ชั้นต้องคอยเก็บศพลูกเขยมั้ยเนี่ย>

คุณพ่อตาไม่พูดอะไรต่อ แต่ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วกลับเข้าไปในห้องนอนทันที

ฮยอนจุงซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอดนั่งตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ...<บูอิน คุณเติบโตมาในครอบครัวแบบนี้จริงๆเหรอฮะ? พวกท่านช่างแตกต่างจากพ่อแม่ของผมโดยสิ้นเชิงเลยอ่ะ...>

สมองของเขาในตอนนี้เหมือนจะหยุดทำงานไปชั่วขณะ...

<ชั้นจะทำยังไงดี? หืมม? ชั้นต้องทำยังไง? คิมฮยอนจุง คิดหน่อยสิ...คิดเข้าไป....โธ่เอ๊ย...วันนี้สมองของชั้นมันหายไปอยู่ที่ไหนกัน(วะ) เนี่ย?>

คุณแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารต่อไปอีกครู่นึง...ถอนหายใจออกมาลึกๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไปในห้องนอน

ฮยอนจุงพยายามเงี่ยหูฟังเสียงแผ่วๆของการสนทนาที่ลอดออกมาจากห้องนอน...แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา..เขาจึงรีบกดรับสายทันที

”สวัสดีฮะ?” ชายหนุ่มพยายามพูดอย่างเบาสุดขีด

”หวัดดีจ้ะ นี่ชั้นเอง เธออยู่ที่ไหนน่ะ?” เสียงฮวางโบทักกลับมาจากปลายสาย

”วิ้ว...คุณเองหรือฮะ”

”หา? นี่เธออยู่ที่ไหนเหรอ?”

<ถ้าคุณมาที่นี่ตอนนี้...มันอาจจะสาย..> “อืมม..ผมกำลังคุยอยู่กับทีมงานละคร F4 น่ะฮะ...พวกเขาต้องการจะคุยถึงเรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการถ่ายทำฮะ” ฮยอนจุงยกเรื่องงานขึ้นมาอ้างเพราะไม่ต้องการทำให้เธอต้องเป็นห่วง

”โอ งั้นเหรอ โอเคจ้ะ เธอเสร็จเมื่อไหร่ค่อยโทรมาแล้วกันนะ”

”โอเคฮะ”ชายหนุ่มกดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าจากนั้นก็เริ่มกลับเข้าโหมดสับสนในชีวิตต่อไป

”อ้ากกส์ ใครก็ได้ช่วยสอนชั้นหน่อยได้มั้ยว่า ชั้นต้องทำยังไงดี? ชั้นควรจะเริ่มต้นพูดอย่างไรดีน่ะ?...T_T”

เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่
ฮยอนจุงยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นเป็นเวลาเกินกว่าชั่วโมงแล้ว

<ชั้นเดาว่าท่านคงจะไม่ยอมคุยกับชั้นถึงแม้ว่าชั้นจะนั่งเป็นรูปปั้นอยู่ตรงนี้ตลอดไปก็ตาม...ชั้นคงต้องทำอะไรบางอย่างแล้วล่ะ...>

ใบหน้าของเขาเริ่มตึงเครียดขึ้นขณะที่คิด

<บูอินฮะ ผมจะยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำได้เพื่อคุณ...ยังไงซ่ะ ผมก็ต้องมีคุณมาอยู่เคียงข้างผม ไม่ว่ายังไงก็ตาม...แต่ว่าตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกกลัวอยู่มาก...มันจะไม่เป็นปัญหาเลย ถ้าท่านแค่บอกกับผมว่า ผมต้องทิ้งทุกอย่างทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะได้คุณไปอยู่กับผม...แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ง่ายๆแบบนั้น...T_T จริงๆแล้วท่านต้องการอะไรจากผมกันฮะ? ผมสามารถจะเอาอะไรไปแลกคุณมาจากท่านได้?...ท่านต้องการอะไรกันแน่ฮะ แล้วสิ่งที่ท่านต้องการ ผมจะสามารถหาให้ท่านได้เหรอ แต่เพื่อคุณ ผมให้ได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง...ลมหายใจของผม.?>

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน และคราวนี้เขาก็ต้องใช้มือยันไว้กับเก้าอี้ยาวตัวเดิมเพราะว่าขาของเขาชาจนแทบจะไม่รู้สึกอะไร...แต่เขาก็พยายามเชิดหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญพร้อมกับบอกกับตัวเองในใจว่า

<เอาว่ะ ตายเป็นตาย...ชั้นเป็นอะไรหรือเนี่ย เหยื่อเพื่อบูชายัญรึไงกัน? โอ๊ย..นายน่ะเป็นคนคิดบวกสุดๆ...คิมฮยอนจุง ชั้นพนันเลยว่านายยังสามารถหัวเราะออกมาได้ถึงแม้จะไปยืนต่อหน้าพี่มัจ (จุราช) ก็ตาม! ^^>

หลังจากถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่ เขาก็เดินตรงไปที่ห้องนอนใหญ่และเคาะที่ประตู

”ขอโทษน่ะฮะ เอ่อ...ผมอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับท่านฮะ”

ชั่วอึดใจประตูห้องนอนก็เปิดออก และคุณแม่ของฮวางโบก็เดินออกมา และพูดกับเขาด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ “เข้ามาสิจ้ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “ขอบคุณฮะ” แล้วจึงเดินตัวลีบเข้าไปในห้องนอน

คุณพ่อตาซึ่งกำลังอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมาถามทันทีว่า “นั่นเธอคิดว่าเธอกำลังมาหาใครรึ?”

ลูกเขยหนุ่มยืนตัวแข็งทื่อ...”เอ่อ...ผมขอโทษด้วยฮะ...แต่ว่าผมมีอะไร 2-3 เรื่องที่ต้องการจะพูดกับท่านน่ะฮะ...ดังนั้นได้โปรดให้อภัยผมด้วย “ พูดจบก็นั่งคุกเข่าลงกับพื้น ในขณะที่คุณพ่อตายังคงไม่พูดอะไรได้แต่จ้องหน้าเขานิ่งๆ...

”ผมต้องขอโทษท่านด้วยที่ผมไม่ได้มาพบท่านก่อนหน้านี้”.

แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงแทรกขึ้นมาว่า “เธอไม่ใช่คนๆนั้น”

ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง ด้วยความประหลาดใจ...!

คุณพ่อตายังคงพูดต่อไป ”เธอไม่ใช่คนๆนั้นหรอก ดังนั้นกลับไปซะเถอะ”

เขานั่งนิ่งหายใจออกมาอย่างแรง..

”ความพยายามของเธอมันจะเปล่าประโยชน์ไปเสียเปล่าๆ เพราะเธอไม่ใช่คนๆนั้น คนที่จะดูแลลูกสาวของชั้นไปจนวันตาย...ไปซะเถอะ”

เมื่อได้ยินที่คุณพ่อของเธอพูดเช่นนั้น จู่ๆเขาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่อก จนถึงกับต้องขบกรามตัวเองอย่างแรงเพื่อเก็บอาการ...

”ชั้นไม่อยากจะพูดอะไรที่มันแย่ๆกับเธออีกต่อไปแล้วล่ะ...ดังนั้นกลับบ้านไปซะเถอะ...เธอไม่ใช่...คนๆนั้นที่คู่ควรสำหรับลูกสาวชั้น” คุณพ่อตายังคงพูดต่อไปโดยไม่สนใจว่าแฟนฟิคบ้านซางชูที่กำลังอ่านจะรู้สึกอย่างไร

ชายหนุ่มยังคงนั่งรับฟังต่อไปโดยไม่โต้ตอบอะไร แต่ก็หายใจออกมาอย่างแรงและกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อควบคุมอารมณ์...

ในขณะที่คุณพ่อพูดจบและกำลังละสายตาไปจากเขานั้น

ฮยอนจุงหลับตาลงเพื่อรวบรวมความกล้าและความคิดทั้งหมดที่เขามีอยู่ในตัวก่อนจะเริ่มเอ่ยปากเรียกท่านว่า “คุณพ่อฮะ”

”ชั้นบอกเธอแล้วใช่มั้ย ว่าเธอไม่ใช่คนๆนั้น “เสียงคุณพ่อตาตอบกลับมาอย่างเย็นชา

แต่ฮยอนจุงที่ยังคงนั่งหลับตาอยู่ หลังจากสูดลมหายใจและกัดริมฝีปากเพื่อระดมความกล้าก๊อกที่สองออกมาอีกครั้งพูดต่อไปว่า “คุณพ่อฮะ...คือผมอยากจะบอกว่า.....พวกเราแต่งงานกันแล้วฮะ”

สิ้นสุดคำคุณพ่อถึงกับอึ้งทึ่งไปเลย <โอว ไอ้หน้าละอ่อนมันพูดอะไรเนี่ย...>

”ผมต้องขอโทษด้วยนะฮะ...ถึงท่านจะพูดยังไง แต่พวกเราจะไม่มีวันเลิกกันเป็นอันขาด”

คุณพ่อตาไม่แน่ใจในสิ่งที่ลูกเขยพูดถึงกับตะโกนเสียงดังทันที ”เธอว่าเธอทำอะไรน่ะ พูดให้เคลียร์เดี๋ยวนี้?”

”ถึงขั้นนี้..คงไม่ไหวจะเคลียร์แล้วล่ะฮะ”

“เธอพูดอะไรเนี่ย?” คุณพ่อตาเริ่มมีน้ำโหขึ้นเรื่อยๆ

ฮยอนจุงกลั้นใจพูดอีกครั้งด้วยสายตามุ่งมั่น “คือแบบว่า พวกเราแต่งงานกันแล้วครับ”

”เธอพูดว่าอะไรนะ?” คุณพ่อตายังคงถามย้ำราวกับไม่เชื่อหูตัวเองพร้อมกันหน้ามือทั้งสองข้างก็ค่อยๆกำหมัดไว้แน่น

ฮยอนจุงสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังชัดเจนกว่าเดิมว่า “พวกเราแต่งงานกันแล้ว เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกา ที่มาเก๊าฮะ...แค่เราสองคนเท่านั้น!”

คุณพ่อทำตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อได้ยินแบบจะๆ และหันไปมองลูกเขยตัวดีราวกับจะกินเลือดกินเนื้อพร้อมกับตะโกนใส่เขาว่า “นายทำอะไรลงไปน้า !!!!!”

ลูกเขยหนุ่มซึ่งตัวเริ่มสั่นน้อยๆด้วยความกลัวแต่ก็พยายามเก็บอาการ รวบรวมความกล้าลืมตาขึ้นมาจ้องตากับคุณพ่อตาตรงๆแล้วพูดต่อไปว่า “ผมรู้ว่าท่านไม่ได้ปลื้มกับผมนัก...แต่ยังไงผมก็ได้รับลูกสาวของท่านมาเป็นภรรยาของผมแล้ว และผมต้องขอโทษท่านอย่างมากที่พวกเราทำมันลงไปโดยยังไม่ได้รับคำอวยพรจากท่านทั้งสอง...”

”ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย”คุณพ่อตาสบถออกมาดังๆ

ส่วนคุณแม่ยายซึ่งคอยเงี่ยหูฟังที่ทั้งคู่คุยกันอยู่จากด้านนอก ถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความช็อคเมื่อได้ยินถึงเรื่องแต่งงาน เธอยืนตกตะลึงอยู่ครู่นึง ก่อนที่จะรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเงียบๆ

”ใช่ฮะ...เพราะว่าพวกเราทำเรื่องนี้ลงไปโดยไม่มีคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมรับรู้...ผมเองก็คิดเช่นเดียวกันว่าที่เราทำไปมันบ้ามากๆ...”<ถึงจะบ้าแต่ก็บ้ารักน่ะฮะ> ลูกเขยหนุ่มหน้ามนพูดด้วยน้ำเสียงสลด

แต่คุณพ่อตาลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงดังกว่าเดิมว่า “ทำไมเด็กเมื่อวานซืนอย่างเธอถึง...”

ฮยอนจุงเห็นท่าทางไม่ดีรีบหลับตาปี๋แล้วก้มศีรษะลงต่ำพร้อมกับพูดว่า “ผมต้องขอโทษด้วยฮะ”

คุณพ่อตาก้มลงมองเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี “เธอนี่มันช่าง........กล้า~~~~”..

”ผมต้องขออภัยท่านจริงๆฮะ”

”...การแต่งงานครั้งนี้ถือว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น.”คุณพ่อพูดด้วยเสียงต่ำๆเหมือนพยายามสะกดอารมณ์เต็มที่

”................”

”มันไม่เคยเกิดขึ้น และไม่เคยเกิดขึ้นด้วยซ้ำ จำไว้” คุณพ่อยิ่งตอกย้ำด้วยความพูดอีกครั้ง

”…………….........”

”พวกเธอยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันเลย...และไม่มีใครที่รับรู้ในเรื่องนี้..ดังนั้นชั้นจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น.”คุณพ่อตาเริ่มร่ายเหตุผลยาว

แต่ลูกเขยหนุ่มก็แย้งขึ้นมาทันทีว่า...”เอ่อ..นั่นคงจะเป็นไปไม่ได้หรอกฮะ...เพราะว่าพวกเราทำ...เรียบร้อยไปแล้ว”

”หา !!! นี่เธอว่า...ทำอะไรไปแล้วนะ?”

”เอ่อ..พวกเราได้กลายเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์แล้วฮะ”

”สามีภรรยาโดยสมบูรณ์?”

”เรียบร้อยแล้วฮะ...พวกเรา” <ทั้งเดบิวต์และออกซิงเกิ้ลไปหลายชุดแล้วฮะ>

<หมดกันลูกสาวชั้น>”ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายายเด็กคนนั้น...มันจะทั้งโง่ทั้งบ้า”

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆก่อนจะแย้งขึ้นมาว่า...”คุณพ่อฮะ...ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของผมแล้ว”.

”อะไรนะ?”

”แต่มีบางอย่างตอนนี้ที่สำคัญกว่านั้น และผมคงจะอดพูดอะไรไม่ได้จริงๆ ที่ท่านเรียกเธอว่า ยายเด็กคนนั้น..เพราะว่าท่านเป็นคุณพ่อของเธอ...แต่ว่าตอนนี้เธอเป็นภรรยาของผมแล้ว ดังนั้นท่านช่วยกรุณาระมัดระวังคำพูดนิดนึงเวลาอยู่ต่อหน้าผมได้มั้ยฮะ..”

”อะไรนะ?” คุณพ่อตาร้องเสียงหลงด้วยความประหลาดใจสุดๆ

”นอกจากนั้นแล้ว...ผมคนเดียวที่บ้า ไม่ใช่เธอหรอกฮะ” ชายหนุ่มพูดไปกัดริมฝีปากไปเพื่อเก็บอาการปากคอสั่น

”ทำไมไอ้เด็กหน้าอ่อนอย่างนายถึงได้กล้า...”คุณพ่อตาของขึ้นเต็มที่

ฮยอนจุงรีบหลับตาปี๋อีกครั้งแล้วบอกไปว่า “ได้โปรด...ตีผมให้น่วมตามใจท่านเลยฮะ” <(ถ้าคุณพ่อว่าเธอแบบนี้ ตีผมยังดีซ่ะกว่าอีกฮะ เพราะผมเริ่มจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว>

คุณพ่อตาเริ่มหนวดกระตุก (อะไรของมัน ไอ้เด็กคนนี้)

ฮยอนจุงยังพูดย้ำต่อไปทั้งๆที่ตัวสั่นเทาและหัวใจเต้นแรงด้วยความกลัว “ตีสิฮะ ตีผม...ได้ตามใจเท่าที่แรงของท่านจะมีเลยฮะ”

”................”

ชายหนุ่มพยายามกลั้นน้ำตาที่จวนจะไหลออกมาและพูดต่อไปว่า “ผมทราบว่าท่านไม่สนใจในตัวผมแม้แต่น้อยเพราะว่าผมยังเด็กเกินไป...และผมก็ทราบด้วยว่าผมยังดูอ่อนด๋อยในหลายๆเรื่องเมื่อเทียบกับลูกสาวของท่าน...”

ตอนนี้คุณพ่อเริ่มลุกขึ้นยืนแล้ว <ก็รู้ตัวนี่นา แล้วดันมายุ่งกับลูกสาวชั้นทำไมฮึ>

เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือต่อไปอีกว่า “พวกเราแต่งงานกัน...ก็เพราะผมเองที่เป็นคนละโมบเห็นแก่ตัว...เพราะผมไม่ต้องการให้เธอไปจากผม...และเพราะว่าผมต้องการจะอยู่เคียงข้างเธอ...ดังนั้นผมจึงตัดสินใจแต่งงานโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น ผมต้องขอโทษจริงๆฮะที่ผมไม่สามารถบอกท่านก่อนหน้านี้ได้...ผมจะยินดียอมรับการลงโทษทุกๆอย่างจากท่าน...ขอเพียงแต่ว่า...ได้โปรดอย่าให้เราต้องแยกจากกันเลยนะฮะ”แล้วน้ำตาลูกผู้ชายเริ่มไหลลงมาอาบแก้มของชายหนุ่ม

คุณพ่อถึงกับอึ้งเมื่อเห็นไอดอลที่มีแฟนคลับเป็นแสนแต่ตอนนี้คุกเข่านั่งร้องไห้อยู่ต่อหน้า...

”ผมยังไม่สามารถจะให้สัญญาอะไรได้ในตอนนี้...ว่าผมจะทำให้ลูกสาวของท่านมีความสุข..แต่ยังไง..เธอก็คือคนที่ผมรักมากที่สุดในโลกนี้...ผมและเธอ....ไม่สามารถจะจินตนาการได้เลยว่า พวกเราจะเป็นอย่างไรหากต้องแยกจากกัน....ดังนั้น...”

“เธออาจจะตายคามือไปเลยก็ได้ตอนนี้ถ้าชั้นจะลงมือตีเธอให้แหลกคามือไปเลยจริงๆ”คุณพ่อตาเริ่มเอ่ยปากอีกครั้งหลังนิ่งเงียบไปนาน

”เอ่อ..กรุณาอย่าทำให้ผมถึงกับตายจะได้มั้ยฮะ...ท่านต้องการจะให้ลูกสาวของท่านต้องเป็นหม้ายหรือฮะ?”

”ลูกสาวใจแตกโง่ๆอย่างนั้นน่ะเหรอ ใครจะไปสนใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับยายเด็กคนนั้น...?”

ฮยอนจุงจ้องหน้าคุณพ่อตาแล้วพูดว่า “ แต่ผมสนฮะ ...ผมไม่สามารถจะตายไปโดยปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียว...ดังนั้นท่านจะตีผมให้น่วมแค่ไหนก็ได้ตามใจท่าน...แต่ได้โปรดกรุณา ให้ผมยังชีวิตอยู่ต่อไปด้วยเถอะฮะ”.

”ฮึ ขี้ขลาดสิ้นดี! งั้น เธอก็กลัวว่าตัวเองจะโดนตีจนตายใช่มั้ยล่ะ หา?”

ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่แล้วพูดว่า ”ถ้างั้น...เอาไว้อีก 3 ปี ท่านค่อยฆ่าผมให้ตายได้มั้ยฮะ” เขาเริ่มต่อรองกับคุณพ่อตา

”ว่าไงนะ?”

”ท่านไม่คิดบ้างหรือฮะว่า อย่างน้อย ผมก็สมควรจะได้ทำหน้าที่เพื่อสืบทอดตระกูลคิมของครอบครัวผมบ้าง?”

”ว่าไงนะ?”

เขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องคุณพ่อตาตรงๆและน้ำตาก็เริ่มจะไหลออกมาอีกรอบ “หลังจากครบ 3 ปีแล้ว...ผมจะกลับมาที่นี่เพื่อเตรียมตัวรับความตายจากเงื้อมมือของท่าน เมื่อถึงวันนั้นผมจะไม่อุทธรณ์ร้องขอใดๆเด็ดขาด.”

”นี่เธอกำลังบอกว่ามันไม่เป็นไรถ้าลูกสาวชั้นจะต้องเป็นหม้ายในอีก 3 ปีถัดจากนี้งั้นเหรอ?” คุณพ่อตาเริ่มงงกับข้อเสนอและความคิด 4-D ของเขา

คุณลูกเขยรีบส่ายหน้าแล้วตอบทันทีว่า “ไม่ฮะ ไม่ใช่เด็ดขาด...แต่ท่านไม่คิดหรือฮะว่า...ภายใน 3 ปี...พวกเราอาจจะสามารถสร้างความทรงจำที่ดีๆบางอย่างร่วมกัน ซึ่งไม่แน่ มันอาจจะคงอยู่ไปได้ตลอดชีวิตน่ะฮะ?”

คุณพ่อตาขมวดคิ้วเพราะเริ่มสับสนกับความคิดลูกเขย “ อะไรนะ?”

เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ถ้าเกิด 3 ปีมันยังนานไม่พอ...งั้นซัก 10 ปีเป็นไงฮะ...? แต่ว่า...ท่านจะสามารถรอนานขนาดนั้นได้มั้ยฮะ?”

คุณพ่อตาได้แต่นั่งอึ้งๆงงๆ...<คิดได้ไง (วะ) ไม่เคยพบไม่เคยเห็นจริงๆ>

”ถ้าท่านยังคงไม่ชอบผมอยู่ งั้นก็หลังจากนั้น 10 ปีผ่านไปแล้ว...ผมจะกลับมาตายด้วยมือของท่านฮะ ผมให้สัญญาด้วยเกียรติ์ของลูกผู้ชายที่ชื่อ คิมฮยอนจุง”.

”................” <เจ้านี่มันมาจากดาวไหนกันเหรอเนี่ย ชั้นจะไปเผาดาวดวงนั้นเดี๋ยวนี้ ?>

”ผมจะพยายามให้ดีที่สุดที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างดี...ดังนั้นหลังจาก 10 ปีไปแล้ว...ท่านอาจจะสามารถพูดออกมาได้ว่า “ไอ้หมอนี่ มันก็ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย หรือไม่ก็ โอ้ว ลูกเขยของชั้นนี่มันเป็นอภิชาติบุตรจริงๆ หรือไม่ท่านก็อาจจะกลายเป็นพ่อตาที่โชคดีที่สุดในเกาหลีที่มีลูกเขยเจ๋งที่สุดน่ะฮะ”

”แล้วทำไมชั้นถึงต้องรอตั้ง 10 ปีด้วยล่ะ?”

”ยังไงซะ ลูกสาวของท่านก็จะต้องเป็นหม้ายอยู่ดี ไม่ว่าท่านจะฆ่าผมตอนนี้หรือว่าอีก 10 ปีข้างหน้า...แต่ว่าถ้าท่านลงมือทำในตอนนี้เลย..มันก็ออกจะดูโหดร้ายเกินไปสำหรับเธอน่ะฮะ”

”................”


”นอกจากการตายของผมแล้ว...ผมก็ไม่อยากจะทำให้คุณพ่อตาของผมต้องกลายเป็นฆาตกร...ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องโหดร้ายสำหรับเธอเกินกว่าจะรับได้เช่นกัน...”

คุณพ่อตาเอียงคอเหมือนพยายามจะคิดตาม... <เฮ้ย นี่มันพูดไปถึงไหนแล้วเนี่ย? ชั้นล่ะงงเต๊กเลยนะเนี่ย>

”บางทีระหว่างที่รอเวลาให้ถึงตอนนั้น...ท่านอาจจะเริ่มนึกชอบผมขึ้นมาบ้าง...แล้วท่านอาจจะสามารถใช้ชีวิตในยามแก่เฒ่ากับหลานตัวน้อยๆที่น่ารักซึ่งอาจจะมีมากกว่าทีมฟุตบอลก็ได้น่ะฮะ”ลูกเขย 4-D ยังคงพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมยกเหตุผลต่างๆขึ้นมา

พอได้ยินคำว่า”หลานที่น่ารัก” คุณพ่อก็เริ่มทำท่านิ่งคิดขึ้นมาทันที...

”และ..ถึงแม้ว่าผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอจะคิดยังไงกับเรื่องนี้...แต่ผมอยากจะมีลูกให้เยอะๆเท่าที่จะสามารถมีได้..มันอาจจะทำให้เป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับเธอที่จะต้องเลี้ยงดูพวกเขาให้เติบโตขึ้นมาเพียงลำพัง...ดังนั้นมันน่าจะดีกว่า..ถ้าผมยังคงมีชีวิตอยู่..จะได้ช่วยเธอเลี้ยงลูกๆด้วยกัน ถึงตอนนั้นผมจะเลี้ยงให้ดี ให้กินอาหารเสริมเยอะๆ โตขึ้นมาจะได้เก่งและฉลาดเหมือนพ่อ หรือน่ารักและสวยเหมือนแม่ไงฮะ”

”................” คุณพ่อตาเริ่มคิดตามที่เขาจินตนาการไปไกล



”ยังไงก็ตาม...ได้โปรดยับยั้งความคิดเอาไว้ก่อนนะฮะ...เรื่องที่ท่านอยากจะฆ่าผมในตอนนี้”

”ชั้นพูดเมื่อไหร่กันเหรอ ว่าชั้นอยากจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้น่ะ?”

”ว่าไงนะฮะ?”

”ชั้นก็แค่ตั้งใจบอกว่าชั้นต้องการจะตีให้น่วมพอ ไม่ถึงกับตายหรอกน่า...”

”...แต่ผมอาจจะตายไปจริงๆก็ได้นะฮะถ้าท่านตีผมซะน่วมขนาดนั้น...มันก็เหมือนกับไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตนั่นล่ะฮะ”

”งั้น...เธออยากจะให้ชั้นทำยังไง? หา? ชั้นโมโหสุดๆ จนแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว เธอต้องการจะให้ชั้นทำยังไงน่ะ ไหนบอกมาซิ??”

ฮยอนจุงกลอกตาไปมาพยายามใช้ความคิดแล้วพูดขึ้นมาว่า..”ผมมีไอเดียจะเสนอฮะ”

”...?” <อะไรอีกล่ะนี่>

เขาทำท่าลังเลเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่แล้วก็ต้องร้องออกมาว่า “โอ๊ย แย่แล้ว...ขาผม” ก่อนจะทรุดลงไปกองที่พื้นอีกครั้ง

คุณพ่อตาถึงกับขำเกือบหลุดหัวเราะออกมา จึงได้แต่นั่งก้มหน้ากลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์จนหน้าตาแดงก่ำ...

คราวนี้ลูกเขยหนุ่มลุกขึ้นอีกรอบพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรง “วิ้ว...ค่อยยังชั่วหน่อย” เขาหันไปมองคุณพ่อพร้อมกับพูดว่า “กรุณาอนุญาตให้ผมพาท่านไปที่ที่นึง จะได้มั้ยฮะ”


”ที่ไหนกัน?”

“ก็ท่านเพิ่งพูดไปไม่ใช่หรือฮะว่า ท่านโมโหมากซะจนอยากจะตีอะไรให้ตายคามือไปเลยแบบนั้น? ผมพอจะรู้วิธีเยียวยาที่ดีมากๆเวลาที่ท่านรู้สึกอย่างนั้น”


ที่ด้านหน้าของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
ฮยอนจุงและคุณพ่อตากำลังยืนอยู่ที่หน้าเครื่องเล่นเกมต่อยมวย

”คุณพ่อฮะ..ผมทราบว่านี่มันไม่ใช่การต่อยแบบของจริง...แต่กรุณาลองต่อยให้หนักที่สุดเท่าที่ท่านต้องการเลยนะฮะ คิดซะว่านี่คือไอ้เจ้าบ้าคนนั้น เดี๋ยวผมจะคอยหยอดเหรียญให้นานเท่าที่ท่านต้องการ”

คุณพ่อตายืนมองอย่างงงๆก่อนถามไปว่า “เธอกำลังบอกให้ชั้นต่อยไอ้เนี่ยอ่ะน่ะ...?”

”ถูกต้องคร้าบ ผมน่าจะรู้มาก่อนหน้านี้...ไม่งั้นน่ะ ผมจะพกรูปหล่อๆของผมติดมาด้วย....จะได้เอามาแปะกาวติดไว้ตรงนี้เลย” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกเหมือนเสียดายหน่อยๆ.. “ไม่งั้นมันคงจะดูสมจริงสมจังมากกว่านี้อีกนะฮะ...เอาไว้คราวหน้าผมจะเตรียมมาอย่างดีเลย รับรอง...”

คุณพ่อทำหน้าตะลึงอึ้งกิมกี่เมื่อได้ยิน “โอ พระเจ้า” <คิดได้ไงเนี่ย แต่ละอย่าง >


ทางด้านฮวางโบซึ่งรีบบึ่งมาที่บ้านหลังจากคุณแม่ของเธอโทรไปบอก ตอนนี้วิ่งพล่านไปตามถนนในละแวกบ้านของเธอ

”แม่ก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนกัน...ตอนนั้นพวกเขากำลังพูดถึงว่าจะฆ่าหรือไม่ฆ่าอะไรนี่แหละ..จากนั้นพวกเขาก็ออกจากบ้านกันไปสองคน..”เธอนึกถึงคำพูดของคุณแม่เธอ...”อืมม..ถ้าพ่อกำลังจะตีเขาให้ตาย ทำไมถึงไม่ทำในบ้านล่ะ? ถ้าเขาไปลงมือที่ข้างนอก ชาวบ้านชาวช่องก็คงจะมาดูพวกเขากันเต็มไปหมด...”

หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังไหลลงมาแอบแก้ม แล้วก็วิ่งตามหาคนทั้ง 2 ไปทีละถนนทั่วบริเวณนั้น...

ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงแว่วๆซึ่งฟังดูคุ้นหูอย่างประหลาด

”อา คะแนนของคุณพ่อมันต่ำกว่าครั้งที่แล้วนะฮะ เดี๋ยวผมจะหยอดเหรียญเพิ่ม...คราวนี้ท่านต้องตั้งใจชกให้ดีๆนะฮะ”

ฮวางโบรู้สึกงงแกมประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาแหล่งกำเนิดเสียงในทันที

ที่ด้านหน้าของร้านสะดวกซื้อซึ่งเปิดไฟสว่างจ้า คุณพ่อของเธอกำลังระดมหมัดเข้าใส่เป้าของเครื่องเล่มเกมต่อยมวยอยู่อย่างดุดันราวกับแค้นมันมาซัก 10 ปี ในขณะที่คุณสามีของเธอกำลังยืนลุ้นอยู่ข้างๆด้วยสายตาที่ดูเป็นกังวล

”ทำไมไม่หยุดพักเหนื่อยซะนิดล่ะฮะ? บางที...ท่านควรจะดื่มอะไรเย็นๆซักหน่อยก็คงดี จะได้มีแรงต่อยไงฮะ...? “ คุณลูกเขยถามด้วยความเป็นห่วง

คุณพ่อตายืนไหล่ตกพร้อมกับหายใจหอบหน่อยๆ “วิ้ว ชั้นเดาว่าชั้นคงจะแก่ตัวแล้วล่ะ..แต่ก่อนนะแค่นี้มันเรื่องจิ๊บๆเท่านั้นจริงๆน่ะ ไม่ได้โม้..”

”ถ้างั้น เดี๋ยวผมจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้นะฮะ เชิญท่านพักให้สบายก่อนน่ะฮะ” จากนั้นชายหนุ่มก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ

ฮวางโบยืนตะลึงก่อนจะเอ่ยปากเรียก...”พ่อคะ...?”

คุณพ่อค่อยๆหันหน้าไปมองตามเสียงเรียกของเธอ “หา?”


หญิงสาวเดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับถามว่า “พ่อมาทำอะไรที่นี่หรือคะ?”

”หืมม?”พ่อของเธอตอบในขณะที่เหงื่อไหลโฮก

เธอทำหน้างุนงงก่อนจะเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น...

ส่วนคุณพ่อซึ่งมองดูลูกสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ในตอนแรกเหมือนจะไม่แสดงความรู้สึกใดๆแต่แล้วจู่ๆก็นึกขึ้นมาได้แล้วพูดขึ้นมาว่า “ใช่แล้วล่ะ!!”

”...??”

คุณพ่อเริ่มของขึ้นอีกครั้ง เหวี่ยงสายตาใส่ลูกสาวพร้อมกับย่างสามขุมเข้ามาใกล้เธอแล้วตะโกนออกมาว่า “ยัยลูกไม่รักดี !!!”

หญิงสาวตกใจเมื่อเห็นท่าทางของคุณพ่อรีบกระโดดถอยหลังออกมา “พ่อคะ..”

”เธอ”...(ตายแน่)

ฮวางโบหันหลังแล้วเริ่มโกยอ้าวไปทันที “พ่อคะ...พ่อเป็นอะไรไปน่ะคะ?”

แต่คุณพ่อจอมโหดวิ่งไล่กวดเธอไปติดๆ “ชั้นเป็นอะไรงั้นเหรอ? เอาไว้ชั้นจับตัวเธอได้เมื่อไหร่ เธอเละเป็นโจ๊กแน่คืนนี้ !!!”

ฮยอนจุงซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากร้าน เมื่อเห็นเหตุการณ์พ่อวิ่งไล่จับลูกสาวก็ทำตาโตตกตะลึง ก่อนจะโยนของทุกอย่างในมือทิ้งไปแล้วเริ่มวิ่งไล่ตามสองคนนั้นไปด้วย

ชายหนุ่มวิ่งไปพร้อมกับตะโกนไปด้วยว่า “บูอิน...วิ่งให้เต็มสปีด 4x100 เลยฮะ คุณพ่อฮะ...ได้โปรดโมโหกับผมคนเดียวสิฮะ ปล่อยเธอไปเถอะ!!”

ติตตามอ่าน คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 111 ต่อไป




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2553
2 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 21:02:46 น.
Counter : 849 Pageviews.

 

โอ้มายก๊อดดดดดดด

สามี 4D ได้อีกอ่ะ อิอิ ถ้าหนูเป็นคุณพ่อตานะ หนูคงยอมใจอ่อนไปแล้วอ่ะ ลูกเขยใครจะรักและจริงใจกับลูกสาวคุณพ่อตาได้เกินลูกเขยที่ชื่อคิมฮยอนจุงอีกอ่ะ อิอิ

ปล. ขอบคุณมากกกกกกกกมายยยยยยคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆๆๆๆ ^___^

 

โดย: เจน IP: 180.180.150.192 14 ตุลาคม 2553 14:06:59 น.  

 

ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆคะ
คุณพ่อตาจิกลุ้มใจมั้ยงะมีลูกเขยแบบนี้ 4D ได้อีก สู้ๆๆๆๆ คะ

 

โดย: prongpawin IP: 183.89.60.220 16 ตุลาคม 2553 10:13:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.